พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 21
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่21 ร้องออกมา ฉันจะจัดให้เธอหนักๆเลย
“จันวิภา รีบๆร้องออกมา”สุมิตรทำแรงขึ้นไปอีกพร้อม พูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “เธอไม่ต้องมาเสแสร้งแล้ว ร้อง ออกมา ทำให้ฉันมีความสุขฉันอาจจะจัดให้เธอหนักๆเลย!”
“แกออกไปซะ!”จันวิภาหน้าแดงขึ้นพร้อมกับกัดปากของ
ตัวเองอย่างแรง
พอมองดูจันวิภาเป็นแบบนี้ สุมิตรก็รู้สึกได้ถึงแรงโกรธที่ อยู่ในใจปะทุขึ้น
ขนาดนี้แล้วเธอยังจะเสแสร้งอีกหรอ? ผู้หญิงสารเลว ใบหน้าเต็มไปด้วยความปลอมเปลือกที่ไร้เดียงสา แค่ออก จากบ้านไปแปปเดียวก็รีบวิ่งไปบาร์หาผู้ชายแล้ว!
“ร้องออกมาสิ! จันวิภา ปากของเธออีก!” ร่างกายของเธอมันซื่อสัตย์กว่า
จันวิภากัดฟันแน่น เพื่อไม่ให้ตัวเองร้องออกมา สุมิตรไม่
พอใจและโกรธสุดขีด
เวลาผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง..
ในที่สุดก็จบเรื่องสักที สุมิตรยื่นมือมาจับคางของจันวิภา ยิ้มอย่างเลือดเย็นและพูกขึ้น “สำส่อน เธอเสแสร้งต่อไปแล้ว กัน สารเลว! นังผู้หญิงชั่ว!”
สุมิตรพูดจบก็ผลักจันวิภา หลังจากนั้นใส่เสื้อผ้าและเดิน
จากไป
จันวิภาอดทนตลอดจนสุมิตรเดินจากไป จากที่เคยอดทน มาสักพักสุดท้ายก็กลั้นไว้ไม่อยู่
มือสั่นค่อยๆดึงผ้าห่มขึ้นมากอดไว้ หางตามีหยดน้ำตา ไหลออกมา เธอไม่อยากจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกแล้ว สุมิตรคือมาร ร้าย ถ้าขึ้นเจอแบบนี้ไปเรื่อยๆ เธอคงต้องสติแตกเป็นบ้าแน่ๆ
อีกทั้งบ้านของตัวเองและมะลิวัลย์ก็ไม่ให้เธอกลับไป
พ่อ…พ่ออยู่ไหนหนูคิดถึงช่วยพาหนูไปเถอะ…
คิดมาถึงตอนนี้ จันวิภา ก็ร้องไห้ออกมา ปิดปากของตัวเอง พยายามไม่ให้เสียงของตัวเองหลุดออกมา แม้แต่น้อย
ในอีกด้านหนึ่ง
ณ ห้องนั่งเล่นในคฤหาสน์ของสุมิตร แสงไฟระยิบระยับ
ส่องสว่างอยู่ภายใน
สุมิตรนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าครีมไม่พูดไม่จา สาว ใช้ข้างกายสัมผัสได้ถึงรังสีอันเย็นชาของสุมิตรแผ่รออกมาจาก ร่างกาย ทำให้แม้แต่หายใจยังไม่กล้า ค่อยๆออกจากห้องไปอย่างเงียบที่สุด
จันวิภา ผู้หญิงคนนี้นี่มันช่างเสแสร้งจริง
สุมิตรพอคิดถึงจันวิภาก็รู้โกรธขึ้นอย่างไร้วุ่นวายขยับปกเสื้อ ปลดกระดุมหนึ่งเม็ดเผยให้เห็นน่ามอง
จุดซิการ์ขึ้นมาหนึ่งมวน หลังจากนั้นสายตาก็กวาดมองไป ยังบนโต๊ะมองเห็นจดหมายที่ยังไม่ได้เปิดอ่ายอยู่และหยิบ จดหมายขึ้นมาเปิดออก
“มีแค่รูปเห็นหลังเท่านั้นหรอ?”
สุมิตรขมวดคิ้ว รูปนี้คือรูปจากกล้องวงจรปิดไม่ผิดแน่ แต่ ว่ามีเห็นหลังแค่ใบเดียว
หรือว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังสวมชุดราตรีที่ขาดเล็กน้อย สุ มิตรยังคงดูไม่ออกว่านี้ใช่ผู้หญิงกลางคืนที่ตัวเองไปแย่งมา หรือเปล่า
พยายามพลิกรูปไปกลับไปกลับมา หวังว่าจะรู้ว่าผู้หญิง คนนั้นรูปร่างเป็นยังไง แต่คิดไม่ถึงว่าทุกรูปมีแต่ด้านหลัง เท่านั้นและยังเป็นรูปที่ถ่ายไกลๆ แถมยังดูยากอีก
พลิกไปพลิกมาไม่รู้กี่รอบ ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม สุมิตร โยนรูปออกจากมือ หยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนหาชื่อธนภาคและ โทรออกไป
“ฮาโหล สุมิตร?”ยังไม่ทันไรสายก็ถูกรับขึ้น สายต่อไปยัง
ธนภาค
“รูปที่แกให้มานี้คือแกต้องการจะหลอกฉันใช่ไหม?”สุ มิตรโกรธเล็กน้อยและพูดขึ้น “เห็นแต่หลังหน้าก็ไม่เห็น ฉัน ต้องการข้อมูลของผู้หญิงคนนั้น”
ธนภาคตั้งใจหัวเราะขึ้น”ตอนนี้หาเจอแต่นี้แกอย่ารีบสิ ฉันส่งคนไปตามเรื่องแล้วอีกสักพักน่าจะได้อะไรบ้าง”
“แน่ใจนะ?” สุมิตรพูดขึ้นเบาๆ
“อาฮะ!”
หลังจากได้รับคำตอบสุดแสนมั่นใจของธนภาค สุมิตรก็ วางสายมือถือไปและโยนมือถือไว้ด้านข้าง นั่งพิงโชฟาเข้า พนัก แล้วนวดขมับของตัวเองรู้สึกว่าในหัวของตัวเองปวดนิด หน่อย
สาวสวยคนนั้น รสชาติไม่เลว สุมิตรคิดอยู่พักหนึ่ง เธอ
ต้องหาเขาแน่นอน
ขณะกำลังคิด มือของเขาก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ เพื่อที่ จะเอาหยกเก่าแก่ชิ้นนั้นขึ้นมาดู แต่กลับพบว่ามันว่างเปล่า กระเป๋าเสื้อไม่มีอะไรอยู่ในนั้น?
บัตซบ หยกของผู้หญิงคนนั้นไปไหนแล้ว?!
หยกนั้นห้ามหายไปเด็ดขาด !
วันที่สอง ขณะจันวิภาตื่นนอนรู้สึกร่างกายของตัวเองปวด ไปทั้งตัวไม่มีเรี่ยวแรง ประคองหัวขึ้น พยายามนั่งหลังตรงมอง เห็นสาวใช้อยู่ในห้องกำลังเปิดตู้นั้นตู้นี้ไปมา คล้ายกับกำลัง หาของอยู่
จันวิภาขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีกก็ไม่สนใจ หลังจากลงจากเตียงเธอก็พยายาม เสเสอผาของตัวเอง
“นายหญิง ทานอาหารเช้าแล้ว” สาวใช้เดินมาด้านข้างจัน วิภา พูดขึ้นเบาๆ น้ำเสียงไร้ปัญหาแต่สายตากสับเหยียดหยาม สุดขีด
“โอเค” จันวิภาพยักหน้า ไม่สนใจการเหยียดหยามของ สาวใช้ หลังจากล้างหน้าบ้วนปาก สีหน้าไร้อารมณ์เดินลงไป ข้างล่าง
ข้างล่างสาวใช้สีหน้าแดูร้อนรน กำลังวุ่นวายกับการหา
ของอยู่
จันวิภาสงสัยแล้วขมวดคิ้วพร้อมถามขึ้น”หาอะไรอยู่?”
ได้ยินเสียงจันวิภา สาวใช้ชงักครู่หนึ่งและตอบกลับ”หา
หยกของนายท่าน”
จันวิภาได้ยินเรื่องของสุมิตรคิ้วก็ขมวดขึ้นก็ไม่คิดถามต่อ เธอค่อยๆยกนมขึ้นมาดื่มเงียบๆ ขณะเดียวกันนึกขึ้นว่าเธอทำ หยกสีเขียวของตัวเองหายไป หยกนั้นคือของที่สืบทอดของ ตระกูลที่พ่อทิ้งไว้ให้ แต่ตอนนี้ก็ไมรู้หายไปอยู่ที่ไหนแล้ว
ตอนที่อยู่บ้านของจันวิภาครั้งนั้นก็หาไม่เจอ ถ้ากลับไปอีก ครั้งเดียวต้องลองหาอีกที ถ้าหาไม่เจอกลัวว่าจะหล่นอยู่ใน โรงแรมวันก่อน
พอขึ้นถึงตรงนี้จันวิภาก็รู้สึกชาไปทั้งตัว
“หาเจอไหม?”ทันใดนั้นเสียงของสุมิตรดังขึ้นจากด้าน หลังเสียงนั้นมีความกังวลใจไปนิดหน่อย
หยกนั้นสำคัญขนาดนั้นหรอ?!
จันวิภาหันหน้าไปมองไปที่สุมิตร สุมิตรมองมาที่เธอพอดี สายตาทั้งสอบประสานกัน จันวิภาตกใจรีบหันหน้ากลับมา
ทันที
ขณะดื่มนมต่อ จันวิภาจู่ก็คิดขึ้นในวันที่เธอได้ปรนนิบัติสุ มิตรวันนั้น เหมือนจะมีของบ้างอย่างหลุดออกมาจากกระเป๋า เสื้อของสุมิตร น่าจะเป็นหยกสีเขียนอันหนึ่ง
พอคิดถึงจุดนี้ในใจของจันวิภาเกิดความลังเลขึ้นเล็กน้อย จะบอกหรือไม่บอกสุมิตรดีนะ?
กัดขนมปังหนึ่งคำ จันวิภาหันไปทางสุมิตรและพูด ขึ้น “เอ่อ..สุมิตร..”
สุมิตรหันหน้าไปคิดไม่ถึงว่าจันวิภาจะทักเขาก่อน ในหน้า อันเย็นชาสายตาอันหนาวเหน็บจับจ้องไปที่เธอ
“ฉันจำได้ วันนั้นเหมือนมีอะไรตกที่โซฟาบางทีบน โซฟา…”จันวิภาพดอย่างเรียบๆ “บางที่อาจจะเป็นหยกของ คุณก็ได้”
“ถ้าบนโซฟาไม่มีล่ะ?”นัยน์ตาอันเย็นชาของสุมิตรมองไป ที่จันวิภา
จันวิภาตะลึง สุมิตรนี้จริงๆเลย เธอแค่ใจดีอยากจะเดือน เขาแค่นั้นเอง!