ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 46 พวกบ้ากาม
ตอนที่ 46 พวกบ้ากาม
ผลินใบหน้าเศร้าหมองหันมองออกไปยังแสงไฟนีออน ภายนอกหน้าต่าง เมื่อวานเขาบอกว่าจะมีลูกกับเธอ มาวันนี้ กลับพลิกหน้า การที่ผู้ชายเปลี่ยนแปลงไปมันไม่ได้ขึ้นอยู่ กับผู้หญิง
หนึ่งดีกับเธอ อีกหนึ่งเลวร้ายกับเธอ การที่เขาทรมาน จากโรคจิตเภทอย่างรุนแรง นั่นทำให้เธอแทบแยกไม่ออก ว่าแบบไหนคือจริง
ปยุตโทรออกไปสองสามสายระหว่างทาง พูดเพียงประ เดียว “ออกมาดื่มกัน ที่เดิม”
ผลินไม่รู้ว่าเขานัดกับใคร แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป เพราะ ถึงถามไปเขาก็คงไม่ตอบ ถามไปก็เหมือนถามตัวเอง
รถวิ่งอย่างบ้าคลั่งตลอดทาง จนในที่สุดก็หยุด สถานที่ นั้นคือ Royal Rose เป็นสถานบันเทิงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ของเมือง
“ลงจากรถ”
ผู้ชายที่อยู่ข้าง ๆ ออกคำสั่งอย่างเย็นชา เธอลังเลเล็ก น้อย ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้หญิงที่เปิดกว้าง แต่ก็ไม่เคยมาสถาน บันเทิง และชื่อ Royal Rose ก็ได้ยินมานานว่ามันเป็นสถาน ที่ที่วุ่นวายมาก
“ฉันเป็นครู”
“แล้วยังไง”
“มันไม่เหมาะที่จะมาสถานที่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
เขายิ้มเยาะ “ใครขอให้คุณมา อย่าลืม เป็นคุณ ยืนกราน จะตามมาเอง ไม่มีใครบังคับคุณ
เมื่อพูดจบ เขาก็เดินเข้าไปในประตูของสถานบันเทิง แห่งนั้น ผลินยืนอย่างคนที่ร้องไห้ไม่ได้หัวเราะก็ไม่ออก ทำได้แค่ตามเข้าไปเท่านั้น
ตอนนี้ ในที่สุดก็เข้าใจ อะไรคือรอยยิ้มที่น่ากลัวของเขา
เหมาะสมกับการเป็นยอดคลับ พื้นที่เป็นเหมือน พระราชวัง การออกแบบซับซ้อนอย่างยิ่ง ผลินเดินตามปยุต อย่างใกล้ชิด กลัวว่าตัวเองจะไม่ระวังแล้วพลัดหลงกับเขา จนหาทางออกไม่เจอ
การก้าวเดินของปยุตมาหยุดที่ประตูห้องหมายเลขแปด พนักงานเสิร์ฟเปิดประตูให้ด้วยความเคารพ มีสามหรือสี่คน นั่งอยู่ในนั้น ทุกคนสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง เพียงแวบแรกก็รู้ ได้ทันทีว่าเป็นลูกเศรษฐี
“คุณชายปยุต ไม่ได้เจอกันนานเลยใช่ไหม”
“คุณชายปยุต ทำไมวันนี้พี่ถึงว่างออกมาดื่มได้ล่ะ”
เมื่อคนในห้องนั้นเห็นเขาก็ทักทาย ผลินยืนอยู่หน้าประตู ลังเลว่าจะตามเข้าไปดีหรือไม่
“เข้ามาสิ”
เธอยังไม่ทันจะได้ตัดสินใจ ปยุตก็ออกคำสั่ง ถอยหลัง ไม่ได้จึงหายใจเข้าลึกแล้วเดินตามเข้าไป
“เฮ้ นี่ใครเหรอ”
“ไม่ใช่ว่าเป็นภรรยาคนที่เจ็ดของคุณชายปยุตหรอกเหรอ”
“คุณชายปยุตนี่ช่างมีความสุขเสียจริง เปลี่ยนภรรยา เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า แถมสไตล์ก็ยิ่งเปลี่ยนไป…
“ไม่ใช่แค่สไตล์ คุณภาพก็มากขึ้นด้วย”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเสียงล้อเล่นของคนพวกนั้น เหงื่อ เย็นของผลินก็ผุดออกมา เธอทำอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ เพื่อ ผู้ชายที่อารมณ์แปรปรวน ถือว่าตัวเองเป็นสิ่งพิเศษเช่น เดียวกับกับคนทั้งหมดนี่ มันก็แค่พวกบ้ากามไม่ใช่เหรอ
ปยุตนั่งเฉย ๆ ไม่สนใจว่าเธอกำลังเผชิญกับสถานการณ์ ที่ยากลำบาก เธอเดินไปหาเขาเงียบ ๆ และนั่งลงนิ่ง ๆ ดวงตาของเขาจ้องมองมา “อย่านั่งตรงนี้”
บรรยากาศมันน่าอายเกินกว่าจะบรรยายได้ ผลินจะไม่นั่ง ก็ไม่ใช่จะนั่งก็ไม่เชิง และคนพวกนั้นก็ยังโบกมือให้เธอ “คนสวย มานมาคนสวย มานี่สิครับคนสวย พวกนั้นมันบ้ากาม มา หาพี่ดีกว่าปลอดภัย”
อา… ผลินพูดไม่ออก พวกเขาทำกับเธอแบบนี้ได้ยังไง เห็นเธอเป็นเด็กนั่งดริงก์หรือไง สายตากวาดขึ้นมองปยุต มันช่างเหมือนกันจริง ๆ ตัวเองก็ไม่ได้มีดีสักนิด พวกเพื่อน ๆ ก็เหมือนกัน เป็นกองขยะ
เธอไม่ได้นั่งข้าง ๆ ขยะสี่คนนั้น แต่นั่งบนโซฟาว่างตรง กันข้ามกับปยุต เพราะว่าตราบใดที่เธอนั่งตรงนี้ ก็จะได้เห็น กันอย่างชัดเจน
ทำไมไม่เรียกผู้หญิงเข้ามาล่ะ
คำพูดของปยุตทำให้เพื่อนหลายคนพากันอึ้ง ณัฏฐ์ถาม ขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ “นายพูดผิดหรือพวกเราได้ยิน ผิด ไม่ใช่ว่านายเกลียดผู้หญิงมากหรอกเหรอ”
แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ผู้หญิงที่วุ่นวายน่ะน่ารังเกียจ ส่วนผู้หญิงที่ฉลาดและเชื่อฟังก็น่าสนใจดี”
ตอนที่เขาพูดแบบนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาพูดถึงผลินที่อยู่ ฝั่งตรงข้าม
“แล้วป้าเจ็ดนี่เป็นอย่างแรกหรืออย่างหลัง”
ณัฏฐ์ยังคงล้อเล่นต่อไป
ตฤณตอบทันที “นี่ต้องถามด้วยเหรอ ป้าเจ็ดดูสง่างาม และน่านับถือ ก็ต้องฉลาดและเชื่อฟังสิ
“นั่นอาจจะไม่ใช่ บางคนทำตัวเป็นคนดีและเชื่อฟังแค่ ภายนอก แต่ในความเป็นจริงกลับดื้อรั้นไปจนถึงกระดูก พวก นายอย่าได้ตาบอดเพราะถูกบดบังจากภาพลวงตาของการ แกล้งทำ”
ผลินจ้องมองชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามที่มีฟันแหลมคม ถ้า หากไม่พอใจเรื่องใดก็ควรมุ่งตรงมาที่เธอสิ การล้อเลียน แดกดันเธอแบบนี้มันใช่เหรอ
ก่อนจะถอนสายตาที่คับข้องใจ ก็ต้องประหลาดใจเมื่อ พบว่าเพราะคำพูดของปยุตดูเหมือนว่าพวกขยะจะสนใจเธอ มากขึ้น มองเธออย่างกล้าหาญทีละคน และหยอกล้อเธอ
หัวใจเต็มไปด้วยความเสียใจและความเกลียดชัง แต่
ภายนอกไม่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย เธอจะไม่หลงกลเขา
เหตุผลที่เขาทำให้เธออับอายเหมือนกำลังเปลือยกายอยู่
ตอนนี้ ไม่ใช่แค่พยายามจะทำให้เธอโกรธ แต่ต้องการให้
จากไป
เป็นการดีกว่าที่จะเก็บความทุกข์เอาไว้ โดยไม่ปล่อยให้ เขาบรรลุเป้าหมาย ทั้งหมดก็เพื่อพ่อแม่ที่รักเธอ จเป็น โอกาสเดียวที่จะตอบแทน
เมื่อคิดได้แบบนั้นก็เกิดความมุ่งมั่น วางความคิดทุก อย่างลง จากนั้นก็เผยรอยยิ้มสดใส “ฉันไม่ใช่ป้าเจ็ดค่ะ ชื่อของฉันคือผลิน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“ดีใจที่ได้รู้จักเหมือนกันครับ ขอจับมือคุณได้ไหม”
ณัฏฐ์รีบลุกมานั่งข้าง ๆ เธอ อีกสามคนก็มาด้วย มือทั้งสี่ ยื่นออกมาตรงหน้าเธอ
เธอจับมือทีละคน ไม่มีความกระตือรือร้นเกินไปสำหรับ ใคร มันดีกว่าที่จะไม่แยแสกับใครเลย เป็นการวางตัวอย่าง เหมาะสมที่น่าชื่นชม
ปยุตมองตรงมาข้างหน้า เสนอเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ “เล่นลูกเต๋ากัน ไม่เดิมพันเงิน แต่เดิมพันคน
“เดิมพันคน?”
ทุกคนต่างก็ตกใจในเรื่องที่เขาเสนอรวมทั้งผลินก็ด้วย การเดิมพันคนมันทำกันบนโต๊ะพนันได้ด้วยงั้นเหรอ
“ใช่ ใครแพ้ ก็ทิ้งเมียเอาไว้ให้ทุกคนเล่น
ปยุตยังคงมีคำพูดที่น่าแปลกใจออกมาไม่หยุด ตฤณ กลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “คุณชายปยุต ทำให้ชัดเจนหน่อย นากจากนาย พวกเราก็ไม่มีใครมีภรรยานะ
“จะภรรยาหรือสาวงามก็เหมือนกัน โทรออกไปสิ กลัวแต่ ว่าจะไม่มีคนมาลงสนามมากกว่า”
ณัฏฐ์หัวเราะลั่น “สาวงามน่ะมีเยอะจุดสำคัญผิดที่ คุณชายประยุดพูดมาน่ะจริงใช่ไหม”
“ต้องทำข้อตกลงเซ็นสัญญาร่วมกันไหมล่ะ
เขาเลิกคิ้วขึ้น ทั้งสี่คนรีบยกมือโบกไปมา ไม่ต้องก พวกเราจะโทรออกไปเดี๋ยวนี้แหละ
ทั้งสี่คนเดินออกไปกับโทรศัพท์มือถือของพวกเขา ห้อง ที่เคยมีเสียงดังก็มีความเงียบเข้าปกคลุม สามารถได้ยิน ได้แม้เพียงเสียงของเข็มที่ตกพื้น ผลินมองตรงไปยังปาด อย่างไร้อารมณ์ ใช้เวลานานกว่าที่จะเอ่ยถาม “เสนอข้อ เสนอที่ไร้สาระแบบนั้นไม่ต้องขออนุญาตจากเป็นอนเพรา
ปยุคหัวเราะเยาะชี้ไปที่ประตูห้อง ถ้าคุณไม่อยากทำ ก็ออกไปเลยตอนนี้ ขาของคุณเติบโตบนร่างกายของคุณ ไม่มีใครจะหยุดคุณได้อยู่แล้ว”
เขาไม่ได้ปิดบังวัตถุประสงค์ของเขา อะไรก็ตามที่เขา พูดไม่ว่าจะคิดยังไง ทั้งหมดก็เพื่อจุดประสงค์นี้ คือกำจัด เธอ
“ถ้าคุณไม่เป็นไร งั้นฉันก็ไม่เป็นไร
ผลินส่งเสียงออกมาด้วยพลังทั้งหมดที่มี ยอมรับการชั่ว ยุของเขา ถ้ามันเกี่ยวกับความอดทน ก็คงไม่มีใครในโลกนี้ที่ สามารถทนได้มากกว่าเธอ
ความอดทนนี้ เกิดจากพ่อผู้ให้กำเนิดกับแม่ที่ไม่ใช่ผู้ให้
กําเนิด
การอดทนในเรื่องเล็กน้อยนำไปสู่ความสําเร็จใน แผนการที่ยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องจริงที่เธอเคยยึดถือมาตลอด
เมื่อปยุตเห็นว่าเธอยังไม่มีความตั้งใจที่จะถอนตัว ก็ กำลังจะพูดต่อ แต่คนที่ออกไปโทรศัพท์ก็กลับเข้ามา เสียก่อน จึงถูกบังคับให้ต้องยอมแพ้ ทว่าด้วยสายตาที่ แสดงออกก็ให้เห็นว่ามันหมายถึงว่าจะรอดูว่าคุณจะทนได้ อีกนานแค่ไหน
บริกรนำลูกเต๋าและไวน์เข้ามา ตฤณดึงแบงก์ร้อย ดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋าสตางค์ของเขาเพื่อให้ทิป พนักงานเสิร์ฟถามด้วยรอยยิ้ม “คุณผู้ชายอยากให้เรียกสาว ๆ เข้ามาบริการในนี้ไหมครับ”
เขาโบกมือ ไม่ต้องหรอก สาว ๆ ของเราจะมาถึงกัน
แล้ว”
บริภุตถือแก้วไวน์ต่างประเทศมาตรงหน้าของผลิน “คุณ หนูผลิน ลองไวน์นี้สิ ไม่แน่ว่าอาจจะตรงกับรสนิยมของคุณ”
เธอปฏิเสธอย่างสุภาพ “ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ต้อง ฉันไม่
ดื่ม”
“ไม่เหรอ มีผู้หญิงที่ไม่ดื่มด้วยเหรอ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ครับ พวกเราไม่ได้วางยาในไวน์
“ขอโทษด้วย แต่ฉันไม่ดื่มจริง ๆ”
ยิ่งปฏิเสธมากเท่าไร บริตก็ยิ่งชวนเธอดื่มมากเท่านั้น ระหว่างที่ผลักแก้วกันไปมา แก้วเริ่มเอียง จนของเหลวสี แดงหกใส่เธอ “ขอโทษครับ ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
บริ ตรีบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดให้ แต่เธอแย่งมันมา ด้วยความกระอักกระอ่วน “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะทำเอง”
“คุณชายใหญ่บริภุต นายทำเสื้อผ้าของคุณหนูผลินเปื้อน แบบนี้ต้องชดใช้ให้สิบเท่าใช่หรือไม่
ณัฏฐ์พูดจาล้อเลียน
“มันควรจะเป็นอย่างนั้น อย่าว่าแต่สิบเท่าเลย แม้แต่ยี่สิบ สามสิบก็ไม่มีปัญหา
ปยุตไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ราวกับว่าผู้หญิงที่ ถูกเพื่อนตัวเองหยอกล้อนั้นไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา เมื่อมองไปที่การวางตัวของเขา ผลินก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็ก น้อย ลุกขึ้นและพูดว่า “ฉันจะไปห้องน้ำ”
ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ในห้องน้ำ มองตัวเองในกระจก เธอหายใจเข้าลึกและพูดอย่างอ้างว้าง “ผลิน รู้สึกเสียใจกับ มันเหรอ ตั้งแต่เกิดมาเธอก็ถูกกำหนดให้เป็นดอกไม้ดอก เล็ก ๆ ที่ออกมาตามรอยแยกของก้อนหิน ความผิดหวังและ ความยากลำบากแบบไหนบ้างที่ไม่เคยมีประสบการณ์ ตอน นี้มันก็แค่คลื่นลมคลื่นเล็ก ๆ ที่ไม่สำคัญอะไรเลย หยุดเสแสร้งได้แล้ว ตั้งสติหน่อย เธอทำได้
หมุนเปิดก๊อก เอามือวักน้ำเย็น ตบเข้าที่ใบหน้า เมื่อ แน่ใจว่าตื่นตัวแล้วก็รู้สึกมีพลังขึ้นมาก
กลับไปที่ห้อง ก่อนเข้าประตูหายใจลึกอีกครั้ง แค่ผลัก ประตูนี้เข้าไป เธอจะยังคงเล่นบทบาทของแมลงสาบ และ ต้องไม่ยอมแพ้
ทันใดนั้นประตูก็เปิด ในห้องเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา นอกจากคนเหล่านั้น มีอีกสี่สาวสวย ทุกคนสวยเหมือนปีศาจ มีสเน่ห์ยั่วยวน
บนโต๊ะกลางโซฟา การพนันได้เริ่มขึ้นแล้ว เธอจะเข้าไป ในกำมือของคนคนนั้น และคนคนนั้นก็ไม่มีจุดประสงค์ที่ อยากจะชนะ