พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 22
ตอนที่ 22ให้ความสำคัญกับหยกของจันวิภา
จันวิภาเบะปากและพูดขึ้น”งั้นคุณกลับไปดูสิบางทีหยกนั้น อาจจะไม่ใช่หรือว่าฉันอาจจะเห็นไม่ชัดก็ได้”
“พวกเธอไปดู” สุมิตรสั่งให้สาวใช้ไปดูที่โซฟาใกล้ๆ และก็ พูดอย่างเย็นชาแก่จันวิภาถ้าหาไม่เจอจันวิภาเธอรู้ใช่ไหมว่า จะเป็นยังไง”
จันวิภาชินแล้ว สุมิตรนี้…ช่างมันล่ะกัน ตอนนี้เธอมีเรื่อง วุ่นๆเยอะเกินไปแล้ว!
“เจอแล้ว เจอแล้ว!”สาวใช้ข้างหลังจันวิภาพูดอย่างดีใจ
และเดินจำจำมาหาสุมิตร”นายน้อยเจอหยกของท่านแล้ว!” สุมิตรหยิบหยกโบราณชิ้นนั้นขึ้นมาดูมุมปากแสยะยิ้มขึ้น ยังดีที่ไม่ทำของของผู้หญิงคนนั้นหายไป
จันวิภาสงสัยเลยหันหน้าไปดู อยากจะรู้ว่าหยกชิ้นนั้น หน้าตาจะเป็นยังไง แค่ชำเลืองมองสุมิตรก็รีบเก็บหยกชิ้นนั้น เข้าไปในกระเป๋าเสื้อทันที
แค่ปฏิกิริยาดูก็รู้แล้วก็คือไม่อยากให้จันวิภาเห็นนั้นเอง ปากอดเบะไปมามได้ จันวิภาเงียบไม่พูดอะไร แค่หยก
ชิ้นเดียวแค่นั้นเองมันจะอะไรนักหนา
!
แต่สุมิตรกลับไม่คิดเช่นนั้นเขาให้ความสำคัญกับหยกชิ้น นี้มาก สายตาเย็นชาจ้องไปที่จันวิภาหนึ่งรอบและหันตัวขึ้นข้างบนทันที
“เหอะ! ทำอย่างกับเป็นสมบัติพันล้านแต่ดูก็ไม่ให้ดู”จัน วิภามองบน และบ่นออกมา
ขณะที่จันวิภากำลังบ่นอยู่ จู่จู่ก็มีสาวใช้เข้ามาพูดกับจัน วิภา”นายหญิงหน้าประตูมีคน 2 คนมาหาท่านเขาบอกว่าเป็น
เพื่อนของท่านค่ะ”
มีเพื่อนมาหา?!
จันวิภาสงสัยแต่ขณะเตียวกันก็คิดถึงพัชรีและกนกอรขึ้น เพื่อนของเธอคงมีแค่ 2 คนนี้แหละที่เป็นเพื่อนชี้ของเธอ
ตั้งแต่เด็กจันวิภาไม่ค่อยจะมีเพื่อนสักเท่าไหร่ มีแค่พัชรี และกนกอรที่สนิทไปไหนมาไหนด้วยกันอีกทั้งนิสัยของกนกอร กับจันวิภาก็คล้ายๆกัน ดังนั้นเลยสนิทกันมากระดับหนึ่ง
“แต่ว่าไม่เคยบอกที่อยู่ให้พวกนั้นเลยบางทีอาจจะไม่ใช่ก็
ได้มั้ง..
จันวิภาพูดกับตัวเองจากนั้นยืนขึ้นและเดินออกไปที่ประตู แค่ออกไปก้าวเดียวก็เห็นเงาคนที่คุ้นเคย 2 คน
“พัชรี กนกอร พวกเธอมาได้ไงเนี่ย?!”
จันวิภาตกใจตะโกนขึ้น รีบเดินไปหาและกอดทั้ง 2 คน
ที่แท้ผู้หญิงสวยสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเพื่อนตั้งแต่ เด็กของจันวิภานั้นคือ พัชรีและกนกอรนั้นเอง!
จันวิภากอดทั้งสองอย่างอบอุ่นยิ้มแย้มและเพื่อนทั้งสองก็พูดขึ้น กัน!”
“จันวิภาในที่สุดก็หาเจอสักที นานแล้วนะที่ไม่
ได้เจอ
“ใช่ ฉันคิดถึงพวกเธอมากเลย”จันวิภาพาสองคน เข้าไปที่บ้านและก็สงสัยถามขึ้น “พวกเธอทำยังไงถึงหาที่นี้เจอ
เนี่ย?”
“ยังจะถามอีกเหรอ! แฟนของเธอนี้ชื่อเสียงก็ไม่เบา บ้าน
ก็ใหญ่ใครจะหาไม่เจอล่ะ ต่อให้หลับตายังหาเจอเลย!” พัชรี จ้องและยิ้มไปที่จันวิภาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงแซวเล่น
จันวิภาตกใจไม่รู้จะตอบยังไงดี ได้แต่หัวเราะแห้งๆและ ตอบแบบผ่านๆ ” งั้นงั้นแหละ”
ทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเลย พัชรีและกนกอรมองไป ทุกซอกทุกมุมพอเห็นการตกแต่งภายในคฤหาสน์ก็ตะลึงไม่ หยุด
โดนเฉพาะพัชรีจับมือจันวิภาและพูดอย่างอิจฉาขึ้น “จัน วิภาฉันว่าเธอแต่งงานถูกคนแล้วบ้านหลังนี้ดูหรูหราไปหมด ฉันว่าชีวิตที่เหลือของเธอคนมีกินมีใช้ไม่หมดแล้ว ฮ่าฮ่า…”
“ที่ไหนกัน”จันวิภาพยายามยิ้มพอคิดถึงสุมิตรก็ดีใจไม่ ออก
“จัน ทำไมไม่เห็นแฟนเธอล่ะอ? เรามาตั้งไกลๆ….”ขณะ พัชรีกำลังพูด จันวิภาชำเลืองเห็นสุมิตรกำลังลงบันไดมา
ข้างหูมีเสียงแหลมดังขึ้น”จันแฟนของเธอหล่อมาก”
ด้านกนกอรไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนกันพัชรี เธอผลักจันวิภา และพูดขึ้น”จัน ไม่แนะนำสามีให้พวกเราสักหน่อยหรอ?”
“เอ่อ….”จันวิภาเมมปากรู้สึกอึดอัด
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับสุมิตรไม่ค่อยจะดี อยากจะ แนะน่า สุมิตรก็คงไม่ให้ความร่วมมือ จะทำยังไงดีเนี่ย?
“สวัสดีทุกคน”
ขณะที่จันวิภากำลังหนักใจอยู่ สุมิตรก็เดินมาแล้วและ
โบกมือกับสองคนที่ยืนข้างๆ จันวิภา ยิ้มแย้มพูดอย่างสุภาพ
ขึ้น
จันวิภาภูประหลาดใจ เลยเงยหน้ามองไปทางสุมิตร ไม่ เข้าใจว่าเขากำลังทำอะไร!
เขาไม่ใช่ไม่ชอบเธอเหรอ? ทำไมถึงดูเกรงใจและมี
มรรยาทกับเพื่อนของเธอขนาดนี้?
ขณะที่จันวิภาประหลาดใจอยู่นั้น พัชรีและกนกอรก็จับมือ กับสุมิตรและแนะนำตัวเอง
” ไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ” สุมิตรรักษารอยยิ้มไว้บนหน้า ตลอดและดูมีภูมิฐานสุดๆ
“ได้เลยขอบคุณค่ะ” พัชรีจูงจันวิภาพร้อมยิ้มและพูดขึ้น”ฮ่า ฮ่า สามีของเธอมีมรรยาทสุดๆ ฉันคิดเขารวยขนาดนี้เขาจะไม่ สนใจพวกเราซะอีก เธอนี้แต่งงานได้ถูกคนจริงๆ”
จันวิภาไม่รู้จะพูดอะไร เธอไม่เข้าใจว่าในใจสุมิตรคิต
อะไรอยู่ เดินตามสุมิตรไปอย่างงุนงงและ มองเพื่อนๆของเธอ คุยกันสนุกสนาน
ผ่านไปสักพักสุมิตรเหมือนจะนึกขึ้นอะไร เขาเลยพูด ขึ้น “ขอโทษนะครับ พอดีผมพึ่งนึกขึ้นได้มีงานที่ของบริษัทต้อง จัดการนิดหน่อยต้องไปแล้ว ให้จันวิภาอยู่ต่อแทนผมแล้วกันนะ ครับ!”
พอเขาพูดจบก็เดินขึ้นบันไดไป
พัชรีและกนกอรรีบพยักหน้าพร้อมรีบตอบกลับว่าไม่
เป็นไร
ขณะที่ทั้งสองคนหันหน้ากับไปคุยกับจันวิภา ไม่มีใคร สนใจสีหน้าของสุมิตรที่เดินออกไปไกลแล้วสักพักก็เปลี่ยนเป็น
เย็นชาขึ้นทันที
เดินขึ้นชั้นบนกลับห้องขณะกำลังปิดประตู สุมิตรแสยะยิ้ม ขึ้น รอยยิ้มสุดแสนทั้งกระหายเลือดทั้งเจ้าเล่ห์และชั่วร้าย
อีกด้านหนึ่งจันวิภากำลังตะลึงและสงสัยอยู่ทำไมจู่ๆสุมิตร ถึงเปลี่ยนมาเป็นขี้เกรงใจแบบนี้ พัชรีและกนกอรกำลังเดินเข้า มายิ้มและพูดขึ้น”แฟนของเธอไม่ใช่แค่หล่อนะยังนิสัยดีอีก เธอ
นี้โชคดีจริงๆเลย!”
จันวิภาโบกมือไม่พูดไม่จาและก็ไม่สนใจ
จันวิภาเป็นแบบนี้สักพักหนึ่งก็ดึงประเด็นไปเรื่องอื่นและเริ่มเปิดประเด็นถึงเรื่องตอนเด็กๆขึ้นมา
ผู้หญิงสามคนเจอกันก็งี้แหละเรื่องให้คุยมันก็ต้องเยอะ เป็นเรื่องธรรมดา และยิ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็กโตมาด้วยกันอีก ไม่ว่าเรื่องอะไรก็รู้กันหมด ทำให้ทั้งเวลาจะยิ้มหรือหัวเราะก็ไม่ ต้องมาทำเสแสร้งให้กัน
“พวกเธอจำตอนเด็กได้ปะ ตอนที่จันวิภาพกพ้าเช็ดหน้า
แล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงในวังอะ? ตอนนั้นฉันและกนกอร ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงเพ้อเจ้อไปวันๆ แต่ดู วันนี้สิ ความฝันของจันวิภาเป็นจริงแล้ว!”พัชรีอดหัวเราะและ พูดออกมาไม่ได้