พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 972 เดินทางกลับ
เมื่อเห็นว่าเทพโลหิตถูกแยกร่างออกเป็น 18 ส่วนแถมยังส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดออกมา ผู้ปกครองโลกตนอื่น ๆ ต่างก็แสดงสีหน้าตื่นตระหนก
“พวกเราทำตามที่ท่านบอกทุกอย่างแล้วท่านอย่าได้ทำร้ายพวกของเราอีกเลย!” มนุษย์นกปีกขาวรีบเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าวิงวอน
หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “อย่าได้แผ่จิตมุ่งร้ายต่อข้า ข้าไม่ใช่ตัวตนที่พวกเจ้าสามารถเทียบเคียงด้วยได้! พวกเจ้าคิดว่าการที่พวกเจ้าหลอมรวมเข้ากับโลกแล้วมันจะทำให้ข้าฆ่าพวกเจ้าไม่ได้งั้นเหรอ? ในอดีตข้าฆ่าตัวตนแบบพวกเจ้ามาจนนับไม่ถ้วน! แม้แต่จักรพรรดิเทพข้าก็ยังสังหารมาแล้วเป็นสิบ! นี่ข้าปราณีมากแล้วที่แยกร่างมันเพียงอย่างเดียวหากเทียบกับสิ่งที่มันคิดกับข้า นับจากนี้ข้าจะผนึกพลังการสมานตัวของมันให้มันทนทุกข์ทรมานไปอีก 100,000 ปีเพื่อเป็นการลงโทษ ส่วนพวกเจ้าหากพวกเจ้าไม่พอใจ พวกเจ้าสามารถลองสู้กับข้าได้ แต่ข้าบอกเอาไว้ก่อนผลลัพธ์ที่พวกเจ้าต้องเผชิญมันจะไม่ใช่ความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อยแน่นอน”
ในตอนนี้เทพโลหิตไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้วแม้แต่มองมันยังไม่กล้ามองหลิงตู้ฉิงตรง ๆ ด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่สามารถแยกร่างมันได้อย่างง่ายดาย แถมสามารถผนึกพลังของมันได้ มันจะกล้าหืออืออีกได้ยังไง?
จากนั้นหลิงตู้ฉิงพาหลิงยี่เทียนสำรวจโลกจำลองทั้งสี่จนทั่ว เพื่อตรวจสอบใหแน่ใจว่าพวกอสูรไม่ได้ซ่อนใครเอาไว้อีกโดยเฉพาะโลกของเทพโลหิต พวกเขาตรวจสอบซ้ำ ๆ ถึง 3 รอบเพื่อให้แน่ใจที่สุด
“ขอบคุณท่านพ่อ!” หลิงยี่เทียนหัวเราะ
หากมีแค่เขาเพียงลำพัง เขาคงไม่สามารถต่อรองอะไรได้กับตัวตนผู้ปกครองโลกจำลองทั้งสี่เช่นนี้
หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เมื่อไหร่ที่ส่งผู้คนของอาณาจักรผู้กล้าไปยังภูมิภาคอี้ซางหมดแล้ว พวกเราเองก็ควรไปจากที่นี่ทันที”
หลังจากนั้นเมื่อผู้คนของอาณาจักรผู้กล้าถูกส่งตัวไปหมดแล้ว หลิงฟ่างหัวจึงถอนประตูเคลื่อนย้ายออกพร้อม ๆ กับกองทัพพันธมิตรก็ค่อย ๆ ถอยทัพออกจากสันเขาหมื่นอสูร
ก่อนที่หลิงตู้ฉิงจะจากไป เขาหันกลับไปพูดกับผู้ปกครองโลกจำลองทั้งสี่ของเผ่าอสูรว่า “หลังจากนี้พวกเจ้าจงอยู่กันอย่างสงบ อย่าได้สร้างความรำคาญให้กับข้าอีก!”
เมื่อเห็นว่าหลิงตู้ฉิงและกองทัพพันธมิตรจากไปแล้ว เทพโลหิตจึงรีบพยายามใช้พลังทั้งหมดที่ตัวมันเองมีลบพลังของหลิงตู้ฉิงที่ผนึกพลังการฟื้นฟูของมันเอาไว้
อันที่จริงด้วยความแข็งแกร่งของมัน ไม่ว่าจะเป็นบาดแผลที่รุนแรงแค่ไหนบาดแผลเหล่านั้นมันจะสมานตัวในทันทีภายในพริบตา แถมมันยังไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดกับบาดแผลที่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ด้วยพลังของหลิงตู้ฉิงไม่เพียงแต่บาดแผลของมันจะไม่สามารถสมานตัวได้ แต่มันยังรู้สึกเจ็บปวดอีกต่างหาก
หลังจากพยายามลบล้างพลังของหลิงตู้ฉิงอยู่นาน ท้ายที่สุดมันก็ได้แต่กัดฟันกรอดและถอดใจเพราะมันไม่สามารถที่จะลบพลังของหลิงตู้ฉิงที่เกาะติดอยู่กับทุกชิ้นส่วนร่างกายของมันได้เลย ร่างของมันยังคงแยกกันอยู่ถึง 18 ส่วน
“พวกเจ้าจะอยู่เฉย ๆ กันไปอีกนานแค่ไหน ช่วยข้าที!” เทพโลหิตหันไปตวาดใส่ผู้ปกครองโลกจำลองอีก 3 ตน
จากนั้นผู้ปกครองโลกจำลองอีก 3 ตนจึงลองประสานพลังของพวกเขาเข้าช่วยลบพลังของหลิงตู้ฉิงที่เกาะอยู่บนชิ้นส่วนร่างกายของเทพโลหิต ซึ่งท้ายที่สุดมันก็ไม่ได้ผลเหมือนกัน
มนุษย์นกปีขาวเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ามืดหม่น “เทพโลหิต ข้าคิดว่าทางออกเดียวของเจ้าก็คือรอเวลาไปอีก 100,000 ปี ตามที่คนผู้นั้นบอก พวกข้าช่วยเจ้าไม่ได้จริง ๆ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเทพโลหิตเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม ในใจของมันไม่ยินยอมผลลัพธ์เช่นนี้ แต่ท้ายที่สุดมันก็ได้แต่ทำใจยอมรับเพราะมันเองก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
ทางด้านของกองทัพพันธมิตร ในขณะนี้พวกเขาต่างคิดถึงเรื่องการแบ่งทรัพย์สมบัติที่ได้จากพวกอสูรทั้งหลายที่ตายไปโดยเฉพาะอาวุธเต๋าทั้ง 3 ชิ้น
อย่างไรก็ตาม อาวุธเต๋าทั้ง 3 ชิ้นนั้นอยู่ในการครอบครองของง้าวเทวะพินาศ ดังนั้นมันจึงไม่มีใครสักคนที่กล้าเอ่ยปากขอ
กลุ่มที่ดูกลัวง้าวเทวะพินาศมากที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นกลุ่มของสำนักเบญธาตุ
พวกเขาต่างนึกย้อนไปถึงตอนที่หลิงตู้ฉิงไปเยือนสำนักพวกเขา ซึ่งถ้าสมมุติในตอนนั้นพวกเขาเอ่ยปากปฏิเสธไป ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับสำนักพวกเขามันคงมีแต่หายนะและหายนะ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่ถ้าเทียบกับสันเขาหมื่นอสูรแล้วพวกเขารู้ตัวดีว่ายังด้อยกว่าโดยเฉพาะเมื่อเผ่าอสูรมีตัวตนที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโลกถึง 4 ตัวตน
จากนั้นเมื่อกองทัพพันธมิตรถอยออกมาถึงจุดที่พวกเขาคิดว่าปลอดภัย หลิงยี่เทียนจึงสั่งหยุดทัพและตั้งค่ายเพื่อที่เขาจะได้สามารถแบ่งทรัพย์สมบัติที่ได้จากพวกอสูรให้กับทุกกองกำลังที่เข้าร่วมตามผลงานที่พวกเขาได้ทำลงไป
มองไปที่หลิงยี่เทียน ซึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการคำนวณว่าจะต้องแบ่งอะไรให้ใครบ้าง หลิงตู้ฉิงยิ้มและเอ่ยขึ้น “พ่อจะพาคนในครอบครัวของเรากลับไปที่อาณาจักรจันทราก่อน ส่วนตัวเจ้าเองเมื่อเสร็จธุระเมื่อไหร่ก็จงรีบกลับมาในทันที สงครามครั้งนี้มันส่งผลให้พวกเจ้าเกือบทุกคนแทบจะกลายเป็นผู้สำเร็จเต๋ากันแล้ว”
หลิงยี่เทียนพยักหน้า “ท่านพ่อกลับไปก่อนได้เลย เมื่อเสร็จแล้วข้าจะรีบตามกลับไป!”
เนื่องจากชัยชนะอันสวยงามต่อเผ่าอสูร ชื่อเสียงของหลิงยี่เทียนจึงยิ่งโด่งดังมากไปกันใหญ่ ส่งผลให้จำนวนผู้ที่ศรัทธาเขามากขึ้นอีกหลายเท่าตัวและด้วยพลังแห่งความศรัทธาที่เพิ่มมากขึ้น มันจึงทำให้ระดับการบ่มเพาะของเขาทะลวงขึ้นไปอีกอย่างบ้าคลั่ง จนในตอนนี้เขาใกล้จะทะลวงระดับไปเป็นผู้สำเร็จเต๋าแล้ว
หลังจากพูดกับหลิงยี่เทียนเสร็จ หลิงตู้ฉิงหันไปหาหลิงว่านถิงกับหลิงไช่หยุน และพูดว่า “ส่วนพวกเจ้าสองคนจงกลับไปที่สำนักของพวกเจ้าเพื่อทะลวงขึ้นเป็นผู้สำเร็จเต๋าให้เร็วที่สุด!”
“ท่านพ่อ ท่านจะไม่ช่วยพวกเราทะลวงระดับงั้นเหรอ?” หลิงว่านถิงและหลิงไช่หยุนรีบถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “มหาวิถีเต๋าในสำนักเต๋าสวรรค์และภูเขาฟีนิกซ์ต่างมีพลังเพียงพอทำให้พวกเจ้ากลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีพ่อพวกเจ้าก็สามารถทะลวงระดับได้เองโดยที่ไม่ยากเย็นอะไรเลย หรือต่อให้มีคนลอบโจมตีพวกเจ้าในระหว่างที่ทะลวงระดับ พวกเจ้าทั้งคู่ก็มีอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์มากมายคอยปกป้องอยู่หรือถ้าหากมีปัญหาพวกเจ้าไม่สามารถรับมือได้ไหวจริง ๆ เกิดขึ้น พ่อก็สามารถไปหาพวกเจ้าได้ทันทีผ่านทางประตูเคลื่อนย้าย ดังนั้นพวกเจ้าไม่ต้องกังวลอะไรหรอก หลังจากนี้เมื่อพวกเจ้ากลายเป็นผู้สำเร็จเต๋าเมื่อไหร่ พวกเจ้าค่อยไปหาพ่อที่อาณาจักรจันทราอีกที”
“เอาแบบนั้นก็ได้ หลังจากพวกเราเป็นผู้สำเร็จเต๋าพวกเราจะกลับไปหาท่านพ่อที่อาณาจักรจันทรา!” หลิงว่านถิงเอ่ยขึ้น “หลังจากนั้นพวกเราจะออกไปตามหาผู้สำเร็จเต๋าคนอื่น ๆ เพื่อเอารางวัลจากสวรรค์ที่พวกเขาได้รับมาให้ท่านพ่อ!”
เมื่อคุยกันต่ออีกสักพัก หลิงไช่หยุนก็พาผู้คนของนางแยกกลับไปที่ภูเขาฟีนิกซ์ ส่วนหลิงว่านถิงก็กลับไปที่สำนักเต๋าสวรรค์กับคนของนางและซวนหยวน ซึ่งคอยทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันไม่ห่าง
เมื่อเห็นว่าลูก ๆ ของเขาแยกย้ายกันไปแล้ว หลิงตู้ฉิงก็จากไปพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ เช่นกัน
หลังจากกลับไปถึงคฤหาสน์สราญรมย์ หลิงตู้ฉิงครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นเขาเรียกหลิงเจิ้นฮุยลูกของหลิงยู่ชานให้เข้ามาหา และพูดว่า “ปู่จะทิ้งอาวุธเต๋าเอาไว้ที่คฤหาสน์สราญรมย์ชิ้นหนึ่งเพื่อให้เจ้าใช้มันปกป้องตระกูลของเรา หลังจากที่ปู่และพ่อและป้า ๆ อา ๆ ของเจ้าขึ้นไปอยู่โลกเบื้องบนแล้ว ส่วนหนังสือที่ปู่เคยมอบให้เจ้าอ่าน เจ้าจงรีบอ่านมันให้เยอะที่สุดเพราะอีกไม่นานปู่จะต้องเอามันคืน”
หลิงตู้ฉิงยังจำเป็นต้องใช้หนังสือของถังชี่หยุนและเขายังมีพันธะอยู่กับมัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมอบมันให้กับหลิงเจิ้นฮุยได้ ส่วนอาวุธเต๋าไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะเขายังเหลืออยู่อีก 2 อัน