พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 344 ร่างปลอม
เนื่องจากที่หลิงตู้ฉิงเคยเป็นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดมาก่อน มันจึงทำให้เขารู้จักสมบัติแปลก ๆ มากมายที่มีอยู่บนโลกใบนี้
และด้วยเหตุนี้ เมื่อหลิงตู้ฉิงได้ยินคำกล่าวที่หนักแน่นอนของตวนเสี่ยวอี่ เขาจึงยืนขึ้นและเพ่งมองไปที่ร่างกายของชายหนุ่มที่อยู่ด้านล่างห้องโถงประมูล
เมื่อจ้องมองไปได้สักพัก หลิงตู้ฉิงก็สามารถมองเห็นได้ถึงบางสิ่งที่แปลกประหลาดดังกล่าว เขาจึงตกลงที่จะพบกับตวนเสี่ยวอี่ทันที
และเมื่อคำนวณจากภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ หลิงตู้ฉิงก็รู้สึกมั่นใจมากว่าเขาจะสามารถตกลงแลกเปลี่ยนกับตวนเสี่ยวอี่ได้สำเร็จอย่างแน่นอน
อู่จิ๋วโค้งคำนับและพูดว่า “ของประมูลล้ำค่าแบบนี้ควรให้ผู้ขายตัดสินใจเป็นการส่วนตัว ฉะนั้นเมื่อท่านหลิงขอมา ข้าจะให้คนไปนำเขามาพบท่านหลิงทันที”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและเดินตามอู่จิ๋วออกไป
หลังจากที่ได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่ หานซ่งหยวนและหยูจิ้งเฉิงต่างมองไปที่แผ่นหลังของหลิงตู้ฉิงด้วยความสับสน
พวกเขาต่างเป็นคนที่มาจากสำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นพวกเขาจึงเคยได้ยินเกี่ยวกับกฎของหอการค้าเชื่อมสวรรค์มาก่อนหน้านี้ ฉะนั้นเมื่อครู่ที่พวกเขาได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงต้องไปพบกับผู้ซื้อแล้วนั่นก็หมายความว่า…
“ศิษย์น้อง เจ้ายังมีกุญแจเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับอยู่อีกใช่ไหม?” หานซ่งหยวนอดไม่ได้ที่จะถาม
เย่ชิงเฉิงพยักหน้า “ถูกต้อง!”
“นี่สามีของเจ้าคือคนที่ปล่อยประมูลสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับใช่ไหม?” หยูจิ้งเฉิงอดไม่ได้ที่จะถาม
“ถูกต้อง!” เย่ชิงเฉิงพยักหน้าอีกครั้ง
เมื่อได้รับการยืนยันเช่นนี้ สีหน้าของหานซ่งหยวนและหยูจิ้งเฉิงต่างก็ดูชื่นบานขึ้น เนื่องจากพวกเขาแน่ใจแล้วว่าพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ต้องได้รับสิทธิ์เข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแน่นอน
แต่เมื่อพวกเขาคิดถึงการแลกเปลี่ยนกับเย่ชิงเฉิงก่อนหน้านี้ และการขัดแย้งของพวกเขาที่เกิดขึ้นจากการแย่งสิทธิ์เข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ในใจพวกของพวกเขาก็เริ่มห่อเหี่ยวและขุ่นเคือง
นั่นเป็นเพราะตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ต่างก็ไปถึงจุดที่ไม่สามารถแน่นแฟ้นได้เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะ เย่ชิงเฉิง
ดังนั้นทั้งคู่จึงสาปแช่งเย่ชิงเฉิงในใจ
ทางด้านเย่ชิงเฉิงเองก็เดาถูกว่าพวกเขากำลังสาปแช่งนางอยู่ในใจ แต่นางก็แสร้งทำเป็นว่านางไม่รู้ ประการแรกพวกเขาสองคนไม่ได้พูดออกมาให้ได้ยิน ประการที่สองนางอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบแถมยังได้รับประโยชน์จากพวกเขามาอีกต่างหาก
ตอนนี้เย่ชิงเฉิงหันหน้าไปมองยังประตูห้องที่หลิงตู้ฉิงพึ่งเดินออกไป พลางรู้สึกสงสัยว่าสิ่งแปลก ๆ ที่ตวนเสี่ยวอี่ไม่ยอมแสดงมันในที่สาธารณะมันคืออะไรกันแน่?
และไม่ใช่แค่นางที่สงสัยในเรื่องนี้ แต่ทุกคนที่เข้าร่วมการประมูลก็สงสัยเช่นกัน
ในอีกด้านหนึ่งบนศาลาลอยฟ้า ลั่วหยุนพร้อมกับหลิงตู้ฉิงกำลังรอการมาถึงของตวนเสี่ยวอี่
ไม่นานต่อมา อู่จิ๋วก็นำตวนเสี่ยวอี่มาอยู่ต่อหน้าทั้งสองคน
“นำของที่เจ้าว่ามันแปลก ๆ ออกมาได้แล้ว” อู่จิ๋วพูดกับตวนเสี่ยวอี่ “ตอนนี้เจ้ากำลังอยู่กับนายเหนือหัวแห่งหอการค้าเชื่อมสวรรค์ประจำอาณาเขตนภา และอีกท่านหนึ่งคือท่านหลิงผู้ที่เป็นเจ้าของสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ พวกเขาจะประเมินสิ่งของที่เจ้านำมาและดูว่ามันควรค่าพอที่จะแลกเปลี่ยนได้หรือไม่”
ตวนเสี่ยวอี่เหลือบมองพวกเขาทั้งสามคน และพูดว่า “ไม่ได้! ของของข้ามันล้ำค่ามากเกินไป พวกท่านต้องเอ่ยคำสาบานต่อสวรรค์ก่อนว่าจะไม่แย่งชิงของของข้าและต้องสาบานด้วยว่าถ้าการแลกเปลี่ยนระหว่างเราไม่สำเร็จ พวกท่านจะไม่เปิดเผยข้อมูลของของข้าต่อผู้อื่น ข้าถึงจะนำมันออกมาให้พวกท่านได้ดู”
ลั่วหยุนพูดอย่างรวดเร็ว “นี่เจ้าไม่เชื่อในหอการค้าเชื่อมสวรรค์ของข้าหรือ? นอกจากนี้ในฐานะที่ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชัน ถ้าข้าต้องการจะแย่งชิงของของเจ้า เจ้าคิดว่าเจ้าขัดขืนข้าได้งั้นเหรอ?
แม้ว่าลั่วหยุนจะบอกระดับการบ่มเพาะของเขาแล้ว แต่ตวนเสี่ยวอี่ก็ยังคงเฉยเมยและมองพวกเขาสองคนอย่างไม่เกรงกลัว
หลิงตู้ฉิงซึ่งเฝ้าสังเกตตวนเสี่ยวอี่มานาน เขาหัวเราะร่วนและพูดว่า “ข้าจะไม่สาบานต่อสวรรค์อะไรทั้งนั้น แต่ข้าให้สัญญากับเจ้าได้ ตราบใดที่เจ้าหยิบของออกมา ข้าจะให้สิทธิ์แก่เจ้าทันที”
“ไม่ ข้าต้องการให้พวกท่านทุกคนเอ่ยคำสาบานต่อสวรรค์ก่อน!” ตวนเสี่ยวอี่ยืนยัน
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและพูดว่า “มานี่!”
ตวนเสี่ยวอี่เดินมาหยุดตรงหน้าหลิงตู้ฉิงอย่างไม่เกรงกลัว
หลิงตู้ฉิงยื่นนิ้วของเขาและกดลงบนหน้าผากของตวนเสี่ยวอี่ ส่งผลให้เขาหลับไปทันที
เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ ลั่วหยุนที่อยู่ด้านข้างตกตะลึงทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “นี่ท่านเป็นคนของวัดจินตภาพงั้นเหรอ? มิน่าล่ะก่อนหน้านี้ข้าก็สงสัยว่าทำไมท่านถึงได้มีรัศมีแห่งธรรมที่ลึกซึ้งได้ขนาดนั้น แต่จะว่าไปมันเป็นเวลานานเท่าไหร่แล้วนะที่ เคล็ดวิชา ‘ห้วงนิทราแห่งราชันย์’ ได้ปรากฏขึ้นล่าสุด? ”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและไม่ตอบอะไร
ในขณะนี้ ในห้วงแห่งความฝันของตวนเสี่ยวอี่ ร่างของตวนเสี่ยวอี่ก็ได้ถูกแทนที่โดยหญิงสาวที่มีเรือนร่างอันงดงาม
“สาวน้อย เจ้าไม่ต้องกังวลที่นี่คือห้วงแห่งความฝันของเจ้า มันจะไม่มีใครได้ยินสิ่งที่เราได้พูดคุยกัน ต่อให้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันอย่างลั่วหยุนก็ไม่ได้ยินเราเช่นกัน”
“เจ้าปรากฏตัวต่อหน้าข้าโดยใช้ร่างปลอม ถ้าข้าเดาไม่ผิดของสิ่งหนึ่งที่เจ้าจะนำมาแลกกับข้านั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับร่างปลอมของเจ้า ของสิ่งนี้ช่างแปลกดีจริง ๆ ที่สามารถสร้างร่างปลอมขึ้นมาได้ บางทีข้าอาจจะต้องการมัน เอาล่ะ นำมันออกมาให้ข้าดูได้แล้ว ข้าจะได้รู้สักทีว่ามันคืออะไรกันแน่”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องขยับตัว เพียงแค่จินตนาการถึงของสองสิ่งที่เจ้าต้องการนำมันมาแลกกับข้าและสิ่งเหล่านั้นจะปรากฎขึ้นในห้วงแห่งความฝันนี้เอง ข้าจะได้รู้ว่าสิ่งของของเจ้าเป็นของที่ข้าต้องการหรือไม่? ”
“และอีกอย่างตอนนี้ไม่ใช่แค่ร่างปลอมของเจ้าเท่านั้นที่หลับ แต่ร่างกายที่แท้จริงของเจ้าก็หลับไปด้วย ถ้าเจ้าไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เจ้าก็จงรีบจัดการธุระของเราให้เสร็จไว ๆ จากนั้นเจ้าจะได้ตื่นขึ้น” หลิงตู้ฉิงเตือนนาง
ด้วยคำเตือนของหลิงตู้ฉิง ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาก็หน้าซีดและพูดด้วยสีหน้าหวั่นเกรง “นี่ท่านใช้วิชามารแบบไหนกับข้ากัน? ข้าเดินทางร่อนเร่ไปทั่วโลกมาหลายปี แต่ก็ยังไม่มีใครเคยรู้เรื่องการปลอมตัวของข้าเลย”
“รีบ ๆ เอาออกมาได้แล้ว!” หลิงตู้ฉิงเตือนอีกครั้ง “ถ้าเจ้าต้องการแลกเปลี่ยนก็รีบหน่อย! และอย่ามัวแต่กังวลว่าข้าจะขโมยของเจ้า ถ้าหากข้าจะชิงของของเจ้าไปจริง ๆ เชื่อได้เลยว่าข้าสามารถหาร่างจริงของเจ้าได้ไม่ยากเลยแม้แต่น้อย”
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นหญิงสาวก็พูดกับหลิงตู้ฉิง “ข้าหวังว่าท่านจะรักษาสัญญา นี่คือของสองสิ่งที่ข้าต้องการแลกเปลี่ยนกับท่าน…”
ในขณะที่พูด ในมือของหญิงสาวก็มีแสงสีขาวนวลตาเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นส่องสว่างไปทั่วห้วงแห่งความฝัน
หลิงตู้ฉิงรู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าอย่างมีความสุข “ถ้าเจ้านำสิ่งนี้มาให้ข้า ไม่เพียงแต่ข้าจะให้สิทธิ์การเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแก่เจ้า ข้าจะหาอาจารย์ที่แข็งแกร่งให้เจ้าอีกต่างหาก ข้ารับประกันได้ว่าในอนาคตเจ้าจะไม่ถูกใครรังแกได้อีก”
หลังจากพูดจบ ดวงจิตของหลิงตู้ฉิงก็ออกจากห้วงแห่งความฝันของหญิงสาวผู้นั้น
จากนั้นหลิงตู้ฉิงหันไปพูดกับอู่จิ๋วว่า “ไปรอที่ห้องโถงรับรองแขกด้านหน้า ถ้ามีผู้หญิงมาหา ให้พานางเข้ามา เจ้าจงรออยู่ที่นั่นแค่ 15 นาทีก็พอ แต่ถ้าหากเมื่อครบเวลาและนางยังไม่มา เจ้าก็จงกลับมาซะ! และเตือนสำนักอื่น ๆ บอกพวกเขาไม่ให้ใช้เหล่าสมบัติหรืออาวุธวิเศษในการประมูล แต่จงใช้วัสดุเพื่อแข่งราคากันแทน!”
อู่จิ๋วมองไปที่ลั่วหยุน จากนั้นเขาจึงรีบเดินจากไปเมื่อลั่วหยุนพยักหน้า
ลั่วหยุนถามอย่างสงสัย “นี่ท่านแลกเปลี่ยนสำเร็จแล้วงั้นเหรอ? แล้วสรุปของที่เขาจะนำมาแลกเปลี่ยนมันคืออะไรกันแน่?”
หลิงตู้ฉิงพูดอย่างมีความสุขว่า “เดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง!”