พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 958 ศัตรูของสรรพสิ่ง
ตี้จ้างเดือดดาลขึ้นกว่าเดิมเป็นสิบเท่าเมื่อได้ยินคำพูดประโยคท้ายของหลิงตู้ฉิง
ในอดีตเขาคือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิเทพ และถึงแม้ว่าเขาจะตายจากการต่อสู้กับเทพบรรพกาลผู้สร้างเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายเพราะเทพบรรพกาลนั้นแข็งแกร่งเกินไป แถมเขายังได้เห็นเส้นทางแห่งการพิสูจน์เต๋าอีกต่างหาก
แต่ตอนนี้หลิงตู้ฉิงกลับดูถูกหาว่าเขาเป็นแค่มด ซึ่งสิ่งนี้มันทำให้เขายอมรับไม่ได้
ตี้จ้างตะโกนขึ้นทันทีด้วยความเดือดดาล “เจ้าน่ะสิมด!”
ในเวลาเดียวกับที่ตะโกน คลื่นพลังที่สถิตอยู่ในร่างศพก็แผ่กระจายออกไปปกคลุมทั้งโลกจำลอง
คลื่นพลังที่ตี้จ้างปลดปล่อยออกไปนั้นมัดตรึงร่างผู้คนทั้งหมดของตำหนักดับเซียนเอาไว้ในทันที จากนั้นร่างของผู้คนจำนวนมากก็ลอยเข้าไปในปากของตี้จ้างอย่างรวดเร็ว
เมื่อกินคนของตัวเองเสร็จ พลังในร่างของตี้จ้างยิ่งคลุ้มคลั่งกว่าเดิม เขามองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาอาฆาต จากนั้นปลดปล่อยคลื่นพลังที่ดูเป็นเหมือนหมอกสีม่วงเข้าล้อมรอบกายของตัวเอง
หลิงตู้ฉิงมองตี้จ้างกินผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในตำหนักดับเซียนด้วยสีหน้าระอาใจ เขาเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าหากคนเหล่านี้ยังขืนพัวพันกับศพนี้อยู่ ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะถูกกิน ซึ่งวันนี้มันก็เป็นจริงอย่างที่เขาพูด
เมื่อมองไปที่หมอกสีม่วงที่อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งซากศพ ซึ่งล้อมรอบกายของตี้จ้างอยู่ในขณะนี้ หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าปกติว่า “เจ้าได้กินคนของเจ้าไปหมดแล้วแถมยังตัดบ่วงกรรมที่เจ้ามีต่อโลกเบื้องล่างไปจนหมด ดังนั้นตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องขึ้นไปยังโลกเบื้องบน ซึ่งเมื่อเจ้าอยู่บนนั้นและยังสามารถพิสูจน์เต๋าของตัวเองได้ เมื่อเวลานั้นข้าจะไม่ขวางทางเจ้าอีก แต่สิ่งมีชีวิตในโลกเบื้องล่างนี้ข้าไม่ยอมให้เจ้าแตะต้องพวกเขาแน่นอน”
ตี้จ้างตวาดขึ้นทันที “ทำไมข้าต้องฟังคำสั่งของเจ้าด้วย!? สิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกเบื้องล่างนี้คืออาหารของข้า ข้ามีสิทธิ์ที่จะกินพวกมันทั้งหมด!”
หากเขาขึ้นไปยังโลกเบื้องบนและพิสูจน์เต๋าบนนั้น มันก็หมายความว่าเขาต้องกินเหล่าตัวตนที่อยู่ในระดับเทพทั้งหลาย ซึ่งเขาจะไปมีความแข็งแกร่งพอจะทำแบบนั้นได้ยังไง?
ในโลกเบื้องล่างนี้ทุกชีวิตมีความแข็งแกร่งไม่ต่างอะไรกับไก่หากเทียบกับเขา ดังนั้นมันจึงง่ายที่สุดที่เขาจะใช้สิ่งมีชีวิตในโลกเบื้องล่างนี้เพื่อพิสูจน์เต๋าของตัวเอง
เมื่อตวาดเสร็จ ตี้จ้างพุ่งตัวเข้าไปหาหลิงตู้ฉิงทันที
ไม่ว่าจะยังไงร่างของเขานั้นคือร่างที่เคยอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเทพมาก่อน ซึ่งต่อให้เขาจะไม่สามารถใช้พลังที่สถิตอยู่ในร่างได้อย่างไม่เต็มที่ ความแข็งแกร่งของร่างนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับอาวุธเต๋าอยู่ดี ซึ่งมันทำให้เขาไม่เกรงกลัวหลิงตู้ฉิงเลย
ตราบใดที่เขาฆ่าหลิงตู้ฉิงได้สำเร็จ เขาจะสามารถออกไปยังโลกภายนอกและเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะกลืนกินสิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งหมดเพื่อสร้างร่างกายและดวงวิญญาณของเขาขึ้นมาใหม่ ซึ่งมันจะทำให้เขามีคุณสมบัติพอที่จะพิสูจน์เต๋าของตัวเอง
เมื่อเห็นว่าตี้จ้างพุ่งเข้ามาหา หลิงตู้ฉิงก็หยิบง้าวเทวะพินาศออกมาทันทีและใช้พเนจรไร้จำกัดพุ่งหลบพร้อมกับพูดว่า “ในเมื่อเจ้าไม่ใส่ใจกับโอกาสดี ๆ ที่ข้ามอบให้ ถ้างั้นข้าคงเหลือเพียงทางเลือกเดียวคือฆ่าเจ้าทิ้งซะ”
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถฆ่าข้าได้ด้วยอาวุธเต๋างั้นเหรอ?” ตี้จ้างเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
“ก่อนหน้านี้เหล่าจักรพรรดิเทพก็โดนข้าสังหารไปไม่น้อย” หลิงตู้ฉิงยิ้มอย่างเย้ยหยัน “แม้แต่ตัวตนแบบเจ้าที่ต้องการพิสูจน์เต๋าโดยการทำร้ายผู้อื่นข้าก็เคยทำให้หยุดมาแล้วเช่นกัน เอาล่ะข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง จงหยุดและขึ้นไปโลกเบื้องบนซะ ไม่งั้นเจ้าอย่าหาว่าข้าไม่ปราณี!”
ตี้จ้างหัวเราะด้วยสีหน้าย้ยหยัน จากนั้นเขาพูดขึ้นในขณะที่เขายังคงพุ่งไล่ตามหลิงตู้ฉิงต่อไป “หากความแข็งแกร่งของเจ้าเทียบได้กับปากของเจ้า ข้าคงจะกลัวและถอยให้เจ้าอยู่ แต่ตอนนี้เจ้ามันก็แค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชัน ทำไมข้าต้องกลัวเจ้าด้วย?”
“ก็ได้!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ในเมื่อข้าให้โอกาสแล้วแต่เจ้ากลับยังไม่ยินยอม ถ้างั้นข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายวันนี้ ทำลายเทพ ทำลายปฐพี ทำลายสรรพสิ่ง ดับสิ้นตลอดกาล!”
เมื่อสิ้นเสียงตะโกน อำนาจของเจตจำนงแห่งการสังหารที่สถิตอยู่ในโลกทั้งหมดต่างพุ่งมารวมกันที่หลิงตู้ฉิง
เมื่อหลิงตู้ฉิงโบกง้าวเทวะพินาศ เวลาและมิติที่อยู่รอบ ๆ เขาและตี้จ้างถูกผนึกทันที
ในเวลาเดียวกัน สถานการณ์ที่โลกภายนอกก็ได้รับผลกระทบไปด้วย
ท้องฟ้าทั้งโลกกลายเป็นมืดมิดลง ดวงดาวทั้งหลายต่างเรียงตัวกันอยู่เหนือหัวของหลิงตู้ฉิงตามเจตจำนงของเขา พลังที่สถิตอยู่ในเส้นชีพจรของโลกต่างถูกส่งมาเกื้อหนุนร่างของหลิงตู้ฉิง
ในตอนนี้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในโลกเบื้องล่างทั้งหมดต่างสัมผัสได้ว่าในใจของพวกเขามีความอาฆาตบังเกิดขึ้นราวกับว่ามีศัตรูตัวฉกาจที่กำลังดำรงอยู่ ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องไปฆ่าให้ได้
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจว่าความรู้สึกอาฆาตนี้เกิดขึ้นได้ยังไง และตัวตนแบบไหนกันที่ทำให้พวกเขามีความรู้สึกแบบนี้ พวกเขาก็ยังปล่อยความรู้สึกอาฆาตนี้ให้พรั่งพรูออกไปโดยไม่ได้ควบคุมตามสัญชาตญาณของตัวพวกเขาเอง
มู่หยุนชาน ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในค่ายทหารที่ล้อมสันเขาทรราชอยู่ เขาอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเองเมื่อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนี้ “นี่สินะอำนาจที่แท้จริงเคล็ดวิชาสรรพสิ่งสังหาร!”
เขารู้ได้ทันทีว่าใครเป็นผู้ทำให้ปรากฏการณ์นี้บังเกิดขึ้น เพราะเคล็ดวิชานี้เขาเองก็ได้รับการถ่ายทอดมาจากหลิงตู้ฉิงเช่นกัน!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกตกตะลึงก็คือศัตรูแบบไหนกันที่ทำให้หลิงตู้ฉิงต้องใช้วิชานี้เข้าต่อกร
ในเหวมรณะ หลิงตู้ฉิงในขณะนี้มองไปที่ตี้จ้างด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นเขาพูดว่า “ในเมื่อเจ้าไม่ล้มเลิกความคิดที่จะกลืนสิ่งมีชีวิตในโลกเบื้องล่าง งั้นข้าจะเป็นตัวแทนของโลกและสวรรค์ในการกำจัดเจ้าเอง!”
ตี้จ้าง ในตอนนี้รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมากเพราะเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้หลิงตู้ฉิงถูกเกื้อหนุนด้วยอำนาจของเจตจำนงแห่งการสังหารจากโลกทั้งใบ หรือถ้าจะให้พูดอีกอย่างก็คือตอนนี้เขาได้กลายเป็นศัตรูกับโลกและสวรรค์รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไปแล้ว
โลกและสวรรค์เกลียดเขาไม่ต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเกลียดเขาเช่นกันและต้องการให้เขาตาย
เมื่อทุกอย่างลงเอยเช่นนี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตาย
“ข้าผิดไปแล้ว! โปรดให้โอกาสข้าได้ขึ้นสู่โลกเบื้องบนอีกครั้งเถอะ!” ตี้จ้างรีบตะโกนขึ้นทันทีด้วยความร้อนรน
หลิงตู้ฉิงมองอย่างเหยียดหยามและตอบกลับ “มันสายไปแล้ว!”
เมื่อหลิงตู้ฉิงพูดจบ กังหันสีทองขนาดยักษ์ 2 อันปรากฏขึ้นขนาบข้างซ้ายขวาร่างของตี้จ้าง จากนั้นกังหันทั้งสองเริ่มหมุนดูดอำนาจเต๋าที่สถิตอยู่ในร่างศพของตี้จ้างให้สลายออกไปในทันที
ตี้จ้างรีบใช้พลังทั้งหมดที่เขามีต้านทานอย่างสุดกำลังหวังที่จะหลุดพ้นจากอำนาจของกังหันยักษ์ที่ตรึงร่างเขาไว้
แต่ยิ่งเขาต่อต้านมากเท่าไหร่ เขาก็รู้สึกได้ว่าอำนาจที่ตรึงร่างของเขามันยิ่งรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมจนท้ายที่สุดเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ต้องปล่อยให้กังหันยักษ์ทั้งสองดูดพลังของเขาออกไปเรื่อย ๆ
อำนาจเต๋าที่สถิตอยู่ในร่างศพของตี้จ้าง เมื่อพวกมันถูกดูดออกมา พวกมันก็สลายกลายเป็นพลังธรรมชาติเข้าหลอมรวมกับโลกสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับโลกมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าการหมุนของกังหันยักษ์จะดูช้าหากมองด้วยตาเปล่า แต่อัตราการถูกสูบอำนาจเต๋าออกไปจากร่างศพนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก แค่เพียงครึ่งวันอำนาจเต๋าอันมหาศาลที่สถิตอยู่ในร่างศพของตี้จ้างก็ถูกสูบออกไปจนหมด
หลังจากอำนาจเต๋าที่สถิตอยู่ในร่างถูกสูบไปจนหมดแล้ว กังหันยักษ์ก็เริ่มทำการย่อยสลายร่างศพของตี้จ้างรวมไปถึงจิตสำนึกที่ยังหลงเหลือของเขาอยู่ทั้งหมด
ในตอนนี้ไม่เพียงแค่เขาจะไม่สามารถขึ้นไปโลกเบื้องบนได้ เขายังไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เกิดใหม่อีกต่างหาก ทุกสิ่งทุกอย่างของตี้จ้างถูกทำให้สลายกลายเป็นพลังงานของโลกและสวรรค์แทน