พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 173
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่173พบคนรู้จักตอนทานข้าว
ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน? ! ทำไมถึงต้องมองเธออย่างอื่น
กามขนาดนี้? !
จันวิภาเครียดอยู่เล็กน้อยณตอนนี้ท้องฟ้าก็ได้มีดลงมา แล้วแม้ว่าจะมีไฟที่ส่องว่างอยู่ตรงถนนแต่ถึงกระนั้นเมื่อถูกคน จ้องมองเช่นนี้ภายในใจของเธอก็ยิ่งเพิ่มความรู้สึกที่เป็น อันตรายขึ้นไปอีก
ฝ่ายตรงข้ามเป็นชายที่รูปร่างสูงใหญ่ในวิภาไม่เคยเจอมา ก่อนแต่หากเขาต้องการจัดการกับผู้หญิงสองคนก็ไม่ใช่ว่าจะ เป็นไปไม่ได้
จันวิภาแอบหยิกแขนพัชรี ที่อยู่ข้างๆ พัชรีหันหน้ามามอง จันวิภาอย่างไม่เข้าใจหลังจากที่ได้สัญญาณจากดวงตาของเธอ จึงจะมองไปทางผู้ชายคนนั้น
ดวงตาทั้งสองของพัชรีถลึงตามองทันทีอยากจะเอ่ยถาม ว่าเธอมองอะไรแต่ผลกลับทำให้ชายคนนั้นเป็นผู้เริ่มพูดก่อน
เห็นเขาตั้งนามบัตรออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขาก้มหัว ให้จันวิภาอย่างมีมารยาทแล้วพูดอย่างสุภาพเป็นอย่าง ยิ่ง” สวัสดีครับคุณผู้หญิง ผมเป็นตัวแทนจาก บริษัทsmileArtistsAgencyชื่อว่า โปษณนี้เป็นนามบัตรของผมครับได้โปรดดูมันสักหน่อย
จนวิภานงงอยู่ครู่หนึ่งลังเลอยู่พักหนึ่งจึงหยิบนามบัตร
ใบนั้นมา
ตามแสงสว่างจากไฟที่อยู่บนถนนแล้วจนวิภาอ่าน นามบัตรได้อย่างชัดเจนนอกจากชื่อบริษัทแล้วก็ยังเป็นข้อมูล ส่วนบุคคลมันก็ไม่มีอะไรน่าอ่านเสียเท่าไหร่มีเพียงสิ่งเดียวที่ ทำให้เธอสนใจเลยก็คือนี่เป็นบริษัทที่เซ็นสัญญากับศิลปินโดย
เฉพาะ
แต่ทว่าให้นามบัตรกับเธอทำไมกันล่ะ?!
จันวิภาไม่เคยได้ยินชื่อบริษัทนี้มาก่อนและยิ่งไม่รู้ว่าทำไม ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ถึงมาหาเธอดังนั้นเธอจึงมองโปษณ อย่างแปลกใจแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย “คุณมีธุระอะไรนั้น หรอคะ?”
“คืออย่างนี้ครับผมเห็นสิ่งที่สวยงามจากในตัวคุณเลย อยากให้คุณมาเซ็นชื่อเป็นศิลปินของบริษัทเราผมไม่ใช่นักต้ม ตื่นถ้าคุณไม่เชื่อคุณสามารถเอานามบัตรนี้ไปสอบถามเพื่อน ของคุณได้หรือเอาไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ เราเป็นบริษัทนายหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมายผมไม่หลอกคุณ หรอกครับ! “โป ณพูดได้เก่งมากพอเอ่ยปากก็คิดได้ถึงความ กังวลทั้งหมดของฉันวิภา
แต่ทว่า……
…..ศิลปิน? !
“จันวิภามองนามบัตรที่อยู่ในมือของตนเองอย่างไม่เชื่อสายตาแล้วมองดูชายผู้สวมชุดสุภาพที่อยู่ ตรงหน้าอีกครั้งเธอไม่ได้กังวลเรื่องความน่าเชื่อถือแต่แค่รู้สึก น่าเธอไม่มีความคิดที่จะเป็นศิลปินมาก่อนเลย
แต่กลับกันทางพัชรีหลังจากที่เธอได้ยินสิ่งที่โปษณพูด รีบคว้าแขนของจันวิภาด้วยความตื่นเต้นทันทึกระซิบข้างหูของ จันวิภาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น “จันวิภา! ศิลปินแหละ! นี่มัน โอกาสที่ดีเลยสภาพของเธอในตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่าสามารถ เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงได้ในไม่กี่นาทีแน่! และชื่อของบริษัทนี้ฉันก็ เคยได้ยินมาก่อนมันเป็นหนึ่งในบริษัทนายหน้าที่ดีที่สุดใน ประเทศชื่อเสียงในวงการของพวกเขาดีมากครั้งนี้เธอกอบโกย ได้ครั้งใหญ่จริงๆ!
“พัชรี………วิภาสายหัวเธอก พัชรีที่ตื่นเต้นเอาไว้แล้ว พูดอย่างไม่รู้จะทำอย่างไงดี“ฉันไม่ได้สนใจที่จะเป็นศิลปิน…….
“จันวิภาเอ้ย…..พัชรีกำลังคิดที่จะพูดโน้มน้าวจันวิภาแต่ กลับถูกจั่นวิภาขัดขวางอีกครั้งเธอส่ายหัวอย่างแน่วแน่แสดง ให้เห็นถึงการตัดสินใจที่เด็ดขาดของเธอ
เมื่อเห็นเช่นนี้พัชรีจึงทำได้เพียงแค่เบะปากแล้วไม่พูดอะไร
จนวิภาหันหน้าไปทางโปษิณแล้วพูดด้วยใบหน้าที่แฝงไว้ ด้วยคำขอโทษ คุณโปษณขอโทษด้วยนะคะฉันไม่เคยคิดที่จะ เป็นศิลปินมาก่อนและปีนี้ฉันก็อายุยี่สิบหกปีแล้วผู้คนต่าง ก็พูด กันว่าศิลปินต้องหากินกับความอ่อนเยาว์ฉันคิดว่าฉันไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ขอบคุณคำชื่นชนของคุณมากขอโทษด้วยจริงๆ
นะคะ!
พูดจบจนวิถาก็ได้ก้มหัวลงเล็กน้อยปฏิเสธคำเชื้อเชิญของ
โปษณอย่างสุภาพ
โปษณจ้องมองจันวิภาด้วยความแปลกใจคิดไม่ถึงเลยว่า
อายุของเธอจะปาเข้าไปยี่สิบปกปีแล้วเขานึกว่าแค่ยี่สิบต้นๆมัน ไม่เหมือนเลยสักนิด แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้โปษณก็ไม่ได้คิดที่จะปล่อยจนวิภาไป เขาผลักนามบัตรที่จันวิภาขึ้นมากลับคืนไปอีกครั้ง โดยไม่รู้ว่า
คิดอะไรอยู่ยกริมฝีปากขึ้นมายิ้มแล้วพูด”คุณเก็บนามบัตรไว้
เถอะผมคิดว่า……..ในไม่ช้าก็เร็วคุณอาจจะต้องการมัน
”
นี่………วิภามองนามบัตรที่อยู่ในมืองุนงงอยู่เล็กน้อย คิดอยากที่จะปฏิเสธอีกครั้งแต่โปษิณกลับเดินจากไปมองไม่ เห็นคนเสียแล้วดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่เก็บนามบัตรเข้ากระเป๋า ไป
ประจอบเหมาะกับที่ตอนนี้มีรถแท็กซี่ขับผ่านมาพอดีคน ทั้งสองรีบโบกแท็กซี่แล้วไปร้านอาหารทันที
ลงจากรถยังไม่ทันที่จะเดินถึงประตูจันวิภาก็ได้พบคนที่คุ้น หน้าคุ้นตาคนหนึ่งอย่างคาดไม่ถึง
“ธนภาค? ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?”จันวิภายิ้มแล้ว ทักทายแต่กลับพบว่าธรภาคมาแค่คนเดียว
เมื่อธนภาคได้ยินเสียงจึงหันกลับมามองเธอเห็นนวิภา
และพัชรีอยู่ด้วยกันเขาจึงทักทายคนทั้งสองคนกลับ”จันวิภาพช รีสวัสดีทำไมพวกเธอถึงมาที่นี่กันล่ะ?” “เราชอบกินราเม็งน่ะ” เมื่อเห็นธนภาคจิตใจของฉันวิภา
เบิกบานแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เฮนายยังไม่ได้บอกเลยนะมา
ท่าไมถึงมาที่นี่แค่คนเดียว?
“ใช่แล้วฉันมาคนเดียวฉันเองก็ชอบกินราเม็งที่ร้านนี้ เหมือนกันดูเหมือนว่าเราจะมีบุญวาสนาต่อกันนะเข้าไปด้วยกัน เถอะ”ธนภาคพูดอย่างสุภาพ
“ดีเลย จันวิภาตอบกลับอย่างปลื้มใจตอนที่เธอดึงพัชรีอยู่ นั้นกลับพบว่าสีหน้าของพัชรีดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่”พัชรีเธอเป็น อะไรไปไม่สบายงั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินดังนั้นธนภาคจึงหยุดก้าวลงแล้วมองพัชรีอย่าง
กังวลใจ
สัมผัสได้ถึงดวงตาของธนภาคที่จ้องมองมาสีหน้าของพืช ก็ยิ่งแย่ลงไปอีกเขากระซิบพูดกับจันวิภา”เขาไม่ใช่เพื่อน ของสุมิตรหรอกหรอ? ทำไมเธอถึงอยู่ด้วยกันกับเขาและพวก เธอยังสนิทกันขนาดนั้นอีก
พัชรีกับธนภาคพบกันโดยบังเอิญแค่ไม่กี่ครั้งแต่ความ ประทับใจที่มีต่อเขาไม่ค่อยดีนักบางทีอาจจะเป็นเพราะความ สัมพันธ์ของสุมิตร
จนวิภาส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆเธอพูดกระซิบกับพัชรีเช่นเดียวกัน ไม่เป็นไรธนภาคเป็นคนที่เขาช่วยเรื่องวุ่นฉันอยู่ บ่อยๆบางทีก็ช่วยฉันรับมือกับสุมิตรเป็นคนดีจริงๆนะ
แต่ถึงกระนั้นสีหน้าของพัชรีกลับแย่ขึ้นไปอีกเธอส่งเสียง ออกมาอย่างเยือกเย็นอย่างไงฉันก็ไม่เชื่อแม้ว่าคนที่อยู่ข้างๆ สุมิตรจะไม่ได้เลวเท่าเขาแต่ก็น่าจะไม่ต่างกันมากฉันเกลียด มิตรและก็เกลียดธนภาคเหมือนกันไม่อยากจะคลุกคลีอยู่กับ พวกเขา”
พัชรีที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ทำให้ฉันวิภาไม่รู้ว่าจะพูด อย่างไรดี
จันวิภาทำได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมาเบาๆ “งั้นก็ได้เธอ คิดอย่างไงกับเขาฉันไม่สนหรอกแต่กับคนนี้เธอต้องไว้หน้าฉัน หน่อยฉันไม่อยากทำตัวไม่ดีต่อหน้าเขาและเขาก็ช่วยฉันไว้มาก มายจริงๆ ”
“หึ”พัชรีเหลือบสายตามองธนภาคด้วยความไม่พอใจ แม้ว่าจะยังทำท่าห้าวเป้งอยู่แต่ท่าทางที่ดีขึ้น
เมื่อวันวิภาเห็นเช่นนี้จึงได้วางใจลงยิ้มไปทางธนภาคที่ หยุดยืนรอพวกเขาทั้งคู่แล้วพูดขึ้นไปเถอะเธอบอกว่าท้องไส้ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่น่าจะหิวมากเรารีบเข้าไปสั่งอาหารเถอะ”
“อืม”
แม้จะรู้ว่าพวกเขากำลังกระซิบพูดถึงตนเองแต่ธนภาค ไม่ได้เอามาใส่ใจพยักหน้าด้วยความเข้าใจพร้อมกับก้าวเดิน ลงอย่างช้าๆ เพื่อรอให้ทั้งสองเดินตามขึ้นมา
ในช่วงเวลาแห่งการรับประทานพัชร์ไว้หน้าให้ในวิภา จริงๆ ไม่ทำสีหน้าเหวี่ยงใส่ยนภาคอีกแต่กลับเปลี่ยนเป็นตอนที่ ธนภาคไม่อยู่แทน
ธนภาคไม่ได้หงุดหงิดอารมณ์ของเขาดีมาก
หลังจากที่ธนภาคจันวิภาและพัชรีทานอาหารเสร็จธนภาค
ทำท่าที่เหมือนจะไปส่งพวกเธอกลับบ้านเนื่องจากจันวิภาอยู่ ใกล้ๆ ดังนั้นจึงไปส่งในวิภาที่คอนโดที่เธอเช่าเอาไว้อยู่ก่อน ยืนอยู่ชั้นล่างกล่าวคำอำลาธนภาคกับพัชรีจันวิภายิ้มออก
มาด้วยใบหน้าที่เบิกบานใจ “พวกเธอเดินทางปลอดภัยนะฝัน
ฝันดี”ธนภาคและพัชรีส่งเสียงพร้อมกันทั้งคู่สบตากันพัช แบะปากออกมาทันทีแสดงถึงความไม่ปลื้ม
เมื่อได้ยินดังนั้นในวิภาถึงกับประหลาดใจอยู่เล็กน้อยมอง ดูคนทั้งสองทันใดนั้นสีแห่งความผิดปกติก็สิ่งประกายออกมา จากในดวงตา…….