พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 183
ตอนที่183ฉันจะทำได้มั้ยเธอมาลองดู
“เอ่อ….. บรรยากาศอึดอัดอยู่เล็กน้อยจันวิกาถู กเทพสององค์นี้ทำให้ปวดหัวไม่เข้าใจจริงๆว่าท ำไมพวกเขาทั้งสองคนถึงไม่ถูกกันมีเรื่องอะไรกั นก็จะพูดันดีๆไม่ได้เลยหรืออย่างไรแม้ว่าจะมีเรื่ องเข้าใจผิดอะไรกันสามารถลบออกได้ผ่านการ สื่อสารกัน
และที่กำลังพูดอยู่ตอนนี้พัชรีก็ไม่ให้โอกาสธนภ
คเลย
บรรยากาศแข็ง ออยู่เล็กน้อยใบหน้าของพัชรี คือฉันเป็นผู้ยิ่งใหญ่และนอนเอนตัวเล่นโทรศัพ อยู่บนโซฟาสวนธนภาคก็ยังคงรักษารอยยิ้มที่ อ่อนโยนและสภาพจันวิภานั่งลงไปข้างๆด้วยท่า ทางทีปวดหัว
เธอในตอนนี้เข้าใจได้ทันทีว่าปีนั้นที่ธนภาคกั้น อยู่ท่ามกลางระหว่างเธอกับสุมิตรมันยากลำบา กขนาดไหน จันวิภาไม่รู้จะหาเรื่องอะไรมาพูดคุย ถ้าอย่างนั้ น…….พวกเธอสองคนกินอาหารกลางวันกันหรือ ยังออกไปกินข้าวด้วยกันมั้ย? ”
กินแล้ว”พัชรีและธนภาคเอ่ยปากพูดออกมาพร้ อมกัน
น้ำเสียงสิ้นสุดลงพัชรีก็จ้องมองธนภาคด้วยควา มไม่พอใจรังเกียจที่เขาพูดพร้อมกับตนเองอีกค รั้งครั้งที่แล้วก็ยังรับปากตนเองว่าจะไม่แย่งเธอ พูดอีกเจ้าผู้ชายเจ้าเล่ห์คนนี้ !!
จันวิภาราวกับมีสองหัวเทพผู้หญิงใหญ่ทั้งสอง คนนี้มาเยี่ยมตนเองหรือมาทรมานตนเองกันแน่ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้ป่วยนะ !
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีจันวิภาจึงรู้สึกไม่อยากจะส นใจทั้งสองคนนี้แล้วปล่อยให้พวกเขาทรมานต อไป
ณเวลานี้โทรศัพท์ของจีนวิภาก็ได้ดังขึ้นมาเธอ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกนิดก็จะตกใจจนโทรศัพ
ท์ล่วงหล่นพื้นเสียแล้ว ! คนที่โทรเข้ามาก็คือ- สุมิตร !
จีนวิกาตั้งสติรับโทรศัพท์“ฮัลโหล
“ทําไมเธอถึงไม่มาทำงาน?” น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำขอ งสุมิตรแฝงไว้ด้วยความโกรธอยู่เล็กน้อย
เมื่อจันวิภาได้ยินเธอจึงเบะปากอย่างไม่พอใจแ ลัวพูด ไม่ใช่ว่าฉันขาเจ็บหรือไงนายแหละทําร้า ยนี่ถือว่าเป็นการบาดเจ็บจากงานฉันขอลาสอง สามวันไม่ไปทํางาน
เมื่อได้ยินดังนั้นทางด้านนั้นก็เงียบไปครู่หนึ่งเป็ นเวลานานสุมิตรจึงจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาอีกครั้ง น่าเสียงค่อนข้างกลัดกลุ้ม ในเมื่อเป็นอย่างนี้ท ำไมเธอถึงไม่โทรมาหาฉัน……
“ฉัน……….วิภาอ้าปากแล้วคิดที่จะต่อว่าออกไป แต่พอคิดถึงเรื่องเมื่อวานที่เธอเตะเขาแล้วก็ไม่รู้ ว่าเพราะอะไรจู่ๆเธอก็ด่าไม่ออก “ฉันคิดว่านายน าจะรู้อยู่แล้ว……
ประโยคสุดท้ายของเธอไม่พูดยังจะดีเสียกว่าพ อพูดออกมาสุมิตรก็โมโหทันทีเท้าเธอเคล็ดแล้ว ยังจะเตะเขาแรงขนาดนั้นอีกจึงได้เหวี่ยงออกม าประโยคหนึ่งอย่างรุนแรงทันที เท้าหายดีก็ได้ หัวมาทำงาน หลังจากนั้นเขาก็วางสายไปด้วยค วามโกรธ
จันวิภาฟังเสียงสายไม่ว่างที่อยู่ในโทรศัพท์อย่า งงุนงงอยู่ครู่หนึ่งจึงจะวางโทรศัพท์ก็ดีมันเป็นไ ปไม่ได้เลยที่เธอจะอยู่กับสุมิตรอย่างสงบอย่าพู ดว่าเธอปากเสียสุมิตรเองนั่นแหละที่รนหาที่ตา ย
พวกเขาทั้งสองไม่เหมาะสมกัน
หลังจากที่วางสายไปพัชรีจึงรู้สึกว่าการมาที่นี่มั นน่าเบื่อแล้วก็พูดว่าครั้งหน้าจะมาเยี่ยมเธอใหม่ จากนั้นก็เดินออกไป
พัชรีพึ่งจะเดินออกไปธนภาคเองก็พูดว่ามีธุระเช นเดียวกันแล้วเดินตามหลังพัชรีไปติดๆ
ดังนั้นจั่นวิภาจึงทําได้เพียงแค่จ้องมองทั้งสองค นที่ทั้งรีบมาแล้วก็รีบจากไป
ตอนบ่ายตนเองอยู่คนเดียวตามลำพังแล้วเผลอ หลับไปโดยไม่รู้ตัวตอนที่ตื่นขึ้นมาท้องฟ้าก็มีด ลงเสียแล้ว
ภายในห้องมืดสนิทมีแสงไฟจากรถยนต์ที่อยู่บ นท้องถนนสองผ่านเข้ามาบ้างอยู่บางครั้งคราว ตอนที่มองออกไปข้างนอกก็ได้เห็นแสงไฟสีขา วส่องสว่างอยู่ในบ้านหลังข้างๆ เพียงแต่บ้านข องตนเองเท่านั้นที่มืดสนิท
เมื่อไรก็ตามในช่วงเวลานี้ก็จะรู้สึกว่าตนเองเงีย บเหงาโดดเดี่ยวเป็นพิเศษอารมณ์เช่นนี้ไม่ได้เจ อมาหลายปีแล้ว?
จันวิภาจําได้ว่าหลังจากที่มะลิวัลย์เดินผ่านประตู เข้ามาเธอก็ไม่เจอพ่อของเธออีกและก็ได้มีควา มรู้สึกเช่นนี้พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าท้องฟ้าได้มืดลง แล้วและบ้านหลังใหญ่ก็มีเพียงแค่ตนเองอยู่ตา มลำพังความรู้สึกที่ถูกคนทั้งโลกทอดทิ้งนั้นมัน ช่างน่าทุกข์ใจเสียจริง
ต่อมาเธอก็ได้มีนิเวศน์และก็ไม่เคยได้รับรู้รสชา ติของความเหงาอีกแล้วนิเวศน์เอ๋ยนิเวศน์……. ไปอยู่ไหนกันแน่นะ….แม่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน…
จันวิภาคุกเข่านั่งลงอย่างเงียบๆคนเดียวภายใน ห้องที่มืดมิดแล้วนิ่งอึ้งไป
ถ้าไม่ใช่เสียงออดที่จู่ๆก็ดังขึ้นมาจนวิภาก็เกือบ ที่จะลืมเวลาไปแล้วกระโดดเหยงๆไปที่ประตูเพ ราะความมืดมิดจึงมองไม่เห็นสิ่งของจันวิภาได้รั บบาดเจ็บอยู่หลายครั้งเท้าข้างที่ได้รับบาดเจ็บอ ยู่แล้วก็ถูกชนเข้าเช่นกัน
ดังนั้นตอนที่จันวิภากระโดดเหยงๆไปทางประตู
ก็ยังเกือบที่จะล้มคะมาลงมาเปิดไฟได้อย่างราบ รื่นจันวิภาจึงจะเปิดประตูออกมาได้
เมื่อเธอเห็นคนที่อยู่นอกประตูได้อย่างชัดเจนก็ อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา ทำไมถึงเป็นนาย
สุมิตรหลี่ตามองไปในห้องและพูดตอบกลับเธอ ด้วยความไม่พอใจ ทำไมถึงไม่ใช่ฉัน เห็นฉันแ ล้วตกใจ?หรือเธอนัดคนรักของเธอเอาไว้?
สุมิตรยิ่งพูดยิ่งไม่มีเหตุผลในวิภาไม่อยากจะสน ใจเขามีบทเรียนที่ข่มขืนเมื่อคืนนี้แล้วเธอกำลัง ยืนขวางประตูเพื่อไม่ให้สุมิตรเข้ามาพูดมาท่าน ประธานสุมิตรมีธุระอะไรงั้นหรอคะถึงมาที่นี่ยาม ดึกดื่น?” “ไม่มีธุระฉันก็มาไม่ได้งั้นหรอ?”สุมิจรยักคิ้วคำพู ดที่พูดออกมาแฝงด้วยความเย้ยหยัน
“.….…….นวิภาหมดคาจะพูด
สุมิตรผลักเรือนร่างของจันวิภาไปข้างๆแล้วพูด อย่างไม่พอใจ สุนัขที่ดีมันจะไม่ขวางทางให้ฉัน เข้าไป
นายสเป็นหมา !
จันวิภาที่ถูกสุมิตรผลักก็เริ่มที่จะไม่พอใจเธออด ไม่ได้ที่จะพูดโต้ตอบกลับไปทำไมนายพูดอย่า งนี้ล่ะด่าผู้หญิงคนหนึ่งว่าเป็นหมานายยังมียาง อายอยู่มั้ย?”
เมื่อได้ยินดังนั้นสุมิตรจึงกวาดสายตามองเธออ ย่างเยือกเย็นยิ้มขึ้นมาทันทีรอยยิ้มเช่นนี้ทำให้จั นวิภาหนาวเสียจนตัวสั่นอย่างทนไม่ได้”ใช่เธอไ มใช่หมาหมาจะไม่เตะใครในตอนนั้นหรอกนะ !
เมื่อเห็นสุมิตรเอ่ยถึงเรื่องเมื่อวานจันวิภาก็หน้า แดงอย่างเก้อเขินเมื่อคืนนี้เธอผิดจริงๆหลังจาก เรื่องนั้นเธอก็ครุ่นคิดอย่างใจเย็นถ้าหากว่าเธอเ ตะตรงนั้นของสุมิตรจนพังไปเดาว่าเขาจะต้องสู้ สุดชีวิตกับตนเองแน่
ตอนนี้จึงได้เอ่ยถามขึ้นมาอย่างอย่างระมัดระวัง “เมื่อคืนนี้ฉันทำไม่ถูก…………ไม่เป็นไรใช มั้ย?”
“จะมีหรือไม่เธอมาลองดูด้วยคนเองก็รู้แล้ว? มิตรยังคงยิ้มอย่างเยือกเย็นหลังจากพูดจบก็ได้ ส่งเสียง ออกมาอย่างเยือกเย็นอีกครั้ง”ผู้หญิง นิสัยเสียหายครั้งต่อไปเธอรุนแรงกว่านี้อีกหน่อ ยเกรงว่าตระกูลฉันคงจะไม่มีผู้สืบทอด
แม้จะรู้ว่าสุมิตรจงใจพูดเช่นนั้นจันวิภาก็อดไม่ไ ด้ที่จะหัวเราะต่อการแสดงของเขาไม่มีผู้สืบทอ ดหรอไม่มีทางอย่าคาดหวังว่าลูกชายของฉันจะ ตายเลย……
คนทั้งสองต่อปากต่อคำกันอยู่พักหนึ่งในท้ายที่ สุดสุมิตรก็ลากจั่นวิภาไปที่โซฟาอย่างใจร้อนแล ะออกคําสั่งให้เธอนั่งลง
“นายคิดจะทําอะไร?”จันวิภาจ้องมองสุมิตรอย่า งกระวนกระวายไม่รู้ว่าลมอะไรหอบเขามาที่นี่ใน วันนี้ อย่างไรก็ตาม มิตรก็ถอดเสื้อโค้ทของตนเองอ อกโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำเมื่อเสร็จเขาก็เริ่มที่จ ะถลกแขนเสื้อของตนเองขึ้นมาอีกครั้ง
“นาย…….นายจะทําอะไรกันแน่?”สุมิตรไม่พูดอะ ไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียวนั้นทำให้จนวิภากัง วลใจอยู่นิดหน่อยเธอขยับร่างกายเพื่อต้องการ ที่จะถอยหลังแต่กลับถูกสุมิตรตะคอกให้หยุดเอ าไว้
อย่าขยับ ! ”
พูดจบสุมิตรก็คงเขาลงข้างหน้าจันวิภาจ้องมอง ขาที่บาดเจ็บของเธออย่างระมัดระวังจากนั้นจึงเ อื้อมมือออกไปยกมันขึ้นมาวางไว้บนตักของตน
เอง
จีนวิภาตกตะลึงไปเสียแล้วนี่มันสถานการณ์อะไ รกัน ? !