พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 960 ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งแย่
เมื่อเห็นร่างกายของหนานกงหลิงมีแสงสีขาวและดำกระพริบสลับกันไปมาไม่หยุด ผู้คนของตำหนักเซียนมืดต่างแสดงสีหน้าโง่งมไปตาม ๆ กัน
เท่าที่พวกเขารู้ ธาตุแสงและธาตุมืดไม่เคยอยู่ร่วมกันได้มาก่อน แต่ตอนนี้ตัวตนของหนานกงหลิงกลับฉีกทุกความเชื่อที่พวกเขาเคยเข้าใจจนแหลกลาญ
ในตอนนี้ผู้คนของตำหนักเซียนมืดเริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับตัวตนของหนานกงหลิง หากพวกเขาสามารถเอาตัวหนานกงหลิงมาศึกษาในเรื่องนี้และสร้างคนที่เป็นเหมือนหนานกงหลิงเพิ่มขึ้นได้อีก ตำหนักเซียนมืดจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เจ้าตำหนักเซียนมืดพูดกับหนานกงหลิงทันที “ข้าไม่นึกเลยว่าแท้จริงแล้วเจ้าคือคนของตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ แต่ด้วยการที่เจ้าเป็นคนของตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์การที่เจ้าลอบเข้ามาบ่มเพาะในตำหนักเซียนมืดของข้าเช่นนี้มันถือว่าเป็นความผิดที่ใหญ่หลวง แต่ถ้าเจ้ายอมที่จะอยู่ที่นี่ต่อและสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อตำหนักเซียนมืด ข้าจะอภัยให้กับความผิดของเจ้าทั้งหมด”
หนานกงหลิงส่ายหัว “ผู้อาวุโส ข้าคงต้องขออภัยด้วย ข้าจำเป็นต้องปฏิเสธ ครอบครัวของข้าทั้งหมดคือคนของตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่สามารถย้ายมาอยู่ตำหนักเซียนมืดได้จริง ๆ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเจ้าตำหนักเซียนมืดเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจเช่นนี้ งั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดขึ้นว่า “ข้าแนะนำว่าเจ้าอย่าได้ทำอะไรที่มันเกินเลยไปหน่อยจะดีกว่า ไม่งั้นผลลัพธ์ที่เจ้าต้องเผชิญมันจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่”
เจ้าตำหนักเซียนมืดตอบกลับหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าเย็นชา “เทพมรณะ นี่มันไม่ใช่ยุคของเจ้า เจ้าควรจะเจียมตัวเองสักหน่อยไม่งั้นข้าจะทำให้ช่วงเวลาที่เจ้าถูกขังอยู่ที่นี่ไม่ต่างอะไรกับอยู่ในนรก!”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “นั่นมันก็นานเกินไป อย่างมากข้าคงอยู่ที่นี่แค่สักประมาณปีสองปี”
เมื่อพูดจบ หลิงตู้ฉิงใช้เจตจำนงของตัวเองตรึงร่างของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันผู้หนึ่งของตำหนักเซียนมืดที่อยู่ใกล้ ๆ จากนั้นดึงตัวเขามาหาและพูดว่า “จงส่งพลังธาตุมืดที่อยู่ในร่างกายเจ้าพร้อมกับความเข้าใจในเต๋าแห่งธาตุมืดทั้งหมดไปให้กับศิษย์ของข้าเดี๋ยวนี้”
แน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันที่ถูกจับมาไม่ยอมแน่นอน เขาพยายามโคจรพลังของตัวเองขัดขืนทันที
เมื่อเห็นว่าคำพูดของตัวเองไม่ได้ผล หลิงตู้ฉิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ จากนั้นเขาใช้เจตจำนงของตัวเองสูบพลังธาตุมืดและความรู้ต่าง ๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันเข้าใจในเต๋าธาตุมืดส่งต่อไปให้กับหนานกงหลิงทันที
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงกล้าสูบพลังคนของพวกเขาแบบนี้ อารมณ์ของผู้คนตำหนักเซียนมืดต่างพุ่งทะลุจุดเดือดทันที โดยเฉพาะผู้สำเร็จเต๋าตำหนักเซียนมืด เขาตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล “เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำอะไรเจ้างั้นเหรอ? ข้าจะให้เจ้าเผชิญกับความน่ากลัวของพลังแห่งความมืดที่แท้จริง! คำพิพากษาแห่งความมืด!”
ในเวลาเดียวกับที่ผู้สำเร็จเต๋าลงมือ หลิงตู้ฉิงควักง้าวเทวะพินาศมาไว้ในมือ จากนั้นเขาปักมันลงไปที่พื้นพร้อมกับตะโกนว่า “ในนามของข้า ข้าขอโมฆะเต๋าแห่งความมืดที่อยู่ในที่แห่งนี้ทั้งหมด!”
ในตอนนี้เมื่อเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันขั้นสูงแล้ว เขตแดนประกาศิตของเขาจึงยิ่งมีอำนาจมากขึ้นไปกันใหญ่
อย่าว่าแต่ผู้สำเร็จเต๋าที่ไม่สามารถทำลายเขตแดนของเขาได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญก็ได้แต่ยืนคอตกเมื่อเจอกับเขาตอนนี้
ภายใต้อำนาจของเขตแดนประกาศิต บรรดาผู้คนของตำหนักเซียนมืดต่างตื่นตระหนกกันยกใหญ่ เพราะพวกเขาสัมผัสได้ทันทีว่าจู่ ๆ เต๋าแห่งความมืดที่พวกเขาเคยพึ่งพิงตอนนี้มันก็หายไปจนหมด
พวกเขาต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าโง่งมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แม้แต่ผู้สำเร็จเต๋า ซึ่งมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมากยังรู้สึกโง่งมไปเช่นกัน เขารีบตวาดขึ้นทันที “นี่เจ้าทำอะไรลงไป!? รีบคืนเต๋าแห่งความมืดของพวกข้ามาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นข้าฆ่าทั้งเจ้าและศิษย์ของเจ้าแน่!”
หลิงตู้ฉิงจ้องไปที่ผู้สำเร็จเต๋าและพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่อยากตายก็หุบปากไปซะ ไม่งั้นเจ้าจะได้เป็นผู้สำเร็จเต๋าคนแรกของยุคที่ตายลง เจ้ามันก็แค่ผู้สำเร็จเต๋าหน้าใหม่กระจอก ๆ อย่าได้คิดจะมาเทียบตัวเสมอข้า ข้าจะบอกให้รู้ไว้การฆ่าเจ้ามันไม่ได้ยากไปกว่าการพลิกฝ่ามือเลยสำหรับข้า! และถ้าเจ้ายังไม่มอบแก่นแท้พลังธาตุไม้มาให้ข้า ข้าจะจับคนของเจ้ามาสูบพลังให้กับศิษย์ของข้าเรื่อย ๆ จงจำเอาไว้ทุกนาทีที่เจ้าพยายามถ่วงเวลาไม่มอบมันให้ข้า ตำหนักเซียนมืดของเจ้าจะยิ่งเสียหายมากขึ้นเรื่อย ๆ!”
สีหน้าผู้คนของตำหนักเซียนมืดรวมไปถึงผู้สำเร็จเต๋ากลายเป็นน่าเกลียดเป็นอย่างมาก ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถใช้พลังแห่งความมืดได้เลย พวกเขาไม่รู้จะเอาอะไรไปต่อกรกับเทพมรณะผู้นี้!
เมื่อเห็นว่าผู้สำเร็จเต๋ายังคงดื้อดึงไม่มอบแก่นแท้พลังธาตุไม้มาให้ หลิงตู้ฉิงก็สูบพลังผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันไปเรื่อย ๆ และถ่ายพลังแห่งความมืดให้กับหนานกงหลิงจนเมื่อเขาเห็นว่าสภาพของผู้เชี่ยวชาญที่เขาจับเอาไว้ไม่ไหวแล้ว เขาก็โยนร่างที่ไร้เรี่ยวแรงออกไป จากนั้นก็จับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันคนใหม่มาถ่ายพลังให้กับหนานกงหลิงต่อ
ผู้คนของตำหนักเซียนมืดยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจเมื่อเห็นภาพเช่นนี้ พวกเขาคือกลุ่มกำลังมหาอำนาจที่ไม่เคยยอมก้มหัวให้ใครมาก่อน แต่วันนี้คนแค่คนเดียวกลับทำให้พวกเขาตกอยู่ในสภาพไม่ต่างอะไรกับไก่ในเล้าที่รอถูกเชือด!
พวกเขาอยากจะโจมตีตอบโต้เป็นอย่างมาก แต่เต๋าแห่งความมืดของพวกเขากลับหายไปดื้อ ๆ ซึ่งมันทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาหายไปถึง 6 ส่วน
ด้วยความแข็งแกร่งที่เหลือแค่นี้ แถมพวกเขายังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าหลิงตู้ฉิงทำให้เต๋าแห่งความมืดของพวกเขาหายไปได้ยังไง แล้วพวกเขาจะสู้ได้ยังไง?
เมื่อผ่านไปอีกพักหนึ่ง พวกเขาก็เห็นว่าหลิงตู้ฉิงจับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันอีกคนมาถ่ายพลังให้กับหนานกงหลิงต่อ ซึ่งภาพนี้มันทำให้พวกเขาอยากจะร้องไห้เพราะความเจ็บใจ
แน่นอนว่าการถูกสูบพลังออกไปเช่นนี้มันมีผลเสียแน่นอน รากฐานการบ่มเพาะของเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ถูกดูดพลังออกไปเสียหายอย่างหนักในทันที ซึ่งมันทำให้อนาคตการบ่มเพาะของพวกเขาถือว่าจบเห่
เมื่อเห็นว่าผู้คนของตนเองตกเป็นเหยื่อของหลิงตู้ฉิงมากขึ้นเรื่อย ๆ บรรดาผู้ของตำหนักเซียนมืดต่างเริ่มมองไปที่ผู้สำเร็จเต๋าของพวกเขาพลางคิดในใจ
ไอ้แก่นแท้ธาตุไม้อะไรนั่นท่านไม่ใช้มันอยู่แล้วไม่ใช่รึไง ทำไมท่านไม่รีบให้เขาไปสักที!?
หลายคนอยากจะตะโกนประโยคนี้ออกไปดัง ๆ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเพราะผู้สำเร็จเต๋าเป็นผู้อาวุโสของพวกเขา พวกเขาจะกล้าพูดอะไรมากได้ยังไง?
ทางด้านของผู้สำเร็จเต๋า เมื่อเห็นว่าอนาคตการบ่มเพาะผู้คนของเขาถูกทำลายลงไปเรื่อย ๆ เขาก็เริ่มจะทนไม่ไหว เขารู้สึกเจ็บปวดใจจนเกินจะบรรยาย
ในตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าทำไมผู้คนในอดีตถึงได้กลัวหลิงตู้ฉิงกันนัก ที่แท้วิธีการที่เทพมรณะผู้นี้ใช้มันก็โหดเหี้ยมแบบนี้นี่เอง!
หลังจากหลิงตู้ฉิงจับผู้เชี่ยวชาญของตำหนักเซียนมืดมาถ่ายพลังติดต่อกัน 8 คน ระดับการบ่มเพาะของหนานกงหลิงก็พุ่งทะยานขึ้นไปอยู่ระดับสวรรค์สมบูรณ์ ซึ่งมันเป็นเวลาเดียวกับที่ผู้สำเร็จเต๋าตำหนักเซียนมืดยอมพ่ายแพ้เช่นกัน
เหตุผลที่เขาต้องยอมแพ้ก็เพราะหลิงตู้ฉิงไม่ได้จับแค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันมาถ่ายพลังเท่านั้น หลัง ๆ เขาเริ่มจับตัวผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจักรพรรดิมาถ่ายพลังด้วยและคนล่าสุดที่โดนจับมาถ่ายพลังก็คือผู้เชี่ยวชาญขอบเขตมหาจักรพรรดิ!
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบมหาจักรพรรดิยังถูกหลิงตู้ฉิงจับมาถ่ายพลังได้ง่าย ๆ ราวกับเป็นกระต่ายน้อยเช่นนี้ ความหวังของผู้คนในตำหนักเซียนมืดดับลงทันที
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่พยายามจะต่อต้าน แต่พวกเขาพยายามต่อต้านอย่างสุดใจแล้วแต่มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
“ข้ายอมมอบแก่นแท้พลังธาตุไม้ให้เจ้า แต่เจ้าจะต้องออกไปจากตำหนักเซียนมืดของข้าทันที!” ผู้สำเร็จเต๋าตวาดเสียงใส่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าหม่นหมอง
หลิงตู้ฉิงยิ้มให้กับผู้สำเร็จเต๋าและพูดว่า “งั้นก็ส่งมันมาให้ข้า ส่วนตัวเจ้าเองจงขึ้นไปโลกเบื้องบนซะเดี๋ยวนี้ อย่าอยู่ที่โลกเบื้องล่างอีก”
“ข้าจะขึ้นไปโลกเบื้องบนเวลาไหนมันก็เรื่องของข้า ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า!” ผู้สำเร็จเต๋าตวาดกลับด้วยสีหน้าเดือดดาล
อันที่จริงเขาวางแผนเอาไว้ว่าจะอยู่ต่อไปอีกเพราะเขาต้องการที่จะรอโอกาสชิงรางวัลจากสวรรค์ที่ผู้สำเร็จเต๋าคนอื่นได้รับหรือถ้าจะให้ดีที่สุดเขาก็หวังที่จะได้รับแก่นแท้พลังธาตุมืดมาให้กับตัวเอง ดังนั้นเมื่อเขาถูกบังคับให้ขึ้นไปโลกเบื้องบนเช่นนี้เขาจึงไม่ยินยอมทันที
หลิงตู้ฉิงพ่นลมหายใจ จากนั้นเขาไม่พูดอะไรต่อ เขาพุ่งเข้าไปคว้าคอผู้สำเร็จเต๋าทันทีและตรึงร่างผู้สำเร็จเต๋าด้วยเจตจำนงของเขาเอง จากนั้นเขาลากตัวผู้สำเร็จเต๋ามาเตรียมถ่ายพลังให้กับหนานกงหลิงเป็นรายต่อไป
ผู้สำเร็จเต๋าตำตะลึงในทันที เขาไม่นึกเลยว่าหลิงตู้ฉิงจะแข็งแกร่งถึงขนาดที่เขาเองก็ไม่สามารถต้านทานอะไรได้!
เมื่อรู้สึกได้ว่าพลังแห่งความมืดในร่างเริ่มถูกสูบออก ผู้สำเร็จเต๋าร้องลั่นด้วยสีหน้าหวาดกลัวทันที “องค์เหนือหัว ๆๆๆๆ ช้าก่อน ๆ ข้าผิดไปแล้ว ๆ ข้าจะทำตามที่ท่านสั่งทุกอย่าง! ได้โปรดเมตตาข้าด้วยให้โอกาสข้าอีกครั้งเถอะ ข้าจะขึ้นไปโลกเบื้องบนเดี๋ยวนี้เลย…”