พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 487 งามล่มเมือง
บทที่ 487 งามล่มเมือง
ทันทีที่หลิงตู้ฉิง โม่เอ๋อ และหมิงยู่เดินกลับไปถึงห้องโถงรับรองของหอการค้าเชื่อมสวรรค์ บรรดาผู้คนที่อยู่ในบริเวณรอบ ๆ ต่างก็ตกอยู่ในอาการตะลึงงัน ซึ่งมีแม้แต่บางคนที่ตกตะลึงอ้าปากค้างจนน้ำลายแทบจะไหลออกจากปากของพวกเขา
อาการตกตะลึงของพวกเขาเช่นนี้มีสาเหตุมาจากคนเพียงผู้เดียวก็คือ หมิงยู่ ที่กำลังเดินอยู่เคียงข้างหลิงตู้ฉิง ซึ่งพวกเขาที่เห็นภาพของนางเดินออกมากับชายอื่น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจ
“แม่นางหมิงยู่ ในที่สุดข้าก็ได้พบเจ้าอีกครั้ง!” ชายหนุ่มผู้หนึ่งรีบเดินเข้ามาหาและเอ่ยทักด้วยสีหน้าชื่นชม
หมิงยู่มองไปยังชายผู้นั้นและตอบกลับทันที “นับแต่นี้เป็นต้นไป อาจารย์ของข้าได้มอบตัวข้าให้กับนายท่านของข้าผู้นี้แล้ว นายน้อยหลิว นับแต่นี้โปรดท่านลืมข้าไปซะเถอะ”
นายน้อยหลิวที่กำลังมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อได้ยินคำพูดของหมิงยู่เช่นนี้ รอยยิ้มของเขาก็กลายเป็นแข็งค้างทันที จากนั้นเขาจึงค่อย ๆ หันหน้าไปมองที่ใบหน้าของหลิงตู้ฉิงอย่างงุนงง ซึ่งทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมกับคำรามใส่หลิงตู้ฉิงทันที “เจ้าเป็นใครกัน!? ข้าคือสมาชิกของตระกูลหลิวแห่งเมืองวิญญาณโลหิต ถ้าเจ้ากล้าพาหมิงยู่ของข้าไป ข้าจะขอสู้ตายกับเจ้า!”
เมื่อพูดจบ นายน้อยหลิวก็พุ่งไปหาหลิงตู้ฉิงทันที
แต่ก่อนที่หลิงตู้ฉิงจะได้เคลื่อนไหว ตงฟางจุนก็ตะโกนขึ้นแทรกพอดี “ใครมันบังอาจหาเรื่องพี่ของข้า เจ้ารนหาที่ตายงั้นเหรอ เอ๊?….”
เมื่อเห็นว่านายน้อยหลิวมีระดับการบ่มเพาะแค่ขอบเขตนภาระดับ 3 ตงฟางจุนก็รีบวิ่งเข้ามาปกป้องหลิงตู้ฉิงเพื่อหวังเอาหน้าทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตอนจังหวะที่เขาวิ่งมาใกล้กับหลิงตู้ฉิง เขาก็ได้เห็นใบหน้าอันงดงามของหมิงยู่ ซึ่งมันทำให้เขาตกตะลึงและเสียสมาธิจนถูกหมัดของนายน้อยหลิวเข้าไปเต็ม ๆ ที่ใบหน้า!
แต่ยังโชคดีที่เขาสำเร็จร่างกระบี่มาก่อนหน้านี้แถมระดับการบ่มเพาะในตอนนี้ของเขาก็ได้มาอยู่ที่ขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 9 แล้ว ดังนั้นแม้ว่าเขาจะถูกต่อยจนตัวบินละลิ่ว เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแม้แต่น้อย
เมื่อร่วงลงถึงพื้น ตงฟางจุนก็รีบลุกขึ้นด้วยสีหน้าเขินอายพลางมองไปที่หมิงยู่ด้วยสายตาชื่นชม
เมื่อหมิงยู่เห็นท่าทางของตงฟางจุน นางก็ปิดปากหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ ซึ่งตงฟางจุนเองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะไปพร้อมกับนาง
ในเวลานี้นายน้อยหลิวยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นไปใหญ่ ในตอนแรกก็มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณขโมยหมิงยู่ไป ถัดมาตอนนี้กลับก็มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดาราปรากฏขึ้นมาอีก นี่มันยิ่งทำให้เขาโกรธจนแทบบ้า
เมื่อยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ นายน้อยหลิวก็เร่งโคจรพลังวิญญาณของตนเองไปถึงระดับสูงสุด จากนั้นเขาก็ออกหมัดเต็มกำลังไปยังตงฟางจุนด้วยเจตนาที่จะฆ่าให้ตายในทันที
“อ๊า…ระวัง!” หมิงยู่ตะโกนขึ้น
ตงฟางจุนเองก็รู้สึกได้ทันทีว่าหมัดของชายที่ถูกเรียกว่านายน้อยหลิวพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยเจตนาฆ่า เขาจึงชักกระบี่ออกจากฝักและฟันสวนไปในทันที ส่งผลให้ร่างของนายน้อยหลิวถูกผ่าออกเป็นสองซีกอย่างง่ายดาย
ในขณะนี้ภาพการตายของนายน้อยหลิว ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างได้สติกันขึ้นมา ซึ่งพวกเขาก็มองไปที่ตงฟางจุนด้วยสายตาหวาดกลัว จากนั้นพวกเขาหลายคนก็รีบเดินออกจากหอการค้าเชื่อมสวรรค์ทันที เนื่องจากกลัวว่าตนเองจะโดนหางเลขไปด้วย
หมิงยู่หัวเราะคิกคักและพูดว่า “นายท่าน ต่อจากนี้ท่านคงต้องระวังตัวมากขึ้นแล้วล่ะ นายน้อยหลิว คนนี้คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผู้นำตระกูลหลิว…”
โม่เอ๋อไม่สนใจว่าหมิงยู่จะพูดว่าอะไรต่อ นางส่งเสียงทางโทรจิตไปยังหลิงตู้ฉิงว่า “นายท่าน ถ้าเราปล่อยให้นางหว่านเสน่ห์ต่อไป เราอาจจะมีปัญหาใหญ่ในภายหลัง”
หลิงตู้ฉิงมองไปที่หมิงยู่ และพูดว่า “ปกปิดใบหน้าของเจ้าเดี๋ยวนี้!”
เมื่อได้ยินคำสั่ง หมิงยู่ก็รีบนำผ้าปิดหน้ามาปกปิดใบหน้าของนางทันที
จากนั้นหลิงตู้ฉิงมองไปที่ตงฟางจุนและพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเด็กน้อย จงจัดการเรื่องที่เจ้าสร้างนี้ให้ดี ข้าจะกลับไปก่อนก็แล้วกัน”
“พี่…” ตงฟางจุนอยากจะร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา
หลังจากที่หมิงยู่ปกปิดใบหน้าของนางแล้ว เสน่ห์ที่มีต่อเขาก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจนตอนนี้เขารู้แล้วว่ามีคนตายภายใต้คมกระบี่ของเขา
หลิงตู้ฉิงไม่ได้สนใจตงฟางจุนอีก เขาออกจากหอการค้าเชื่อมสวรรค์ไปกับโม่เอ๋อและหมิงยู่
คนรับใช้ของฟางจุนมองไปที่หลิงตู้ฉิงที่เดินจากไป และจากนั้นก็ไปมองที่หมิงยู่ที่เดินตามไปด้วยสีหน้าน่าเกลียด ก่อนที่จะพาตงฟางจุนเดินออกจากหอการค้าเชื่อมสวรรค์ไปเช่นกัน ซึ่งในเวลาต่อมาไม่นานนักในเมืองวิญญาณโลหิตก็มีพลังวิญญาณสองสายพุ่งไปที่หอการค้าเชื่อมสวรรค์
“ไอ้เวรที่ไหนมันกล้าฆ่าลูกข้า!” เสียงคำรามดังกึกก้อง
หลังจากได้ยินเสียงนั้น โม่เอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะส่งโทรจิตคุยกับหลิงตู้ฉิง “นายท่าน นางจิ้งจอกตัวร้ายที่หงเยว่ส่งมาอยู่เคียงท่านต้องมีแรงจูงใจแอบแฝงอะไรบางอย่างแน่ ๆ ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ใช้คาถาเสน่ห์ล่อลวงผู้คนเช่นนี้! นายท่านโปรดไล่นางไปเถอะ!”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและตอบกลับว่า “นางไม่ได้ใช้คาถาเสน่ห์ใด ๆ ทั้งนั้น”
“นายท่าน! นี่ท่านก็หลงเสน่ห์นางด้วยเหมือนกันใช่ไหม? ตื่นขึ้นนายท่าน! อย่าได้หลงกลมันง่าย ๆ แบบนี้!” โม่เอ๋อเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
หลิงตู้ฉิงมองไปที่โม่เอ๋ออย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ในสายตาของข้า นางก็ไม่ต่างจากเจ้า ข้าจะถูกนางล่อลวงได้ยังไง?”
“เอ่อ…ข้าจะสวยขนาดนั้นได้ยังไง…” โม่เอ๋ออดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเขินอาย “ไม่ใช่สิ ๆ นายท่านไม่ว่าจะยังไงท่านก็ต้องไล่นางไป ไม่งั้นพวกเราจะมีแต่ปัญหามากมายที่เกิดขึ้นจากนางจนไม่รู้จักจบจักสิ้น และที่สำคัญข้าคิดว่านางต้องมีแรงจูงใจซ่อนเร้นอะไรบางอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ใช้ความงามล่อลวงให้คนฆ่ากันโดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้”
นางรู้ขีดจำกัดของตัวเอง และรู้ว่านางเทียบกับหมิงยู่ไม่ได้
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “นางมีความคิดอื่นแอบแฝงแน่นอน ข้ารู้เรื่องนี้ดี แต่เนื่องจากนางยังมีประโยชน์อื่น ดังนั้นข้าจะปล่อยให้นางอยู่ต่อไป”
โม่เอ๋ออดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ในความคิดของนางหลิงตู้ฉิงถูกยั่วยวนด้วยความงามจนเสียสติไปซะแล้ว
โม่เอ๋อรู้สึกหนักใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หลิงตู้ฉิงมองไปที่โม่เอ๋อ จากนั้นหันศีรษะกลับมาและมองไปที่หมิงยู่ และถามนางด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เจ้าเป็นคนที่เกิดในเมืองวิญญาณโลหิตเลยรึเปล่า?”
หมิงยู่ก้มหัวลงและพูดว่า “นายท่าน บ้านเกิดของข้าอยู่ที่เขตด้านนอกกำแพงเมืองวิญญาณโลหิต และหลังจากที่ข้าเติบโตขึ้น ข้าก็ถูกพาเข้ามาด้านในเพื่อให้มาเป็นศิษย์ของอาจารย์ข้า”
หลิงตู้ฉิงไม่ได้ถามอะไรต่ออีก เขารีบพาโม่เอ๋อและหมิงยู่กลับไปที่โรงเตี๊ยม
เมื่อเห็นหลิงตู้ฉิงนำหญิงสาวสุดแสนจะงดงามกลับมาด้วย เย่ชิงเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะตกอยู่ในอาการตื่นตะลึง
แม้ว่าหมิงยู่จะสวมผ้าปิดหน้า แต่เพียงแค่มองจากแววตาของนางที่ไม่ได้ถูกปกปิดเอาไว้ก็รู้แล้วว่านางงดงามถึงขนาดไหน
“เอ่อ…สามีนี่…” เย่ชิงเฉิงถามด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ
อันที่จริงนางไม่สนใจว่าหลิงตู้ฉิงจะมีผู้หญิงเพิ่มสักกี่คน เพราะนางเองก็หวังให้หลิงตู้ฉิงมีผู้หญิงเพิ่มขึ้นมาก ๆ ซะด้วยซ้ำ เขาจะได้เลื่อนระดับการบ่มเพาะได้เร็วขึ้น แต่นางก็ยังคงมีคำถามอยู่ดีว่าผู้หญิงคนนี้มาจากไหน?
แล้วยิ่งเมื่อนางเห็นหมิงยู่ถอดผ้าปิหน้าออก นางก็ยิ่งตกตะลึงและถามขึ้นทันทีว่า “สามี น้องสาวคนนี้เป็นใคร?”
แม้นางจะหวังว่าหลิงตู้ฉิงจะสามารถเพิ่มการบ่มเพาะของเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงภัยคุกคามร้ายแรงที่มาจากหญิงสาวคนใหม่ผู้นี้
หลิงตู้ฉิงแนะนำพวกเขาและพูดว่า “นางคือ หมิงยู่ จากตำหนักหอมรัญจวน พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน ข้าขอเวลาส่วนตัวไปคุยกับนางสักครู่”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงก็พาหมิงยู่เข้าไปในห้องด้วยตัวเอง
โม่เอ๋อพูดอย่างกังวล “นายหญิง ท่านต้องระวังนังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวนั้นให้ดีนะนายหญิง นังจิ้งจอกตัวนี้มีพลังมากเกินไป เมื่อตอนที่อยู่ที่หอการค้าเชื่อมสวรรค์ มันก็ล่อลวงทำให้ผู้คนสับสนจนฆ่ากันตายไปแล้ว!”
เย่ชิงเฉิงอดไม่ได้ที่จะกังวล แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะดูไม่ใช่คนธรรมดาแต่เสน่ห์ของความงามก็ยังคงเป็นจุดอ่อนของผู้ชายเสมอ
อย่างไรก็ตาม นางไม่ต้องการรบกวนหลิงตู้ฉิงและหมิงยู่ ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร ถ้านางเข้าไปนางอาจจะทำให้สถานการณ์แย่ลงเท่านั้น
อีกด้าน เมื่อหลิงตู้ฉิงพาหมิงยู่เข้าไปในห้อง เขาก็ถามนางทันที “จากนี้ไป เจ้ายินดีจะติดตามข้ารึเปล่า?”
หมิงยู่เงยหน้าขึ้นมองไปที่หลิงตู้ฉิง และพูดว่า “ตั้งแต่ที่อาจารย์มอบข้าให้กับนายท่าน ข้าก็ยินดีมอบทั้งกายและใจของข้าให้กับท่านโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ”
“เช่นนั้นเหรอ? ถ้างั้นเจ้าก็จงลงชื่อในสัญญากฎสวรรค์กับข้าก่อน!” หลิงตู้ฉิงยิ้ม “หลังจากลงชื่อในสัญญาเมื่อไหร่ ข้าจะบอกเรื่องบางอย่างที่สำคัญกับเจ้าเมื่อนั้น ซึ่งข้าบอกได้เลยว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าอย่างที่เจ้าไม่เคยนึกฝันเลยด้วยซ้ำ!”