พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 113 ติดตะราง
บทที่ 113 ติดตะราง
เย่หรูเสว่ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นห่วง คนพวกนี้ดูแล้วล้วนเป็นเศรษฐีรุ่นที่2 แม้ตอนนี้พวกเขาจะถูกซัดจนหมอบ แต่พอพวกเขาลุกขึ้นได้ต้องเอาเรื่องเนี่ยเฟิงแน่
“พี่หกไม่ใช่อย่างนั้นนะ พวกเขาลงมือก่อนผมถึงได้ซัดเขาหมอบ ถ้าผมไม่โต้ตอบ ผมอาจจะถูกพวกเขาซัดตายแล้วก็ได้!”
นอกจากฟางซื่อเหาแล้ว คนอื่นๆ แค่ถูกซัดจนหมอบเท่านั้น สติสตังยังมีดีอยู่ พอพวกเขาได้ยินเนี่ยเฟิงพูดเช่นนี้ ก็ทำท่าอย่างกับเจอผี
พวกเขาลงมือก่อนจริงๆ แต่พวกเขาไม่คิดว่าตัวเองจะซัดคนเก่งอย่างนี้ให้ตายได้ พอนึกถึงเนี่ยเฟิงที่เมื่อครู่ซัดพวกเขาจนหมอบอย่างรวบรัด ลูกค้าเก่าสองสามคนนี้ก็ไม่กล้าออกลายอีก
เดิมทีเย่หรูเสว่กังวลใจมาก แต่พอได้ยินว่าพวกที่กองอยู่กับพื้นลงมือเล่นงานเนี่ยเฟิงก่อน เธอก็โกรธเป็นไฟขึ้นมาทันที จนอดยื่นขาออกมาเตะพวกเขาแรงๆ ไปคนละทีไม่ได้ พวกเขาถูกเย่หรูเสว่เตะจนร้องเสียงหลง
“เสี่ยวเฟิงนายไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าน คนพวกนี้ทำนายบาดเจ็บใช่ไหม?”
เย่หรูเสว่ตรวจสอบสภาพเนี่ยเฟิง ห่วงว่าเนี่ยเฟิงจะถูกคนพวกนั้นรังแกเอา เนี่ยเฟิงหัวเราะโบกไม้โบกมือ บอกเย่หรูเสว่ว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรเลย
“แต่ทำไมคนพวกนี้อยู่ๆ จะทำร้ายนาย? หรือฟางซื่อเหาเป็นคนสั่ง อีกอย่างนึกไม่ถึงว่านายฟางซื่อเหาจะถือปืนพกไว้ ปืนนี้เป็นของใครกัน?”
ในปืนพกใส่กระสุนได้ทั้งหมด 6 นัด ตอนนี้ไม่มีกระสุนสักลูก ถูกยิงออกไปหมดแล้ว
“ปืนพกนี่เป็นของฟางซื่อเหาเขา เมื่อกี๊ฟางซื่อเหาอับอายจนโกรธ คิดจะใช้ปืนพกยิงผม แต่ผมดวงแข็ง เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม เลยถูกผมแย่งปืนมา แล้วใช้ลูกกระสุนที่เหลือข่มขู่เขา นึกไม่ถึงว่าจะตกใจจนสลบไป”
เนี่ยเฟิงพูดแบบเลี่ยงๆ แต่เย่หรูเสว่ฟังอย่างอกสั่นขวัญแขวน นึกไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงจะเจอเรื่องเช่นนี้ในร้านอาหารเหอผิง
แม้ตอนนี้เนี่ยเฟิงจะไม่เป็นไร แต่เย่หรูเสว่ก็ยังใจหายอยู่
“นายฟางซื่อเหานี่ช่างกล้าจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะถือปืนโดยผิดกฎหมาย เดี๋ยวฉันจะจับเขากลับไป เอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุดแน่นอน”
“ถูกต้อง ต้องเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด”
เนี่ยเฟิงพูดพลางก็เอามือถือออกมาพลาง เห็นเนี่ยเฟิงเปิดคลิปวิดีโอขึ้น “พี่หก ดูนี่ นี่เป็นหลักฐานที่ผมรวบรวมได้ พวกเขาไม่เพียงถือปืนผิดกฎหมาย ยังค้าสัตว์ป่าเถื่อนด้วย”
เย่หรูเสว่แอบตกตะลึง เธอรับมือถือมาตรวจดู พอดูเสร็จ ก็กำหมัดแน่น โมโหสุดขีด
“ที่แท้พวกเขาสมคบกันทำเรื่องแบบนี้ งั้นก็ยิ่งปล่อยพวกเขาไปไม่ได้! ฉันจะแจ้งเพื่อนตำรวจมาจับกุมพวกเขาไปให้หมดเดี๋ยวนี้”
เย่หรูเสว่พูดจบ ก็เอามือถือมาโทรออก ไม่นานเสียงหวอรถตำรวจสองสามคันก็มาถึง นำตัวพวกที่หมอบอยู่ที่พื้นไป
เนื่องจากมีวิดีโอเป็นหลักฐาน บวกกับเนี่ยเฟิงอยู่ข้างกายเย่หรูเสว่ เรียกว่ามีพลังต้านทานจริงๆ คนอื่นๆ ตกใจจนตัวสั่นงันงก จนไม่กล้าแก้ตัว
พวกเขายอมรับความผิดที่ตัวเองกระทำอย่างโดยดี จนฟางซื่อเหาฟื้นขึ้นมาก็สายไปแล้ว เพราะคนอื่นให้การบันทึกปากคำแล้ว ต่อให้ฟางซื่อเหาไม่ยอมให้บันทึกปากคำก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
ฟางซื่อเหากับพวกลูกค้าเก่าของเขาถูกใส่กุญแจมือเข้าคุก
และข่าวนี้ก็ไปถึงหูฟางเทียนหลงอย่างรวดเร็ว พอฟางเทียนหลงได้ข่าวว่าลูกชายของตัวเองติดตะรางก็ตกใจจนหน้าซีด รีบร้อนมาหาลูกชายตัวเองที่ห้องขัง อยากจะประกันตัวเขาออกมา
แต่ถูกเย่หรูเสว่ปฏิเสธอย่างรุนแรง
“คุณฟาง ตอนนี้มีทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคล ลูกชายของคุณทำผิดข้อหาค้าของเถื่อน แล้วยังค้าสัตว์ป่ากับสัตว์สงวน ในนั้นมีทั้งงาช้างนอแรดจำนวนมากที่ลักลอบล่ามาจากแอฟริกา ตอนนี้เรายังไม่ยืนยันว่าขบวนการล่าลักลอบเกี่ยวข้องกับลูกชายคุณโดยตรงหรือเปล่า แต่พฤติกรรมของเขาร้ายแรงมาก จึงไม่สามารถให้ประกันตัวได้”
เย่หรูเสว่ตอบปฏิเสธ ฟางเทียนหลงร้อนใจลูบหน้าเกาคาง เขามีทายาทอยู่แค่คนเดียว ตอนนี้กลับต้องมาติดคุก มองดูฟางซื่อเหาที่ร้องไห้ฟูมฟายก็โมโหไม่น้อย
“พวกเธอจงใจกันล่ะสิ!”
ฟางเทียนหลงเพิ่งสูญเงินจำนวนมหาศาลไปไม่นาน บริษัทสองสามแห่งก็ถูกตรวจสอบติดกัน แล้วตอนนี้เขายังต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อเป็นสินบนให้กับธนาคารไป่ฮัว ให้ธนาคารไป่ฮัวทำบัญชีปลอมให้เขา ตอนนี้ฟางเทียนหลงใช้เงินเหมือนน้ำไหลเลย แต่นึกไม่ถึงว่าต้องมามองดูลูกชายตัวเองติดคุก
เขามีลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียว แม้มีหลายต่อหลายครั้งที่เขาเบื่อหน่ายฟางซื่อเหา แต่อย่างไรฟางซื่อเหาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ต่อให้เขาเบื่อหน่ายก็ไม่สามารถทอดทิ้งไม่ใส่ใจได้
“พ่อต้องช่วยผมออกไปนะ ที่นี่มันไม่ใช่ที่ที่คนจะอยู่ ถ้าอยู่ต่อไปผมต้องบ้าตายแน่!”
ฟางซื่อเหาร้องไห้จนน้ำมูกน้ำตาไหลพราก ดูออกเลยว่าน่าสงสารมาก แต่ตอนนี้ต่อให้ฟางเทียนหลงจ่ายเงินมากแค่ไหน ทางตำรวจก็ไม่ยอมให้เขาประกันตัว ได้แต่กลัดกลุ้มเท่านั้น
“แกอยู่ที่นี่ไปชั่วคราวก่อน ให้พ่อกลับไปคิดหาทางดู”
“พ่อ ทั้งหมดนี้เนี่ยเฟิงเป็นคนทำ เขาจงใจถ่ายวิดีโอไว้เพื่อจับจุดอ่อนของผม ผมไม่รู้จริงๆ ว่าร้านอาหารเหอผิงจะเกี่ยวข้องกับเขา ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรก ผมก็ไม่ไปคุยธุรกิจกับพวกลูกค้าหรอก”
ฟางซื่อเหาผลักความรับผิดชอบทั้งหมดไปที่เนี่ยเฟิง ไม่คิดว่าตัวเองเกี่ยวข้องอะไรกับการค้าสัตว์ป่าเถื่อน
ในสายตาของฟางเทียนเหา สัตว์ป่าพวกนั้นเป็นแค่สัตว์เดรัจฉานที่เดินไปมาเท่านั้น โง่เขลาไม่มีความคิด ตายในปืนของนักล่า อุทิศขนสัตว์กับเลือดเนื้อ ทำเงินมากมายให้ฟางซื่อเหา นี่แหละคือหน้าที่ของพวกสัตว์ป่า
“ไอ้หมอนั่น หมอนั่นมันเป็นตัวหายนะ ในทะเลตอนนั้นทำไมไม่ฆ่าไอ้เด็กเวรนี่ทิ้งนะ!”
ฟางเทียนหลงกัดฟันกรอดๆ ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ กำหมดแน่น นึกถึงพวกลูกน้องที่ให้ส่งมา ป่านนี้ทำไมยังไม่มากัน!
“พ่อ พ่อคิดหาทางทีเถอะ ผมไม่อยากติดคุก ผมรู้ว่าการปิดบังพ่อใช้อาหารทะเลแอนตาร์กติกาค้าสัตว์ป่าเถื่อนเป็นเรื่องไม่ดี แต่ผมแค่อยากหาเงินให้มากขึ้นเท่านั้นเอง”
ความจริงฟางเทียนหลงไม่คิดว่าลูกชายตัวเองทำผิดตรงไหนเลย อีกทั้งยังแสนชื่นชมด้วยซ้ำ รู้สึกว่าฟางซื่อเหาโตขึ้นแล้ว รู้จักฉวยประโยชน์มาทำเงิน นี่แหละคือนิสัยนักธุรกิจ
“ลูกอยู่ที่นี่ไปก่อน อีกไม่กี่วันพ่อจะหาทางเอาลูกออกมา พวกเขาขังลูกไม่ได้หรอก เบื้องหลังเรายังมีคนหนุนอยู่!”
เรื่องราวมาจนถึงบัดนี้ ฟางซื่อเหาจะพูดอะไรได้ เขาได้แต่พยักหน้า ได้แต่รอให้พ่อมาช่วยเขาออกไป
“ฉันรู้ว่าเบื้องหลังนายมีคนหนุนอยู่ ฉันถึงได้แยกสลายของล้ำค่าที่นายหวงแหนไปทีละขั้น ให้นายเผยธาตุแท้”
เนี่ยเฟิงที่อยู่นอกสถานีตำรวจ ดึงหูฟังออก เมื่อครู่เขาใช้เครื่องดักฟังแอบฟังฟางซื่อเหาพ่อลูกสองคนคุยกัน
นึกถึงความไร้เดียงสาของพวกเขาพ่อลูกขึ้นมาทีไร ก็อดขำออกมาไม่ได้