ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง - บทที่ 316 ประทัดระเบิดภูเขา
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉีหล่างก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นด้วยกับหยุนชางมาก่อน แต่ตอนนี้เขาฟังนางอย่างสงบ เขาก็รู้สึกว่าคำพูดของนางมีเหตุผลมาก เป็นเรื่องที่ยากนักที่ฉีหล่างจะฟังคำพูดของหยุนชางอย่างละเอียดเยี่ยงนี้ ถ้ายังต้องให้เขาลดหน้าลงมาและถามหยุนชางว่ามีวิธีอะไรได้บ้าง มันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทำได้แค่ยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความเขินอายเล็กน้อย มองไปที่หยุนชาง
หยุนชางไม่เคยคิดที่จะขอให้ฉีหล่างถามตัวเอง ดังนั้นดูเหมือนว่านางจะพูดเองเออเองอยู่คนเดียว “ข้าเห็นวิธีนี้จากตำราด้วย และไม่รู้ว่ามันจะได้ผลไหม แต่ตอนนี้ จะทำได้แค่ลองทำดู” หยุนชางเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่า ช่างฝีมือบางคนในราษฎรมีประทัดมาใช้ระเบิดเป็นครั้งคราว?”
ฉีหล่างไม่เข้าใจว่าทำไมหยุนชางถึงถามเรื่องนี้ แต่เขาพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา “มีเรื่องเช่นนี้จริง แต่ก็เป็นส่วนน้อยที่จะใช้ ช่างฝีมือทำด้วยความประณีต แต่ทรายและหินจากตะกรันของประทัดนั้นละเอียดมาก ดังนั้นส่วนใหญ่จึงไม่ได้ใช้ขอรับ”
หยุนชางตอบรับ มองหน้าผาตรงหน้านาง “สกัดภูเขาลูกนี้มิจำเป็นต้องประณีตขนาดนั้น เมื่อเจ้ากลับไปก็ไปหาสถานที่ลับสักแห่ง ซื้อประทัดจำนวนมากมา นำส่วนผสมด้านในนั้นออกมาให้หมด แล้วหาอะไร ที่พอดีใส่ส่วนผสมเข้าไป ลองจุดไฟ และดูว่ามันทรงพลังขนาดไหน และสามารถระเบิดหินออกไปได้หรือไม่ งานนี้อันตรายมาก พวกเจ้าก็ต้องระวังด้วย”
ฉีหล่างได้ฟังคำพูด ครุ่นคิดและตระหนักว่าเรื่องนี้ดูน่าสนใจดี จึงเห็นด้วย
“ราษฎรที่อยู่ใกล้เคียงได้ตั้งรกรากกันหมดแล้วหรือ” หยุนชางถามอีกครั้ง
“จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วขอรับ ข้าน้อยมีหมู่บ้านอยู่ใกล้เคียง และพวกเขาทั้งหมดจะถูกส่งไป” ฉีหล่างตอบ
หยุนชางพยักหน้า เมื่อเห็นว่าฉีหล่างเป็นผู้ที่ทำงานไม่ได้สะเพร่า นางก็วางใจและกลับไปที่ค่าย
เรื่องการใช้ประทัดเป็นไปอย่างราบรื่นอย่างไม่คาดคิด และผลก็ดีมาก เมื่อฉีหล่างรายงานความคืบหน้าไปยังหยุนชางต่อเนื่องกันทุกวัน แววตาของเขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หยุนชางก็ไปดูเช่นกัน ก็ยังต้องตกตะลึง จริงๆ วิธีการนี้นำมาจากตำราที่อาจารย์ชิงชางมอบให้นางเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะทรงพลังมากขนาดนั้น ในใจแอบรู้สึกตกใจ และโล่งใจเล็กน้อย ทุกอย่างเป็นไปตามที่นางต้องการ หยุนชางจึงส่งกำลังคนเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบการเคลื่อนไหวในช่วงนี้ของหลิ่วหยินเฟิง เพียงรอกลยุทธ์ของเขา ที่จะทำให้เขาเสียชีวิต
อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ และค่อยๆ เข้าสู่สิ้นปี ตามรายงานของสายลับ ทหารและม้าของกองทัพเซี่ยถูกระดมกำลังบ่อยครั้งมาก หลิ่วหยินเฟิงได้หารือเรื่องการทหารกับเซี่ยโหเหยียนอยู่ในกระโจมแม่ทัพเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน แม้ว่าองครักษ์ลับไม่สามารถเข้าใกล้กระโจมแม่ทัพได้ แต่ก็พอเข้าใจ เกรงว่าหลิ่วหยินเฟิงไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
ในคืนปีใหม่เล็ก(คืนวันจ่าย) แม้แต่แม่ทัพหลายท่านก็ยังอยู่ในค่ายทุกวันเพราะกลัวว่ากองทัพเซี่ยจะจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว
และเป็นไปตามคาด ในคืนปีใหม่เล็ก ในเวลาเที่ยงคืน องครักษ์ลับรีบมารายงานว่ากองทัพเซี่ยได้ส่งกองทหารและกำลังเคลื่อนขบวนไปทางเมืองคังหยางตามแม่น้ำจิ้ง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยุนชางก็รีบสวมเสื้อผ้าและสวมเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอก เรียกเหล่าแม่ทัพมาที่ค่าย ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ พวกเขาได้เจรจากลยุทธ์ในการต้านรับศัตรูแล้ว และพวกเขาเพียงแค่ใช้คำพูดไม่กี่คำ ในการเตรียมการ จากนั้นก็นำทัพออกกระโจมอย่างรีบเร่ง
ฉีหล่างและหยุนชางอยู่ที่ค่าย เพราะในหลายๆกรณี ผู้บังชาจำต้องดูแลค่ายออกคำสั่ง ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่หลังจากแม่ทัพทั้งหลายนำกองทัพออกไป หยุนชางและฉีหล่างก็ออกจากค่ายไปอย่างเงียบๆ ตรงไปที่ภูเขาหลงเซีย
“รายงาน ข้าศึกได้เดินทัพมาแล้วสามลี้ และกำลังเร่งการเดินทัพฉุกเฉิน กองทหารที่นำโดยแม่ทัพหวังได้ตั้งรออยู่ในป่าแล้ว เตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”
“รายงาน ข้าศึกได้เดินทัพมาแล้วเจ็ดลี้ กองทหารนำโดยแม่ทัพหลิวได้ถึงกลางชุนเฟิงตู้แล้ว ยังต้องใช้เวลาอีกประมาณสี่ชั่วยามกว่าจะถึงค่ายของศัตรู”
ถนนสู่ภูเขาหลงเซียยังคงเดินลำบากมาก ตลอดทาง ได้ยินอต่เสียงรายงานของทหาร จนกระทั้งฟ้าเริ่มสาง หยุนชางและฉีหล่างเพิ่งจะถึงยอดภูเขา และรีบเดินไปทางทิศตะวันตกของทะเลสาบหยุน โชคดีที่ช่วงที่ผ่านมาช่างฝีมือได้กินและอาศัยอยู่บนภูเขา ในเวลานี้ได้รออยู่บนหน้าผาแล้ว
“ประทัดได้ถูกฝังแล้วหรือไม่?” ฉีหล่างถามอย่างเร่งรีบ
“เรียนใต้เท้ากำกับการ แม่ทัพ พร้อมแล้วขอรับ”
หยุนชางพยักหน้า “ถ้ากองทัพเซี่ยได้เข้าใกล้ถึงเนินเขาสูงสุดสองฝั่งของแม่น้ำจิ้ง องครักษ์ลับจะจุดพลุในการส่งสัญญาณ เมื่อถึงเวลานั้น เราก็แค่จุดประทัด”
ฉีหล่างตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่ได้สังหารศัตรูด้วยตัวเอง เขาก็คุ้นเคยกับตำรายุทธพิชัยสงคราม เขาเข้าใจดีว่า หากสามารถทำลายกองทัพเซี่ยได้ด้วยวิธีการเช่นนี้ พวกเขาจะไม่ต้องสูญเสียทหารแม้แต่นายเดียว นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
เมื่อท้องฟ้าใกล้จะสว่าง พลุก็พลุ่งขึ้นบนท้องฟ้า แม้ว่าภูเขาหลงเซียจะสูงเกินกว่าจะมองเห็นได้ชัดเจน หยุนชางได้ยืนยันแล้วว่าเป็นสัญญาณจากองครักษ์ลับและทำให้ทุกคนถอยกลับอย่างรวดเร็ว เมื่อขึ้นไปบนภูเขา ซึ่งอยู่ไกลจากหน้าผาทางฝั่งตะวันตกมากพอแล้ว จึงให้คนจุดประทัด ผู้จุดประทัดก็เป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาตัวเบาชั้นหนึ่ง หลังจากที่จุดประทัด ก็ได้เหาะไกลออกไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน ก็ได้ยินเสียง “ปัง” ดังขึ้น และทันใดนั้นภูเขาก็สั่นสะเทือน ดีที่หยุนชางพอมีวิชาการต่อสู้บ้าง แต่ก็เกือบจะล้มลงกับพื้น ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการทรงตัวให้มั่นคง หลังจากเกิดเสียงอันดังนั่น หยุนชางก็ได้ยินเสียงดังกังวาน
ทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะยืนได้อย่างมั่นคง และรีบวิ่งไปที่หน้าผาเพื่อดู แต่เห็นช่องว่างใหญ่กว้างประมาณสามเมตรเปิดออกจากปากหน้าผา และน้ำของทะเลสาบหยุน ไหลออกมาจากปากหน้าผา เสียงดังกังวานเมื่อครู่คือเสียงน้ำที่ไหลลงมา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หยุนชางรู้ว่าเรื่องนี้ได้สำเร็จไปกว่าครึ่ง แต่ไม่รู้ว่าสถานการณ์ของเนินเขาชีเซี่ยเป็นอย่างไร นางจึงรีบพาผู้คนลงจากภูเขาและรีบไปที่เนินเขาชีเซี่ย ทางลงเขาลื่นมาก และทุกคนเกือบจะกลิ้งลงมาจากภูเขา แต่พวกเขาไม่สนใจความกระเซอะกระเซิงของตัวเองด้วยซ้ำ รีบขี่ม้าไปเนินเขาชีเซี่ย
ทันทีที่ไปถึงเนินเขาชีเซี่ย ก็ได้ยินเสียงน้ำดังก้อง เมื่อมาถึงเนินเขาชีเซี่ย อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจอีกครั้ง น้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาหลงเซีย และตกลงไปที่ทะเลสาบในเนินเขาชีเซี่ย จนน้ำกระเซ็นขนาดใหญ่ และทุกคนต่างก็เปียกโชกไปด้วยละอองน้ำ แต่พวกเขาก็ไม่สนใจ จึงเดินไปที่ช่องทางเดิมของแม่น้ำจิ้ง ก็เห็นน้ำไหลลงมาตามเส้นทางแม่น้ำจิ้งดั้งเดิมในเนินเขาชีเซี่ย
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” ฉีหล่างเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าและหัวเราะเป็นเวลานาน ก่อนจะหันไปมองหยุนชาง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสุข “ใต้เท้า สำเร็จแล้ว!”
หยุนชางพยักหน้า แต่หัวใจของนาง สั่นเทาเล็กน้อย นางรู้ดีว่า ถ้าน้ำไหลลงไปแบบนี้ เกรงว่าทหารหลายแสนนายของกองทัพเซี่ยจะต้องถูกฝังที่ก้นแม่น้ำจริงๆ นางสามารถจินตนาการได้ว่าเมื่อทหารเห็นน้ำที่ไหลเชี่ยวอย่างกะทันหัน สีหน้าของพวกเขาคงจะตกตะลึงและหวาดกลัว
หยุนชางขมวดคิ้วอย่างขมขื่นเล็กน้อย นางไม่ใช่คนดีจริงๆ ตอนนี้เป็นไงล่ะ นางสังหารชีวิตนับแสนชีวิต ทหารเหล่านั้นก็เป็นคนบริสุทธิ์เช่นกัน แต่พวกเขาได้รับผลกระทบจากสงคราม ต้องมาเสียชีวิต หยุนชางค่อยๆหลับตาลง ซ่อนแววตาเหลือทนในดวงตาของนาง