พิชิตใจนายปีศาจ - ตอนที่ 68
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 68 หยกได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่จันวิภาเดินทางมาถึงวิทยาลัย ก็ได้พบ
กับสิ่งผิดปกติ
นักเรียนส่วนใหญ่มองเธอราวกับภัยพิบัติ ทั่วทุกสารทิศ
ต่างหลีกให้พวกเขา
และตอนที่เริ่มเรียน บริเวณรอบตัวเธอ นอกจากเวธัสแล้ว
ก็ไม่มีคนอยู่เลยสักตัว
นี่ทำให้จันวิภาสงสัยเป็นอย่างมาก
เมื่อหมดคาบเรียน จันวิภาถึงจะได้รู้ความจริง
เธอได้ยินผู้คนรอบข้างกระซิบกระซาบพูดคุยกันว่าตระกูล ของจิลลาได้ล้มละลายไปเพียงแค่ชั่วข้ามคืน
นักเรียนที่อยู่ในกิจกรรมต่างก็คิดว่าเป็นฝีมือของจันวิภา ไปโดยปริยาย และพวกเขาก็คาดไม่ถึงว่าจันวิภาจะโหดเหี้ย ใจดำถึงขนาดทำลายตระกูลภัชรภิรมย์จนหมดสิ้นทั้งตระกูล
“ผู้หญิงคนนี้ใจคอโหดเหี้ยมจริงๆ”
“ภรรยาของเจ้านายสุมิตรเป็นคนเลวทรามจริงๆ ต่อไปจะ ต้องพูดคุยให้น้อยลงแล้ว”
“แม้ว่าจิลลาจะทำเกินไปหน่อย แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่ให้ทั้ง ตระกูลที่อยู่ข้างหลังเธอได้รับความทุกข์ทรมาน”
เมื่อจันวิภาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็อตไม่ได้ที่จะ ตอนที่ 68 หยกได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
วันรุ่งขึ้น หลังจากที่จันวิภาเดินทางมาถึงวิทยาลัย ก็ได้พบ
กับสิ่งผิดปกติ
นักเรียนส่วนใหญ่มองเธอราวกับภัยพิบัติ ทั่วทุกสารทิศ
ต่างหลีกให้พวกเขา
และตอนที่เริ่มเรียน บริเวณรอบตัวเธอ นอกจากเวธัสแล้ว
ก็ไม่มีคนอยู่เลยสักตัว
นี่ทำให้จันวิภาสงสัยเป็นอย่างมาก
เมื่อหมดคาบเรียน จันวิภาถึงจะได้รู้ความจริง
เธอได้ยินผู้คนรอบข้างกระซิบกระซาบพูดคุยกันว่าตระกูล ของจิลลาได้ล้มละลายไปเพียงแค่ชั่วข้ามคืน
นักเรียนที่อยู่ในกิจกรรมต่างก็คิดว่าเป็นฝีมือของจันวิภา ไปโดยปริยาย และพวกเขาก็คาดไม่ถึงว่าจันวิภาจะโหดเหี้ย ใจดำถึงขนาดทำลายตระกูลภัชรภิรมย์จนหมดสิ้นทั้งตระกูล
“ผู้หญิงคนนี้ใจคอโหดเหี้ยมจริงๆ”
“ภรรยาของเจ้านายสุมิตรเป็นคนเลวทรามจริงๆ ต่อไปจะ ต้องพูดคุยให้น้อยลงแล้ว”
“แม้ว่าจิลลาจะทำเกินไปหน่อย แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่ให้ทั้ง ตระกูลที่อยู่ข้างหลังเธอได้รับความทุกข์ทรมาน”
เมื่อจันวิภาได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็อตไม่ได้ที่จะ ประหลาดใจ
สุมิตรคงไม่ได้ทำหรอกนะ?
ดังนั้นเธอจึงรีบตรงกลับบ้าน จันวิภาจึงจะหาสุมิตรเจอ แล้วพูดขึ้น “ฉันอยากจะถามอะไรกับนายหน่อย! ”
สุมิตรนั่งไปบนโซฟา เหลือบมองจันวิภา จุดบุหรี่หนึ่งมวย
“พวกเขาต่างก็พูดกันว่าฉันเป็นคนทำ แต่ฉันไม่มีปัญญา
“พูด”
ทำเรื่องนี้ได้เป็นนายหรอ?”
สุมิตรพ่นควันสีขาวออกมา ไม่ได้ตอบอะไร
“ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ”
อีกไม่นาน สุมิตรถึงจะตอบ
จันวิภาเม้มปากแล้วพูด “พอแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน แล้วเมื่อคืนที่นายพูดถึงพ่อฉัน นายรู้สถานการณ์ปัจจุบันของ เขางั้นหรอ?”
เห็นได้ชัดว่าสุมิตรจะคาดไม่ถึงที่จันวิภาจะเปลี่ยนหัวข้อ การสนทนาไปทันที
เขาขมวดคิ้วแล้วพูด “เธอในตอนนี้เป็นคนของตระกูล วิบูลย์ธนภัณฑ์”
“แต่ไม่ว่าจะอย่างไงฉันก็เป็นลูกสาวของเขา แค่รู้ สถานการณ์ปัจจุบันของเขามันคงไม่เกินไปหรอกมั้ง” ประหลาดใจ
สุมิตรคงไม่ได้ทำหรอกนะ?
ดังนั้นเธอจึงรีบตรงกลับบ้าน จันวิภาจึงจะหาสุมิตรเจอ แล้วพูดขึ้น “ฉันอยากจะถามอะไรกับนายหน่อย! ”
สุมิตรนั่งไปบนโซฟา เหลือบมองจันวิภา จุดบุหรี่หนึ่งมวย
“พวกเขาต่างก็พูดกันว่าฉันเป็นคนทำ แต่ฉันไม่มีปัญญา
“พูด”
ทำเรื่องนี้ได้เป็นนายหรอ?”
สุมิตรพ่นควันสีขาวออกมา ไม่ได้ตอบอะไร
“ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ”
อีกไม่นาน สุมิตรถึงจะตอบ
จันวิภาเม้มปากแล้วพูด “พอแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน แล้วเมื่อคืนที่นายพูดถึงพ่อฉัน นายรู้สถานการณ์ปัจจุบันของ เขางั้นหรอ?”
เห็นได้ชัดว่าสุมิตรจะคาดไม่ถึงที่จันวิภาจะเปลี่ยนหัวข้อ การสนทนาไปทันที
เขาขมวดคิ้วแล้วพูด “เธอในตอนนี้เป็นคนของตระกูล วิบูลย์ธนภัณฑ์”
“แต่ไม่ว่าจะอย่างไงฉันก็เป็นลูกสาวของเขา แค่รู้ สถานการณ์ปัจจุบันของเขามันคงไม่เกินไปหรอกมั้ง” “ถ้างั้นเธอก็มาหาคนผิดแล้ว เธอควรจะไปถามแม่เลี้ยง
ของเธอ” สุมิตรสูบบุหรี่ออกไปเฮือกใหญ่ ท่ำให้จันวิภาสำลัก เสียจนไอออกมา
“เธอไม่ใช่แม่ฉัน ฉันไม่เคยยอมรับ แต่นายเป็นสามีของ ฉัน นายบอกฉันไม่ได้หรอ? ทำไมจะต้องปิดบังฉันด้วย?”จัน วิภาไม่ค่อยพอใจ
สุมิตรเขี่ยกันบุหรี่ทิ้ง แล้วลุกขึ้นยืน
“เรื่องของพ่อเธอผมไม่รู้ แต่ถึงรู้ผมก็ไม่บอกเธอหรอก คำ นี้นี้เธอพอใจหรือยัง?” น้ำเสียงของสุมิตรกลับมาเย็นยะเยือก
อีกครั้ง
จันวิภา กัดฟัน ไม่พูดอะไร
สุมิตรแกมันสารเลว!
ตอนนี้ ฉวยโอกาสจากการที่จันวิภาพูดคุยกับสุมิตรอยู่ใน ห้องนั่งเล่น เวธัสก็เดินเข้าไปที่ห้องสมุดของสุมิตร
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สุมิตรนั่งอยู่เป็นประจำแล้วหมุนมัน อย่างเบื่อหน่าย ตอนที่พลิกเอกสารบนโต๊ะอยู่นั้น ส่วนใหญ่เป็น เอกสารของบริษัท เวธัสจึงมีความรู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก
แม้แต่บนชั้นวางหนังสือของสุมิตร ทั้งหมดต่างก็เป็น หนังสือเกี่ยวกับการดูแลบริษัท ไม่มีหนังสือที่เกี่ยวกับงาน วรรณกรรมและงานศิลป์เลยแม้แต่น้อย ในจุดนี้จึงทำให้เวธัส รู้สึกว่าห้องสมุดนี้มีดีแค่ชื่อจริงๆ เหมือนกับเป็นสำนักงานเฉยๆ “ถ้างั้นเธอก็มาหาคนผิดแล้ว เธอควรจะไปถามแม่เลี้ยง
ของเธอ” สุมิตรสูบบุหรี่ออกไปเฮือกใหญ่ ท่ำให้จันวิภาสำลัก เสียจนไอออกมา
“เธอไม่ใช่แม่ฉัน ฉันไม่เคยยอมรับ แต่นายเป็นสามีของ ฉัน นายบอกฉันไม่ได้หรอ? ทำไมจะต้องปิดบังฉันด้วย?”จัน วิภาไม่ค่อยพอใจ
สุมิตรเขี่ยกันบุหรี่ทิ้ง แล้วลุกขึ้นยืน
“เรื่องของพ่อเธอผมไม่รู้ แต่ถึงรู้ผมก็ไม่บอกเธอหรอก คำ นี้นี้เธอพอใจหรือยัง?” น้ำเสียงของสุมิตรกลับมาเย็นยะเยือก
อีกครั้ง
จันวิภา กัดฟัน ไม่พูดอะไร
สุมิตรแกมันสารเลว!
ตอนนี้ ฉวยโอกาสจากการที่จันวิภาพูดคุยกับสุมิตรอยู่ใน ห้องนั่งเล่น เวธัสก็เดินเข้าไปที่ห้องสมุดของสุมิตร
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สุมิตรนั่งอยู่เป็นประจำแล้วหมุนมัน อย่างเบื่อหน่าย ตอนที่พลิกเอกสารบนโต๊ะอยู่นั้น ส่วนใหญ่เป็น เอกสารของบริษัท เวธัสจึงมีความรู้สึกเบื่อหน่ายเป็นอย่างมาก
แม้แต่บนชั้นวางหนังสือของสุมิตร ทั้งหมดต่างก็เป็น หนังสือเกี่ยวกับการดูแลบริษัท ไม่มีหนังสือที่เกี่ยวกับงาน วรรณกรรมและงานศิลป์เลยแม้แต่น้อย ในจุดนี้จึงทำให้เวธัส รู้สึกว่าห้องสมุดนี้มีดีแค่ชื่อจริงๆ เหมือนกับเป็นสำนักงานเฉยๆ เวธัสเปิดตู้หนังสือที่อยู่ข้างๆ โต๊ะออกมา ที่นั่นเขาคาดไม่ ถึงเลยว่าจะได้พบกับสิ่งมีค่าเพียงอย่างเดียวที่อยู่ในห้องสมุด แห่งนี้
มันเป็นหยกที่ดูแปลกตา แผ่ซ่านออกมาถึงบรรยากาศที่
สวยงามและโบราณ เมื่อคิดดูแล้วก็คงจะมีมูลค่าอยู่ไม่น้อย
แต่สิ่งที่เวธัสมองนั้นกลับไม่ใช่ราคา เขาเพียงแค่รู้สึกว่า หยกชิ้นนี้มันสวยงามเป็นอย่างมาก เลยหยิบเอาสวมใส่คอของ ตนเองโดยไม่รู้ตัว
หยกชิ้นนั้นได้นอบชิดติดกับหน้าอกของเขา ทำให้เขารู้สึก
สบายเป็นอย่างมาก
“ไม่นึกเลยว่าพี่จะมีของแบบนี้อยู่ด้วย! ” เวธัสหยิบหยก ชิ้นนั้นขึ้นมาเชยชม แล้วพูดกับตนเอง
ตอนที่กำลังคิดเช่นนี้อยู่นั้น ทันใดนั้นก็ได้ปรากฏเสียง ฝีเท้าขึ้นมา
เวธัสสะดุ้งโหยง เกือบจะกระโดดออกจากเก้าอี้แล้ววิ่ง ออกไป
แต่ทว่าตอนที่พึ่งเปิดประตูเข้ามา เวธัสก็ได้เห็นสีหน้าที่ เย็นชาและเคร่งขรึมของสุมิตร
“ผมไม่ได้บอกนายแล้วหรือไงว่าอย่าเข้ามาในห้องสมุด ของผมโดยที่ผมยังไม่อนุญาต?” สุมิตรขมวดคิ้วทั้งสองขึ้น
สายตาเย็นเฉียบ เวธัสเปิดตู้หนังสือที่อยู่ข้างๆ โต๊ะออกมา ที่นั่นเขาคาดไม่ ถึงเลยว่าจะได้พบกับสิ่งมีค่าเพียงอย่างเดียวที่อยู่ในห้องสมุด แห่งนี้
มันเป็นหยกที่ดูแปลกตา แผ่ซ่านออกมาถึงบรรยากาศที่
สวยงามและโบราณ เมื่อคิดดูแล้วก็คงจะมีมูลค่าอยู่ไม่น้อย
แต่สิ่งที่เวธัสมองนั้นกลับไม่ใช่ราคา เขาเพียงแค่รู้สึกว่า หยกชิ้นนี้มันสวยงามเป็นอย่างมาก เลยหยิบเอาสวมใส่คอของ ตนเองโดยไม่รู้ตัว
หยกชิ้นนั้นได้นอบชิดติดกับหน้าอกของเขา ทำให้เขารู้สึก
สบายเป็นอย่างมาก
“ไม่นึกเลยว่าพี่จะมีของแบบนี้อยู่ด้วย! ” เวธัสหยิบหยก ชิ้นนั้นขึ้นมาเชยชม แล้วพูดกับตนเอง
ตอนที่กำลังคิดเช่นนี้อยู่นั้น ทันใดนั้นก็ได้ปรากฏเสียง ฝีเท้าขึ้นมา
เวธัสสะดุ้งโหยง เกือบจะกระโดดออกจากเก้าอี้แล้ววิ่ง ออกไป
แต่ทว่าตอนที่พึ่งเปิดประตูเข้ามา เวธัสก็ได้เห็นสีหน้าที่ เย็นชาและเคร่งขรึมของสุมิตร
“ผมไม่ได้บอกนายแล้วหรือไงว่าอย่าเข้ามาในห้องสมุด ของผมโดยที่ผมยังไม่อนุญาต?” สุมิตรขมวดคิ้วทั้งสองขึ้น
สายตาเย็นเฉียบ เวธัสยิ้มขึ้นมาอย่างอืดอัด พยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ฉันเบื่อ น่ะ ก็เลยเดินเล่นไปรอบๆ ทำไมพี่จะเครีดขนาดนั้น?”
สุมิตรไม่สนใจเขา แล้วโบกมือออกไป
เวธัสถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เดินออกไป ราวกับได้พระราชทานอภัยโทษ
ในขณะที่เขากำลังเดินลงบันได เขาก็ได้เห็นสายตาของ จันวิภากำลังจ้องมองโทรทัศน์อย่างขะมักเขม้น และไม่สนใจ เขา
“เป็นอะไรไป?” เวธัสรู้สึกแปลกประหลาด จ้องมองที่หน้า
จอโทรทัศน์
ใบหน้าที่แสนจะคุ้นเคยได้ออกอากาศอยู่ในข่าวสด เป็น ประธานสหภาพนักศึกษา จิลลานั้นเอง เขาจ้องมองพาดหัวข่าว ที่อยู่ด้านล่างอีกครั้งหนึ่ง จึงตะลึงอยู่เล็กน้อย
“ธุรกิจของครอบครัวล้มละลาย ลูกสาวคนโตถูกสงสัยว่า ฆ่าตัวตาย” เวธัสอ่านหัวข้อข่าวออกมาทีละค่าๆ
“โฮ่ข่าวออกมาแล้ว มันต้องเป็นเรื่องจริงแน่ๆ แต่ว่าปก ติจิลลาก็เป็นคนที่หน้าด้านอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง คิดไม่ถึงเลยว่า จะฆ่าตัวตาย”
หลังจากที่จันวิภาตกตะลึง บนใบหน้าของเธอก็ยังแฝง ความรู้สึกที่เศร้าสลดเอาไว้
แม้ว่าจิลลากับเธอมีความขัดแย้งมากมาย ทุกครั้งต่างก็ เวธัสยิ้มขึ้นมาอย่างอืดอัด พยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ฉันเบื่อ น่ะ ก็เลยเดินเล่นไปรอบๆ ทำไมพี่จะเครีดขนาดนั้น?”
สุมิตรไม่สนใจเขา แล้วโบกมือออกไป
เวธัสถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เดินออกไป ราวกับได้พระราชทานอภัยโทษ
ในขณะที่เขากำลังเดินลงบันได เขาก็ได้เห็นสายตาของ จันวิภากำลังจ้องมองโทรทัศน์อย่างขะมักเขม้น และไม่สนใจ เขา
“เป็นอะไรไป?” เวธัสรู้สึกแปลกประหลาด จ้องมองที่หน้า
จอโทรทัศน์
ใบหน้าที่แสนจะคุ้นเคยได้ออกอากาศอยู่ในข่าวสด เป็น ประธานสหภาพนักศึกษา จิลลานั้นเอง เขาจ้องมองพาดหัวข่าว ที่อยู่ด้านล่างอีกครั้งหนึ่ง จึงตะลึงอยู่เล็กน้อย
“ธุรกิจของครอบครัวล้มละลาย ลูกสาวคนโตถูกสงสัยว่า ฆ่าตัวตาย” เวธัสอ่านหัวข้อข่าวออกมาทีละค่าๆ
“โฮ่ข่าวออกมาแล้ว มันต้องเป็นเรื่องจริงแน่ๆ แต่ว่าปก ติจิลลาก็เป็นคนที่หน้าด้านอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง คิดไม่ถึงเลยว่า จะฆ่าตัวตาย”
หลังจากที่จันวิภาตกตะลึง บนใบหน้าของเธอก็ยังแฝง ความรู้สึกที่เศร้าสลดเอาไว้
แม้ว่าจิลลากับเธอมีความขัดแย้งมากมาย ทุกครั้งต่างก็ แม้ว่าจิลลากับเธอมีความขัดแย้งมากมาย ทุกครั้งต่างก็ ทำให้จันวิภาอีกอัดใจเป็นอย่างมาก แต่มันก็เป็นความผิดที่ไม่ สมควรตาย คาดไม่ถึงเลยว่าจะฆ่าตัวตายลงเช่นนี้ นี่มันเกินไป จริงๆ
ณ ตอนนี้ภายในใจของจันวิภาหวังว่าการล้มละลายของจิ ลลาจะไม่ใช่การล้างแคนของสุมิตร ไม่งั้นไม่งั้นเธอจะรู้สึกผิด ในใจ ชีวิตที่ดีเลิศขนาดนี้ ก็หายไปเสียแล้ว สิ่งนี้ทำให้จัน วิภารู้สึกอึดอัดใจจริงๆ
” พี่สะใภ้ เธอนี่เป็นคนใจดีจริงๆ คนแบบนี้ เฮ้อ..แน่นอนว่าแม้จะผิดแต่ก็ไม่สมควรตาย ดูเหมือนว่าเธอ อ่อนแอเกินกว่าจะรับไหวนะ” เวธัสก็ใจอ่อนลงเช่นกัน
“ช่างเถอะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเรา” จันวิภาปิด โทรทัศน์ลงเพราะว่ามีข่าวที่รบกวนจิตใจของเธออยู่ หันหน้า กลับไปมองเวธัสที่ถอนหายใจออกมาเหมือนกัน
แต่เพียงไม่นานสายตาของจันวิภาก็เปลี่ยนไป เธอพบ ก้อนหยกหนึ่งชิ้นได้ปรากฏออกมาอยู่บนร่างกายของเวธัส
แต่นี่ยังไม่ใช่ส่วนสำคัญ ส่วนสำคัญคือเธอรู้สึกว่าหยก ก้อนนั้นช่างดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ราวกับหยกก้อนนั้นที่ ตนเองได้ทำหล่นหายเอาไว้เมื่อก่อน แต่ทว่าทำไมมันถึงได้มา ปรากฏอยู่ที่นี่พร้อมกับเวธัส
เวธัสสงเกตุได้ถึงความสงสัยที่อยู่ในแววตาของจันวิภา เขาพูดขึ้น “เป็นอะไรไป?” แม้ว่าจิลลากับเธอมีความขัดแย้งมากมาย ทุกครั้งต่างก็ ทำให้จันวิภาอีกอัดใจเป็นอย่างมาก แต่มันก็เป็นความผิดที่ไม่ สมควรตาย คาดไม่ถึงเลยว่าจะฆ่าตัวตายลงเช่นนี้ นี่มันเกินไป จริงๆ
ณ ตอนนี้ภายในใจของจันวิภาหวังว่าการล้มละลายของจิ ลลาจะไม่ใช่การล้างแคนของสุมิตร ไม่งั้นไม่งั้นเธอจะรู้สึกผิด ในใจ ชีวิตที่ดีเลิศขนาดนี้ ก็หายไปเสียแล้ว สิ่งนี้ทำให้จัน วิภารู้สึกอึดอัดใจจริงๆ
” พี่สะใภ้ เธอนี่เป็นคนใจดีจริงๆ คนแบบนี้ เฮ้อ..แน่นอนว่าแม้จะผิดแต่ก็ไม่สมควรตาย ดูเหมือนว่าเธอ อ่อนแอเกินกว่าจะรับไหวนะ” เวธัสก็ใจอ่อนลงเช่นกัน
“ช่างเถอะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเรา” จันวิภาปิด โทรทัศน์ลงเพราะว่ามีข่าวที่รบกวนจิตใจของเธออยู่ หันหน้า กลับไปมองเวธัสที่ถอนหายใจออกมาเหมือนกัน
แต่เพียงไม่นานสายตาของจันวิภาก็เปลี่ยนไป เธอพบ ก้อนหยกหนึ่งชิ้นได้ปรากฏออกมาอยู่บนร่างกายของเวธัส
แต่นี่ยังไม่ใช่ส่วนสำคัญ ส่วนสำคัญคือเธอรู้สึกว่าหยก ก้อนนั้นช่างดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ราวกับหยกก้อนนั้นที่ ตนเองได้ทำหล่นหายเอาไว้เมื่อก่อน แต่ทว่าทำไมมันถึงได้มา ปรากฏอยู่ที่นี่พร้อมกับเวธัส
เวธัสสงเกตุได้ถึงความสงสัยที่อยู่ในแววตาของจันวิภา เขาพูดขึ้น “เป็นอะไรไป?” หยก นี่เป็นหยกของเธอ.. หยก นี่เป็นหยกของเธอ..