พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 147
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 147 เด็กน้อยผู้น่ารักประเมินธนาค
ภายในภัตตาคารหรู นิเวศสวาปามอย่างมูมมามบนโต๊ะ อาหาร รอทานจนอิ่มหนำแล้วค่อยเอนหลังพลางตบหุงตัวเอง
เบาๆ
จํานวนอาหารที่นิเวศน์ทานทำให้ธนภาคตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มพร้อมกับพูดว่า “หิวมานานแล้วสินะเลยเลยทาน เยอะขนาดนี้ แม่หนูไม่ได้ทำอาหารให้ทานที่บ้านหรือ?”
ที่บ้านแม่เขาไม่ได้ทำอาหารให้เขาจริงๆนั่นแหละเพราะว่า เขาเป็นคนทำเอง……….
นิเวศน์ไม่พูดเรื่องที่ทำให้แม่เขาต้องอับอายให้ผู้อื่นฟัง เป็นแน่ ถึงเป็นเพื่อนรักแม่ก็ตาม แล้วถ้าหากพูดออกมาอาจจะ ทำให้ลุงธนภาคผู้แสนใจดีคนนี้ตกใจก็เป็นได้
คนปกติยากที่จะยอมรับเรื่องเด็กห้าขวบสามารถทำ
อาหารเป็น
“อยู่บ้านแม่ทำให้ทานครับ แต่เพิ่งลงจากเครื่องแล้วรีบ ตรงมาหาพ่อ ผมเลยยังไม่ได้ทานอะไร แม่บอกว่าตอนนี้กำลัง โตให้ทานเยอะๆ”
ธนภาคส่ายหัวพลางยิ้ม “อายุนภาคไม่ได้ว่าหนูที่ทาน เยอะ ขนหน้าแข็งอาไม่ร่วงหรอก….เออใช่ หนูบอกว่าหนูเพิ่ง ลงเครื่อง งั้นก็เพิ่งมาจากต่างประเทศ ใช่ไหม? แล้วแม่หนูล่ะ รอ มารับหนูอยู่ใช่หรือเปล่า?”
นิเวศน์รู้สึกใจไม่ดี เมื่อครู่นี้เขานึกว่าลุงชนภาคเป็นคนไม่ เลยหาเหตุผลมาอ้าง ไม่คิดว่าเขาจะกลับมาถามเรื่องนี้อีกหน
คิดเพียงครู่เดียวนิเวศน์ที่มีความคิดดีๆขึ้นมา ก้มหน้าก้ม ตาจับมุมเสื้อตน ทำปากๆกล่าวอย่างรู้สึกผิด “จริงๆแล้วแม่ ผมยังไม่กลับมาหรอกครับเพราะว่ามีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย เลยให้ผมกลับไปเองครับ
“ว่าไงนะ?” ธนภาคตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ให้เด็กเล็ก ขนาดนี้นั่งเครื่องกลับมาจีนคนเดียว ใช่เรื่องไหมเนี่ย? ถ้าโดน ลักพาตัวไปจะทําอย่างไร!
เห็นสีหน้าตกใจของธนภาค ปีศาจน้อยนิเวศย์ยกยิ้มใน ใจ กลับพูดด้วยสีหน้าปกติ “ลุงธนภาคไม่ต้องห่วงผมหรอก ครับ เพื่อนแม่ที่อเมริกาเพิ่งกลับประเทศมาพอดี เดี๋ยวเขามารับ ผม ไม่ต้องห่วงว่าผมจะถูกลักพาตัวหรอกครับ แล้วพรุ่งนี้แม่ผม ก็กลับมาแล้ว พ่อผมก็อยู่ที่นี่ด้วย ผมไม่กลัวหรอกครับ
เพียงพูดถึงพ่อตนนิเวศน์ก็ไม่มีอารมณ์เสีย คิดไม่ถึงว่าเขา จะลืมแม่เขาไปแล้ว ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด!
เมื่อฟังนิเวศน์พูดจบธนภาคก็พยักหน้ายิ้มเบาๆ คิดว่าเด็ก ชายคนนี้ฉลาดเสียจริง เขายังไม่ได้ทันพูดอะไรก็รู้แล้วว่าเขาคิดอะไรอยู่ เหมือนบทสนทนาที่ราบรื่นนี้พิสูจน์ว่าสมองเด็กคน นี้ช่างสุขุม เด็กคนนี้อนาคตไกลแน่
เพียงแต่ว่า……
ธนภาคคิดสักพักจึงโพล่งเรื่องสำคัญออกไป “นิเวศน์ ตอนฉันเจอหนูวันนี้ หนูเพิ่งออกมาจากห้องทำงานคุณพ่อใช่ ไหม? แปลว่าหนูเจอพ่อแล้วหรือ?”
เมื่อเอ่ยถึงสุมิตร นิเวศน์ก็รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมา ปากนั่งนิ่ง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็กวัยห้าขวบที่กำลังไม่สบอารมณ์ “เปล่าครับ คุณพ่อบอกไม่รู้จักแม่ผมแล้ว แถมไม่รู้ว่าฉันวิภาคือ ใคร ไม่เชื่อผมแต่ผมจะพิสูจน์ให้เขาเห็น
ธนภาคได้ยินดังนั้นก็ตกใจ เพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่ ทราบว่าสุมิตรนั้นสูญเสียความทรงจําเมื่อหกปีก่อน เรื่อง ใน อดีตนั้นจำได้ มีเพียงเรื่องราวในช่วงที่เจอกับจันวิภานั้นที่จำไม่ ได้
คุณหมอบอกว่าตัวเขาเองไม่อยากจำเรื่องราวในช่วงนั้น จึงเลือกที่จะไม่จดจำมันซึ่งไม่มีใครช่วยเขาได้ มันเป็นความ ต้องการของเขา
ในขณะเดียวกันหลังจากสูญเสียความทรงจําจากอุบัติเหตุ รถยนต์ ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูดี เลือดซึมในสมองก็ยังไม่หายดี ไม่ สามารถรับการกระตุ้นได้ มิฉะนั้นอาจจะเกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง ครั้งนี้อาจจะทำให้ถึงขั้นโคม่าได้
เรื่องพวกนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ทราบเรื่องทั้งหมด หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นธนภาคก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครเลย
นึกถึงเรื่องราวของสุมิตร ธนภาคครุ่นคิดไตร่ตรองพลาง ต้องใบหน้าไม่พอใจของนิเวศน์ แล้วมีความคิดดีๆ ขึ้นมา
ธนาคจึงพูดกับนิเวศน์อย่างจริงจัง “อากับพ่อหนูเป็น เพื่อนรักกัน พ่อหนูไม่เชื่อแต่ลุงเชื่อนะ เอาอย่างนี้ดีไหม ตอนนี้ หนูไม่มีที่พักที่เมือง A ไปอยู่บ้านอาชั่วคราวดีกว่า รอแม่กลับ มาค่อยให้ไปรับหนู
คุณอาที่อยู่ตรงหน้าดีกับเขาเหลือเกินซึ่งต่างพ่อที่ยืน กรานอย่างไร้เหตุผลของตน ดวงตานิเวศน์เป็นประกายพลาง พูดอย่างดีใจว่า “ดีครับ ผมกำลังกังวลเรื่องที่นอนอยู่พอดี ขอบคุณมากครับอาธนภาค
“ไม่เป็นไรหรอก มันเป็นเรื่องที่ควรทำ” ธนภาคพูดไปยิ้ม ไปพลางเอื้อมมือไปลูบหัวนิเวศน์
นิเวศน์ยิ้มเบาๆ เขาไม่มีทางในกับความใจดีของธนาค ธนภาค ให้ความรู้สึกเขาคล้ายกับอาสุพจน์ ตั้งแต่เล็กจนโตเขา ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อเลย อยากรู้มากๆว่ามันเป็นความ รู้สึกอย่างไร
ล้วนโทษพ่อผู้น่ารังเกียจ ที่ไม่ยอมเชื่อเขากับแม่
เอาแบบนี้ล่ะ ธนภาคหลอกพานิเวศน์ไปเลี้ยงที่บ้านตน
อีกด้านหนึ่ง บริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด
หญิงสาวในชุดแฟชั่นลงมาจากรถเฟอร์รารี่สีแดง สวม กระโปรงสั้นสีแดงสด ด้านบนสวมเสื้อคอวี หน้าอกตูม รูปร่าง หุ่นดี ขาทั้งเรียวทั้งชาวเมื่อลงจากรถก็เป็นที่หมายตาของคน เดินผ่านไปมา
เธอหยิบร่ม โปร่งแสงไว้เหนือศีรษะ เชิดหน้าเข้าไปยัง บริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดอย่างมั่นใจ
พนักงานสาวแผนกต้อนรับที่ก่อนหน้าหยอกเงินกับนิเวศน์ เปลี่ยนสีหน้าทันทีเมื่อเห็นเธอ รอเธอเดินเข้ามาจึงกล่าวต้อนรับ เสียงดัง “สวัสดีค่ะ ภรรยาท่านประธาน
เจริญศรีเดินเคาเตอร์ไปพลางพ่นจมูกอย่างทระนงตน พร้อมกับทิ้งกลิ่นน้ำหอมไว้ทุกที่ที่เดินผ่าน
หลังรอเธอเดินไปไกลแล้ว พนักงานสาวแผนกต้อนรับอ ไม่ได้ที่จะตบอกตัวเองเบาๆ พลางนึกในใจ โอ้แม่เจ้า ดีนะที่ไม่ ได้อยู่ใกล้ ไม่อย่างนั้นคงดมกลิ่นน้ำหอมเธอจนตาย
เจริญศรีคือคู่หมั้นของสุมิตร ซึ่งคนทั้งบริษัทล้วนรู้จักเธอ ในตอนแรกทุกคนเรียกเธอว่าคุณหญิงเจริญศรี แต่เมื่อยู่ต่อ หน้าสุมิตรนั้นเธอจะทำตัวน่ารักน่าทะนุถนอม แต่ลับหลังเจริญ ศรีผู้อารมณ์ฉุนเฉียวง่ายกลับสั่งให้ทุกคนเรียกเธอว่าภรรยา ท่านประธาน หรือภรรยาคุณสุมิตร
ทั้งหมดนี้เป็นการเรียกตอนที่สุมิตรไม่อยู่เท่านั้นถึงเรียก เช่นนั้น หากอยู่ต่อหน้าสุมิตร เจริญศรีจะทำตนเป็นผู้หญิง ต้นแบบ รีภรรยาที่ดี
นี่เป็นเพียงเรื่องตบตาเท่านั้น มีเพียงบางคนที่รู้ว่าเจริญศรี เป็นลูกสาวไฮโซของบริษัทวีระโช ในช่วงปีที่สุมิตรประสบ อุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะว่ามีคนโดนลูกหลงเยอะมาก เผชิญ หน้ากับความกดดัน จากนั้นจึงได้ร่วมมือกับวีระโช เมื่อดีขึ้นใน ที่สุดก็มีเงื่อนไขต้องแต่งงานกับเจริญศรี ด้วยเหตุนี้เจริญศรีจึง กลายเป็นคู่หมั้นของสุมิตร