พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 150
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 150 เจ้าเด็กน้อยที่แสร้งตกระกำลำบาก
ได้ยินเช่นนั้นธนภาคจึงยิ้มออกมาบางเบา เขาย่อตัวลง พลางเอื้อมมือไปลูบหัวนิเวศน์แล้วยิ้ม “คลื่นรังสีก็คือเจ้าปีศาจ ตัวใหญ่กินคนได้ ถ้าเธอเล่นคอมพิวเตอร์มากเกินไปมันจะกิน
หนู”
นิเวศน์อดยิ้มมุมปากเบาๆไม่ได้ เหตุผลที่เอ่ยออกมานั้น ธนภาคคงเห็นว่าเขาเป็นเด็กที่ม
เหนื่อยเหลือเกินที่ไอคิวสูงเกินไป นิเวศน์แสดงปฏิกิริยา โต้ตอบอย่างเด็กทั่วไปทำกันอย่างเคย และแสดงสีหน้าท่าทาง อย่างเดิม กล่าวอย่างเข้าใจถ่องแท้ “อย่างนี้นี่เอง ถ้าผมนอน ดึกมันจะปีนขึ้นมากินผมไหมครับ?”
“ไม่หรอก ถ้าหนูกลัวก็มาหาอาข้างๆห้อง อาจะนอนเป็น เพื่อนเอง” ธนภาคดันเชื่อคำพูดนิเวศน์ ลูบหัวนิเวศน์อย่างประ คมประหงม ได้เจอนิเวศน์เพียงครู่เดียว ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือน นิเวศน์เป็นลูกตน
น่าเสียดายที่เขายังไม่ได้แต่งงาน แม้แต่สุมิตรพยามโน้ม น้าวเขาหลายครั้งหลายครา แต่เขาก็ไม่รู้ทำไมถึงไม่ได้รู้สึก สนใจผู้หญิงคนไหนเลย
ยากมากกว่าธนภาคจะออกไป นิเวศน์ถอนหายใจออกมา เฮือกใหญ่อย่างอดไม่ได้ เขาชินแล้วกับไอคิวสูงของตน แถม สมรรถภาพทางจิตใจก็ยังดีมากเช่นกัน ไม่อย่างนั้นอาจจะ เหนื่อยตายได้
เมื่ออยู่คนเดียวนิเวศน์ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เปิด คอมพิวเตอร์ ใช้อินเตอร์เน็ตเชื่อมไปยังบ้านที่อเมริกา
เห็นกล้องวงจรปิดที่อเมริกา นิเวศน์เห็นแม่ตน ในวิดีฉัน
วิภาเจอสมุดบันทึกบนโต๊ะแล้วกำลังรีบออกจากประตูห้อง นิเวศน์คำนวณ เวลานี้ เธอควรจะถึงจีนแล้วล่ะมั้ง
เมื่อวันวิภากลับมาถึงจีนฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว เผชิญหน้ากับ ประเทศที่ทั้งคนทั้งแปลก ไม่ได้สูดอากาศนี้มานาน รู้สึกสับสน
ในใจ
หกปีมาแล้ว ในที่สุดเธอก็มาเหยียบแผ่นดินจีน เธอคิดว่า จะไม่มีวันกลับมาอีกตลอดกาล แต่ไม่คิดว่าเป็นเพราะลูกชาย ตนทำให้เธอต้องมาตามเขากลับมา
จันวิภานั่งอยู่ที่เดิมมองผู้คนเดินผ่านไปมา รอได้ตัวนิเวศน์ ก่อนเถอะ ให้อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด!
ต้องทำให้เขารู้ให้ได้ว่าคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวน่ะดีอยู่แล้ว ไม่ ต้องมีพ่อหรอก เฮงซวยทั้งนั้น
เพราะว่าตึกแล้วจันวิภาจึงหาโรงแรมพัก เธอได้ลูกชาย สอนทักษะคอมพิวเตอร์นิดหน่อยเลยสามารถเข้าไปดูกล้อง วงจรปิดได้ ใช้คอมพิวเตอร์ของโรงแรมหาว่าลูกชายเธอได้ไป บริษัทของสุมิตรหรือไม่
เมื่อทบทวนความจริงอีกครั้ง จนวิภาก็รู้สึกวิตกกังวล ระหว่างทางเธอก็คิดว่าหากสุมิตรเจอลูกชายตนแล้วจะทำ อย่างไร?
ด้วยนิสัยของนิเวศน์ที่ต้องพยามยืนยันตัวเองกับสุมิตร เป็นแน่ สุมิตรเมื่อรู้แล้วจะต้องจับเขาไว้แน่ ได้ยังไงกันล่ะ
ดังนั้นลูกชายเธอตอนนี้ต้องอยู่กับสุมิตรแน่นอน!
ไม่ได้ ไม่ให้ลูกชายกับเขาเด็ดขาด! ไอคนเลว คนเฮงซวย
อย่างสุดมิตรน่ะ !
คิดไปคิดมา จันวิภายิ่งคิดยิ่งปวดหัว เธอจะเอาอะไรไป
ด้วยดีล่ะสู้ดีล่ะ ไปถึงจะทำอย่างไรดี
จันวิภาท่องเว็บบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดอย่างไร้จุดหมาย ไปสักพักก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอสนใจ
ป้ายนั้นเขียนไว้ว่า (ด่วน! บริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดรับ
สมัครเลขานุการ เธอนั่งหลังตรง จ้องเงื่อนไขการรับสมัครเลขานุการพบว่า
ผู้จัดการใหญ่ ตาเบิกกว้างเมื่อเห็นข้อมูลที่คุณสมบัติเธอเหมาะเหม็ง
จนวิภาพอันยิ้มกว้างอย่างดีใจ พระเจ้าช่วยเธอจริงๆ มีวิธี
เข้าไปแล้ว
จันวิภารีบเคาะแป้นพิมพ์อย่างไร ทำเรซูเม่ตนขึ้นมาส่ง ออนไลน์ไปหนึ่งฉบับ ปรินต์ออกมาอีกหนึ่งฉบับ รอพรุ่งนี้ไป สัมภาษณ์
อย่าเข้าใจเธอผิด เธอไม่ได้แต่งสวย และเธอกำลังแปลง โฉมเสียหน่อย เธอแต่งหน้าเข้มจัดอย่างหยาบๆ สวมชุดนัก ธุรกิจสีเทา มองดูแล้วเหมือนกับป้าแก่ๆคนหนึ่ง
เตรียมการทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จันวิภามองตัวเองใน กระจกหาดูว่าขาดอะไรไหม คิดไปคิดมาจนวิภาเห็นแว่นตาข้าง กาย จึงดีดนิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ใช่แล้ว ขาดแว่นตา
ตอนที่ปรากฏกายที่ห้องรับสมัครพนักงานบริษัทตะวัน กรุ๊ปจำกัด จะได้ไม่ต้องสบตาใครรอบข้าง ยิ่งมีหญิงสาวสวยวัยสะพรั่งเห็นเธอก็ยิ้มออกมาแล้วเอ่ย
ด้วยเสียงที่จันวิภาได้ยินชัดเจน “แกดูเธอสิ ทั้งแก่ทั้งน่าเกลียด ยังกล้ามาสมัครเลขานุการผู้จัดการใหญ่อีก กินยาผิดสำแดง หรือเปล่าเนี่ย?”
หญิงข้างๆได้ยินจึงรีบพูดดังก้อง “จริงด้วย ฉันอยากพูด นานแล้วล่ะ ฉันเห็นเธอแล้วไม่ใช่กินยาผิดสำแดงหรอก แต่คงป่วยอยู่ต่างหาก”
พลางพูดพลางชี้มาที่ศีรษะตน
” ”
” ”
จนวิภาหัวเราะอย่างอดไม่ได้ เธอมาที่ศีรษะตน หมายถึง
ศีรษะเธอป่วยหรือ?
ด้วยไอคิวของหญิงสาวตอนนี้ ยิ่งฟังยิ่งงง
จันวิภานั่งลง ไม่ว่าจะโดนวิจารณ์ลับหลังอย่างไร เธอก็ไม่ ใส่ใจ ด้วยท่าทางของฉันวิภายิ่งทำให้คนวิจารณ์ด้านข้างทนไม่
ได้
“แกล้งเมินหรือ จริงๆเลย!
จนวิภานั่งอยู่ที่เดิม สักพักก็ถูกเรียก จันวิภาเงยหน้ามอง ไปด้านหน้า ตอนที่เดินผ่านหญิงสาวไม่กี่คนยังได้ยินพวกเจ้า หล่อนคุยกันว่าเข้าไปไม่นานเดี๋ยวก็ออกมาแล้วล่ะ
จันวิภายกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในห้องรับ
สมัคร
หลังเดินเข้าไป ผู้สัมภาษณ์ก้มหน้ามองเรซูเม่ของฉันวิภา พลาง เงยหน้ามองการแต่งกายของฉันวิภา อดไม่ได้ที่จะขมวด
พวกเขาไม่พอใจภาพลักษณ์ของจันวิภาอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ดี จันวิภาก็ยังเผชิญหน้ากับผู้สัมภาษณ์ แนะนำ นอย่างมั่นใจ
ขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด ผู้สัมภาษณ์ยิงคำถามใส่ ตลอดเวลาพลางพยักหน้ารับ ท้ายที่สุดเขามองจันวิภาอย่าง เสียดายพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ “คุณจันวิภา พวกเราชื่นชม ประวัติคุณมาก ถ้าเป็นไปได้พวกเราอยากจ้างคุณมากแต่ว่า ภาพลักษณ์ของคุณนั้น….
พูดจนถึงท้ายสุดเขาก็หยุดพูด มองจั่นวิภาด้วยท่าทางที่ ทุกคนล้วนเข้าใจ
ภายนอกจันวิภายังคงยิ้มอยู่แต่ภายในใจกังวล ทำ อย่างไรดีนะ หากพวกเขาไม่จ้างเธอ เธอจะเข้าหาสุมิตรได้ อย่างไร อย่าลืมว่าลูกชายสุดที่รักยังอยู่ในกำมือเขานะ
บ้าเอ๊ย!