พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - บทที่ 447 พบเจอตอนดึก
“แกดูตัวแกเองก่อนสิ แกค่อยดูคนอื่นเขา ถ้าหากไม่ใช่เสี่ยวเฟิงเป็นผู้ยิ่งใหญ่จิตใจกว้าง ตอนนี้คาดว่าแกลงนรกไปแล้ว!”
ท่านจิ่วพูดอยู่ เหลือบมองคุณชายสิบสองหนึ่งทีอย่างโหดร้าย ต่อจากนี้เขายิ้มเบิกบานพูดกับเนี่ยเฟิงว่า “เด็กคนนี้ตั้งแต่เด็กเติบโตอยู่ข้างกายผม ถูกผมตามใจจนเสียคนไปแล้ว ขอโทษจริงๆวันหลังผมจะสอนเขาให้ดีๆ พวกคุณก็กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ล้วนลำบากมาทั้งวันแล้ว”
เนี่ยเฟิงกับหยูจิงหงทั้งสองคนล้วนพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
ถึงแม้ว่าไม่มีรางวัลอื่นอีก แต่สำหรับกิกส์มากล่าวแล้ว เขาสามารถได้รับเงินมากขนาดนั้นก็มากพอแล้ว
พวกเขามาถึงที่พักที่ท่านจิ่วจัดวางไว้หลังจากทั้งสองคนเข้าไปแล้วตรวจดูสภาพการณ์ในห้องสักหน่อย แน่ใจว่าไม่มีกล้องวงจรปิด,เครื่องดักฟังต่างๆ พวกเขาปล่อยเครื่องตัดสัญญาณออกไปเลย
“แกว่าไอ้คนนี้ตกลงว่าคิดจะทำอะไรกันแน่ล่ะ? ในเมื่อพวกเราเอาชนะคนทั้งหลายได้แล้ว แต่ทำไมให้เพียงแค่ทองคำกล่องหนึ่งล่ะ?”
หยูจิงหงพูดอยู่ทั้งรังเกียจเป็นพิเศษจ้องมองกล่องทั้งสองนั้นที่วางอยู่ข้างเท้าของพวกเขาหนึ่งที ข้างในนี้ใส่ทองคำที่หนักหน่วงอยู่
สำหรับพวกเขาทั้งสองมากล่าว ทองคำนี้ไม่นับว่าเป็นอะไรเลยสักนิด เนี่ยเฟิงเห็นรูปร่างลักษณะแบบนี้ของหยูจิงหงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา
“ถ้าหากเป็นคนอื่น ทองคำนี้ย่อมจะยิ่งเยอะยิ่งดีแน่นอน แต่ว่ามาถึงตัวคุณที่นี่คุณกลับรังเกียจแล้ว”
“นี่ก็ไม่ใช่เบาะแสอะไรที่ดีด้วย พวกเรามาถึงที่นี่ก็ไม่ใช่เพื่อทองคำ”
หยูจิงหงค่อยๆถอนหายใจออกหนึ่งที ถ้าหากเอาทองคำสองกล่องไปแลกเปลี่ยนเบาะแสอย่างหนึ่งเธอก็จะยินยอม
“อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อกี้คนเยอะมากเกินไปแล้ว ดังนั้นเขาไม่เหมาะที่จะพูด หรือเขาอาจจะมีใจระแวดระวังกับพวกเราแล้ว”
“แต่นี่ก็ไม่ถูกนะ พวกเราทั้งสองคนล้วนปลอมตัวมาแล้ว ฉันรู้ว่าแกเคยมีข่าวมาก่อน แต่ว่าลักษณะท่าทีของแกแบบนี้ล้วนไม่เหมือนกับเนี่ยเฟิงสักนิดเลย……”
เพื่อที่จะไม่ถูกเปิดโปงตอนที่พวกเขาทั้งสองมา ได้แต่งหน้ามาก่อนแล้ว การแต่งแบบได้ผลพิเศษของพวกเขา ถึงแม้ว่าเพียงแค่ตัดแต่งเล็กน้อยสักหน่อย แต่ประสิทธิผลที่ปรากฏออกมาเป็นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
สำหรับหยูจิงหงมากล่าว ฝีมือของเธอเหนือชั้นมากๆ
“ถ้าไม่แกเข้ามา ให้ฉันดูให้ชัดเจนอีก จะเป็นการแต่งหน้าของฉันไม่เนียนใช่หรือไม่”
หยูจิงหงพูดอยู่กวักมือแล้วกวักมืออีกให้เนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงค่อยๆเดินเข้าไป “คุณดูสิ”
หยูจิงหงมองซ้ายมองขวาก็มองไม่ออกว่ามีพิรุธอะไร
“น่าจะไม่เปิดโปงแล้วจึงถูก ถ้าหากเปิดโปงแล้วล่ะก็ ไอ้คนนั้นจะปล่อยพวกเราออกไปอย่างง่ายดายขนาดนั้นเหรอ?”
“สิ่งที่คุณพูดนี้ก็ใช่เช่นกัน แต่ว่าคืนนี้พวกเรายังต้องพักอยู่ที่นี่ ในห้องนอนที่เขาจัดวางไว้ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ช่างมันเถอะ พวกเราอย่าพูดเรื่องเหล่านี้อีกเลย เปิดกล่องออกมาดูทองคำที่อยู่ในนี้ก่อนเถอะ”
หยูจิงหงจ้องมองเนี่ยเฟิงหยิบกล่องที่อยู่ข้างเท้าเปิดออกเลย อดไม่ไหวที่จะพูดแขวะไปประโยคหนึ่งว่า “ล้วนเป็นเวลาไหนแล้ว แกถึงขนาดยังมีอารมณ์ดูของนอกกายเหล่านี้”
“ไม่ว่ายังไงของนอกกายเหล่านี้ก็เป็นพวกเราชนะการแข่งขันมา เงินเหล่านี้ถึงเวลานั้นสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสด ซื้อรถให้กับพวกพี่ๆคนอื่นๆบ้าง หรือว่าอย่างอื่นๆล่ะ คุณว่าถูกหรือไม่?”
ในใจเนี่ยเฟิงดีใจมากๆ ในที่สุดก็มีเหตุผลเอาจริงเอาจังที่จะเปลี่ยนรถให้กับพวกพี่ๆแล้ว ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนรถจะเป็นร้อยล้านขึ้นไป เขาล้วนไม่สามารถกะพริบตาสักนิด ก็แค่บอกว่าเอาชนะการแข่งขันมา!
หยูจิงหงรู้แจ้งกระจ่างในฉับพลันพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก “สิ่งที่แกพูดก็ถูกอันนี้ฉันช่างยังไม่เคยพิจารณามาก่อนจริงๆ เพราะว่ารถที่ฉันขับอยู่ในกองทัพล้วนเป็นรถถัง”
เนี่ยเฟิง: ……
เป็นอย่างที่คิดไว้ พวกพี่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกันนิสัยก็จะตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิงจริงๆ เนี่ยเฟิงหัวเราะแห้งๆสองเสียง ต่อจากนี้เปิดกล่องออกเลย หยิบทองคำแท่งที่หนักหน่วงออกมา ชั่งน้ำหนักด้วยมือหนึ่งที
“มูลค่าของทองคำแท่งเหล่านี้น่าจะห้าสิบล้านมั้ง? คุณไม่ต้องพูดเลย แค่ดูก็โอ่อ่ายิ่งใหญ่แล้วนะ”
หยูจิงหงก็เปิดกล่องของตนเองนั้นออกเช่นกัน ทองคำแท่งที่อยู่ในกล่องของเธอเทียบกับในกล่องของเนี่ยเฟิงก็จะน้อยกว่าเยอะเลย
“ที่นี่มีของบางอย่าง”
อยู่ดีๆเนี่ยเฟิงพบเห็นว่าอยู่ใต้ทองคำนี้เหมือนทับอะไรบางอย่างอยู่ เขาเปิดผ้ารองที่อยู่ในนั้นออก พบเห็นว่าใต้กล่องนี้ถึงขนาดยังทับกระดาษโน้ตใบหนึ่งไว้
เนี่ยเฟิงจ้องมองหยูจิงหงหนึ่งที หยูจิงหงซุกเข้าไปทันที จ้องมองอยู่ตาปริบๆ
“กระดาษใบนี้เขียนอะไรอยู่เหรอ?”
“คืนนี้ตีหนึ่ง พบเจอกันที่ตึกใต้”
เนี่ยเฟิงลูบคางแล้วลูบคางอีก คิดว่าทิศทางของตึกตะวันตกนั้นอยู่ ก็จะเป็นตรงข้ามแนวทแยงกับน้ำตกภูเขาหินเทียมพอดี
“แกรอก่อน ฉันดูว่าของฉันนั้นมีหรือไม่”
หลังจากหยูจิงหงพูดจบก็เลยพลิกหาดูกล่องนั้นของเธอสักหน่อย เป็นอย่างที่คิดข้างใต้นี้ทับกระดาษโน้ตใบหนึ่งอยู่จริงๆ แต่เพียงแค่ที่เธอต้องไปคือตึกเหนือ
“กล่องของกิกส์นั้นไม่แน่ว่าก็อาจจะมีเช่นกัน แต่ว่าใต้หนึ่งเหนือหนึ่งนี้ เป็นคนละทางเลยนะ”
หยูจิงหงกังวลจ้องมองเนี่ยเฟิงหนึ่งที “เป็นเวลาเดียวกัน เห็นลักษณะท่าทีคืนนี้พวกเราต้องแยกกันดำเนินการแล้ว ตัวแกเองจงต้องระมัดระวังหน่อย”
“ประโยคนี้น่าจะเป็นผมพูดกับคุณจึงจะถูก ผมกังวลว่าพวกเขาจะไม่ดีต่อคุณ”
คิ้วของเนี่ยเฟิงค่อยๆขมวดกลายเป็นก้อนแล้ว
“แต่ว่าพวกเรายังไงก็ต้องไปล่ะ”
ถึงยังไงก็ดึกดื่นเที่ยงคืนเรียกพวกเขาไปต่างที่ ย่อมจะมีเรื่องอะไรที่จะปรึกษาหารืออย่างแน่นอนมั้ง?
อาจจะสามารถสืบหาข่าวที่เกี่ยวข้องกับยาห้ามใช้ก็ไม่แน่
“แกวางใจเถอะ ถ้าหากว่าฉันพบเจอกับเรื่องที่คาดไม่ถึง ก็จะติดต่อแกทันที อันนี้แกสวมใส่ให้ดีๆ”
หยูจิงหงพูดอยู่คว้าสิ่งของออกมาจากกระเป๋าของตนเองสองเม็ดเช่นดั่งเม็ดกระดุม เห็นเพียงเธอติดอยู่บนเสื้อของเนี่ยเฟิง “อันนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากเครื่องตัดสัญญาณ เพียงแค่ฉันกดลงไปมันก็จะสว่างขึ้นเหมือนกัน ถ้าแกกดเม็ดนั้นลงไปที่นี่ฉันก็จะสว่างขึ้นเช่นกัน พวกเราก็ใช้อันนี้มาแจ้งความปลอดภัยเถอะ!”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าแล้วพยักหน้าอีกติดกระดุมเม็ดนี้อยู่ตรงที่กดได้ง่าย
ทั้งสองคนรอจนดึกมาโดยตลอด ที่นี่เป็นห้องที่พวกเขาจัดวางไว้เป็นพิเศษ ดังนั้นนอกจากพวกเขาแล้ว ไม่มีใครสักคนจะสามารถใกล้ชิดได้ กิกส์ก็ไม่ได้มาหาพวกเขาเช่นกัน
เนี่ยเฟิงกลับไปหากิกส์มาก่อน แต่ว่าก็หาเขาไม่เจอเช่นกัน
“อาจจะถูกวางแผนไปที่อื่นแล้ว”
หยูจิงหงกับเนี่ยเฟิงทั้งสองคนก็ไม่คิดที่จะแหวกหญ้าให้งูตื่นเช่นกัน
ตลอดจนถึงกลางคืนตีหนึ่ง พวกเขาจึงต่างคนต่างไปที่ตึกใต้กับตึกเหนือ
เนี่ยเฟิงเห็นไฟที่สลัวดวงหนึ่งของตึกใต้กำลังแกว่งไปแกว่งมาอยู่ เขาคิดแล้วคิดอีกยังคงเดินเข้าไปเลย
“ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ! แชมป์ของพวกเรา!”
พอเนี่ยเฟิงเพิ่งเข้าไปก็ได้ยินเสียงปรบมือ เงากายเงาหนึ่งเดินออกมาจากข้างใน คนคนนี้ไม่ใช่คนอื่นเป็นท่านจิ่วนั่นเอง
“ท่านจิ่ว ดึกดื่นเที่ยงคืนท่านเรียกผมมาที่นี่ เป็นเพราะว่ามีเรื่องอะไรเหรอ?”
เนี่ยเฟิงก็ไม่อ้อมค้อม ซักถามตรงๆแบบนี้
“วันนี้ตอนที่มอบรางวัลให้กับพวกคุณคนมากเกินไปแล้วจริงๆ ดังคำกล่าวที่ว่าคนเยอะปากมาก ผมไม่ค่อยอยากพูดคุยเรื่องนี้กับพวกคุณที่นั่น อีกทั้งคำพูดบางอย่างพูดได้เพียงกับคุณเท่านั้น คุณเป็นนักดาบคนหนึ่งที่เก่งมากที่สุดในหลายปีที่ผ่านมาขนาดนี้เท่าที่ผมเคยเห็นมาก่อน คุณสมบัติทางกายและแรงระเบิดของคุณ ยังมีกำลังวังชาล้วนเหนือกว่าการจินตนาการของผม! ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณไม่ใช่เป็นคนคนหนึ่งเลยสักนิด คุณอาจจะเป็นเครื่องจักรที่ไร้น้ำใจเครื่องหนึ่ง!”
ท่านจิ่วแบมือออก ฮ่าฮ่า หัวเราะเสียงดังออกมา
“ท่านจิ่วท่านช่างพูดเล่นจริงๆ ผมเป็นคนคนหนึ่งจริงๆ อีกทั้งผมก็มีเพียงกายเนื้อของคนธรรมดาเท่านั้น” เนี่ยเฟิงตอบกลับอย่างหัวเราะแบบแกล้งๆ