พ่อเลี้ยงยอดเซียน - บทที่ 983 ทวงสัญญา
อู๋เมิ่งรีบออกจากห้องของตี๋ฮ่าวทันทีเมื่อเขาฉายภาพกลุ่มของหลิงตู้ฉิงเสร็จ
“เหลือขนนกอีกไม่กี่แบบพัดของข้าก็จะกลายเป็นอาวุธเต๋า!” อู๋เมิ่งเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ “และเมื่อไหร่ที่ข้าได้รับการเกื้อหนุนจากอาวุธเต๋า ระดับการบ่มเพาะของข้าก็จะทะลวงขึ้นไปยังขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!”
แต่แล้วในทันทีที่เขาพูดจบประโยค สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที
“เวรแล้ว ข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย!” อู๋เมิ่งอุทานขึ้นกับตัวเอง
อู๋เมิ่งคือสมาชิกของเผ่าอีกา ดังนั้นเขาจึงมีพรสวรรค์ในด้านรับรู้หายนะที่กำลังจะขึ้นในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาเขารับรู้เฉพาะหายนะของคนอื่น แต่วันนี้มันกลับเป็นหายนะของตัวเขาเองซะอย่างนั้น?
“นี่เป็นเพราะข้าเผยข้อมูลของคนกลุ่มนั้นงั้นเหรอ? หรือว่าเป็นเพราะตี๋ฮ่าวคิดไม่ซื่อกับข้าหลังจากได้ข้อมูลไป?” อู๋เมิ่งพึมพำกับตัวเอง
เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุไหนที่ทำให้หายนะบังเกิดขึ้นกับเขา
“ไม่ได้การแล้ว สัมผัสมันแจ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ หายนะครั้งนี้มันร้ายแรงถึงชีวิตแน่นอน!” อู๋เมิ่งเริ่มแสดงสีหน้าตื่นตระหนก
ตอนนี้เขากำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเอายังไงต่อ เขาไม่อยากจะไปจากที่นี่ตอนนี้เพราะเขากำลังทำงานให้กับตระกูลกุยไห่ ซึ่งตระกูลกุยไห่จ่ายค่าจ้างให้กับเขางามมากแถมบรรดาผู้คนที่มาถามข้อมูลก็มอบใต้โต๊ะให้กับเขาอีก หากเขาจากไปตอนนี้ในอนาคตมันจะมีงานไหนที่ดีขนาดนี้กัน?
แต่แล้วเมื่อเขาครุ่นคิดทบทวนอีกรอบหนึ่ง และคำนึงว่าหายนะครั้งนี้มันคือถึงตาย เขาจึงตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด
“เอาเป็นว่าข้าจะรอเข้าไปที่แม่น้ำมหาดาราก่อน จากนั้นเมื่อข้าได้ขนนกครบเมื่อไหร่ข้าจะรีบจากไปในทันที!” อู๋เมิ่งพูดกับตัวเองอย่างแน่วแน่
ในเวลาเดียวกัน ทางด้านของตี๋ฮ่าวก็รีบส่งคนของเขาออกตามหากลุ่มของหลิงตู้ฉิงทันที ร่างจันทราศักดิ์สิทธิ์นั้นมีความสำคัญต่อเขามาก ดังนั้นเขาจึงต้องรีบตามหาให้เจอ
ทางด้านของหลิงตู้ฉิง ในขณะนี้เมื่อถามข้อมูลจากอู๋เมิ่งเสร็จ พวกเขาก็เดินออกหาที่พักสำหรับรอเข้าแม่น้ำมหาดาราในอีก 2,000 ปีข้างหน้า
“อันดับแรกพวกเราหาที่พักกันก่อน พวกเรามีเวลาเตรียมตัวกันอีก 2,000 ปี ซึ่งไม่ใช่น้อย ๆ ก่อนที่พวกเราจะเข้าไปในแม่น้ำมหาดารา ระหว่างนี้พวกเจ้าทั้งหมดจงตั้งใจบ่มเพาะ ด้วยเวลาขนาดนี้อย่างน้อย ๆ พวกเจ้าน่าจะทะลวงขอบเขตไปถึงขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์หรือไม่อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะไม่ต่ำกว่าขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญขั้นสูง” หลิงตู้ฉิงเอ่ยขึ้น
เย่ชิงเฉิงเอ่ยถามกลับ “สามี ขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์มันคือขอบเขตเดียวกับที่พี่สามของข้าเคยอยู่ใช่ไหม?”
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “พี่สามของเจ้าเคยอยู่ขอบเขตเจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์เมื่อชีวิตก่อนของเขา ซึ่งมันไม่ใช่ขอบเขตที่สูงอะไรนัก ยังมีขอบเขตที่อยู่เหนือกว่านั้นอีกหลายขอบเขตเช่น ขอบเขตราชาศักดิ์สิทธิ์ ขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ขอบเขตเทวะราชาและสุดท้ายก่อนที่จะกลายเป็นตัวตนที่สามารถอยู่ได้นิรันดร์ก็คือ ขอบเขตจักรพรรดิเทพ”
“ถ้างั้นเมื่อชีวิตที่แล้วท่านบ่มเพาะไปถึงระดับไหน?” หวงซีเอ่ยถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “ถ้าให้พูดตามจริง ข้าบ่มเพาะไปเหนือกว่าขอบเขตจักรพรรดิเทพแล้ว ข้าพิสูจน์เต๋าของข้าได้สำเร็จเรียบร้อย เหลือแค่เพียงอย่างเดียวคือผสานรวมกับเต๋าและกลายเป็นนิรันดร์ ซึ่งข้าไม่ได้ทำมัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้คนอื่น ๆ ต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าตกตะลึง
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมหลิงตู้ฉิงถึงได้แข็งแกร่งนัก ที่แท้เขาก็เคยอยู่ในจุดสูงสุดมาก่อนนี่เอง
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังตกตะลึง จู่ ๆ คิ้วของหลิงตู้ฉิงกลับขมวดเข้าหากันแน่นในระหว่างที่เขามองเย่ชิงเฉิง
“สามีท่านเป็นอะไร?” เย่ชิงเฉิงเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง
หลิงตู้ฉิงตอบกลับด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ดูเหมือนว่ามีคนของตระกูลกุยไห่เปิดเผยข้อมูลของเรา ที่ร่างของเจ้าตอนนี้มีสัญญาณบ่งบอกว่าเจ้ากำลังถูกเพ่งเล็ง”
ตั้งแต่เข้ามาในเมืองพวกเขาแวะไปที่เดียวคือตึกการค้าของตระกูลกุยไห่และผู้เชี่ยวชาญที่พวกเขาถามข้อมูลนั้นอยู่ในขอบเขตราชาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมันไม่แปลกแน่นอนหากผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นจะสังเกตเห็นได้ว่าร่างของเย่ชิงเฉิงนั้นพิเศษยังไง ดังนั้นคำตอบของปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้จึงมีเพียงอย่างเดียวคือต้องเป็นคนผู้นั้นแน่นอนที่เปิดเผยความลับของพวกเขา
“ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของพวกเรายังคงต่ำอยู่ หากพวกเราเจอกับผู้เชี่ยวชาญระดับสูงพวกเราจะตกอยู่ในที่นั่งลำบากทันที” มี่ไลพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หลิงตู้ฉิงพยักหน้า “ในเมื่อเรื่องนี้มันเกิดขึ้นจากตระกูลกุยไห่ ถ้างั้นพวกเราต้องกลับไปที่ตระกูลกุยไห่อีกครั้ง”
มี่ไลครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นนางถามว่า “ตระกูลกุยไห่นับว่าไม่ธรรมดา ท่านมั่นใจเหรอว่าตอนนี้พวกเขาจะฟังท่าน?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ตาแก่ตระกูลกุยไห่เคยติดค้างข้าอยู่ครั้งหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาไม่ปฏิเสธข้าแน่นอน!”
จากนั้นหลิงตู้ฉิงพาคนของเขาทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลกุยไห่ทันที แต่เมื่อถึงหน้าประตูพวกเขาถูกหยุดเอาไว้โดยคนเฝ้าประตูขอบเขตศักดิ์สิทธิ์สามัญผู้หนึ่ง “ที่นี่คฤหาสน์ตระกูลกุยไห่ หากพวกเจ้าไม่ได้รับเชิญ พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปโดยพลการ!”
หลิงตู้ฉิงหยิบแผ่นหยกขึ้นมาหนึ่งแผ่น จากนั้นเขาเขียนอักษรเต๋าตัวหนึ่งลงในมันและยื่นให้กับคนเฝ้าประตู “จงเอามันไปมอบให้กับเจ้านายเจ้าข้างใน!”
คนเฝ้าประตูไม่เข้าใจอักษรเต๋าที่หลิงตู้ฉิงเขียนขึ้นเลย เขาสัมผัสได้เพียงอย่างเดียวว่าอักษรเต๋านี้มันเกี่ยวกับตระกูลของเขาแน่นอน ดังนั้นเขาจึงรีบเอาแผ่นหยกนี้เข้าไปด้านในคฤหาสน์ทันที
ผู้ดูแลคฤหาสน์ กุยไห่ไป๋ฉวน เมื่อเขาเห็นแผ่นหยกของหลิงตู้ฉิง เขารีบถามคนเฝ้าประตูของเขาทันที “คนที่เขียนอักษรเต๋านี้อยู่ที่ไหน?”
เมื่อได้รับคำตอบว่าผู้ที่เขียนมันกำลังรออยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ ร่างของกุยไห่ไป๋ฉวน หายไปจากห้องโถง และไปปรากฏที่ตรงหน้าหลิงตู้ฉิงภายในพริบตาทันที
กุยไห่ไป๋ฉวนมองสำรวจหลิงตู้ฉิงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาแสดงแผ่นหยกของหลิงตู้ฉิงและถามว่า “เจ้าคงไม่ใช่ ‘เขา’ ใช่ไหม? ว่าแต่ทำไมเจ้าถึงมีอักษรเต๋านี้ได้?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ใครบางคนเคยบอกกับข้าว่าตราบใดที่ข้าแสดงอักษรนี้ ข้าจะสามารถขอสิ่งใดก็ได้จากตระกูลกุยไห่ 1 ครั้ง ข้าไม่แน่ใจว่าพวกเจ้ายังคงยึดมั่นในคำพูดอยู่รึเปล่า?”
กุยไห่ไป๋ฉวนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “นั่นคือคำสัญญาของตระกูลเราที่ให้ไว้กับผู้อาวุโสผู้นั้น พวกเราไม่มีวันกลับคำแน่นอน! แต่ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้ามีความสัมพันธ์อะไรกับผู้อาวุโสผู้นั้นกันถึงได้มีอักษรเต๋านี้ได้?”
“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ?” หลิงตู้ฉิงไม่อาจตอบได้ตรง ๆ ตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะถามกลับให้เป็นปริศนา
กุยไห่ไป๋ฉวนขมวดคิ้วมองที่หลิงตู้ฉิงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาถอนหายใจ “ช่างเถอะไม่ว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์กับผู้อาวุโสผู้นั้นยังไง แต่ในเมื่อเจ้ามีอักษรเต๋านี้ข้าก็จะทำตามคำสัญญาที่เคยได้ให้เอาไว้ เอาล่ะอันดับแรกพวกเจ้าทั้งหมดเข้าไปด้านในกันก่อนเถอะ!”
“พวกข้าตั้งใจว่าจะเข้าไปในแม่น้ำมหาดารา ดังนั้นพวกข้าจะขอพักอาศัยอยู่ในตระกูลเจ้าจนกว่าแม่น้ำมหาดาราจะสงบ เจ้าคงไม่มีปัญหาใช่ไหม?” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้น
“ไม่มีปัญหา พวกเจ้าสามารถอยู่อาศัยได้นานเท่าไหร่ก็ได้ตราบที่พวกเจ้าต้องการ” กุยไห่ไป๋ฉวนยิ้มและตอบกลับ “ให้ข้าเดาพวกเจ้ามาจากตำหนักไร้หทัยใช่ไหม?”
หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “นับได้ว่าเจ้าเดาได้แม่นมาก!”
หลังจากได้ยินคำยืนยันของหลิงตู้ฉิง กุยไห่ไป๋ฉวนรู้สึกกังวลเล็กน้อยอยู่ในใจ เขาหวังว่าแขกของเขากลุ่มนี้คงจะไม่สร้างปัญหาให้กับเขา!