ภรรยาคนที่เจ็ดของประธาน - 65 ปิดบังความรู้สึกลึกๆในใจ (3)
ตอนที่65 ปิดบังความรู้สึกลึกๆในใจ (3)
สุราและอาหารต่างๆเสริฟมาลงบนโต๊ะ ชุดารินสุราเต็ม แก้วให้กับเขา พูดอย่างปวดใจว่า : “จากที่หนูได้ตรวจสอบ วันที่ผ่านมา พี่ผลินใช้ชีวิตไม่เหมือนคนเลย เจ้าปยุตคน นั้นลุงรู้มั้ย ? ผ่านการแต่งงานมาเจ็ดครั้งแล้ว ทารุณ ป่าเถื่อนหยาบคายมาก ตบตีด่าทอ ผลินไม่เว้นแต่ละ วัน คนในครอบครัวนั้นก็ไม่ได้มองพี่ผลินเป็นคนๆหนึ่ง ให้พี่เขากินแต่ของเหลือเดน อีกทั้งยังใช้งานพี่ผลินยังกับ ทาส รถยนต์หรูหราแต่ละคันในบ้าน แม้แต่แค่เอามือไป แตะก็ยังห้ามเลย แต่ละวันให้พี่ผลินต้องนั่งรถประจำทาง สาธารณะไปทํางาน…..เฮ้ยยย ชาวรันทดจนไม่สามารถ พูดออกมาได้อีกแล้ว น่าสงสารที่สุด ตกอยู่ในสภาพ แวดล้อมแบบนี้ ถึงไม่ตายก็เหมือนอยู่ยังกับซากศพ”
ตีรณดื่มสุราแก้วแล้วแก้วเล่า จิตใจใกล้ถึงจุดจะระเบิด แล้ว เขาไม่คาดคิดเลยว่า หลานผลินมีชีวิตที่รันทดเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยครั้งก่อนทะเลาะกับปยุตนั้น ผลินพูดขึ้นมาว่า ชีวิตของก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว อย่าทำให้เธอต้องวุ่นวายมาก ไปกว่านี้
“เจ้าคนจิตใจโหดร้ายอย่างกับสัตว์ปาไม่รู้ทำร้ายเธอกี่ครั้ง ต่อกี่ครั้งแล้ว
“เพราะอะไรไรไรไร ? ”
ชุดาใช้โอกาสนี้แหละรุกคืบเข้าไปอีก คิดที่จะนำความ ลับของพี่ผลินเปิดเผยออกมา
“พี่ผลินเขาใกล้จะหย่าแล้ว หลังจากนั้นก็ไปแต่งงานกับ ธาตรีอีก ”
“ไม่ใช่หรอก ธาตรีก็เป็นเจ้าหน้าโง่เช่นกัน ”
“เจ้าโง่นั้นยังดีกว่าเจ้าบ้าบอนั้นเสียอีก อย่างน้อยเจ้าโง่ นั้นยังเอ็นดูถนุถนอมเธอ เดิมทีผลินตั้งใจจะใช้ชีวิตกับ เจ้าบ้าบอปยุคไม่นาน เธอเพียงแค่ต้องการใช้ประโยชน์ เขาเสร็จแล้ว ก็จะกลับไปยังครอบครัวหลี่ในทันที ระหว่างเขาทั้งสองได้นัดหมายกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้วโดย เฉพาะอย่างยิ่ง คุณทาตฤและสามีภรรยาทั้งสองรักใคร และเอ็นดูผลินเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง
ตีรณเมาสุราอย่างเห็นได้ชัด ความโกรธแค้นในใจทำให้ เขาเริ่มพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมามากมาย
“หลอกใช้ประโยชน์เขา ? หลอกใช้เขาเรื่องอะไรค่ะ ? ”
ใช้เงินของเขา ใช้อำนาจของเขา ใช่อิทธิพลของเขา หลังจากนั้น…… ก็จัดการกับพ่อแม่ของเจ้า !!”
สีหน้าของชุดานิ่งขรึม นางอสรพิษคนนี้ มีแผนการ
ร้ายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คิดที่จะจัดการกับครอบครัวเจริญมาศ ? เหอะ ดูซิว่าใครจะจัดการใคร !
ผลินเพิ่งจะเลิกงาน ออกจากประตูโรงเรียนก็ได้พบ กับชุดา ชุดเยืนพิงอยู่ข้างรถสปอร์ตคันงาน กวักมือเรียก ผลินอย่างหยิ่งยะโส ผลินเดินเข้าไปหา ถามอย่างบึ้งตึงว่า : “คิดจะทําอะไรอีกรี ? ”
“พวกเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“ได้ นั้นเธอพูดมา”
“หาสถานที่คุยกันดีกว่า ที่นี่ไม่เหมาะสม คุยเรื่องเจ้าหน้า โง่คนนั้น”
ผลินขมวดคิ้งอย่างงงงัน : “ถ้าหากคิดจะมาหาเรื่อง นั้นต้องขออภัยฉันไม่มีเวลามากพอที่จะคุยเรื่องไร้สาระ
ผลินหันหลังกลับเดินไปตามถนน ชุดาตะโกนเสียง แหลมออกไปว่า : “ถ้าหากพี่ไม่มีเวลา อย่างนั้นฉันก็จะไป หาปยุต สามีของพี่เพื่อพูดคุย ? ”
ได้ยินว่าจะไปหาปยุต ผลินถึงกับหยุดเดินในทันที
“โอเค ไปก็ไป”
ผลินต้องการดูซิ เจ้าเศษสวะที่วันๆไม่คิดจะทำอะไร ตั้งใจมาหาเธอในวันนี้ ดูซิว่าจะก่อเรื่องอะไรอีก
ชุดาขัยรถยนต์ไปยังร้านกาแฟที่ทั้งสองได้เคยมาก่อน
หน้านี้ เมื่อทั้งสองนั่งลง
เธอจึงได้พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า : “แยกทางกับปยุต
เถอะ”
ผลินยิ้มอย่างเย้ยหยันพูดว่า : “เธอกินยาผิดขวดหรือ เปล่า ? ทำไม่ฉันจะต้องแยกทางกับเขา ? ”
“ถ้าหากไม่ต้องการให้เขารู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงที่เธอใกล้ ชิดกับเขา แยกทางกันอย่างมีความสุข มิฉะนั้นเธอจะตาย แบบศพไม่สวย
“เธอคิดว่าคำพูดที่คุกคามนี้ เป็นครั้งแรกที่ออกจากปาก ของเธออย่างนั้น ? ”
“ครั้งที่แล้วฉันไม่มีหลักฐานอะไร แต่ว่าครั้งนี้ไม่เหมือน กัน ฉันมีหลักฐานเพียงพอที่จะเปิดเผยแผนการของเธอ ”
“เหรอ ? อย่างนั้นก็นำออกมาให้ดูหน่อยซิ”
ชุดาฮึดฮัดในปากออกมาคำหนึ่งแล้วหยิบเครื่องบันทึก เสียงออกจากกระเป๋าอย่างไม่รีบร้อน สักครู่ก็มีเสียง บันทึกของตีรณดังออกมา หลังจากฟังเสียงบันทึกทั้งหมด สามารถแสดงให้รู้ถึงเป้าหมายที่ไม่บริสุทในครั้งแรกที่เธอ ตั้งใจแต่งงานกับปยุต
สีหน้าของผลินถึงกับนิ่งอึ่งในทันที ชุดายิ้มเยาะอย่าง
พอใจ
“เป็นยังไง ถ้าฉันนำของสิ่งนี้ ไปให้สามีของพี่และมอบ ให้กับพอแม่สามีที่รักและเอ็นดูพี่เปิดให้เขาฟัง คงจะน่า สนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ? ”
“ต่ำทราม”
ผลินกัดฟันกรอบๆ พูดออกมาได้แค่สองคํ
“ต่ำทราม ก็เรียนรู้จากพี่นี่แหละ ครั้งที่แล้วเล่นงานพ่อ ของฉันซะย่ำแย่ไปเลย ทำลายครอบครัวของฉันและ ทำให้สูญเสียเงินทองไปมากมาย ครั้งนี้เพียงแค่ตาต่อตา ฟันต่อฟันก็เท่านั้น”
“เครื่องบันทึกเสียงแค่ชิ้นเดียวนี้คิดที่จะมาคุกคามฉัน เธอฝันไปเถอะ ! ”
“นั้นพวกเรามาลองดูกัน ฉันให้เวลาพี่คิดตรึกตรอง 1
สัปดาห์ สัปดาห์หน้าถ้าหากว่าพี่ยังไม่แยกทางกับปยุต แล้วล่ะก็ ความจริงทั้งหมดฉันจะเปิดเผยให้โลกได้รู้เลย ล่ะ”
เอาที่เธอสะดวกแล้วกัน ยังไงก็ได้
ผลินลุกขึ้นย่างเดินออกไปอย่างหญิงสาวผู้มาดมั่น อก จากร้านกาแฟแล้ว กลับไม่สามารถแสดงละครไว้ได้แล้ว แสงแดดส่องกระทบใบหน้าที่ซีดขาวของเธอแสดงถึงความ สิ้นหวังอย่างเห็นได้ชัด
ผลินเดินทางมาถึงบ้านตีรณลุงของนาง
ท่านป้า
นอนอยู่บนเตียง ส่วนท่านลุงนั้น ท่าทางดูเหมือนวัวสันหลัง
หวะ ส่งเสียงถามอีกอักว่า : “หลานผลิน มาหามีเรื่องอะ
ไรรึ ? ”
ผลินวางอาหารเสริมที่ซื้อมาฝากวางลงบนโต๊ะ ถามเบาๆ ว่า : “ท่านป้าอาการเจ็บป่วยเป็นอย่างไรบ้าง ?
“ดีขึ้นมาก ยังดีที่ตรวจพบเสียก่อน อาการป่วยจึง สามารถควบคุมได้
“ท่านลุงมาข้างนอกกับหนูสักครู่
ผลินมองไปยังลุงตีรณอย่างเฉยเมย เดินนำหน้าออก จากห้องไป ลุงตีรณเดินตามมาด้านหลังของผลิน เดิน มาถึงใต้ต้นไห
“ลุงไปพบกับชุดามาใช่มั้ย ? ”
“อืม
หลายวันก่อนเธอได้พบกับลุง ”
“พูดอะไรกับนางบ้างล่ะ ? ”
“ ลุงไม่ได้พูดอะไรกับเขา นางรู้เรื่องราวของธาตรี ดัง นั้นจึงมาถามกับลุง”
“ดังนั้น ลุงก็ได้พูดเรื่องที่ควรพูดและไม่สมควรพูด บอกไป หมดใช่มั้ย ?
เสียงตะโกนออกมาด้วยสำเนียงเสียดหูอย่างสงบ
อารมณ์ไว้ไม่อยู่ แม้แต่ต้นไหยังสะเทือน
“ลุงพูดอะไรไปรึ ? ” ลุงตีรณ ถามกลับด้วยน้ำเสียงเจื่อนๆ
ลุงพูดอะไรออกไปลุงจำไม่ได้เลย ? หนูแต่งงานกับป ยุคก็เพื่อแก้แค้นครอบครัวเจริญมาศ เพียงแค่แก้แค้น สำเร็จก็จะแยกทางกับเขาในทันที หลังจากนั้นกลับมาอยู่ ในอ้อมกอดของชายอีกคนหนึ่ง ชายคนนั้นเป็นเจ้าหน้าโง่ แต่เจ้าหน้าโง่ยังดีกว่าเจ้าบ้าๆบอๆปยุดเสียอีก”
ผลินยิ่งพูดน้ำเสียงยิ่งเริ่มสั่นเทา “ตอนนี้เรียบร้อบแล้ว ชุดาบันทึกคำพูดของลุงไว้ทั้งหมดแล้ว และมาคุกคามหนู เหมือนกับทาตถุอีกด้วย ถ้าหนูไม่ยอมแยกทางกับปยุต นางจะนำเสียงบันทึกนี้มอบให้กับเขา”
ลุงตีรณ ตบปากตัวเองพร้อมกับคุกเข่าต่อหน้าผลินพูด ว่า “หลานผลิน ลุงขอโทษ ขอโทษจริงๆ เวลานั้นลุง ดื่มสุรามากไปหน่อย ไม่รู้สึกตัวเลยว่าพูดอะไรลงไปบ้าง นางชุดาคนนั้นได้บอกกับลุงว่า หลานผลินอยู่บ้านสามีได้ รับการทารุณอย่างมาก ทุกคนในครอบครัวไม่ได้ดูแลหลาน เหมือนคนๆหนึ่ง ลุงเลยดื่มสุราเพื่อชำระความโกรธเคือง ที่อึดอัดอยู่ในใจจนทำให้พูดจาโดยไม่ยั้งคิด แต่ลุงรักและ เป็นห่วงหลานมากนะ
“พอแล้วค่ะลุง คำพูดของชุดาลุงยังเชื่อ ? ลุงไม่มี สมองหรืออย่างไร ?! ถ้าหากว่าหลานอยู่ในตระกูลทรัพย สานโดยไม่สถานะอะไรเลย หลานก็จะไม่มีความจำเป็น ต้องอยู่ที่นั้นอีกแล้วใช่มั้ย ? ลุงไม่รู้อะไรบ้างเลย ลุงเพิ่ม ความยุ่งยากให้หลานมากทีเดียว ! ”
ผลินโกรธเคืองผลักลุงตีรณไปครั้งนึง แล้ววิ่งจากไป โอ้ สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมกับผลินเลย ทำให้เธอต้องต่อสู้เพียงลำพัง และยังทำให้ญาติสนิทคนเดียวที่เหลืออยู่ ของเธอ ฉุดรั้งเธอไว้ให้ถอยหลังลงไปอีก
ผลินกลับถึงบ้านอย่างซึมกระทือ ปยุตกลับมาถึงแล้ว เช่นกัน ดูท่าทางของเธอเหมือนยังกับวิญญาณออกจาก ร่าง จึงถามเธออย่างเป็นห่วงว่า
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?
เธอมองไปทางปยุตด้วยสายตาที่แฝงไว้ด้วยความ ห่วงใย ส่ายหน้าอย่างคนไร้เรี่ยวแรง แล้วพูดว่า : “ไม่มี อะไรคะ
ความจริงแล้ว เขาอยากถามเธอจริงๆว่า เพราะเหตุใด ถึงไม่สามารถชอบเธอได้ ? ถ้าหากสามารถชอบเธอได้ หรือ ว่ามีเธออยู่ในใจเพียงสักนิดก็คงดี เธอก็คงไม่ระทมทุกข์ เป็นกังวลและหวาดกลัวมากมายเพียงนี้
ท่าทางที่เสแสร้าง ดูไม่แยแสอะไรขณะที่อยู่ต่อหน้าชุ ดานั้น ความจริงแล้ว ผลินหวาดกลัวมากกว่าใครเป็นที่สุด กลัวว่าหากปยุตรู้ความจริงแล้ว ไม่เพียงแต่จะไม่ชอบเธอ อาจจะเกลียดชังเธอมากขึ้นไปอีก
เคยมีความคิดที่จะสารภาพความในใจกับเขา แต่ว่า เลื่อนออกไปได้เลย เพราะว่าเขาไม่ชอบเธอ เธอสูญ เสียเบี้ยต่อรองที่จะเป็นผู้ที่ถูกยกโทษให้
ตั้งแต่วันที่เขาได้ปฏิเสธเธอนั้น ไม่มีเวลาไหนที่จะลบ
“คืนพรุ้งนี้มีเวลาว่างมั้ยครับ ? ”
“มีเรื่องอะไรค่ะ ? ”
“มีงานเลี้ยงทางธุรกิจ ต้องการให้คุณไปร่วมงานเป็นเพื่อน
ผม
“อ๋อ ได้ค่ะ”
ปยุตพงกศรีษะยิ้มเล็กน้อย :
นั้นก็นัดแนะกันตามนี้นะครับ พรุ่งนี้ช่วงบ่ายผมไปรับ คุณที่โรงเรียนเพื่อไปลองชุดราตรี จากนั้นก็ไปต่อที่งาน เลี้ยง
“อืม”
บ่ายวันรุ่งขึ้น ขณะที่ผลินจัดแจงเก็บสิ่งของบนโต๊ะ ทำงาน ได้รับโทรศัพท์ของปยุต : “ออกมาหรือยังครับ ?
“จะรีบไปเดี๋ยวนี้”
ผลินคว้ากระเป๋ารีบออกไปในทันที กลับถูกไวภพคว้ามือ
ไว้ที่หน้าประตูพูดว่า : “คืนนี้ว่างมั้ย ? ไปเป็นเพื่อนผม……
“ขอโทษค่ะ ฉันมีนัดแล้วค่ะ”
เธอมองเขาด้วยสายตาขอโทษครั้งหนึ่ง พริบตาเดียวก็หายตัวอย่างไร้ร่องรอย
ปยุตเห็นเธอออกมา รีบเปิดประตูรถยนต์ให้ผลินทันที ขณะที่รถยนต์กำลังออกไป ผลินเห็นแววตาอันเศร้าโศรก ของไวภพ ส่งมาจากรถยนต์อีกคันหนึ่งวิ่งสวนทางกัน
ร้านลองชุดราตรีตั้งอยู่ใจกลางเมืองเป็นโซนที่เจริญ ที่สุดแห่งหนึ่ง ปยุตพาผลินเข้าไปในร้าน ชายวัยกลาง คนที่แต่งหน้าเป็นเอกลักษณ์คนหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับ : “คุณชายปยุต ช่างเป็นแขกวีไอพีจริงๆครับ
ปญฺตรับคำแล้วพูดว่า : “นี้คือภรรยาของผม รบกวน ท่านช่วยเลือกชุดราตรีที่เหมาะสมกับเธอสักชุด พวกเรา อีกสักครู่จะไปร่วมงานเลี้ยงที่สำคัญมากงานหนึ่ง”
“ได้ครับ
ไม่มีปัญหา”
ชายวัยกลางคนมีนามว่า Peter เป็นดีไซน์เนอร์ชั้นนำ ที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง ไม่ว่าหญิงที่มีรูปร่างลักษณะ อย่างไรหากอยู่มือเขาแล้ว ล้วนเปล่งออร่าสะดุดดาขึ้น เป็นงดงามยิ่งขึ้น
ทันที น่าเกลียดเปลี่ยนเป็นงดงามได้ งดงามเปลี่ยน
ปยุตนั่งรออยู่ที่ห้องต้อนรับลูกค้าประมาณยี่สิบกว่านาที Peter ได้นําผลงานของเขาออกมา : “เป็นยังไงบ้างครับ คุณชายปยุตพอใจมั้ยครับ ? –
ผลินมีอาการเขินอายเล็กน้อยไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาหญิงสาวย่อมชื่นชอบอวดโฉมให้ชายที่ตนรักได้ชื่นชม ถึง แม้ว่าเธอปราถนาที่จะให้ปยุตมองในความงามของเธอสัก ครั้ง แต่ว่าการถูกปครับรู้ถึงความในใจของเธอแล้ว เธอ จึงรู้สึกเขินอายขึ้นเล็กน้อย
สองตาของปยุคที่ชวนหลงใหลได้เปล่งประกายความ
ปิติ ชื่มชมอย่างพอใจว่า : “อืม งดงามมาก
ปยุคเดินเข้าไปใกล้ผลิน จัดแจงขยับสร้อยบนสําคอ
ของผลินเล็กน้อย นิ้วมือเรียวยาวของยุตได้เลื่อนผ่านไห ปาหน้าของเธอทำให้หัวใจของผลินเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ไปกันเถอะ”
ปยุตยื่นแขนออกไปเพื่อคล้องแขนของผลินเข้าด้วยกัน ทั้งคู่เคียงข้างกันเดินออกจากร้านชุดราตรี Peter มองดู คนทั้งสองเดินจากไป อุทานส้มทับกับตัวเองว่า : “ทั้งคู่ สมดั่งกิ่งทองใบหยกเสียจริงๆ
เดินทางมาถึงงานเลี้ยง ปยุดจอดรถยนต์เรียบร้อย จาก นั้นควงผลินเดินเข้าไปในห้องโถงของงานเลี้ยง การ ปรากฏตัวของทั้งสองคน
ดูเหมือนว่าจะเป็นจุดเด่นเปล่งประกายมากที่สุดของ งาน สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมายังทั้งสองคน ตามด้วยเสียง ซุบซิบกันอย่างเซ็งแซ่
ผลินเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้อย่างสงบนิ่งตั้งแต่วันแต่งงานกับปยุตในวันนั้น ผลินเองก็ปรับตัวจน เคยชินแล้ว เดินคู่กับปยุต และเป็นที่จับจ้องเป็นพิเศษของ ทุกสายตา เป็นเรื่องปกติ