พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 1004 หกปรารถนาก่อเกิดเจ็ดอารมณ์วิบัติ
หลังจากพระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซางตะโกนขึ้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ตกอยู่ในสภาวะกึ่งไร้สติก็ได้สติคืนกลับมาทันที จากนั้นพวกเขามองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาหวาดผวาราวกับเห็นผี พร้อมกับรีบถอยออกห่างไม่กล้าเข้าใกล้หลิงตู้ฉิงอีกต่อไป
ทางด้านของหลิงตู้ฉิงไม่ได้ใส่ใจอะไรกับพวกผู้เชี่ยวชาญที่ถอยออกไปอีกแล้ว เขาก้มลงไปมองที่พระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซางและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เลวเลย ตอนนี้เจ้าอยู่ในขอบเขตเทวะราชาแล้ว ว่าแต่เจ้ายุ่งเรื่องของข้าแบบนี้มันหมายความว่าเจ้าพร้อมที่จะจบพันธะของพวกเราทั้งคู่แล้วถูกไหม?”
พระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซางจ้องเขม็งไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาอาฆาต แต่แล้วเมื่อผ่านไปสักพักเขาก็ถามขึ้นว่า “ทักษะของเจ้าเมื่อครู่มันคืออะไร?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ทักษะเมื่อครู่คือผลงานใหม่ในชีวิตนี้ของข้า มันคือทักษะที่สองที่ข้าคิดค้นขึ้นมาได้ข้าเรียกมันว่า ‘หกปรารถนาก่อเกิดเจ็ดอารมณ์วิบัติ!’ หากผู้ใดที่มีอารมณ์และความปรารถนาเกี่ยวโยงต่อข้า ข้าสามารถยัดเยียดอารมณ์และความปรารถนาทุกรูปแบบที่ข้าเข้าใจหรือตัดพวกมันออกไปจากหัวของผู้คนเหล่านั้นได้”
บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าสิ้นหวัง เนื่องจากพวกเขาเข้าใจแล้วว่าเมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่จู่ ๆ พวกเขาก็มีอารมณ์เป็นสุขมากซะจนปล่อยให้ตัวเองล่องลอยไปกับห้วงแห่งอารมณ์ไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบกายใด ๆ
สรุปแล้วคือพวกเขาล้วนถูกครอบงำโดยอำนาจของหลิงตู้ฉิง ซึ่งการหลีกเลี่ยงวิชานี้ของหลิงตู้ฉิงมีเพียงวิธีก็คือพวกเขาจะต้องไม่มีความรู้สึกทางด้านอารมณ์หรือความปรารถนาใด ๆ ต่อหลิงตู้ฉิงเลย
แต่ยังไงซะ พวกเขาจะทำแบบนั้นได้ยังไง? สาเหตุหลัก ๆ ที่พวกเขาต้องการฆ่าหลิงตู้ฉิงก็เพราะต้องการแก้แค้น แค่นี้มันก็จัดไปอยู่ในหมวดหมู่ทั้งอารมณ์และความปรารถนาแล้วเรียบร้อย!
ใครมันจะไม่มีความรู้สึกโกรธเกลียดต่อคนที่ฆ่าบรรพบุรุษของตัวเองบ้าง หรือถ้าพวกเขาสามารถทำให้ตัวเองไม่มีความรู้สึกใด ๆ กับหลิงตู้ฉิงเลยมันก็กลายเป็นว่าพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องแก้แค้นหลิงตู้ฉิงอีกต่อไปจริงไหม?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทุกคนจึงยิ่งรู้สึกสิ้นหวังมากขึ้นเพราะรู้ว่าพวกเขาคงไม่อาจแก้แค้นได้อีกแล้ว
พระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซางแสดงสีหน้าตึงเครียดทันทีเมื่อได้ยินทักษะใหม่ของหลิงตู้ฉิง “ช่างเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ หกปรารถนาก่อเกิดเจ็ดอารมณ์วิบัติ! สิ่งนี้เป็นอะไรที่อยู่ตรงข้ามกับชีวิตที่แล้วของเจ้าอย่างสุดขั้ว ตอนนี้ข้าไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมก่อนหน้านี้เจ้าถึงสามารถเอาชนะข้าได้”
เมื่อเขาขึ้นมาบนโลกเบื้องบน พระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซางก็พยายามหาข้อมูลของหลิงตู้ฉิงทันที ซึ่งกว่าที่เขาจะพอเดาออกว่าหลิงตู้ฉิงเป็นใครมันก็นานพอสมควรอยู่ แต่เมื่อเขารู้แล้วเขาก็สืบข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับหลิงตู้ฉิงทั้งหมดจนทะลุปรุโปร่ง
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “อันที่จริงสาเหตุที่ข้าบังคับให้เจ้าขึ้นมาโลกเบื้องบนเป็นเพราะข้ากับเจ้าพวกเรามีบ่วงกรรมที่เชื่อมกันอยู่ เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ที่เจ้าพร้อมพวกเรามาสะสางกันให้มันจบ ๆ กันไป”
“ข้าจะต้องสะสางทุกอย่างกับเจ้าแน่นอน!” พระโพธิ์สัตว์แห่งอี้ซางตอบกลับ จากนั้นเขาหันหลังบินจากไปทันที
จากนั้นหลิงตู้ฉิงหันไปกวาดสายตามองบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่รายล้อมเขาอยู่เมื่อครู่ และพูดว่า “เมื่อครู่พวกเจ้าก็คงจะได้เห็นแล้วว่าข้าทำอะไรได้บ้าง ฉะนั้นจงจำใส่หัวเอาไว้ว่าอย่าได้มาตอแยกับข้าอีก ไม่งั้นมันจะมีแต่ฝั่งพวกเจ้าที่เป็นผู้สูญเสียไม่ใช่ข้า!”
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะราชาทั้งหลายต่างก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบตาหลิงตู้ฉิง
พวกเขารู้ตัวดีว่าไม่อาจต่อกรใด ๆ กับหลิงตู้ฉิงได้เลย แต่ความแค้นที่สุมอยู่ในใจของพวกเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถวางลงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แต่เก็บความแค้นนี้เอาไว้ในใจอย่างขมขื่น
หลิงตู้ฉิงมองไปที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาพ่นลมหายใจและบินกลับไปที่ด้านข้างของกิเลน
แต่แล้วในทันทีที่เขาบินกลับไปถึงกิเลน จู่ ๆ อสูรร่างยักษ์ตนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า อสูรตนนี้ที่ปรากฏตัวขึ้นซึ่งมีรูปร่างคล้ายคน แต่ศีรษะของมันมีใบหน้าถึงเก้าใบหน้าที่แตกต่างกันออกไปดำรงอยู่
อสูรเก้าหน้าจ้องเขม็งลงมาที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาเคียดแค้น
ทางด้านของหลิงตู้ฉิงก็มองกลับไปเช่นกัน แต่แล้วจากนั้นเขาก็หัวเราะและพูดว่า “อสูรเก้าลักษณ์ หากเจ้ากล้าจริง ๆ ก็มาหาข้าด้วยตัวเองเลยจะดีว่า อย่าเอาแต่ใช้ร่างแยกของเจ้ามาหาข้าแบบนี้มันไม่น่าสนุกหรอก!”
สิ่งที่หลิงตู้ฉิงพูดนั้นไม่ผิดเลย ร่างนี้ของมันที่ปรากฏตัวขึ้นเป็นแค่ร่างแยกจริง ๆ ร่างหลักของมันในขณะนี้ยังคงอยู่ที่เผ่าอสูร ซึ่งอยู่ไกลโพ้น
“อีกไม่นานหรอกไอ้ฆาตกร! อีกไม่นานข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าให้สาสมในสิ่งที่เจ้าทำเอาไว้กับพวกข้า!” อสูรเก้าลักษณ์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าอาฆาต “อสูรทั้งหมดตามข้ากลับไปเดี๋ยวนี้!”
เมื่อได้ยินคำสั่ง บรรดาอสูรทั้งหลายที่แฝงตัวอยู่รอบ ๆ ต่างปรากฏกายขึ้นและบินถอยไปพร้อมกับอสูรเก้าลักษณ์ทันที
แต่แล้วหลังจากที่อสูรเก้าลักษณ์จากไปเพียงแค่ไม่เกิน 1 อึดใจ บรรดาตัวตนจากกองกำลังหรือเผ่าต่าง ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นทีละคน ๆ
เจ้าแห่งพรตเต๋ามองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาหงุดหงิด และพูดขึ้นว่า “เจ้าลองให้เหตุผลดี ๆ กับข้ามาสักข้อเพื่อให้ข้ายั้งใจไม่สั่งสอนเจ้าสักหน่อย โอกาสงาม ๆ แบบนี้ที่ข้าจะสามารถอัดเจ้าได้อย่างใจนึกคงจะมีแค่วันนี้เท่านั้น หากข้าพลาดโอกาสนี้ไปข้าคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ถึงแม้ว่าตอนนี้ข้าจะอยู่แค่ขอบเขตเทวะราชาขั้นต้น แต่ในโลกนี้ไม่มีใครที่สามารถต้านทานอำนาจของทักษะหกปรารถนาก่อเกิดเจ็ดอารมณ์วิบัติของข้าได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้า เอาเป็นว่าถ้าเจ้าไม่อยากได้แม่ชี 80 คนเป็นเมีย เจ้าก็อยู่เฉย ๆ ไปเถอะ”
“ไอ้เลวเอ๊ย!” เจ้าแห่งพรตเต๋าสบถขึ้นด้วยสีหน้าขุ่นเคือง
อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องยากหากเขาจะเอาชนะหลิงตู้ฉิงในตอนนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำไม่ได้แน่นอนคือการฆ่าหลิงตู้ฉิงให้ตาย แล้วถ้าหลิงตู้ฉิงไม่ตายมันก็หมายความว่าเขาจะต้องโดนทักษะหกปรารถนาก่อเกิดเจ็ดอารมณ์วิบัติเล่นงานจนทนไม่ไหวจับแม่ชีทำเมียแน่นอน แล้วปัญหามันจะยิ่งใหญ่กว่านั้นถ้าแม่ชีดันเกิดตั้งท้องขึ้นมาอีก ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องตลกล้อเลียนที่หลิงตู้ฉิงคงจะเอามาล้อเขาได้นับแสน ๆ ปี
เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรต่อ
“ในฐานะที่ข้าเป็นตัวแทนของมวลมนุษย์ ข้าขอขอบคุณในสิ่งที่เจ้าทำให้กับพวกเรา” ราชันแห่งมวลมนุษย์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบานกับหลิงตู้ฉิง
ความสัมพันธ์ของราชันแห่งมวลมนุษย์กับตำหนักไร้หทัยนั้นนับได้ว่าดีต่อกันมาโดยตลอด ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะสุภาพกับหลิงตู้ฉิง และยิ่งไปกว่านั้นหลิงตู้ฉิงคือผู้ที่เลี้ยงลูกชายของเขามาจนกลายเป็นยอดคน ดังนั้นมันเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้วที่เขาจะขอบคุณเช่นนี้
“ให้ข้าพูดตรง ๆ มันคือหนี้กรรมที่ข้าต้องชดใช้!” หลิงตู้ฉิงตอบกลับ
แต่ก่อนที่เจ้าแห่งพรตเต๋าจะทันได้ตอบกลับอะไร ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทวะราชาคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนของเจ้าแห่งพรตเต๋าเองก้าวออกมาและเอ่ยขึ้นว่า “องค์เหนือหัว เมื่อครู่เขาเพิ่งฆ่าศิษย์ของท่าน จางซิงอี้!”