พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 14 คำขอ[รีไรท์]
บทที่ 14 คำขอ[รีไรท์]
ทันทีที่จ้าวเหมิงลู่ได้ยินเรื่องการทุบตี นางรู้สึกเจ็บปวดจากก้นบึ้งของหัวใจ
แขนขา เอว ช่องท้อง ความเจ็บปวดทุกประเภท หรือแม้แต่ในที่ลับ…ไอ้คนนี้ใช้ประโยชน์จากการชี้แนะ เอาเปรียบนางทางอ้อมรึเปล่า?
เมื่อลุกขึ้นมองไปกระจกที่อยู่ในห้อง นางจึงเห็นสภาพเสื้อผ้าของนางที่ขาดรุ่งริ่งซึ่งเผยให้เห็นผิวพรรณส่วนใหญ่ นางกัดฟันกรอดด้วยความโมโห นางรีบถอดเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งออกแล้วลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำที่หลิงตู้ฉิงเตรียมไว้ในห้อง
เมื่อนางลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำนั่นนางจึงยิ่งเริ่มเข้าใจได้ว่าหลิงตู้ฉิงนั้นเป็นคนที่น่าอัศจรรย์จริง ๆ น้ำยาในอ่างอาบน้ำนี่มหัศจรรย์เหมือนวิธีการอื่น ๆ ของหลิงตู้ฉิงที่นางเคยเห็นมาเช่นเดิม หลังจากแช่ไปสักพักความเจ็บปวดทั่วร่างกายของนางก็ค่อย ๆ หายไป
จ้าวเหมิงลู่นั่งอยู่ในถังอาบน้ำและเริ่มรู้สึกถึงภายในร่างกายของนาง
นางรู้สึกว่าเส้นลมปราณของตัวเองหนากว่าแต่ก่อน จุดตันเถียนก็กว้างกว่าเดิมหลายเท่าและพลังวิญญาณในร่างกายของนางแข็งแกร่งขึ้นมาก ไม่เพียงแต่ระดับการบ่มเพาะของนางเพิ่มขึ้น แม้แต่รากฐานของนางก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
ยิ่งกว่านั้นนางรู้สึกว่าพลังของนางนั้นมีมากมายเหลือเฟือ
ตอนนี้นางจึงเริ่มเข้าใจได้แล้วว่าตนเองได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มากแค่ไหน
“ถ้าการถูกเขาทุบตีแล้วจะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายขนาดนี้ ข้าเกรงว่าทุกคนบนโลกนี้คงล้วนเต็มใจที่จะมาให้เขาทุบตีทุกวัน!” จ้าวเหมิงลู่พึมพำกับตัวเอง
อย่างไรก็ตามเมื่อนางนึกถึงการใช้ความรุนแรงของหลิงตู้ฉิง การตีนางด้วยท่อนไม้ ปากของนางก็เริ่มสั่นขึ้น เมื่อหวนนึกถึงมัน
หลังจากแช่น้ำไปสักพัก เดิมนางต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้าสำรองที่อยู่ในแหวนเก็บของมิติของนางเอง แต่เมื่อมองเสื้อผ้าที่หลิงตู้ฉิงนำมาให้อยู่ด้านข้าง นางคิดอยู่ครู่หนึ่งก็หยิบมันมาใส่แทน
เสื้อผ้าพอดิบพอดีกับร่างกายของนางมาก
“อย่าบอกนะว่าไอ้บ้านี่ใช้ประโยชน์จากการหมดสติของข้าเพื่อวัดสัดส่วนของข้ากัน!” จ้าวเหมิงลู่คิดอย่างแสบร้อน
ไม่อย่างนั้นทำไมมันถึงพอดีตัวขนาดนี้?
เมื่อนางสวมใส่เสื้อผ้าที่หลิงตู้ฉิงนำมาให้ จ้าวเหมิงลู่ก็รู้สึกราวกับว่ามือของหลิงตู้ฉิงกำลังลูบไล้ทั่วร่างกายของนาง
นางเดินออกจากห้องไปที่ลานกลางเรือนอย่างไม่สบายใจ จากนั้นนางก็พบว่าบรรดาเด็ก ๆ กำลังมองไปที่ลานกลางเรือนด้วยความงุนงง
พื้นดินที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อนั้นบ่งบอกได้ว่าเมื่อวานนี้พวกเขาต่อสู้กันอย่างดุเดือดแค่ไหน
เมื่อเห็นจ้าวเหมิงลู่ปรากฏตัวขึ้นพวกเด็ก ๆ ต่างมองหน้านางอย่างเป็นกังวล
หลิงไช่หยุนกระซิบ “ท่านน้า ท่านสบายดีไหม?”
จ้าวเหมิงลู่ส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นสภาพของลานกลางเรือนในตอนนี้ นางจึงรู้ว่าเมื่อวานตนเองน่าสังเวชแค่ไหน เมื่อมองไปที่หลุมขนาดย่อม นางอดไม่ได้ที่จะสัมผัสบั้นท้ายของตัวเอง
หากนางเดาถูกต้องมันน่าจะเกิดจากบั้นท้ายของนาง
ระหว่างทางนางสังเกตเห็นหลุมที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์บนพื้น ปากของนางเริ่มสั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ความพยาบาทในหัวของนางเริ่มถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง
ในฐานะที่นางเป็นหญิงสาวมันควรไหมที่จะเขวี้ยงนางไปที่พื้นขนาดนี้?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางเห็นหลุมรูปมนุษย์ เมื่อเห็นรอยหลุมนั้นนางเริ่มสติแตก และตะโกนด้วยความโกรธ “พ่อของพวกเจ้าอยู่ที่ไหนข้าจะฆ่าเขาให้ตาย!”
นางสามารถจินตนาการได้อย่างชัดเจนว่าเมื่อวานนี้หลิงตู้ฉิงจับเท้าของนางแล้วฟาดนางลงบนพื้น
นางยังคงเห็นรอยริมฝีปากและจมูกของนางอยู่บนพื้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลุมทั้งสองที่หน้าอกของนางประทับลงไป นางโกรธมากจนแทบกระอักเลือด
“ท่านน้า ท่านใจเย็นก่อน ยังไงท่านก็ไม่สามารถเอาชนะท่านพ่อของข้าได้หรอก” หลิงไช่หยุนกระซิบ
หลิงว่านถิงที่ยู่ด้านข้างยังพูดว่า “อย่ารู้สึกไม่ดีเลยท่านน้า พี่ใหญ่และน้องสาวคนเล็กของข้า ทั้งคู่ต่างได้รับผลตอบแทนไปไม่น้อยหลังจากที่ท่านพ่อปลุกพรสวรรค์ให้ และตอนนี้ข้าก็รู้สึกได้ว่าท่านก็ได้รับประโยชน์มากเช่นกัน นอกจากนี้เพื่อช่วยท่านแล้วพ่อของข้าเขาเหนื่อยมากจนเขาต้องนอนหลับทั้งวัน”
จ้าวเหมิงลู่ไม่สนใจนางและรีบไปที่ห้องของหลิงตู้ฉิงทันที
เมื่อรู้สึกว่ามีใครบางคนเข้ามาในห้อง หลิงตู้ฉิงตื่นขึ้นมา แต่เขาไม่ลุกขึ้น
เมื่อมองดูใบหน้าที่ดูซีดเซียวของหลิงตู้ฉิง จ้าวเหมิงลู่ไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้
นางไม่รู้ว่าหลิงตู้ฉิงไปทำอะไรมา แต่มันเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับคนที่แข็งแกร่งอย่างเขาที่จะแสดงความเหนื่อยล้า จ้าวเหมิงลู่ที่กำลังโกรธ จึงเริ่มใจเย็นลงและพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “มีอะไรผิดปกติกับท่าน? ท่านต้องการให้ข้าช่วยอะไรท่านไหม?”
“ข้าสูญเสียพลังวิญญาณไปพอสมควรข้าจึงต้องพักผ่อนมากกว่าปกติ” หลิงตู้ฉิงพูด “แต่ถ้าเจ้าต้องการช่วยเหลือข้าจริง ๆ มันก็มีอยู่หนึ่งเรื่องที่ง่ายมากสำหรับเจ้าที่จะช่วยเหลือข้า… บุตรของข้าต้องการแม่ เจ้าจะช่วยเป็นแม่ในอนาคตของพวกเขาได้ไหม?”
จ้าวเหมิงลู่รู้สึกตกตะลึงกับคำขอ นางพูดด้วยน้ำอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ “คะ คือ ต่อให้ท่านช่วยข้ามามากแต่สำหรับเรื่องนี้…ข้ายังไม่สามารถตัดสินใจได้ในตอนนี้ได้ ข้ายังไม่พร้อม!”
หลิงตู้ฉิงไม่สนใจคำพูดของจ้าวเหมิงลู่ เขาพูดต่อ “แม้ว่าเจ้าจะโง่นิดหน่อยและอาจไม่สามารถตามพวกข้าทันได้ แต่ถ้าเจ้าทำตามคำแนะนำของข้า เจ้าจะสามารถอยู่เคียงข้างข้าและลูก ๆ ของข้าได้โดยที่ไม่ถูกทิ้งห่างมากนัก”
“นอกจากนี้เจ้ายังมีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับข้อบกพร่องของตัวเองและแก้ไขมัน เจ้ามีความเมตตาต่อผู้อื่นซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เหมาะสมมากสำหรับการเป็นแม่ ข้าเองได้ใช้เวลาคิดมาสักพักแล้ว ข้าจึงเลือกเจ้าเป็นแม่ของพวกเขา”
จ้าวเหมิงลู่ได้ยินหลิงตู้ฉิงวิพากษ์วิจารณ์ก็รู้สึกเสียหน้าและโกรธอยู่บ้างแต่พอหลิงตู้ฉิงชมเชย ก็มีความรู้สึกหอมหวานในหัวใจเช่นกัน
สุดท้ายนางก็มองหลิงตู้ฉิงอย่างเสียไม่ได้ “ท่านจะมาเร่งรัดเรื่องแบบนี้กับหญิงสาวไม่ได้ ท่านต้องให้เวลาข้าคิด ให้เราแต่ละคนมีเวลาที่จะบ่มเพาะความรู้สึกระหว่างกันก่อน”
“บุตรของข้าไม่ได้มีแม่มานานโดยเฉพาะพี่ใหญ่คนโตก็อายุปาเข้าไป 9 ปีแล้ว ข้ารู้ว่าพวกเขาต้องการแม่ ถ้าไม่มีแม่ก็เหมือนมีรอยด่างในชีวิต แล้วทำไมเจ้าถึงต้องคิดมากนานขนาดนั้น” หลิงตู้ฉิงพูดตรง ๆ
“ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ! อย่างน้อย ๆ ท่านต้องให้ข้ากลับไปบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของข้าก่อน!” จ้าวเหมิงลู่พูดพร้อมกับหน้าแดง “ข้าชอบเด็ก ๆ ของท่าน ข้ารู้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมากภายใต้การชี้แนะของท่าน”
“และท่านด้วยความมีน้ำใจของท่านที่ได้ช่วยคนแปลกหน้าอย่างข้า ทำให้ข้ารู้สึกว่าท่านเป็นคนดีมากและท่านมีพลังอันแข็งแกร่ง ซึ่งในฐานะสามีข้ายอมรับว่าท่านเหมาะสม…แต่ข้าต้องบอกพ่อแม่ข้าก่อน มันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะไม่บอกพวกเขาถ้าเราจะแต่งงานกัน”
หลิงตู้ฉิงรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลดีจึงพยักหน้า “งั้นรีบไปรายงานกับพ่อแม่ของเจ้าเร็ว ๆ แล้วให้คำตอบข้าโดยเร็วที่สุด! ข้าให้เวลาเจ้า 3 เดือน มิฉะนั้นข้าก็จำเป็นต้องหาแม่คนใหม่ให้กับพวกเขา”
จ้าวเหมิงลู่ย่นจมูกจ้องหลิงตู้ฉิงอย่างดุเดือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินคนพูดถึงเรื่องน่าไม่อายเช่นนี้เมื่อมาขอให้นางแต่งงานด้วย
“งั้นข้าจะไม่ซ่อมลานกลางเรือนแล้ว ข้าต้องการที่จะกลับไปบอกพ่อแม่ของข้าและจะได้ให้คำตอบกับท่านเร็วที่สุด และเมื่อข้ากลับมา ข้าจะช่วยท่านแก้ปัญหาการสมัครเข้าเรียนของเด็ก ๆ ด้วย”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ในเมื่อเราอาจจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วในอนาคต ข้าจะซ่อมลานกลางเรือนเองเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง”
จ้าวเหมิงลู่ไม่รู้ว่าจะโกรธหรือหัวเราะ นางคิดในใจว่าหลิงตู้ฉิงพูดจาอ่อนหวานกับหญิงสาวไม่เป็นเสียเลย สักพักนางก้มลงและพูดกับหลิงตู้ฉิง “แม้ว่าท่านจะทำกับข้าอย่างไร้ยางอายแต่ข้าต้องขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำเพื่อข้า ขอบคุณมาก”
จากนั้นนางก็โค้งลงและจูบไปที่ริมฝีปากของหลิงตู้ฉิงที่กำลังนอนอยู่ นางหน้าแดงและรีบออกจากห้องไป
หลิงตู้ฉิงนอนลงบนเตียงด้วยความงุนงง พร้อมกับระดับการบ่มเพาะของเขาที่เลื่อนขั้นขึ้นอย่างกะทันหันหลังจากได้จูบของจ้าวเหมิงลู่ ทำไมการสัมผัสทางริมฝีปากถึงทำให้มีอารมณ์และความรู้สึกดีขนาดนี้ นี่เป็นการบ่มเพาะที่ดีเยี่ยมแท้ ๆ