พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 878 ไล่ฆ่ากลุ่มจางไป๋ฟาน
ถึงแม้ว่าเหล่าศิษย์ของถังชี่หยุนจะคาดการณ์ไว้แล้วว่าผลลัพธ์มันน่าจะเป็นแบบนี้ แต่พวกเขาก็ไม่นึกว่ารูปปั้นจะแข็งแกร่งจนถึงขนาดตบผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันลอยละลิ่วไปภายในพริบตา
จากภาพที่เห็น พวกเขาต่างย้ำเตือนตัวเองในใจว่าพวกเขาจะต้องไม่ทำให้เหล่ารูปปั้นรำคาญเด็ดขาด!
บรรดาปราชญ์คนอื่น ๆ ที่มาที่หลังเมื่อพวกเขาเห็นว่ามีปราชญ์หลายคนมาถึงก่อนหน้าพวกเขาและสื่อสารกับรูปปั้นนำหน้าพวกเขาไปแล้ว พวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนใจและสั่งบรรดาศิษย์ของพวกเขา “เร็วเข้า พวกเจ้ารีบไปก่อกวนคนที่มาถึงก่อนหน้าเร็ว!”
เมื่อได้รับคำสั่ง บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างก็รีบแยกย้ายไปก่อกวนปราชญ์ที่กำลังสื่อสารกับรูปปั้นทันทีส่งผลให้การต่อสู้เกิดขึ้นทั่วภูเขา
แต่แน่นอนว่าไม่มีใครที่กล้าใช้เจตจำนงในการรบกวนปราชญ์ที่กำลังสื่อสารกับรูปปั้นอยู่ พวกเขาต่างสู้ไปพลางหาโอกาสที่จะเข้าถึงตัวเหล่าปราชญ์ไปพลาง
ในชั่วพริบตาเวลาผ่านไปอีก 3 วัน
ถังชี่หยุน ในที่สุดนางก็เข้าใจหลักการของรูปปั้นแรกสำเร็จ ซึ่งในเวลาเดียวกันก็มีปราชญ์อีกหลายคนเดินหน้าไปต่อแล้วเช่นกัน
“อย่าเพิ่งไปที่รูปปั้นถัดไป!” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นกับถังชี่หยุน “เจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อน รอให้ข้าฆ่ากลุ่มของจางไป๋ฟานให้หมดก่อน แล้วจากนั้นพวกเราค่อยเดินหน้าต่อ ทุกคนตามข้าไปฆ่าศิษย์ของจางไป๋ฟานเดี๋ยวนี้!”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงนำคนอื่น ๆ มุ่งหน้าไปหากลุ่มของจางไป๋ฟานที่อยู่คนละเส้นทางทันที
ถังชี่หยุนพยักหน้าอย่างเข้าใจพร้อมกับยืนรออยู่จุดเดิม แต่คนอื่น ๆ กลับรู้สึกแปลกกับการตัดสินใจของหลิงตู้ฉิง
แต่เนื่องจากตอนนี้พวกเขาต่างเชื่อใจในหลิงตู้ฉิง ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกแปลกประหลาดในใจ แต่พวกเขาก็ยังคงทำตามคำสั่งของหลิงตู้ฉิง
“ตอนนี้ไม่มีใครปกป้องท่านแม่เลย นางจะไม่เป็นอะไรงั้นเหรอท่านพ่อ?” หมิงจู้เอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ตอนนี้นางกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบเป็นมหาปราชญ์ หากมีใครกล้าทำอันตรายนางมันก็เท่ากับรนหาที่ตายดี ๆ นี่เอง ส่วนพวกเจ้าทุกคนจงจำเอาไว้ พวกเจ้าจะฆ่าใครก็ได้แต่มีอยู่สองคนที่พวกเจ้าห้ามฆ่าก็คือ จางไป๋ฟาน และไอ้คนที่หน้าตาน่าเกลียดที่สุดที่อยู่ในกลุ่ม เพราะข้าจำเป็นต้องใช้งานเขาในภายหลัง”
หลิงตู้ฉิงชี้ไปที่ชายตาเหล่ที่อยู่ข้างหลังจางไป๋ฟาน จากนั้นเขาพูดต่อว่า “พวกเจ้าทุกคนเตรียมเข้าปะทะตามตำแหน่งที่ข้าบอก ยู่ชาน เจ้าจงใช้ความแข็งแกร่งเต็มสิบส่วนสังหารไอ้ผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทราซะ และนำศพของมันมาให้พ่อ พ่อจำเป็นต้องใช้ศพของมัน”
หลิงยู่ชานเมื่อได้รับคำสั่งก็รีบพุ่งนำหน้าออกไปท้าผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทรา ซึ่งมีระดับการบ่มเพาะอยู่ในระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์หรือขอบเขตสวรรค์ระดับ 6 ทันที “ออกมาแสดงให้ข้าเห็นซะว่าเผ่าปีศาจจันทราแข็งแกร่งแค่ไหน!”
ผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทราจ้องเขม็งมาที่หลิงยู่ชานทันที และตวาดกลับด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “ท้าข้างั้นเหรอ? ได้งั้นข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้สำนึกไปยันชีวิตหน้า!”
เมื่อพูดจบ ผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทราโคจรพลังของตัวเองส่งผลให้ทั่วร่างของเขาเปล่งแสงสีขาวนวลราวกับทั้งร่างของเขากลายเป็นหยกขาวบริสุทธิ์
หลิงยู่ชาน ซึ่งได้รับคำเตือนว่าเขาต้องใช้กำลังทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงเปิดใช้งานพลังสายเลือดของเขาเต็มสิบส่วน และชกหมัดไปยังร่างของผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทราในทันที “หมัดสั่นคลอนสวรรค์!”
ทางด้านของผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทรา เมื่อเห็นว่าหลิงยู่ชานบุกเข้ามาตรง ๆ แบบไม่มีลูกเล่นอะไรเลยในตอนแรกเขาก็รู้สึกอึ้งไปเหมือนกัน แต่เมื่อเห็นว่าหลิงยู่ชานนั้นมีระดับการบ่มเพาะแค่เพียงระดับเหนือล้ำหรือขอบเขตสวรรค์ระดับ 3 เขาจึงไม่ได้คิดระวังตัวอะไรมากมาย และใช้ร่างของเขารับหมัดของหลิงยู่ชานตรง ๆ ไอลีนโนเวล
หลังจากโดนหมัดแรกเข้าไป ผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทรายังไม่ถึงกับตาย เขาแค่บาดเจ็บและถูกแรงปะทะจนกระเด็นถอยหลังไปเล็กน้อย
ทางด้านของหลิงยู่ชาน เมื่อเห็นว่าหมัดแรกยังล้มผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทราไม่ได้ เขาจึงไล่ตามไปต่อยซ้ำอีกครั้งและอีกครั้งและอีกครั้ง
แต่ละหมัดที่หลิงยู่ชานต่อยออกไปนั้นผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทราไม่สามารถหลบหลีกหรือตอบโต้อะไรได้เลย และเมื่อผ่านไปสิบหมัด หน้าอกของผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทราก็ถูกหมัดทะลวงจนเป็นรูกลวงโบ๋พร้อมกับดวงวิญญาณของเขาก็ถูกอำนาจของหมัดทำลายจนแตกสลาย
เมื่อจบศึก หลิงยู่ชานก็คว้าร่างของผู้เชี่ยวชาญเผ่าปีศาจจันทรากลับมาหาหลิงตู้ฉิง
ในเวลาเดียวกัน หลิงตู้ฉิงชี้ไปที่ผู้เชี่ยวชาญเผ่ามนุษย์ที่ยืนอยู่ด้านหลังจางไป๋ฟาน และพูดกับหลิงว่านถิงว่า “ว่านถิง ชายคนนั้นคือเหยื่อของลูก!”
หลิงว่านถิงพยักหน้าและเดินออกไปท้าทายผู้เชี่ยวชาญเผ่ามนุษย์ทันที “เจ้าเป็นมนุษย์แท้ ๆ แต่กลับไปคบค้าสมาคมกับพวกเผ่าอสูร ข้าล่ะเกลียดคนอย่างเจ้าจริง ๆ ออกมา! ข้าจะฆ่าเจ้าแทนบรรพบุรุษของเจ้าเอง!”
ผู้เชี่ยวชาญเผ่ามนุษย์หัวเราะ “สาวน้อยระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์กล้าพูดจาโอหังต่อหน้าข้างั้นเหรอ? แต่ก็ได้ข้าอยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้ามีดีอะไรถึงได้กล้าพูดจาเลอะเทอะแบบนี้!”
หลิงว่านถิงหยิบหลิงจู้ขึ้นมา ซึ่งในเวลานี้หลิงจู้ได้กลายเป็นสมบัติระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว จากนั้นนางพูดว่า “อีกไม่นานเจ้าก็จะรู้ว่าข้ามีความสามารถพอที่จะฆ่าเจ้าได้รึเปล่า!”
*หลิงจู้ คือ อาวุธวิเศษแส้หางม้าที่หลิงตู้ฉิงเคยสร้างเมื่อตอนต้น ๆ เรื่อง
เมื่อพูดจบ หลิงว่านถิงเด็ดขนแส้ของหลิงจู้ออกมาเก้าเส้นและเป่ามันออกไปในอากาศ ซึ่งเส้นขนที่ลอยออกไปทั้ง 9 เส้นนั้นพวกมันกลายเป็นอักษรเต๋าเก้าคำพร้อมกับพุ่งไปหาผู้เชี่ยวชาญเผ่ามนุษย์ระดับสวรรค์สมบูรณ์หรือขอบเขตสวรรค์ระดับ 8 ทันที
อักษรเต๋าทั้งเก้าประสานงานแยกหน้าที่กันเป็นอย่างดี มีทั้งการโจมตี ป้องกัน เหนี่ยวรั้ง ก่อกวนจนผู้เชี่ยวชาญเผ่ามนุษย์รู้สึกสับสนไปหมด และอดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้นว่า “นี่เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋าสวรรค์งั้นเหรอ!”
เมื่อรู้ว่าตัวตนของหลิงว่านถิงเป็นใครผู้เชี่ยวชาญเผ่ามนุษย์จึงไม่กล้าประมาทหลิงว่านถิงอีกแล้ว และใช้กำลังของเขาทั้งหมดโจมตีตอบโต้กลับไปที่หลิงว่านถิงโดยตรง
แต่แล้วเมื่อเขาเริ่มใช้กระบวนท่าโจมตีหลิงว่านถิงโดยตรง เขากลับพบว่าสถานการณ์ทุกอย่างมันยิ่งแย่ลง เพราะหลิงว่านถิงสามารถใช้อำนาของอักษรทั้งเก้าเลียนแบบการโจมตีของเขาได้ด้วย และส่งการโจมตีแบบเดียวกันคืนสนองมาที่เขา!
“ออกไปฆ่ามันซะ” หลิงตู้ฉิงออกคำสั่งผู้เชี่ยวชาญระดับสวรรค์สมบูรณ์ผู้หนึ่งที่ติดตามเขามา พลางชี้ไปที่เผ่าปีศาจตนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังจางไป๋ฟาน “จงใช้กระบวนท่าที่เจ้าถนัดมากที่สุดในการสู้กับมันแล้ว เจ้าจะสามารถสยบมันได้อย่างง่ายดาย”
“ไช่หยุน ปีศาจเผ่าวิญญาณอเวจีตนนั้นพ่อจะมอบให้เจ้าจัดการมัน เจ้าจงใช้คาถาวัฏจักรศักดิ์สิทธิ์เพื่อปกป้องวิญญาณของเจ้า และใช้เพลิงของสายเลือดเจ้าเผามันทั้งร่างและวิญญาณของมันทิ้งซะ อย่าปล่อยให้มันมีโอกาสหนีรอดไปได้” หลิงตู้ฉิงชี้ไปที่ปีศาจเผ่าวิญญาณอเวจี
หลิงไช่หยุนพยักหน้า “รับทราบท่านพ่อ!”
เมื่อพูดจบนางพุ่งตัวไปท้าปีศาจเผ่าวิญญาณอเวจีทันที และเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นนางสร้างประกายไฟจุดเล็ก ๆ กระจายทั่วบริเวณรอบล้อมนางและปีศาจเผ่าวิญญาณอเวจีจนเต็มไปหมด
แต่ประกายไฟที่นางสร้างขึ้นนั้นมันเป็นแค่ประกายไฟธรรมดาไม่ได้มีอำนาจมากมายอะไร ซึ่งแน่นอนว่าปีศาจเผ่าวิญญาณอเวจีเมื่อเห็นเช่นนี้มันก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย มันใช้ร่างที่มีคุณสมบัติพิเศษเป็นเหมือนวิญญาณและพลังจิตอันแข็งแกร่งของมันในการสู้กับหลิงไช่หยุน
แต่แล้วเมื่อสู้ไปได้สักพัก และหลิงไช่หยุนเห็นว่ามีประไฟรายล้อมพวกเขามากเพียงพอ แล้วนางจึงตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าสะใจว่า “เจ้าพลาดแล้วไอ้โง่ ตอนนี้เจ้าหนีไปไหนไม่ได้แล้ว!”
เมื่อนางพูดจบ ประกายไฟจุดเล็ก ๆ ที่ดูไร้พิษสงจู่ ๆ ก็ลุกพรึบขึ้นกลายเป็นดวงไฟสีแดงส้มรุนแรงในทันที
ด้วยความรุนแรงของดวงเพลิงนับไม่ถ้วนที่อยู่รายล้อม แม้แต่พลังของกฎต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ยังถูกดวงเพลิงเหล่านี้เผาไหม้ลบล้างไปจนหมด ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากแม้แต่พลังของกฎยังถูกลบล้างและปิดกั้น แล้วปีศาจเผ่าวิญญาณอเวจีจะสามารถออกไปจากบริเวณที่ถูกปิดล้อมนี้ได้อย่างไร?