พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 23
ตอนที่23 ถ้าลำบากก็ไปขอให้สุมิตรช่วยสิ
กนกอรนั่งข้างๆแต่บางทีก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ตอยฟัง
พัชรีแซวจันวิภา
“เธอยังจะแซวฉันอีก ตอนเด็กใครนะวันๆถือไม้พลองเดิน ไปบอกคนว่าตัวเองอยากจะไปท่องยุทธภพ? แล้วดูสิตอนนี้เป็น
ไง ใครจะไม่กล้าเชื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงแกร่งล่ะ?”จันวิภามอง ไปที่พัชรีและอดข่าออกมาไม่ได้
“อะไรเล่า! ทำไมเธออยู่ๆพูดเรื่องตอนนั้นขึ้นมาล่ะ! ฉัน เดินสายสาวน้อยมาตั้งนานแล้วโอเคไหม? กนกอรใช่ปะใช่ ปะ?” พัชรีรีบย้ายไปยื่นข้างๆกนกอร จากนั้นกนกอรสายหน้า และหัวเราะพูดขึ้น”พวกเธอจัดการกันเองล่ะกัน ฉันไม่เกี่ยว ฮ่าๆ”
จันวิภารู้สึกประหลาดใจ ไม่ค่อยได้สนใจกนกอรสักเท่า ไหร่ เธอรู้สึกว่ากนกอรวันนี้ดูแปลกแปลก
ทั้งสามเลยสนทนากันต่อไป เวลา ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จันวิภารู้สึกเหมือนผ่านไปไม่นานแต่รู้สึก ได้ว่าตอนนี้ก็เย็นแล้ว
แต่ไม่ค่อยคิดมาก
พัชรีก็พูดไม่หยุดไม่หย่อนจนคอแห้งดื่มน้ำสักนิดแล้วก็จะ กลับ จันวิภาจึงพาทั้งสองไปส่งที่หน้าประตู
พัชรีเดินไปถึงหน้าประตูพร้อมจูงมือกนกอร และบอกลา จันวิภา”งั้นพวกเราไปก่อนนะ
พูดจบก็จูงกนกอรเดินออกไป กนกอรกับอๆอึ้งๆเหมือนกับมีเรื่องอะไรอยู่
ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกไม่เข้าใจ พัชรีสงสัยเลยถามขึ้น”กอร เป็นอะไรหรือเปล่า?”
กนกอรคิดเล็กน้อยและพูดขึ้น”พัชรีเธอไปก่อนเลย ฉันมี เรื่องต้องคุยกับฉันนิดหน่อย”
พอพัชรีมองไปที่หน้านิ่งๆของกนกอรก็หงุดหงิดและพูด ขึ้น”ได้ พวกเธอมีความลับอะไรถึงไม่บอกฉัน!”
แม้พัชรีจะพูดแบบนี้แต่ก็พยักหน้าและพูดขึ้นอีก”ช่างมัน พวกเราโตแล้วเรื่องแค่นี้เองไม่เก็บไปคิดเล็กคิดน้อยหรอก พวกเธอค่อยๆคุยกันไปแล้วกันฉันกลับบ้านไปนอนก่อนนะ ฝัน ตีนะทั้งคู่พูดจบก็เดินไปทันที
หลังจากพัชรีไปแล้ว จันวิภาก็จูงกนกอร เธอไม่รู้ว่ากนกอร ต้องการพูดอะไรแต่รู้สึกได้ว่าน่าจะมีอะไรบ้างอย่างอยู่เลยยิ้ม และพูดขึ้น”พัชรีก็ห้าวหาวแบบนี้ตั้งนานแล้ว แต่บางทีก็อ่อน โยนขึ้นมาเหมือนกัน!”
กนกอรพยักหน้าพูดขึ้น”พวกเราคุยกันข้างในกันเถอะ”
พอทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านกนกอรก็เปลี่ยนเป็นร้อนรน เธอจับมือจันวิภาพร้อมพูดขึ้น”จันวิภาเธอต้องช่วยฉันนะ” ขณะ พูดน้ำตาก็ไหลออกมา
จันวิภารีบพากนกอรนั่งลงและพูดขึ้น” ค่อยค่อยเล่ามาไม่ ต้องรีบ วันนี้ฉันรู้สึกได้ว่าเธอน่าจะมีเรื่องอะไรในใจอยู่แล้ว แม่ เลี้ยงนั้นทำให้เธอลำบากใจเหรอ?”
กนกอรพยักหน้าและพูดขึ้น”เขาไล่ฉันออกจากบ้านไม่รู้ ฉันควรทำยังไงดี”ขณะพูดกนกอรที่นั่งข้างๆก็สะอีกสะอื้นออก
จันวิภาก็เหมือนกับกนกอรทั้งสอบมีแม่เลี้ยงที่ไม่ดีทั้งคู่ เพราะว่าเจอเรื่องเลวร้ายคล้ายๆ กันกัน ทำให้จันวิภามัก จะปกป้องกนกอรเสมอ
จันวิภาคิดสักพักและถามขึ้น”ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนแล้วจะ
ให้ฉันช่วยยังไงล่ะ?”
อยู่ๆกนกอรทั้งสะอื้นและพูดขึ้น “ตอนนี้ฉันไม่มีบ้านให้ กลับแล้ว จันฉันขออยู่ที่นี้สักพักได้ไหม?”
กนกอรไม่รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของจันวิภาเป็นยังไง พูด แบบนี้ออกมาก็ไม่น่าแปลก แต่นี้ก็ทำให้จันวิภาตกใจสุดๆ
ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างสุมิตรและเธอก็…
“จัน เธอไม่สะดวกเหรอ? เธอบอกฉันที่ฉันควรทำยังไงดี” กนกอรพูตอย่างตะกุกตะกัก
จันวิภาเห็นกนกอรเป็นแบบนี้ก็เมมปากไม่รู้จะปฏิเสธยังไง หลังจากคิดไปสักพัก จันวิภาพก็จับมือกนกอรและพูดขึ้น”กนก อรไม่ต้องรีบ ฉันเข้าใจเธอนะ เอางี้ไหม ฉันขอปรึกษาสุมิตร ก่อนโอเคไหม? พวกเราพึ่งจะแต่งงานกันแล้วนี่ก็บ้านของเขา อีก ฉันต้องถามความเห็นเขาถึงจะดี เธอว่าแบบนี้โอเคไหม ละ?”
กนกอรพยักหน้า
จันวิภาให้กนกอรนั่งรออยู่ที่ห้องสักพักก็เตรียมตัวออกไป หาสุมิตรและตอนนี้เธอรู้สึกลังเล
กนกอรสัมผัสได้ว่าจันวิภามีบางอย่างไม่ค่อยโอเคก็เลย ลองถามดู” สามีของเธอจะให้ฉันพักอยู่ที่นี้ไหม?”
สถานการณ์ในตอนนี้จันวิภารู้ได้เลยว่ากนกอรสัมผัสได้ ถึงอะไรบางอย่าง แต่จันวิภาก็โบกมือและพูดปลอบขึ้น”เธอไม่ ต้องกังวลหรอก ฉันต้องให้เธออยู่ที่นี้ให้ได้!”
พอกนกนกอรฟังแบบนี้ก็รู้สึกโล่งอกและจับมือของจัน วิภา” จันวิภารบกวนเธอด้วยนะ”
จันวิภาเมมปาก ปกติสุมิตรทรมานเธอแบบนั้น ทำให้ เธอไม่รู้ความคิดของสุมิตร แต่เพื่อกนกอรแล้วเธอต้องไปลอง ดูสักหน่อย
กำลังคิดจันวิภาก็สูดลมหายใจลึกลึกหนึ่งที เคราะประตู ห้องของสุมิตรแล้วผลักประตูเปิดออกเดินเข้าไป
“พูดมา มาหาฉันมีเรื่องอะไร? เธอคงไม่ใช่มีเรื่องให้ฉัน ช่วยหรอกนะ?”สุมิตรเสยะยิ้มพูดกับจันวิภาอย่างเย็นชา
จันวิภาตกใจ และเงยหน้ามองที่เขาอย่างประหลาดใจ
ทำไม ทำไมเขาถึงรู้ล่ะว่าฉันมีเรื่องของให้เขาช่วย?!
จันวิภาคอตกพูดอย่างตะกุกตะกักขึ้นคือว่า….เธอให้ คนกอรพักที่นี้สักพักได้ไหม? ตอนนี้เธอไม่มีบ้านให้กลับแล้ว”
“ขอเหตุผลหนึ่งข้อที่จะให้เขาอยู่ที่นี้ สุมิตรพูดอย่างเย็น
จริงๆแล้วสุมิตรไม่อยากรู้หรอกว่าทำไมกนกอรถึงจะพักที่
นี่ เขาแค่อยากให้จันวิภาขอร้องเขาแค่นั้น จันวิภาไม่รู้จะตอบกลับยังไง กำมือจิตใจร้อนรน”ช่วยเธอ
เถอะ กนกอร.กนกอรน่าสนสารมากจริงๆนะ และเธอยังเป็น เพื่อนที่สนิทที่สุดของฉันอีก!”
“เหตุผลแค่นี้เหรอ? จันวิภาเธอคิดดีๆนะที่นี่ไม่ใช่สถาน
สงเคราะห์ “สุมิตรหัวเราะและพูดอย่างไม่แยแส
คำตอบของสุมิตรทำให้ใจของจันวิภาเย็นลง เธอไม่รู้จะ ทำยังไง กำลังจะเดินออก สุมิตรก็หัวเราะและพูดขึ้น”แต่ ให้ เพื่อนเธออยู่ล่ะก็ได้…
“จริงเหรอ?”จันวิภาเงยหน้าขึ้น มองไปข้างหน้าพร้อม นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
“อ่าหะ แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่ง”สุมิตรนัยน์ตาแฝงความ อันตรายไว้
จันวิภาขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้น แต่ก็เปิดปาก ถามกลับ “ข้อแม้อะไร?”
ไม่ว่าจะยังไง เธอก็ทำเพื่อช่วยกนกอร
ดูเหมือนสุดมิตรจะพอใจกับคำตอบของจันวิภา มุมปากมี รอยยิ้มเล็กน้อย แต่น้ำเสียงที่พูดออกมากลับเย็นชา “ก็ไม่ยากหรอก เธอแต่ต้องปรนนิบัติฉันจนกว่าฉันจะพอใจก็แค่นั้นล่ะ
“ปรนนิบัติ”จันวิภาหน้าซีดขึ้นทันที คิดไม่ถึงว่าสุมิตรจะใช้ ข้อแม้นี้ น้ำเสียงเป็นขึ้นทันทีและพูดขึ้น”ไม่มีทาง!”