พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 703 ค่าตอบแทนมหาศาล
หลิงตู้ฉิงรอจนซุยเซียงทำสัญญากฎสวรรค์ จากนั้นเขาถึงมอบโอสถสงบวิญญาณให้กับนาง
หากหลิงฟ่างหัวได้รับการคุ้มกันจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิ 3 คน บวกกับหยูเจิ้นไห่เข้าไปอีก 1 คน หลิงตู้ฉิงก็มั่นใจว่าลูกสาวของเขาจะเดินทางกลับถึงทะเลชางหมางโดยสวัสดิภาพแน่นอน หรือต่อให้พวกเขาเจอกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิ หลิงฟ่างหัวก็มีเวลาเหลือเฟือในการแหวกมิติหนีไปที่อื่น
ทางด้านของซุยเซียง ทันทีที่นางเดินออกไปจากสำนักวายุคลั่ง ชายผู้หนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาถามนางทันที “เซียง เจ้าเป็นอะไรบ้างรึเปล่า? ว่าแต่เจ้าคุยอะไรกับคนที่อยู่ข้างในงั้นเหรอ?”
ซุยเซียงยิ้มและตอบกลับ “สามี ข้าไม่เป็นอะไร แต่ว่าครั้งนี้พวกเราถูกรางวัลใหญ่เข้าให้แล้ว ตราบใดที่พวกเราสามารถทำตามข้อตกลงของผู้ที่อยู่ข้างในได้สำเร็จ สำนักสายลมเที่ยงธรรมของพวกเราจะได้กลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งของอาณาเขตวายุแน่นอน หรือไม่พวกเราอาจจะได้กลายเป็นสำนักที่แข็งแกร่งกว่าสำนักวายุคลั่งตอนก่อนถูกทำลายเลยด้วยซ้ำ!”
สามีของซุยเซียง กงซุนหงถามขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง “หืม? นี่เจ้าหมายความว่ายังไง?”
การที่จะกลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งของอาณาเขตวายุตอนนี้หากมีทรัพยากรมากพอใคร ๆ ก็สามารถขึ้นเป็นได้ทั้งนั้น แต่ถ้าหากจะกลายเป็นสำนักที่แข็งแกร่งกว่าสำนักวายุคลั่งนั้นมันเป็นคนละเรื่องกัน เพราะสำนักวายุคลั่งมีมหาวิถีเต๋าสถิตอยู่ภายในสำนัก
มหาวิถีเต๋านั้นไม่ใช่สิ่งที่สำนักไหนจะมีได้ง่าย ๆ มันจะต้องถูกทิ้งไว้โดยบรรพบุรุษของสำนัก ซึ่งบรรลุไปถึงระดับที่สร้างวิถีเต๋าของตนเองได้สำเร็จ และละทิ้งโลกเบื้องล่างขึ้นไปยังโลกเบื้องบนเรียบร้อยแล้ว
ซุยเซียงตอบกลับเสียงเบาไปที่สามีของนาง “ข้าเพิ่งทำสัญญากฎสวรรค์ไป ดังนั้นข้ายังคงบอกรายละเอียดอะไรกับท่านมากไม่ได้ ข้าบอกได้แค่ว่าฝั่งตรงข้ามต้องการผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิ 3 คน เพื่อคุ้มกันคนของเขากลับไปที่อาณาเขตนภา ทะเลชางหมาง สำนักของเราตอนนี้มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิอยู่แล้ว 2 คน ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องหาผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเพิ่มอีกคนมาเข้าร่วม ซึ่งถ้าหากพวกเราทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ สำนักของพวกเราจะรุ่งเรืองไปอีกนับพันนับหมื่นปี แต่มันมีเรื่องยุ่งยากอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทุกคนที่ทำภารกิจนี้จะต้องทำสัญญากฎสวรรค์กับฝั่งตรงข้ามหมดทุกคน”
กงซุนหงขมวดคิ้วและถามขึ้น “เจ้าแน่ใจใช่ไหมว่าฝั่งตรงข้ามไม่ได้เจตนาร้ายแอบแฝงกับพวกเรา?”
ซุยเซียงส่ายหัว “ข้ามั่นใจว่าไม่มีแน่นอน! สามีท่านก็รู้ใช่ไหมว่าข้าเป็นคนของตำหนักหอมรัญจวน ก่อนหน้านี้คนของตำหนักหอมรัญจวนก็เคยทำข้อตกลงกับคนผู้นี้มาแล้ว ซึ่งคนผู้นี้เป็นคนที่ยึดมั่นในหลักการแลกเปลี่ยนอย่างซื่อสัตย์และยุติธรรมเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเราไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องนี้เลยข้ารับประกัน”
กงซุนหงพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะเชื่อเจ้า แต่ว่าสำนักของพวกเรามีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิอยู่เพียงแค่ 2 คน ซึ่งก็คือข้าและศิษย์น้องของข้า ถ้าหากพวกเราออกจากสำนักไปกันหมด ข้าคิดว่าสำนักของเราอาจจะตกอยู่ในความเสี่ยงได้และอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญก็คือ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิอีกคนหนึ่งที่ยังขาดไปมันก็ใช่ว่าพวกเราจะสามารถชักชวนมาได้ง่าย ๆ”
ซุยเซียงแสดงรอยยิ้มมั่นใจและพูดว่า “ไม่ยากหรอกถ้าพวกเราใช้โอสถสงบวิญญาณล่อใจเขามา และคนที่ข้านึกถึงก็ไม่ใช่ใครอื่น มันเป็นสหายของท่าน เฟิงต้าหลุนยังไงล่ะ ข้ามั่นใจว่าเขาต้องตกลงแน่นอน!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ กงซุนหงถึงกับตาลุกวาว
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าภรรยาของเขาไปเอาโอสถสงบวิญญาณมาจากไหน แต่เขารู้ดีว่าภรรยาของเขา ซึ่งเป็นถึงผู้ดูแลตำหนักหอมรัญจวนประจำอาณาเขตวายุนั้นฉลาดเป็นอย่างมาก หากภรรยาของเขายอมจ่ายราคาด้วยโอสถสงบวิญญาณ ดังนั้นมันก็แปลว่าผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับมันจะต้องเหนือกว่าโอสถสงบวิญญาณหลายเท่าแน่นอน
ไม่นานต่อมา กงซุนหงและซุยเซียงก็พาศิษย์น้องของพวกเขาและเฟิงต้าหลุนมาถึงหน้าสำนักวายุคลั่งอีกรอบ และตะโกนเรียกหลิงตู้ฉิง
“คุณชายหลิง ตอนนี้ข้าได้พาคนมาครบแล้ว โปรดเชิญท่านดำเนินการต่อได้เลย” ซุยเซียงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “พวกเจ้าทุกคนเข้ามาทำสัญญากฎสวรรค์กับข้าก่อน”
ซุยเซียงส่งโทรจิตไปหาหลิงตู้ฉิง “คุณชายหลิง โปรดท่านอย่าได้ประกาศว่ารางวัลที่ท่านจะมอบให้ข้านั้นคืออะไร เพราะหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดินั้นเป็นคนนอกที่ข้าเชิญมาด้วยโอสถสงบวิญญาณของท่าน และเดี๋ยวหลังจากนี้ข้าจะคืนโอสถสงบวิญญาณที่เหลืออีก 2 เม็ดให้กับท่านหลังจากที่ทุกคนออกไปหมดแล้ว”
“ไม่มีปัญหา ส่วนโอสถสงบวิญญาณที่เหลือนั้นเจ้าเก็บมันไว้เถอะ” หลิงตู้ฉิงตอบกลับทางโทรจิต
เรื่องเล็กเช่นนี้ไม่มีผลอะไรกับเขา ดังนั้นหลิงตู้ฉิงจึงตอบตกลงโดยไม่คิดอะไรมากมาย
เมื่อทำสัญญากันเสร็จเรียบร้อย หลิงตู้ฉิงก็เดินนำคนทั้ง 4 คนเข้าไปในสำนักวายุคลั่ง ซึ่งบรรยากาศที่เงียบสงัดของสำนักที่เคยมีศิษย์นับหมื่นคนนั้นมันทำให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิทั้ง 3 คนถึงกับขนหัวลุก
พวกเขาต่างคิดกันในใจว่าเรื่องที่พวกผู้รอดชีวิตออกไปเล่าให้กับคนข้างนอกฟังนั้นมันเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนแล้วว่า คนผู้นี้สังหารผู้คนของสำนักวายุคลั่งทั้งหมดไม่มีเหลือ
ว่าแต่ศพนับหมื่นศพทั้งหมดมันหายไปไหนกัน?
แม้ว่าหลิงตู้ฉิงจะมีระดับการบ่มเพาะแค่ขอบเขตนภา แต่เมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิทั้ง 3 คนเห็นบรรยากาศที่น่าขนลุกเช่นนี้ของสำนักวายุคลั่ง พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะประมาทหลิงตู้ฉิงแม้แต่น้อย
เมื่อเดินเข้าไปถึงห้องโถงใหญ่ของสำนัก หลิงตู้ฉิงก็ชี้ไปที่หลิงฟ่างหัวให้กับกลุ่มของซุยเซียงเห็นและพูดว่า “ภารกิจของพวกเจ้าคือพาลูกสาวของข้าไปส่งที่ทะเลชางหมาง ซึ่งอยู่ในอาณาเขตนภา!”
เฟิงต้าหลุนถามขึ้นทันที “ท่านจะให้พวกเราออกเดินทางเมื่อไหร่?”
เฟิงต้าหลุนอยากจะออกเดินทางเพื่อจบภารกิจนี้ให้ไวที่สุด เพราะกงซุนหงได้ทำสัญญากฎสวรรค์กับเขาไว้แล้วว่าเมื่อไหร่ที่เสร็จภารกิจ เขาจะได้รับโอสถสงบวิญญาณทันที ซึ่งตอนนี้เขาแทบจะอดใจไว้ไม่ไหวอยากจะได้โอสถมาทะลวงระดับการบ่มเพาะ
หลิงตู้ฉิงตอบกลับ “พวกเจ้าจะเริ่มออกเดินทางเร็ว ๆ นี้นี่แหละ เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปก่อน ส่วนซุยเซียง เจ้าอย่าเพิ่งออกไปข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้าต่อ”
เมื่อผู้เชี่ยวชาญจักรพรรดิทั้ง 3 คนออกไป หลิงตู้ฉิงก็พูดกับซุยเซียงว่า “ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าไปเอาเศษเสี้ยวของมหาวิถีเต๋าของสำนักวายุคลั่งและจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาวายุศักดิ์สิทธิ์ให้กับเจ้าเป็นรางวัล ส่วนบรรดาสมบัติที่เหลืออยู่ในสำนักวายุคลั่งทั้งหลายหลังจากที่ลูกสาวของข้าจากไป เจ้าจะทำยังไงกับมันก็ได้แต่ถ้าให้ข้าแนะนำ สิ่งที่เจ้าได้ไปทั้งหมดตอนนี้มันมากพออยู่แล้ว ดังนั้นเจ้าควรจะปล่อยสมบัติของสำนักวายุคลั่งไปซะ ไม่เช่นนั้นในอนาคตสำนักของเจ้าอาจจะเกิดหายนะได้”
ซุยเซียงพยักหน้า “ข้าจะจำคำพูดของคุณชายหลิงเอาไว้ให้ขึ้นใจ”
นางเข้าใจเป็นอย่างดีว่าตอนนี้สิ่งที่สำนักของนางได้ไปมันมากมายพออยู่แล้ว ดังนั้นถ้าหากนางยังโลภอีก นางอาจจะทำให้ชะตากรรมสำนักของนางเสียสมดุลจนกลายเป็นหายนะ
เมื่อมาถึงตึกใจกลางสำนักวายุคลั่ง ซึ่งเป็นที่สถิตของมหาวิถีเต๋าวายุ หลิงตู้ฉิงนำเศษเสี้ยวของมหาวิถีเต๋าวายุยื่นให้ซุยเซียง และพูดกับมหาวิถีเต๋าวายุว่า “ตอนนี้เจ้าจงสลายตัวไปก่อน เดี๋ยวนางจะเป็นผู้เรียกเจ้ากลับมาเอง!”
เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดจบ มหาวิถีเต๋าวายุสลายตัวในทันทีส่งผลให้กฎแห่งลมของทั้งอาณาเขตวายุปั่นป่วนอย่างหนัก
หลังจากนั้นหลิงตู้ฉิงก็เดินกลับไปหาหลิงฟ่างหัว และเตือนนางว่า “ลูกพ่อ เมื่อไหร่ที่พวกพ่อเดินทางไปแล้วเจ้าต้องรีบมุ่งหน้ากลับไปที่ทะเลชางหมางทันที เจ้าเข้าใจไหม?”
หลิงฟ่างหัวพยักหน้า “ข้าจะรีบกลับไปติดตั้งประตูเคลื่อนย้าย เพื่อตามไปหาท่านที่สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ให้เร็วที่สุดท่านพ่อ!”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “แต่เจ้าอย่าลืมซะล่ะว่าพ่อจะรอเจ้าแค่ 50 ปีเท่านั้น!”
“ฮึ่ม! ไม่ต้องห่วง ข้าไปหาท่านทัน 50 ปีแน่นอน ว่าแต่ท่านเถอะท่านต้องรอข้าถึง 50 ปีจริง ๆ ด้วยล่ะ ห้ามหนีไปก่อนหน้านั้นเด็ดขาด เข้าใจไหมท่านพ่อ!” หลิงฟ่างหัวพ่นลมออกจมูก
หลิงตู้ฉิงยิ้ม จากนั้นเขาเดินนำกลุ่มคนของเขาเข้าไปยังประตูเคลื่อนย้ายเพื่อเดินทางไปที่สำนักอักขระศักดิ์สิทธิ์ทันที
หลังจากหลิงตู้ฉิงจากไปเรียบร้อยแล้ว และประตูเคลื่อนย้ายกลับมาสงบเหมือนเดิม หลิงฟ่างหัวก็เริ่มถอนการติดตั้งมันทันที ซึ่งหลังจากผ่านไปพักใหญ่และนางทำการถอนการติดตั้งประตูเคลื่อนย้ายจนเสร็จ นางก็พูดกับหยูเจิ้นไห่และซุยเซียงว่า “เฒ่าหยูพวกเราไปกันเถอะ ส่วนเจ้า เดี๋ยวเจ้าไปบอกคนของเจ้าให้พาข้าออกเดินทางในทันที ข้าอยากจะรีบกลับไปที่ทะเลชางหมางให้เร็วที่สุด!”
ซุยเซียงรีบพยักหน้า “ไม่มีปัญหาคุณหนู ข้าจะให้พวกของข้าไปส่งท่านให้ถึงทะเลชางหมางให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!”
เมื่อออกมาจากสำนักวายุคลั่ง ซุยเซียงก็บอกรายละเอียดเกี่ยวกับรางวัลที่หลิงตู้ฉิงมอบให้นางกับกงซุนหงทันที
ทางด้านของกงซุนหง เมื่อได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงให้รางวัลมากมายกับพวกเขาถึงขนาดนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นจนตัวสั่น แน่นอนว่าสิ่งนี้มันส่งผลให้เขาปฏิบัติกับหลิงฟ่างหัวด้วยความสุภาพมากยิ่งขึ้นในระหว่างการเดินทาง
ท้ายที่สุดทั้ง 5 คนก็มุ่งหน้าไปที่ทะเลชางหมางด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิทั้ง 3 คนเป็นผู้สลับกันบังคับพาหนะวิเศษเพื่อคงความเร็วให้สม่ำเสมอ