พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 340 แส้ที่สังหารผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญได้ภายในพริบตา
บทที่ 340 แส้ที่สังหารผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญได้ภายในพริบตา
โม่เอ๋อ ซึ่งคอยเฝ้าฟังทุกอย่างเมื่อครู่โดยไม่พูดอะไร ในที่สุดก็ถามขึ้นหลังจากที่พวกเขาเดินออกมาจากหอการค้าเชื่อมสวรรค์ “นายท่าน คนเมื่อครู่เขาเป็นคนที่มาจาก ‘ตำหนักเทพโชคลาภ’ ในตำนานงั้นเหรอ?”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ใช่ เขาเป็นสมาชิกของตำหนักเทพโชคลาภ”
โม่เอ๋อพูดด้วยความชื่นชมว่า “ข้าเองก็เคยได้ยินชื่อเสียงของตำหนักเทพโชคลาภมานานแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยจริง ๆ ที่ข้าได้เห็นพวกเขาตัวเป็น ๆ ในวันนี้ ข้าได้ยินมาว่าตำหนักเทพโชคลาภเป็นขุมกำลังที่อยู่ในอันดับต้น ๆ และพวกเขาก็ได้ให้เหล่าคนของพวกเขาแฝงตัวอยู่ตามที่ต่าง ๆ ไปทั่ว แต่ถึงแม้พวกเขาจะมีชื่อเสียงอันโด่งดังแต่กลับไม่มีใครสักคนที่รู้ว่าสำนักของพวกเขาตั้งอยู่ที่ไหน”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ที่ไหนที่ ‘เทพแห่งวาสนา’ อยู่ ที่นั่นก็คือตำหนักเทพโชคลาภ”
“ข้าก็เคยได้ยินในตำนานเอ่ยแบบนั้นเช่นกัน แต่มันก็มีน้อยคนนักที่จะได้เห็น” โม่เอ๋อหัวเราะ
แต่ทันใดนั้นจู่ ๆ รอยยิ้มของนางก็หายไปจากใบหน้าของนาง นางหายตัวไปยืนอยู่ตรงหน้าหลิงตู้ฉิงในพริบตา
“นั่นใครกัน ออกมา!” โม่เอ๋อพูดอย่างเย็นชา
ตรงหน้าพวกเขา ขณะนี้มีเงาดำปรากฏขึ้นและมันได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พวกเจ้ากล้าเข้ามาแส่กับธุระของเจ้านายข้า พวกเจ้าอยากตายกันมากนักใช่ไหม?”
“มันคือเมล็ดพันธุ์ปีศาจ” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้านิ่ง “เจ้าสู้มันไม่ได้หรอก มันอยู่ในระดับนักบุญ”
“ถ้างั้นเราจะทำยังไงกันดีนายท่าน?” โม่เอ๋อถามอย่างกังวล
ถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญจริง ๆ นางเองก็คงไม่มีทางต่อต้านมันได้แน่ ๆ ตามที่หลิงตู้ฉิงเอ่ย
หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นว่า “แล้วเจ้าคิดว่าเราจะทำอะไรได้อีกนอกจากจะฆ่ามันทิ้งซะ แต่การฆ่ามันด้วยบรรดาสมบัติที่เจ้ามีอยู่ติดตัวตอนนี้คงไม่พอ เอาล่ะ เดี๋ยวข้าจะมอบอาวุธให้เจ้าไปฆ่ามัน!”
ในขณะที่เขาพูด เขายัดยันต์เคลือบหยกใส่มือของโม่เอ๋อ
เมื่อได้รับยันต์เคลือบหยกมา โมเอ๋อไม่สนใจสิ่งที่บันทึกไว้บนมันและเปิดใช้งานยันต์เคลือบหยกทันที
เมื่อยันต์เคลือบหยกแตกเป็นเสี่ยง ๆ แส้ยาวที่เต็มไปด้วยอักขระโบราณก็ปรากฏขึ้นในมือของนาง
ด้วยความมั่นใจในสิ่งของที่หลิงตู้ฉิงมอบให้ว่ามันต้องดีแน่ ๆ ทันทีที่แส้ยาวปรากฏขึ้นในมือ โม่เอ๋อจึงฟาดมันไปที่ผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญทันที
ผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญสัมผัสได้ทันทีว่าแส้ยาวนี้เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงสำหรับเขา เขาจึงพยายามโยกตัวหลับไปให้พ้นทางของมัน แต่น่าเสียดายที่แส้นี้มันกลับสามารถเปลี่ยนทิศทางได้ราวกับว่ามันมีชีวิตและฟาดลงไปที่เป้าหมายของมันอย่างจัง
เมื่อแส้ยาวสัมผัสปะทะกับร่างกายของผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญ ร่างกายของเขาก็กลายเป็นแข็งค้างและสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าที่บิดเบี้ยวของผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญก็ค่อย ๆ สงบลง และจากนั้นเขาจึงค่อย ๆ โค้งคำนับต่อหลิงตู้ฉิงและโม่เอ๋อด้วยสายตาเคารพและพูดว่า “ขอบคุณมากสำหรับท่านและผู้ติดตามของท่านที่ปลดปล่อยข้าจากสิ่งชั่วร้ายตนนี้ ข้าเป็นคนของ อารามนวดารา ที่ถูกเมล็ดพันธุ์ปีศาจเข้าครอบงำร่างกาย และไม่ใช่มีเพียงแต่ข้าที่ถูกครอบงำเช่นนี้ คนส่วนใหญ่ใน อารมนวดารา ของข้าต่างก็ถูกล่อลวงโดยวิญญาณปีศาจ และผู้คนส่วนใหญ่ในสำนักก็ได้ตกหลุมพลางของมันไปเรียบร้อย ข้าหวังว่าพวกท่านจะประกาศเรื่องนี้ออกไปเพื่อเตือนกับทุก ๆ คน ไม่ให้เป็นเช่นข้าและคนของข้าที่ละโมบโลภมากจนกลายเป็นเหยื่อของปีศาจร้าย”
“ในตัวข้ามีสมบัติวิเศษระดับเซียนอยู่ 2 ชิ้น ข้าหวังว่าท่านทั้งสองจะช่วยข้าคืนสมบัติเหล่านี้ให้กับสำนักเพื่อเป็นการลดบาปที่ข้าได้สร้างไว้ต่อสำนัก แต่แน่นอนว่าถ้าพวกท่านไม่เต็มใจ ข้าก็จะไม่บังคับพวกท่าน”
หลังจากพูดจบ ดวงจิตของผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญผู้นี้ก็สลายหายไปและศพของเขาก็ร่วงลงสู่พื้น
“นายท่าน คนผู้นี้…” โม่เอ๋อมองแส้ยาวในมือของนางด้วยความประหลาดใจ จากนั้นมองไปที่ผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญบนพื้น
หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “เอาศพเขาไปด้วย ศพของเขาข้าสามารถปรับแต่งมันให้กลายเป็นหุ่นเชิดเพื่อช่วยงานของเราได้ จากนั้นรอจนกว่าเราจะจัดการกับเรื่องของวิญญาณปีศาจเสร็จแล้ว เราค่อยนำสมบัติของเขาไปคืนให้กับอารามนวดาราอีกที”
โม่เอ๋อพยักหน้า จากนั้นนางก็โบกมือใช้พลังวิญญาณดึงศพมาแบกไว้บนบ่าและเดินตามหลิงตู้ฉิงไปต่อ
ระหว่าที่เดินอยู่ด้านข้างหลิงตู้ฉิง โม่เอ๋อก็มองไปที่แส้ยาวในมือของนางที่เต็มไปด้วยอักขระโบราณ จากนั้นนางจึงถามขึ้นอย่างสงสัย “นายท่านนี่มันคืออาวุธอะไร? ทำไมมันถึงสามารถฆ่าเขาได้ในทันที?”
“มันคือแส้ปราบวิญญาณ มันคือผลงานการสร้างของอัจฉริยะในอดีตที่มีไว้เพื่อต่อกรกับเหล่าวิญญาณปีศาจโดยเฉพาะ หากใช้มันกับคนธรรมดา มันจะไม่มีพลังในการสังหารมากนัก แต่เมื่อใช้มันเผชิญหน้ากับเหล่าวิญญาณปีศาจมันจะปลดปล่อยอำนาจที่เหนือกว่าพลังของผู้ใช้นับพันเท่าในทันที แต่แส้นี้ที่เจ้าใช้งานอยู่มันเป็นสิ่งที่ถูกวาดเลียนแบบขึ้น ฉะนั้นเดี๋ยวอีกสักพักมันก็จะสลายหายไปแล้วล่ะ” หลิงตู้ฉิงอธิบายให้โม่เอ๋อฟังอย่างใจเย็น
โม่เอ๋อยิ้มและพูดว่า “นายท่าน ข้าเชื่อว่าด้วยความสามารถของท่าน หากท่านจะสร้างมันขึ้นมาใหม่สักอันท่านก็คงจะสามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็นจริงไหม?”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ข้าทำได้ แต่ข้าไม่มีวัสดุ”
“งั้นนายท่านก็วาดอีกรูปสิ” โม่เอ๋อพูดอีกครั้ง
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “ถ้ามันวาดได้ง่าย ๆ แบบนั้น ข้าจะไปมัวยุ่งยากเตรียมการต่าง ๆ มากมายให้กับพวกสำนักหุบเขาบุปผาอนันต์ทำไม? ถ้ามันง่ายจริงข้าก็วาด ๆ มันขึ้นมาสักพันอันและส่งมันให้กับพวกคนของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ใช้มันบดขยี้วิญญาณปีศาจให้จบไปแบบง่าย ๆ ก็สิ้นเรื่องแล้วจริงไหม?”
“เอ่อ…” โม่เอ๋อก้มหน้าลงและพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด “นี่ข้ากลับเสียของมีค่าขนาดนี้ไปกับแค่ชายผู้นั้น…”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก เมื่อครู่เหตุการณ์มันจวนตัวเจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด และสิ่งนี้มันก็มีประโยชน์ต่อเมล็ดพันธุ์ปีศาจหรือวิญญาณปีศาจเท่านั้น ซึ่งมันถูกแล้วที่เจ้าใช้มันไปเมื่อครู่”
เมื่อหลิงตู้ฉิงกลับไปถึงเรือนบนยอดเขา เขาก็ได้เปลี่ยนศพของผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญผู้นั้นให้กลายเป็นหุ่นเชิดทันที จากนั้นเขาก็หยิบสมบัติระดับเซียนออกมาจากห้วงจิตสำนึกของผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญ พร้อมกับนำเหล่าสิ่งของในแหวนมิติของชายผู้นั้นออกมากองตรงหน้า
“ไม่เลวเลย ชายผู้นี้ค่อนข้างรวยจริง ๆ” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
โม่เอ๋อหัวเราะ “นี่มันนับได้ว่าพวกเราก็ไม่ได้เสียแรงเปล่าใช่ไหม นายท่าน?”
เย่หยูหลันที่ยืนอยู่ด้านข้างมองไปที่ทั้งสองด้วยความงุนงง
ถึงแม้ว่าจะเป็นนางที่มีสมบัติวิเสามากมายอยู่เต็มตัว แต่ถ้าหากจะให้นางสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับนักบุญสักคนมันก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทำไมทั้งสองคนถึงกลับมาได้อย่างไร้รอยขีดข่วน?
ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด และในขณะที่นางครุ่นคิดด้วยความสงสัย เสียง ๆ หนึ่งก็ดังขึ้นที่หน้าทางเข้าเรือน “ศิษย์น้อง ผู้อาวุโสเย่ พวกท่านอยู่ข้างในหรือเปล่า? พวกเราอยู่ที่นี่แล้ว”
“นายท่าน นั่นคือหานซ่งหยวนและหยูจิ้งเฉิง ข้าควรพาพวกเขาเข้ามาหรือไม่?” โม่เอ๋อถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า
เมื่อโม่เอ๋อนำกู่ตงฉิงและคนอื่น ๆ เข้ามา พวกเขาต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็นหลิงตู้ฉิงกำลังปรับแต่งหุ่นเชิดระดับนักบุญ
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?