พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 52
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 52 ความกังวลใจของสุมิตร
จันวิภาถูกความสดใสส่องสว่างกระทบให้ ล้อขึ้น: “ถ้าพี่ชายของเธอสดใสได้แบบเธอก็ดีนะ” ก็พูดหยอก
สองคนก็หัวเราะขึ้นมา แม้ว่าเพิ่งรู้จักกันไม่นานแต่กลับ รู้สึกสบายใจเวลาได้คุยกัน
ที่คฤหาสน์ชั้น2 สุมิตรเปิดผ้าม่าน จ้องมองรอยยิ้มสวย ประดุจตอกไม้ของจันวิภาอย่างรำคาญใจ นับตั้งแต่แรกมาเขา ไม่เคยเห็นจันวิภายิ้มหัวเราะอย่างมีความสุขแบบจริงใจขนาด นี้มาก่อน
แต่ตอนนี้ ยังเห็นเธอคุยเล่นกับน้องชายของตัวเองอย่าง สนุกสนาน ทำให้สุมิตรรู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจสักเท่าไหร่ แต่ ว่าจันวิภาคือผู้หญิงชั้นต่ำสุดแสนสกปรก ก็เป็นผู้หยิงของเขา
ดวงตาที่แสนเย็นชาคู่นั้นอดที่จะเกิดสั่นสะท้านไม่ได้
สุมิตรปิดผ้าม่านแล้วเดินลงไป รีบเข้าไปที่ระหว่างเวธัส และจันวิภา ขมวดคิ้วพูด
ไม่รู้ว่าลมอะไรหอบสุมิตรมา ปกติแล้วเธอนอนแยกห้อง กับสุมิตร และแต่ก่อนสุมิตรก็ไม่เคยคิดจะสนใจเธอว่าจะนอน ตึกหรือนอนไว แต่วันนี้กลับแสดงขึงขังแบบนี้ออกมา
จันวิภาเตรียมตัวจะโต้กลับ สุมิตรกลับหันหน้าไปที่เวธัส แล้วพูด”นายเพิ่งมาถึงบ้านน่าจะเหนื่อยนะ รีบไปพักผ่อนเถอะ ฉันให้คนไปเตรียมห้องในนานแล้ว!”
เวธัสดูเหมือนจะยังไม่เข้าใจ มองไปที่สุมิตรและจันวิภา รู้ สึกแปลกๆชอบกล แต่ก็ไม่ต่อความได้แต่พยักหน้าตามน้ำไป
สุมิตรไม่พูดอะไร ต้อนรับเรียบร้อยหลังจากนั้นก็พาจัน
วิภาเข้าห้อง
“คุณต้องการทำอะไรกันแน่?” เข้าห้อง จันวิภาก็ระเบิด ออกมา: “ทำไมฉันทำอะไรคุณก็เข้ามายุ่งทุกที”
จันวิภาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ต่อให้เวธัสอยู่ข้างหน้าก็ไม่ สนใจ เธอสลัดมือของสุมิตรทิ้งแล้วพูดต่อ: “คุณมันเป็นคนบ้า อ่านาจ โรคจิต เดนมนุษย์”
สุมิตรยิ้มอย่างเย็นชาพูดขึ้น: “ดีจันวิภาดี เธออธิบายมา เธอเพิ่งยั่วเวธัส เธอคิดว่าผมเป็นอะไรล่ะ? ห่ะ?
จันวิภาหันหน้าจะออกไปนอกห้อง: “คุณนี้มันโรคจิต”
“อยากจะหนี?”
สุมิตจรจับมือจันวิภาไว้แล้วกดเธอเข้าที่กำแพง ไหล่สอง ข้างชิดกำแพง และมองอย่าง โมโหที่เธอ พูดอย่างอำมหิตขึ้น “เธอนังผู้หญิงสารเลว พอเห็นผู้ชายเข้าหน่อยก็อดไม่ไหวเหรอ ไง? แม้แต่น้องชายของผม เธอก็ยังยั่ว เธอจริงๆมันอยากแค่ ไหน?”
จันวิภากัดฟันแน่น โกรธจนต้องหันหน้าหนี”คุณคิดว่า ฉันกับคุณเหมือนกันเหรอ?” จันวิภาหัวเราะอย่างเย็นชา
สุมิตรถอดหายใจหนึ่งที ใช้แรงกายกดร่างกายที่สั่นสะท้านของจันวิภา ทำให้เธอยากที่จะขยับหนี
จันวิภาร้องเสียงดังออกมาหนึ่งที่ ไม่รู้ว่าร่างกายที่อ่อน บางนั้นเอาแรงฮิตมาจากที่ไหน ผลักสุมิตรออกไปทันที
เธอตะโกนอย่างโมโห: “ฉันจะบอกให้นะว่าฉันกับเวธัส แค่คุยกันเฉยๆแค่นั้น”
สุมิตรคิดไม่ถึงว่าจันวิภาจะกล้าผลักเขาออก นัยน์ตาตอน นี้ทั้งเย็นชาและกระหายเลือดยิ่งกว่าเดิม มือของเขาข้างหนึ่ง เข้าไปที่ไหล่ของจันวิภา พูดอย่างโมโหขึ้น: “เธอนึกให้ดีเธออยู่ ในฐานะอะไร กล้าแข็งขึ้นกับผม อยากตาย..”
สุมิตรยังไม่ทันพูดจบ จันวิภาก็หันหน้าไปกัดเข้ามือที่จับ อยู่บนไหล่ของเธอ กัดอย่างรุนแรงสุดๆ
จันวิภาได้แต่รู้สึกงงงวยเล็กน้อยอยู่ มือเรียวงามและ
เย็นยะเยือกของสุมิตรถูกฟันของเธอทำร้าย เลือดอุ่นๆไหนออก มาจากซอกฟัน
สุมิตรไหนเลยจะเจอเรื่องแบบนี้ แล้วยังเป็นผู้หญิงสารเลว คนหนึ่งอีก เวลานี้เองเขาก็ระเบิดความโกรธออกมา ผลักจัน วิภาอย่างรุนแรงเข้าที่กำแพง
จันวิภารับรู้แผ่นหลังเตรียมรับแรงกระแทก ร่างกายของ เธอก็ตกใจ เกือบจะเป็นลมไป และหลังจากนั้นเธอก็ลืมตา ขึ้น กลับพบว่ามือแสนใหญ่ของสุมิตรได้เข้าไปจับหน้าของเธอ แล้ว
“นางสาสอนอยากตาย โชว์ใหม!” นาเสียงของสุมตรทงเป็น
ข้าและโหดเหี้ยม
จันวิภารู้สึกได้ว่าแรงมือที่จับของสุมิตรนั้นแรงมาก เธอ หลับตาแล้วถอยหลังไป ด้านหลังของเธอมีเพียงกำแพงแสน เย็นยะเยือกอยู่
ขณะที่จันวิภากำลังกระวนกระวายอยู่ มือของสุมิตรกลับ อยู่ที่กลางอากาศ สั่น ขยับไม่ได้อยู่พักใหญ่
เธอเปิดตามอง ไม่รู้ว่าเวธัสมาอยู่ข้างๆเธอเมื่อใหร่ แล้วก็ จับข้อมือของสุมิตรไป ทั้งสองคนดูเหมือนแรงจะเท่ากัน ข้อมื้อ ก็สั่นสะท้านพร้อมกัน
เวธัสอดทันจนหน้าแดงตาแดง แต่ยังไม่วายที่จะฝืนยิ้ม “พี่ มีเรื่องกันทำไม่พูดดีๆ ไม่เห็นต้องลงไม้ลงมือเลย”
สุมิตรเห็นว่ากดแรงเวธัสไม่ไป ก็ยอมรามือ พูดกับเวธัส อย่างเย็นชาขึ้น: “เรื่องของครอบครัว นายไม่ต้องยุ่ง
พอเวธัสฟังคำพูดของสุมิตร รอยยิ้มที่สุดแสนจะเยาว์วัยก็ เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที: “พี่ พูดอะไร ผมไม่ใช่คนในครอบครัว เหรอ?”
สุมิตรขมวดคิ้วแน่น พูดกับเวธัส: “นี่เป็นเรื่องของสามี ภรรยา เวธัสยังไม่เข้าใจดังนั้น นายไม่ต้องมายุ่ง นายรู้ไหมว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เธอ…
“ผมรู้” เวกัสกระพริบตา นัยน์เป็นประกายสุดแสนจะ
บริสุทธิ์
เวธัสมองอย่างเยินชำไปที่สุมัตรและจันวิภาหนึ่งที่
เวธัสพูด: “ไม่สนใจหรอกว่าเธอจะเป็นใคร และก็ว่าแม่ ของเธอจะเป็นใคร ตอนนี้เธอคือพี่สะใภ้ เมื่อก่อนเคยทำอะไร ผิดพลาด ตอนนี้นิสัยขี้สงสัยระแวงของพี่ยังไม่เคยเปลี่ยนเลย สักนิด”
เวสมองสุมิตรไม่พูดอะไร ก็ตะโกนเรียกสาวใช้เข้ามาทำ
แผลให้สุมิตร จันวิภาก็ถือโอกาสนี้หนีไป
“สุมิตรไอ้คนชั่ว ฉันต้องแก้แค้นให้ได้สักวัน!”
จันวิภายังคงไม่หายโกรธ
เช้าวันต่อมา จันวิภาสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย
ลืมตาขึ้นมา ใบหน้ายิ้มแย้มก็มีใบหน้ายิ้มแย้มมองอยู่ ใกล้ๆ แล้วก็ค่อยๆคลายมือที่บีบจมูกของเธออก
จันวิภามองชัดๆดูเรียบร้อยนั้นคือเวธัสแล้ว ก็ตกใจรีบดึง ผ้าห่มขึ้นมา เธอสงสัยพูดขึ้น: “นายมาที่นี้ได้ไง?”
เวธัสหรี่ตายิ้มแล้วยิ้มอีก: “เรียกเธอตั้งนานไม่ยอมตื่น เลยต้องบีบจมูก ฮิฮิ”
เวธัสกล้าที่จะนั่งอยู่บนเตียงของจันวิภา: “รีบๆตื่นเถอะ วัน นี้เป็นวันเปิดภาคเรียน”
จันวิภามองค้างที่เขาหนึ่งที: “นายไม่ออกไปแล้วฉันจะลุก ออกจากเตียงได้ไง?”
เวธัสก็เอามือกุมขมับ แล้วก็ออกไปนอกห้องทันที พอถึง
หน้าประตูเขาจู่ๆก็หยุดเดิน ใช้มือจับที่ขมับซองตัวเอง ถามจัน วิภาที่อยู่ข้างหลังอย่างสงสัย: “แต่ว่า? ทำไมเธอไม่นอนห้อง เตียวกับพี่ชายฉันล่ะ?”
ทำไมถึงไม่นอนกับสุมิตร…
จันวิภางง เธอกับสุมิตรไม่ใช้คู่สามีภรรยากันแบบปกติ เขาแต่งกับเธอเพราะอยากจะทำลายเธอ แต่….จันวิภาไม่อยาก จะให้เวธัสรับรู้
เวลาผ่านไป มองที่แผ่นหลังของเวธัส เธอก็พูดอย่าง ตะกุกตะกัก: “ฉัน ฉันชอบละเมอพูด กลัวจะรบกวนการนอน ของเขา ดังนั้นพวกเราเลย…”
“อ่อ อย่างงี้นี่เอง!” เวธัสยิ้มที่มุมปาก อารมณ์ดีเหมือนกับ เข้าใจอะไรบางอย่างแล้วไม่หันหน้ากลับมาเดินออกไป ในตา ปรากฏความเจ้าเล่ห์แฝงอยู่