พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 27 หน้าแตกล่ะสิ
บทที่ 27 หน้าแตกล่ะสิ
เหมือนมีคนยอมรับไม่ได้จนโมโหนะเนี้ย เมื่อสักครู่ไม่รู้ใครเป็นคนพูดว่าพวกเราไม่มีทางเป็นสมาชิกVIPขั้นสูงสุดได้หรอก ตอนนี้เป็นไง หลักฐานก็ชัดเจนแล้ว ยังมีอะไรจะพูดอีก กระทำผิดต่อสมาชิกVIPขั้นสูงสุด ผู้จัดการซุน คุณไม่คิดจะอธิบายหน่อยหรอ
ผู้จัดการซุนกลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก เมื่อสักครู่เขาเพิ่งตัดชื่อชิวมู่เฉิงออกจากรายชื่อสมาชิก ทำไมตอนนี้สภาพสมาชิกของเธอถึงได้เลื่อนขั้นล่ะ
หลังจากที่เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการ มีสมาชิกVIPขั้นสูงสุดกี่คนเขารู้อยู่แก่ใจ แต่ละคนหน้าตายังไงเขาก็รู้หมด ขนาดยอดใช้จ่ายเขายังรู้เลย ไม่งั้นเขาไม่มีทางชิงตำแหน่งนี้มาได้หรอก
เพราะว่าตอนที่เขายังเป็นหัวหน้างานอยู่ก็มีความทะเยอทะยานที่อยากเป็นผู้จัดการแล้ว
นี่โผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่
“ก็ว่าทำไมคุณถึงมั่นใจได้ขนาดนี้ ดูท่าแล้วคุณคงคิดไว้แต่แรกแล้วใช่ไหมว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น คุณมาแฮกคอมเครื่องนี้แล้วเปลี่ยนข้อมูลไปใช่ไหม ถ้าหล่อนใช้จ่ายไปร้อยล้าน ฉันจะไม่รู้ได้อย่างไร”
พอผู้จัดการซุนตั้งสติของตัวเองได้ ก็พูดอย่างโมโหว่า
“นั่นนะสิ คนจนอย่างพวกเธอจะมียอดใช้จ่ายสูงขนาดนี้ได้อย่างไร พวกเธอจงใจใช่ไหม พี่ใหญ่ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณจะตกต่ำขนาดนี้ แค่พนันกับฉัน ยังน่ารังเกียจได้ขนาดนี้”
“หุบปากเหม็นๆของคุณเดี๋ยวนี้ คุณว่าใครน่ารังเกียจ”
ตาที่เนี่ยเฟิงหรี่อยู่นั้นได้ส่งสายตาที่อันตรายออกมา เปรียบเสมือนจะถลกหนังเลาะกระดูกของชิวซือมี่ที่ยืนอยู่ต่อหน้า
ชิวซือมี่ตกใจใหญ่เพราะสายตาของเนี่ยเฟิง จึงตัวสั่นและถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แต่วินาทีต่อมาเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่า เธอจะถอยทำไม เธอไม่ได้กลัวเนี่ยเฟิงสักหน่อย
“มองอะไร ฉันพูดผิดตรงไหน พวกเธอใช้วิธีสกปรกแบบนี้ถึงได้ชนะการพนันครั้งนี้ มันไม่น่ารังเกียจตรงไหน ตอนนี้ถูกฉันเปิดเผยออกมาเลยโมโหล่ะสิ”
ชิวซือมี่ขำอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “รออะไร ยังไม่คุกเข่ายอมแพ้กับฉันอีกหรือ”
ถึงแม้ชิวมู่เฉิงไม่รู้ว่าทำไมชื่อของเธอถึงอยู่บนรายชื่อนั้น แต่ชิวมู่เฉิงก็รู้อย่างชัดเจนว่า ยอดใช้จ่ายของตัวเองไม่ถึงร้อยล้านแน่นอน เธอหันไปมองเนี่ยเฟิงด้วยความสงสัย เหมือนอยากจะให้เนี่ยเฟิงอธิบายให้เธอหน่อย
“งั้นคุณก็ลองอธิบายมาสิ ว่าทำไมชื่อของพี่ผมถึงได้อยู่บนรายชื่อVIPขั้นสูงสุดได้ ถ้าผมแฮกเข้าไปในระบบของพวกคุณแล้วเปลี่ยนข้อมูลไป งั้นพวกคุณก็ต้องเปลี่ยนกลับมาได้สิ ใช่แล้ว ตำแหน่งผู้จัดการน่าจะไม่สามารถตัดชื่อVIPขั้นสูงสุดได้สินะ”
“ผู้จัดการซุนคุณรออะไรอีก ไปเชิญผู้จัดการร้านออกมาสิ ให้เขาได้หุบปากสักที”
ความอดทนของชิวซือมี่จะไม่เหลือแล้ว เธอรอไม่ไหว อยากจะเห็นสองคนนี้คลานออกไปตอนนี้เลย หน้าตาของเขาสองคนต้องตลกมากแน่ๆเลย
ตอนนี้นี่เอง บนใบหน้าของเนี่ยเฟิงปรากฏรอยยิ้มที่แทบจะมองไม่เห็นขึ้นมา สิ่งที่เขาต้องการก็คือให้พวกเขาเชิญผู้จัดการร้านออกมา เขาอยากเห็นหน้าตาอับอายของคนกลุ่มนี้เหลือเกิน
พอผู้จัดการซุนได้ยินชิวซือมี่กล่าวแบบนี้ ก็รีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาผู้จัดการร้านและรายงานสถานการณ์ของที่นี่ไป หลังจากโทรเสร็จ ผู้จัดการซุนก็มีท่าทีเย่อหยิ่งขึ้นมาทันที “พวกคุณมาแฮกแล้วเปลี่ยนข้อมูลแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ ผมพูดได้เลยว่า หลังจากนี้พวกคุณอย่าคิดที่จะก้าวเข้ามาในร้านนี้อีก ทำตัวฉลาดหน่อย รีบออกไปตอนนี้เถอะ อย่ารอจนขายขี้หน้าหมดล่ะ”
“อย่าเย่อหยิ่งขนาดนั้น ผลของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรยังไม่รู้เลย”
ผู้จัดการร้านมาถึงอย่างรวดเร็ว เขามองไปทางเนี่ยเฟิงกำลังจะทำความเคารพ แต่เนี่ยเฟิงได้ทำท่าลับที่มือให้ผู้จัดการร้าน ผู้จัดการร้านจึงพยักหน้าอย่างระวัง หลังจากนั้นก็พูดอย่างจริงจังว่า “เรียกผมมาที่นี่เพราะเรื่องอะไร”
“ผู้จัดการร้าน สองคนนี้ทำน่าเกลียดเหลือเกิน พวกเขาได้เปลี่ยนข้อมูลสมาชิกVIPขั้นสูงสุดของเรา ที่เชิญท่านมาก็เพราะอยากรู้ว่าควรจัดการเรื่องนี้อย่างไร จะส่งพวกเขาไปสถานีตำรวจเลยไหม”
หลังจากผู้จัดการซุนเห็นผู้จัดการร้านมาถึง ก็รีบเข้าไปโค้งคำนับ ดูท่าทีนั้นสิ อย่างกับสุนัขรับใช้
หลังจากที่ผู้จัดการร้านได้มองไปที่จอคอม ก็ปล่อยหน้าลงทันที “ใครบอกให้พวกคุณทำกับสมาชิกVIPขั้นสูงสุดอย่างนี้ นี่คุณไปรวบรวมความกล้ามาจากไหน ถึงกล้าทำกับท่านผู้หญิงอย่างนี้”
พอผู้จัดการซุนได้ยินผู้จัดการร้านพูดแบบนี้ก็อึ้งเลยทันที “เป็นไปไม่ได้ พวกเขามีเงินเยอะขนาดนี้ที่ไหน เธอถูกตัดชื่อออกจากตระกูลชิวแล้ว ตอนนี้เป็นคนไม่มีอะไรเลย คนนี้ถึงเป็นทายาทแท้ของตระกูลชิว ผู้จัดการร้านท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
“ผมจะเข้าใจผิดได้ไง”
ผู้จัดการร้านยิ้มอย่างเย็นชาแล้วได้ยื่นบัตรกษัตริย์ขั้นสูงสุดออกไป “คุณเนี่ย นี่คือบัตรกษัตริย์ขั้นสูงสุดของคุณหญิงชิว ร้อยล้านที่เติมไปอยู่ในบัตรนี้แล้ว กรุณาเก็บไว้ให้ดี หลังจากนี้ถ้าพวกคุณใช้บัตรกษัตริย์ใช้จ่ายที่นี่ ก็จะถูกตัดยอดโดยอัตโนมัติและจะได้รับส่วนลด20%”
ชิวซือมี่ไม่อยากเชื่อว่าทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง เธอได้ใช้มือปิดปากและบนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ “เป็นไปไม่ได้ นี่จะเป็นไปได้ยังไง พวกเธอรวมหัวกันหลอกพวกเราใช่ไหม พวกเธอเป็นพวกเดียวกันแน่เลย”
“ทำไม คุณกับผู้จัดการซุนเป็นพวกเดียวกัน คุณก็คิดว่าคนทั้งโลกควรสมคบกันทำความผิดอย่างกับพวกคุณหรือไง จะตรวจสอบด้วยตัวเองไหม ว่ายอดในบัตรนี้มีเท่าไหร่ ข้อมูลสามารถปลอมขึ้นมาได้ แต่ยอดในบัตรจะไม่จริงได้อย่างไร”
จริงๆบัตรเติมเงินชนิดนี้ก็คือบัตรธนาคารที่เชื่อมโยงกับธนาคารนี่เอง สิทธิพิเศษที่พวกเขาจะได้รับทุกครั้งที่แสดงบัตรใบนี้ก็คือ จะได้รับส่วนลดและสามารถใช้รหัสสมาชิกบนบัตรจองล่วงหน้าหรือจองกะทันหันก็ได้
ชิวซือมี่กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก แล้วในขณะเดียวกันผู้จัดการซุนก็ตกใจไม่เบาเช่นกัน
“ผมตรวจสอบเอง”
ตอนแรกผู้จัดการซุนคิดว่าตัวเองสามารถเอาชนะพวกเขาสองคนได้แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกขัดกลางคัน เห็นเพียงเขาแย่งบัตรที่อยู่ในมือของเนี่ยเฟิง แล้วใช้เครื่องรูดบัตรของเคาน์เตอร์ตรวจสอบบัญชี ไม่อยากเชื่อเลยว่าในนั้นมีร้อยล้านจริงด้วย
“ไอ้คนไร้มารยาท”
ทันใดนั้นผู้จัดการร้านได้ยกมือขึ้นมาตบหน้าผู้จัดการซุนทีหนึ่ง แรงจนผู้จัดการซุนฟันเลื่อน เลือดก็ไหลออกมาจากปาก “ผมให้คุณมาเป็นผู้จัดการเพื่อให้คุณดูถูกคนอื่นหรือ การบริการลูกค้าของคุณเป็นแบบนี้หรือ แล้วคุณก็ทำตามคำพูดทุกอย่างของผู้หญิงคนนี้ หลังจากนี้ล่ะ ถ้าผู้หญิงคนนี้ให้คุณนำชื่อเสียงของร้านหมิงเตี่ยนมาเล่นตลก บอกให้คุณหนีภาษีหรือเลี่ยงภาษีล่ะ คุณก็จะเชื่อฟังหรือไง”
ผู้จัดการซุนรู้ว่าเรื่องนี้ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว จึงรีบคุกเข่าลงคำนับ “ขอโทษครับผู้จัดการร้าน ผมตาบอดไปเอง ผมผิดไปเอง ผมรู้ผิดแล้ว กรุณาให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ”
กว่าเขาจะเลื่อนขึ้นมาอยู่ตำแหน่งนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน ถ้าถูกลดตำแหน่งในตอนนี้ งั้นสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้ก็ไร้ประโยชน์หมดล่ะสิ
“ร้านหมิงเตี่ยนเราไม่ต้องการคนอย่างคุณ ถ้าวันนี้ให้โอกาสคุณอีกครั้ง วันหน้าคุณก็จะกระทำผิดอีกครั้งอยู่ดี แจ้งบัญชีให้ชำระเงินเดือนของผู้จัดการซุนเลย แล้วคุณก็ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
ผู้จัดการซุนหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมอย่างกับโดนฟ้าผ่า เขาพุ่งเข้าไปจับขากางเกงของผู้จัดการร้านไว้ แล้วพูดว่า“ท่านผู้จัดการร้าน ให้โอกาสผมอีกทีเถอะ ได้โปรด”
แต่ถูกผู้จัดการร้านเตะออกด้วยความเย็นชา “ไม่ต้องพูดมาก