พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 342 ประมูลเจ้าหญิงภูติ
เมื่อจบการประมูลของชิ้นแรกไป
ทางด้านของหลิงตู้ฉิงและคนของเขาก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก นอกจากจะนั่งดูบรรยากาศอันคึกคักของการแข่งกันประมูลสมบัติ
ไม่ว่าจะเป็นสมบัติหรือคัมภีร์วิชาลับหรือแม้แต่โอสถ สิ่งเหล่านี้ล้วนไร้ประโยชน์สำหรับหลิงตู้ฉิง
หากต้องการกระตุ้นความสนใจของเขา หอการค้าเชื่อมสวรรค์ต้องนำของมีค่ามากกว่านี้ออกมาประมูล
ผู้คนจากขุมกำลังที่ทรงพลังอื่น ๆ ต่างก็มีความคิดเดียวกันนี้เช่นกัน และรอให้รายการสุดท้ายคือสิทธิ์การเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับมาถึงอย่างอดทน
แต่แล้วความคิดเช่นเดียวกันของทุกคนก็ถูกพังทลายลง หลังจากที่ผู้ดูแลการประมูลพูดประกาศขึ้นว่า “ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย รายการประมูลต่อไปจะเป็นการประมูลสิ่งมีชีวิตหายากที่หลายท่านน่าจะสนใจ หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าหอการค้าเชื่อมสวรรค์ของเราเป็นสถานที่ที่กล้าประมูลทุกสิ่งทุกอย่าง”
“ซึ่งทุกคนคงเคยได้ยินมาแล้วว่าแม้แต่ลูกสาวของจักรพรรดิ หอการค้าเชื่อมสวรรค์ของเราก็เคยนำออกมาประมูลมาแล้ว แต่คราวนี้สิ่งมีชีวิตที่เราจะนำออกมาประมูลในครั้งนี้นั้นมีค่ายิ่งกว่าองค์หญิงเสียอีก เอาล่ะเมื่อทุกท่านพร้อมแล้ว ทางเราจะขอเผยโฉมให้ทุกท่านได้เห็นกันว่าสิ่งมีชีวิตที่จะมาประมูลในครั้งนี้จะต้องดึงความสนใจพวกท่านได้มากอย่างแน่นอน!”
หลังจากจบคำพูดของผู้ดูแลการประมูล ผู้เชี่ยวชาญหญิง 4 คนก็ได้พากันเดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับแบกกรงที่มีม่านบังตาคลุมเอาไว้มาวางไว้ตรงจุดกึ่งกลางของเวทีการประมูล
เมื่อกรงถูกวางไว้เรียบร้อย ผู้ดูแลการประมูลก็ได้โบกมือขึ้นคลายผนึกของม่านบังตาที่คลุมกรงเอาไว้ออก และเผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตที่เตรียมจะถูกประมูลอยู่ด้านใน
ด้านในกรงนั้นเป็นเด็กผู้หญิงที่สูงไม่ถึง 1 เมตร นางสวมชุดสีเขียวมีผมสีเขียว ปลายหูแหลมและผิวกายที่ขาวจนเห็นได้ชัดราวกับว่าแทบจะมองเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังของนาง
ที่สำคัญนางมีปีกคู่หนึ่งที่กว้างเกือบเท่าร่างกายของนางและบางราวกับปีกของจักจั่น
เด็กหญิงรู้สึกประหม่าอย่างมากเมื่อมองไปที่ฝูงชนรอบ ๆ ตัวนางด้วยสายตาไร้เดียงสา และในขณะเดียวกับที่นาวเริ่มรู้สึกตึงเครียดกับบรรยากาศภายในห้องโถงประมูล ปีกของนางก็เริ่มเปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ
“ภูติ?” มีคนอุทานโดยไม่ได้ตั้งใจ
ผู้ดูแลการประมูลหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ “ถูกต้องแล้วนางคือภูติที่มาจากป่าภูติที่อยู่ทางตะวันออกของดินแดนตองฉวน! ยิ่งไปกว่านั้นสถานะของนางเองก็ไม่ธรรมดา! นางเป็นลูกสาวของจักรพรรดินีแห่งภูติ ซึ่งหมายความว่านางเป็นเจ้าหญิงภูติ ด้วยสายเลือดที่สูงส่งและเผ่าพันธุ์ที่พิเศษเช่นนี้ ข้าคิดว่าพวกท่านหลายคนต้องถูกใจนางแน่นอน เอาล่ะ ข้าขอประกาศเริ่มการประมูล ณ บัดนี้!”
เย่ชิงเฉิงชำเลืองมองอู่จิ๋ว จากนั้นก็แนะนำข้อมูลให้หลิงตู้ฉิง “สามี จักรพรรดินีแห่งภูติเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันระดับสูงสุด และป่าภูติที่อยู่ในความดูแลของนางก็นับได้ว่าเป็นขุมกำลังที่แข็งแกร่งในดินแดนตองฉวน และข้ายังเคยได้ยินมาว่าพวกภูติเหล่านี้ได้ครอบครองข้อมูลความลับต่าง ๆ ไว้มากมาย”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและพูดกับอู่จิ๋วที่อยู่ข้าง ๆ เขา “ข้าคงต้องขอพูดว่านับวันหอการค้าเชื่อมสวรรค์ของเจ้ายิ่งอยู่นานขึ้นพวกเจ้าก็ยิ่งระห่ำมากขึ้นเรื่อย ๆ และถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปในไม่ช้าก็เร็ว หอการค้าเชื่อมสวรรค์ของเจ้าคงไม่พ้นจะถูกใครสักล้างบางจนไม่เหลือซากแน่ ๆ!”
อู่จิ๋วโค้งคำนับไปทางหลิงตู้ฉิงเล็กน้อยและพูดว่า “ท่านหลิง โปรดอภัยด้วย แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ตัวตนไร้ค่าเช่นข้าจะสามารถตัดสินใจอะไรได้”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดกับเย่ชิงเฉิง “ซื้อนางมา นางมีประโยชน์ต่อข้า!”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของหลิงตู้ฉิง หานซ่งหยวนที่กำลังจะประมูลก็ตะลึง เขามองไปที่ หลิงตู้ฉิงแล้วมองไปที่เย่ชิงเฉิง
หลิงตู้ฉิงมีภรรยาจำนวนมากอยู่แล้ว แถมหนึ่งในนั้นก็เป็นถึงลูกสาวของเจ้าสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ นี่เขายังไม่เพียงพออีกหรือ? เขาต้องการซื้อเพราะชอบของแปลกหรือไม่?
เป็นที่ทราบกันดีว่าแม้ว่าเจ้าหญิงภูตินี้จะถูกนำมาประมูลโดยหอการค้าเชื่อมสวรรค์ แต่ถ้าหากมีใครกล้าที่จะประมูลเจ้าหญิงภูติตนนี้ไป นั่นมันจะหมายถึงว่าคนผู้นั้นได้ทำการล่วงเกินจักรพรรดินีแห่งภูตไปด้วยเช่นกัน ซึ่งจักรพรรดินีภูติตนนี้นั้นก็ไม่ใช่ตัวตนที่ใคร ๆ จะสามารถมีเรื่องได้แล้วอยู่รอดปลอดภัย!
ถ้าหากหลิงตู้ฉิงซื้อนางไปแล้วส่งนางกลับไปที่ป่าภูติ นั่นก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรแถมเขายังสามารถผูกสัมพันธ์อันดีกับจักรพรรดินีภูติได้อีกต่างหาก แต่ถ้าหากหลิงตู้ฉิงซื้อนางไปกระทำมิดีมิร้ายด้วยแล้วล่ะก็ ถึงแม้ว่าป่าภูติจะด้อยกว่าสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ แต่ประเด็นนี้มันก็ต้องกลายเป็นความขัดแย้งต่อทั้งสองขุมกำลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เย่ชิงเฉิงก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่เมื่อนางปรับอารมณ์ได้นางจึงพยักหน้าและพูดว่า “ถ้าท่านต้องการ ข้าก็จะซื้อ!”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและไม่พูดอะไร
เขาไม่มีเงินมากขนาดที่จะซื้อเจ้าหญิงภูตินางนี้ได้ ดังนั้นเย่ชิงเฉิงจะต้องเป็นคนจ่ายเงิน
แน่นอนว่าหากเขาเต็มใจที่จะนำสิ่งที่เขามีออกมาเปิดประมูล เขาเองก็คงมีเงินมากเกินพอที่จะประมูลนางได้เช่นกัน
ในขณะนี้ผู้คนจำนวนมากที่มีความคิดอยากประมูลอยู่ในใจ พวกเขาทั้งหมดเริ่มประมูลและราคาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อในทันที
“ 10 เหรียญคริสตัลระดับราชัน!” เย่ชิงเฉิงเสนอราคา
เมื่อได้ยินว่ามีใครบางคนเสนอราคาสูงลิบนี้ หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง และเมื่อรู้ว่าเป็นใครบางคนจากสำนักใหญ่ที่เอ่ยปากประมูลราคาทับ ผู้ที่มีความคิดจะเสนอราคาต่อก็หยุดคิดที่จะครอบครองเจ้าหญิงภูติตนนี้ทันที
อย่างไรก็ตาม เหรียญคริสตัลระดับราชันสามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับคนอื่น ๆ ได้ แต่ไม่ใช่กับคนที่มาจากขุมกำลังใหญ่อื่น ๆ จากนั้นเพียงชั่วครู่ก็มีคนเสนอราคาสู้ด้วยเหรียญคริสตัลระดับราชัน 15 เหรียญ
หลายคนรู้อย่างชัดเจนว่าหากซื้อเจ้าหญิงภูตินี้มาเพื่อหาความสุขในชีวิตเท่านั้น มันย่อมไม่คุ้มค่ากับเหรียญคริสตัลระดับราชัน 15 เหรียญอย่างแน่นอน
แต่หากมอบนางคืนให้แก่จักรพรรดินีแห่งภูตแล้ว มูลค่าของเหรียญคริสตัลระดับราชันที่จ่ายไปนั้นผลตอบแทนที่ได้รับคืนมามันอาจประเมินค่าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เย่ชิงเฉิงที่ไม่ชอบแพ้ใครอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคนอื่นเสนอราคาสู้ นางก็เสนอราคาสวนไปทันทีเป็นเหรียญคริสตัลระดับราชัน 20 เหรียญ
และหลังจากนั้นราคาก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว
คิ้วของหลิงตู้ฉิงขมวดมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นว่าราคาพุ่งทะยานไปจนถึง 50 เหรียญคริสตัลระดับราชัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดกับอู่จิ๋ว “เจ้าจงบอกกับลั่วหยุน ว่าข้าต้องการภูติตนนี้!”
อู่จิ๋วพยักหน้าและส่งข้อความทางโทรจิตออกไปทันทีและไม่นานต่อมา ดวงจิตของลั่วหยุนก็เข้าสิงในร่างของอู่จิ๋ว และพูดกับหลิงตู้ฉิง “ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการมอบให้ท่าน แต่ภูติตนนี้ถูกส่งมาจากการประมูลที่ตองฉวน ท่านควรรู้กฎของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ของเรา ดังนั้น…”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ข้ารู้กฎของพวกเจ้าดี ข้าจะตอบแทนเจ้าด้วยราคาที่เหมาะสมเอง!”
“ข้าเชื่อท่าน!” ลั่วหยุนพยักหน้า
ด้วยเหตุนี้ ลั่วหยุนจึงถอนดวงจิตของตัวเองจากไปและจากนั้นผู้ดูแลการประมูลด้านล่างก็แสดงท่าทีตกใจและพูดทันทีว่า “ข้าต้องขออภัยกับแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายด้วยจริง ๆ เนื่องจากในตอนนี้มีผู้เสนอราคาสูงสุดเข้ามาเพื่อซื้อภูติตนนี้แล้ว ดังนั้นทางเราขอปิดการประมูลในรอบนี้ทันที!”
“ใครเสนอราคาสูงสุด? และราคาเท่าไหร่? บอกข้ามา ข้าคือคนของสันเขาทรราช ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถเสนอราคาที่สูงกว่าของเขาได้แน่นอน”
ผู้ดูแลการประมูลส่ายหัวและตอบกลับว่า “โปรดเชื่อในหอการค้าเชื่อมสวรรค์ของเรา หากข้าบอกว่ามีคนเสนอราคาสูงสุดนั่นหมายความว่าราคานั้นเป็นราคาที่สูงสุดอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องใครที่เป็นผู้ชนะการประมูลนั้น ทางเราคงต้องเก็บเรื่องนั้นเป็นความลับเพราะว่านั่นเป็นกฎเหล็กของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ของเรา!”
เมื่อผู้ดูแลพูดจบก็มีเสียงดังกังวาลออกมาจากห้องพิเศษหมายเลขสอง “น้องเมิ่งหลาง ข้าเชื่อในคำพูดของเจ้า”
จากนั้นทุกคนก็เลิกถกเถียงกันและภูตก็ถูกนำออกไป
ดวงจิตของลั่วหยุนกลับมาสิงในร่างของอู่จิ๋วอีกครั้งและพูดกับหลิงตู้ฉิง “รอจนกว่าการประมูลสิ้นสุดลง แล้วจากนั้นท่านค่อยมารับนางไปจากข้า ข้ายังต้องใช้เวลาในการคลายผนึกที่อยู่บนร่างกายของภูติตนนี้ก่อน”
ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาเชื่อหลิงตู้ฉิง แต่หลิงตู้ฉิงเองก็ยังไม่ได้ให้ ‘ค่าตอบแทน’ กับเขา!
ตามกฎของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ หากพวกเขาขายอะไรออกไปพวกเขาจะต้องได้รับค่าตอบแทนเสียก่อนพวกเขาถึงจะสามารถแลกเปลี่ยนสิ่งของออกไปได้ หากมีใครกล้าฝ่าฝืนกฎของหอการค้าเชื่อมสวรรค์กฎนี้ คนผู้นั้นจะถูกลงทัณฑ์ทันที
หลิงตู้ฉิงที่ไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของลั่วหยุน เขาพยักหน้าและพูดว่า “ข้าจะไปหาเจ้าหลังจากจบการประมูล!”
เมื่อได้รับคำตอบเช่นนี้ ดวงจิตของลั่วหยุนก็ถอนออกไป
กู่ตงฉิงและหานซ่งหยวนที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง
ด้วยความรู้และประสบการณ์ พวกเขาสามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ได้เป็นอย่างดี
เมื่อครู่คงเป็นดวงจิตของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันที่มาสิงร่างชายที่มาคอยดูแลหลิงตู้ฉิงแน่นอน แต่แล้วทำไมผู้เชี่ยวชายที่อยู่ในระดับสูงเช่นนั้นถึงได้มาพูดกับหลิงตู้ฉิงราวกับว่าพวกเขาอยู่ในฐานะเท่าเทียมกัน?