พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 865 เตือนอย่างจริงจัง
เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงทวนความจำ ดวงตาของเฉินหยูทงก็เบิกโพลงด้วยความตื่นตะลึงเพราะเขารู้แล้วว่าชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าแท้จริงเป็นใคร
“ท่าน…ท่าน…” เฉินหยูทงตื่นตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก
ทางด้านของเฉินสั่วหนาน ซึ่งมองอยู่ด้านข้างขมวดคิ้วด้วยความงุนงง
บรรพบุรุษเฒ่าของเขารู้จักชายคนนี้งั้นเหรอ? ว่าแต่เขาเป็นใครกันล่ะ?
เฉินหยูทงจ้องหลิงตู้ฉิงอยู่สักพัก จากนั้นเขาหันไปพูดกับเฉินสั่วหนานว่า “เจ้าถอยออกไปก่อน!”
ถึงแม้ว่าเฉินสั่วหนานจะอยากรู้เป็นอย่างมากว่าแท้จริงแล้วหลิงตู้ฉิงเป็นใคร แต่เมื่อบรรพบุรุษเฒ่าของเขาสั่งให้เขาออกไป เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบรับด้วยท่าทีเคารพ “รับทราบ ผู้เยาว์จะออกไปเดินเล่นรอบ ๆ!”
หลังจากเฉินสั่วหนานจากไปแล้ว เฉินหยูทงเผยรอยยิ้มขมขื่นและพูดกับหลิงตู้ฉิงว่า “ข้าก็สงสัยอยู่ตั้งแต่แรกแล้วว่าทำไมไอ้เจ้าเฒ่าฟู่ถึงได้ยอมให้ท่านทำอะไรตามใจชอบโดยตลอด ดูเหมือนว่าตาเฒ่าฟู่จะรู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหมว่าท่านคือใคร?”
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “นับได้ว่าเป็นวาสนาของยอดเขาหยกจักรพรรดิของเจ้าจริง ๆ ที่บังเอิญได้มาสนับสนุนลูกชายของข้า”
เฉินหยูทงพยักหน้า “ท่านพูดไม่ผิดเป็นวาสนาของพวกเราจริง ๆ ด้วยการที่องค์ราชันแห่งมวลมนุษย์มีท่านคอยหนุนหลังอยู่ อนาคตของเขาจะไร้ซึ่งปัญหาแน่นอน”
ในตอนนี้เฉินหยูทงเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้สนับสนุนหลักของผู้เข้าร่วมการคัดเลือกคนอื่น ๆ ถึงได้กลับลำมาสนับสนุนหลิงยี่เทียน
ที่แท้คนเหล่านั้นก็น่าจะรู้แล้วว่าคนผู้นี้เป็นใคร ซึ่งถ้าพวกเขาฉลาดพอพวกเขาก็ต้องเข้าร่วม ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่มีวันได้ประโยชน์อะไรกลับไปเลย แถมยังเป็นการยืนฝั่งตรงข้ามกับคนที่น่ากลัวที่สุดในโลกอีกต่างหาก
“แต่ถึงแม้ว่าพวกเจ้าจะกลายเป็นผู้สนับสนุนหลักของลูกชายข้าแล้ว เจ้าจำเป็นต้องเตือนเหล่าคนของเจ้ารวมถึงตัวเจ้าเองด้วยว่าอย่าได้ลำพองใจมากจนเกินไปจนคิดว่าพวกเจ้านั้นสามารถเข้ามาวุ่นวายกับการตัดสินใจของลูกชายข้าได้ ข้ารู้ว่าพวกเจ้ามีวิธีการอะไรบ้างในการหนุนหลังผู้คน ดังนั้นอย่าเอาวิธีการเหล่านั้นมาใช้กับลูกชายของข้า ลูกชายของข้ามีวิถีทางของตนเองที่ชัดเจน ซึ่งมันเหนือกว่าของพวกเจ้ามากมายนัก ถ้าข้ารู้เมื่อไหร่ว่าพวกเจ้าไม่เชื่อฟังคำเตือนนี้ของข้า วาสนานี้ที่เจ้ามีอยู่ข้าจะทำให้มันกลายเป็นหายนะของพวกเจ้าทันที!” หลิงตู้ฉิงพูดเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง
“แน่นอน ๆ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้าและคนของข้าจะคอยสนับสนุนและทำตามคำสั่งของเขาเพียงอย่างเดียว ไม่วุ่นวายกับการตัดสินใจของเขาแน่นอน!” เฉินหยูทงรีบตอบกลับพลางคิดในใจว่าหลังจากนี้เขาต้องรีบกลับไปเตือนคนของเขาให้ดี เพราะก่อนหน้านี้คนของเขาบางคนก็เริ่มออกลายอยากจะวางแผนทำให้หลิงยี่เทียนอยู่ในกรอบของพวกเขาบ้างแล้ว
อันที่จริงการกระทำเช่นนี้มันก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาหวังร้ายอะไร เพราะเต๋าที่พวกเขาบ่มเพาะนั้นคือเต๋าแห่งการรับใช้ ซึ่งความแข็งแกร่งของพวกเขาจะพัฒนาไปได้มากเท่าไหร่นั้นมันขึ้นอยู่กับว่าจักรพรรดิที่พวกเขารับใช้นั้นพัฒนาไปได้มากแค่ไหน ซึ่งในมุมมองของพวกเขาบางทีก็เห็นว่าสิ่งที่จักรพรรดิของพวกเขาทำมันดูไม่ค่อยจะมีอนาคตสักเท่าไหร่ ดังนั้นหลายครั้งพวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องวางกลอุบายมากมายเพื่อทำให้จักรพรรดิของพวกเขาอยู่ในแนวทางการพัฒนาที่พวกเขาคิดว่ามันน่าจะดีที่สุด
แต่การทำเช่นนี้หากมองในมุมของจักรพรรดิ บางทีมันก็ดูคล้ายกับว่าพวกเขาเป็นภัยคุกคามเพราะกลอุบายต่าง ๆ บางทีมันก็มีการล้ำเส้นอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตอนนี้เขาได้รับการเตือนแล้วเขาจึงจำเป็นต้องหยุดการกระทำแบบเดิม ๆ ที่เคยทำมากับจักรพรรดิคนอื่น ๆ ไม่เช่นนั้นยอดเขาหยกจักรพรรดิอาจจะได้หายนะอันน่าขมขื่นไปกินแทนประโยชน์อันหวานหอม
หลิงตู้ฉิงจ้องเฉินหยูทงอยู่สักพักจนเขาแน่ใจว่า เฉินหยูทงเข้าใจที่เขาพูดจริง ๆ จากนั้นเขาพยักหน้าและพูดว่า “เอาล่ะ ตอนนี้เจ้าจงกลับไปที่ยอดเขาหยกจักรพรรดิของเจ้าได้แล้ว เพื่อเตรียมการช่วยเหลือลูกชายข้ายึดอาณาเขตอื่น ๆ ให้เร็วที่สุดเพื่อที่ทั้งพวกเจ้าและลูกชายของข้าจะได้พัฒนาไปได้เร็วกว่าเดิม”
“รับทราบ ข้าจะรีบกลับไปเตรียมการทันที!” เมื่อพูดจบ เฉินหยูทงก็เดินจากไปในทันที
เมื่อเห็นว่าเฉินหยูทงจากไปแล้ว หลิงตู้ฉิงก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน
เหตุผลที่เขาเตือนเฉินหยูทงไปเช่นนั้นก็เพราะเขากังวลว่าพวกคนของยอดเขาหยกจักรพรรดิจะวางกลอุบายต่าง ๆ จนอาจจะส่งผลกับความสัมพันธ์ของหลิงยี่เทียนกับคนอื่น ๆ ในครอบครัว ไอลีนโนเวล
หลายครั้งที่ยอดเขาหยกจักรพรรดิมักใช้กลอุบายสร้างฝ่ายต่าง ๆ ขึ้นมาในอาณาจักรเพื่อที่จะถ่วงดุลอำนาจของตัวจักรพรรดิ ซึ่งถ้าหากว่าตัวจักรพรรดิมีอำนาจเบ็ดเสร็จมากเกินไปในบางสถานการณ์มันก็ไม่ใช่เรื่องดีต่ออาณาจักรสักเท่าไหร่
และตัวเลือกที่ดีที่สุดที่พวกเขาจะสร้างฝ่าย ๆ อื่นที่เอาไว้ถ่วงดุลอำนาจกับจักรพรรดิจะเป็นใครไปได้นอกจากบรรดาพี่น้องของตัวจักรพรรดิเอง?
นี่คือสิ่งหลิงตู้ฉิงกังวลเพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริง ความสัมพันธ์ภายในของครอบครัวเขาจะต้องร้าวฉานเพราะเรื่องการเมืองภายในแน่นอน ซึ่งในฐานะหัวหน้าครอบครัวเขายอมให้มันเกิดไม่ได้
ในตอนนี้เมื่อเขาได้ออกปากเตือนไปเรียบร้อย หากคนของยอดเขาหยกจักรพรรดิยังคงไม่เชื่อฟังอีก เขาเองก็ไม่มีปัญหาที่จะทำให้เหล่าผู้คนของยอดเขาหยกจักรพรรดิได้เห็นว่าเวลาที่เขาฆ่าคนนั้นมันเป็นยังไง
หลังจากเฉินหยูทงจากไปได้แค่เพียงครู่เดียว คนจากสำนักอื่น ๆ ก็เริ่มเข้ามาทักทายเขา ซึ่งรวมไปถึงเสี่ยหนานเทียนก็เดินเข้ามาหาเช่นกัน
“ผู้อาวุโส ข้าไม่นึกเลยว่าจะเจอท่านที่นี่!” เสี่ยหนานเทียนหัวเราะ
หลิงตู้ฉิงหัวเราะและตอบกลับ “ไม่ต้องห่วง ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ได้เจอข้าที่นี่ เจ้าก็จะต้องได้เจอข้าอยู่ดีเพราะในอนาคตไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะต้องไปเยือนสำนักเบญจธาตุของเจ้าอยู่แล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสี่ยหนานเทียนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความกังวลและพูดขึ้นว่า “ผู้อาวุโส สำนักของข้าไม่มีอะไรน่าสนุกนักหรอก ดังนั้นหากท่านมีธุระอะไรกับสำนักของข้า ท่านบอกกับข้ามาตอนนี้ก็ได้ ข้าจะรับหน้าที่ดำเนินการทุกอย่างให้ท่านเองเมื่อกลับไปที่สำนักของข้า แบบนั้นมันจะได้สะดวกท่านด้วยจริงไหม?”
ในตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวตนของหลิงตู้ฉิงมันลึกลับและอันตรายเกินไป ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินว่าหลิงตู้ฉิงจะไปเยือนสำนักของเขา เขาจึงรู้สึกกระสับกระส่ายไม่อยากจะให้หลิงตู้ฉิงไปเยือนที่สำนักเบญจธาตุของเขา
“ธุระของข้ามันไม่สามารถพูดผ่านเจ้าได้หรอก” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ดังนั้นข้าจำเป็นต้องไปด้วยตัวเองเท่านั้น แต่ข้าคงยังไม่ไปเยือนสำนักของเจ้าเร็ว ๆ นี้หรอก มันคงจะอีกสักพักข้าถึงจะไป อ๋อจริงสิ ในยุคนี้มีกี่คนในสำนักของเจ้าเตรียมที่จะสำเร็จเต๋า?”
เสี่ยหนานเทียน เมื่อได้ยินคำถามนี้เขาก็รู้สึกภาคภูมิใจและตอบกลับ “ผู้อาวุโสในยุคนี้สำนักของข้ามีผู้อาวุโส 2 คนที่เตรียมจะสำเร็จเต๋า ซึ่งในตอนแรกโอกาสที่พวกเขาจะทำได้สำเร็จนั้นมันก็ไม่มากนักหรอก แต่ด้วยความโชคดีของพวกเราที่ได้ทรัพยากรเพิ่มมาจากตำหนักศักดิ์สิทธิ์หลีเทียน มันจึงทำให้โอกาสที่พวกเขาจะสามารถสร้างเต๋าได้สำเร็จจึงเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งจากการคำนวณแล้วพวกเขาน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2,000 ปีก็น่าจะกลายเป็นผู้สร้างเต๋าในยุคนี้”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า จากนั้นเขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้างั้นภายใน 2,000 ปีนี้ข้าคงจะต้องไปเยือนสำนักของเจ้า!”
สีหน้าของเสี่ยหนานเทียนเปลี่ยนเป็นมืดหม่นทันที เพราะเขารู้ว่าเขาพลั้งปากเผยข้อมูลที่ไม่ควรจะบอกหลิงตู้ฉิงออกไปซะแล้ว และเขารู้สึกได้ทันทีว่าการที่หลิงตู้ฉิงเดินทางไปที่สำนักของเขามันน่าจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่!
ดูเหมือนว่าหลังจากนี้เขาคงต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้กับเหล่าผู้อาวุโสของเขาทราบในทันที!