ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art - ตอนที่ 106
ตอนที่ 106 ธันวาคมของอีกปี
วันเวลาผ่านไป เมิ่งชวนฝึกฝนวิชากระบี่ที่ถ้ำหมื่นกระบี่ทุกๆเช้า หลิวชีเยว่เองก็เพิ่มเวลาฝึกฝนที่บ่อเพลิงหินหลอมเช่นเดียวกัน
ในตอนบ่าย เมิ่งชวนวาดภาพโดยมีหลิวชีเยว่นั่งดูอยู่ข้างๆ เธอกำลังเรียนรู้วิธีการคัดลายมือ
สำหรับชีเยว่แล้วการวาดภาพนั้นยากเกินไป เธอคัดลายมือได้ดีกว่า ทุกๆครึ่งที่ทั้งคู่เงยหน้าขึ้น พวกเขาก็จะยิ้มออกมาเมื่อสบตากัน
จากนั้นทั้งคู่ก็จะประลองกันบนจิ้งหมิงเฟิง หลิวชีเยว่ไล่ยิงลูกศรใส่เมิ่งชวนที่ปัดป้องมัน จากนั้นเมิ่งชวนก็ไล่ตามหลิวชีเยว่ที่กำลังหนี
ทั้งคู่ไม่ปิดบังความสัมพันธ์อีกต่อไป
ที่เต๋าเจี่ยวหลิงและตำหนักแม่น้ำสวรรค์ ทั้งคู่แสดงความวใกล้ชิดกันจนเทพอสูรชายหลายๆคนที่พยายามตามจีบชีเยว่ได้แต่ถอนหายใจออกมา
…
ฤดูหนาวได้มาถึง ภาพทิวทัศน์ของใบไม้ที่ร่วงหล่นก่อนที่หิมะจะตามมา เมิ่งชวนและหลิวชีเยว่อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
เมิ่งชวนใช้เวลาสองชั่วยามในการขัดเกลาพลังวินาศในอ่างสมุนไพรทุกวัน เขาต้องทนทรมาณเหมือนจากนรก มันบั่นทอนทำลายจิตใจมาก แต่หลังที่เขาอดทนความเจ็บปวดนั่นได้ เขาก็จะมีข้าวต้มของชีเยว่คอยเขาอยู่ มันช่วยทำให้ความมุ่งมั่นของเขาเพิ่มขึ้นจนสามารถทนความเจ็บปวดทรมาณเหล่านี้ได้มากกว่าเดิม
15 วัน 30 วัน 50 วัน 80 วัน…เมิ่งชวนนับวันที่เขาขัดเกลาจุดที่แปดนี้ ทุกๆครั้งที่เขาทำเสร็จ เขาก็รู้สึกได้ว่าเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม อีกไม่นานแล้วเขาจะผ่านการขัดเกลาจุดที่แปด
ในที่สุด ในวันที่ 120 วันสุดท้ายของการซึมซับกระแสพลังวินาศก็มาถึงเมิ่งชวนจะเสร็จสิ้นจุดขัดเกลาที่แปด ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่วันนี้เป็นวันที่ 23 ธันวาคม วันที่ศิษย์ใหม่เข้าสู่เขาหยวนชูพอดี
เขาหยวนชูบนยอดหวงซุนจิง ผาแดงโลหิต
พิธีรับศิษยืกำลังเริ่มขึ้น
“…ทั้งหมดนี้คือเทพอสูรทั้งหมด 15,283 คน…” เจ้าเขาหยวนชูอธิบายให้ศิษย์ใหม่ฟัง
ข้างๆพวกเขาคือเหล่าเทพอสูรและศิษย์พี่ที่ยังไม่ได้เป็นเทพอสูร เมิ่งชวนเองก็เป็นหนึ่งในศิษย์พี่เหล่านั้น
เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าเขาพูด เขาก็ได้แต่ถอนหายใจลึกๆ ปีที่แล้วมีเทพอสูรที่ตายไป 15,271 คน เพียงเวลาสั้นๆ ก็มีเทพอสูรของเขาหยวนชูถึง 12 คนตายไปแล้วอย่างนั้นหรือ?
หากรวมเทพอสูรธรรมดาๆไปด้วย คงจะมีเทพอสูรในราชวงศ์โจวที่ยิ่งใหญ่ที่ตายไปมากกว่านี้อีก คงจะประมาณหกสิบ และหากนับจากทั่วโลก มีเทพอสูรกว่าสองร้อยคนต้องตายทุกปี เทพอสูรส่วนมากต้องตายเพราะอาการบาดเจ็บรุนแรงหรือตายในสนามรบ มีเทพอสูรเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถใช้ชีวิตจนหมดอายุขัยได้ในวังวนของการต่อสู้กับอสูรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
การสูญเสียเทพอสูรไปจำนวนมากเช่นนี้ก็แสดงให้เห็นได้ว่าการต่อสู้กับเหล่าอสูรนั้นรุนแรงแค่ไหน
มนุษย์ยังคงรักษาความเจริญรุ่งเรืองไว้ได้ หลายคนที่อยู่ในเมืองยังคงดื่มกินอย่างมีความสุขและรักษาจำนวนประชากรเอาไว้ได้เพราะเหล่าเทพอสูร เช่นเดียวกันกับเหล่าทหารมนุษย์ที่ไปถึงระดับชำระแก่นแท้ที่คอยต่อสู้ป้องกันเหล่าอสูรอย่างต่อเนื่อง นี่ทำให้อสูรที่หลุดเข้ามาในโลกมนุษย์นั้นต้องหนีไม่ก็ต้องหลบซ่อนการฆ่าล้าง
ข้าอยากจะฝึกฝนให้เสร็จโดยไว ลงจากภูเขา และสังหารพวกอสูรซะ เมิ่งชวนถอนหายใจ
…
ในคืนเดียวกัน
อุณหภูมิของน้ำเพิ่มขึ้นสูง เมิ่งชวนยังคงอดทนต่อความเจ็บปวด เขาใช้ความเจ็บปวดนั้นในการฝึกฝนจิตใจ
นี่เป็นวันสุดท้าย
120 วันโดยที่ไม่พัก และนี่คือวันสุดท้าย เมิ่งชวนรู้สึกได้ถึงความสำเร็จ แม้ว่าเขาจะวางแผนเอาไว้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าการทนทรมาณสองชั่วยามทุกวันเป็นเวลา 120 วันมันยากแค่ไหน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทำสำเร็จ
เมิ่งชวนไม่กัดผ้าเช็ดตัวแล้ว เขาแค่จับกำแพงหินแน่นๆเท่านั้น ร่างของเขาเป็นสีแดงทั้งตัวด้วยเส้นเลือดที่ปูดโปน ถึงขนาดมีเลือดไหลออกมาจากผิวหนังของเขาเลยด้วยซ้ำ
ความเจ็บปวดมาจากส่วนลึกของร่างกาย แม้ตอนนี้มันยังเป็นเรื่องยากในการอดทนต่อความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังทนไว้ได้เพราะแรงใจของเขา
ในที่สุดความเจ็บปวดก็จางหายไป เขารู้สึกว่าร่างกายเบาและสบายอีกครั้ง
เมิ่งชวนรู้สึกได้ว่ากระแสพลังวินาศอีกาทองได้หลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์ มันไม่ทำลายร่างกายของเขาอีกต่อไป
ใช่แล้ว เขาชูนิ้วขึ้นและมีประกายพลังวินาศสีดำทองปรากฏขึ้นตรงปลายนิ้วของเขา มันมีพลังในการทำลายสูงมาก เมิ่งชวนพยักหน้าเล็กน้อย ข้าขัดเกลาจุดที่แปดเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและระเหยน้ำที่อยู่บนตัวเขาออกจนหมดก่อนจะใส่ชุดคลุมแล้วเดินออกไป
หลิวชีเยว่ยืนยิ้มอยู่ตรงทางเดิน เธอมองไปที่เมิ่งชวน “ยินดีด้วยนะอาชวนที่ผ่านการขัดเกลาครั้งที่แปดแล้ว”
“ใช่แล้ว” เมิ่งชวนซ่อนความสุขไว้ไม่อยู่ “ในที่สุดข้าก็ทำสำเร็จ”
“การจะไปถึงจุดที่แปดได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆนะ” หลิวชีเยว่กล่าว “ครั้งสุดท้ายที่บนเขาหยวนชูมีคนไปถึงจุดที่แปดก็เมื่อ 83 ปีก่อน ส่วนคนที่ไปถึงจุดที่เก้าก็ 200 ปีก่อน อาชวน เจ้าผ่านจุดขัดเกลาที่แปดได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังมีโอกาสจะไปถึงจุดที่เก้าอีกด้วย”
“จุดขัดเกลาที่เก้าไม่ง่ายเป็นแน่” เมิ่งชวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “กินข้าวกันเถอะ”
อ่านตอนล่าสุดที่ mynovel.co หรือ www.thai-novel.com
“เพื่อฉลองที่เจ้าผ่านจุดขัดเกลาที่แปดได้ วันนี้ข้าเลยเตรียมอาหารเพิ่มให้อีกนิดหน่อย” หลิวชีเยว่กล่าว
เมื่อทั้งคู่ไปถึงห้องอาหาร บนโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหารมากมาย
ทั้งสองนั่งลงและเริ่มกิน
แม้ว่าเมิ่งชวนดูจะกินอาหารอย่างมีความสุข แต่อันที่จริงแล้วเขานึกอะไรขึ้นได้หลายอย่าง
“มีอะไรหรือ? เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?” หลิวชีเยว่ถาม
“ก่อนหน้านี้ที่เจ้าพูดถึงศิษย์พี่ของเขาหยวนชูที่ฝึกร่างอสูรตัดสายฟ้าได้ถึงจุดที่แปดและเก้าล่าสุดก็คือ 83 และ 200 ปี” เมิ่งชวนกล่าวเบาๆ “ตอนที่ข้าเลือกร่างเทพอสูรนี้ ข้าก็ได้ศึกษาประวัติของมันโดยละเอียด ศิษย์พี่เมื่อ 83 ปีที่แล้วชื่อเกาคง เขาได้กลายเป็นเทพอสูรระดับมหาสุริยัน ส่วนคนเมื่อ 200 ปีก่อนนั้นได้กลายเป็นเทพอสูรระดับขุนนาง”
“ข้ารู้จัก ขุนนางทะเลหวนสินะ” หลิวชีเยว่กล่าว
เมิ่งชวนพยักหน้า”เจ้ารู้ไหมว่าขุนนางทะเลหวนตายอย่างไร?”
หลิวชีเยว่นิ่งไปและส่ายหัวเบาๆ
“ข้าได้ลองหาข้อมูลอย่างละเอียดดู” เมิ่งชวนกล่าว “เกาคงตายที่ด่านเก้าจังหวะเมื่อ 36 ปีก่อน ตอนนั้นทางผ่านโลกที่ด่านเก้าจังหวะเกิดขยายขึ้น มีราชาอสูรระดับสามกว่าสามสิบตัวได้หลุดเข้ามา และยังมีราชาอสูรระดับสองอีกร้อยกว่าตัว ด่านเก้าจังหวะถูกบุกอย่างหนัก และเทพอสูรเจ็ดคนรวมไปถึงเกาคงได้ตายในการต่อสู้ ในตอนนี้ด่านเก้าจังหวะได้กลายเป็นเมืองด่านระดับกลางแล้ว โดยมีขุนนางเก้าจังหวะคอยคุม”
เมื่อนานมาแล้ว ไม่เคยมีอสูรอยู่ในโลกมนุษย์ มีแต่การต่อสู้กันระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง
แต่จู่ๆก็มีทางผ่านจำนวนมากปรากฏขึ้นและเชื่อมโลกมนุษย์เข้ากับโลกปีศาจเมื่อแปดร้อยปีก่อน
ในตอนแรกประตูพิภพนั้นหาได้ยากและมีขนาดเล็ก
แต่จู่ๆทางผ่านเหล่านั้นมันก็เพิ่มมากขึ้นและขยายตัว ในตอนนี้ราชวงศ์โจวที่ยิ่งใหญ่มีเมืองด่านขนาดใหญ่เจ็ดเมือง แต่จำนวนเมืองด่านขนาดเล็กและขนาดกลางนั้นมันเยอะมากจนน่าตื่นใจ
ตอนนั้น ที่ด่านเก้าจังหวะนั้นก็เกิดจากการขยายตัวของทางผ่าน
“การตายของเกาคงดูค่อนข้างปกติ” เมิ่งชวนส่ายหน้าเบาๆ “สำหรับขุนนางทะเลหวนแล้ว เขาผ่านการขัดเกลาจุดที่เก้าของร่างอสูรตัดสายฟ้า เขาเร็วมาก ขนาดราชาเทพอสูรหลายคนยังตามเขาไม่ทัน ขนาดราชาอสูรระดับห้าก็ยังตามเขาได้ยาก และจากบันทึกของเขาหยวนชู เขาตายระหว่างทำภารกิจพิเศษ”
“ภารกิจพิเศษ?” หลิวชีเยว่ก็งงเหมือนกัน
“ข้าไม่รู้ว่ามันคือภารกิจอะไร พวกเรายังไม่ใช่เทพอสูรด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงมีหลายสิ่งที่เป็นความลับสำหรับพวกเรา” เมิ่งชวนส่ายหน้าเบาๆ “เหล่าศิษย์พี่ที่ไปถึงจุดที่แปดหรือเก้าต้องตายด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง”
“แม้พวกเขาจะตายไปในการต่อสู้ แต่พวกเราก็มีเทพอสูรที่แข็งแกร่งกว่าเกิดขึ้นมา” หลิวชีเยว่กล่าว
เมิ่งชวนพยักหน้ายิ้มๆ
แน่นอนอยู่แล้ว
บางทีคงเป็นเพราะแรงกดดันมหาศาล มนุษยชาติจึงต้องฝึกฝนอย่างหนัก มีการเกณฑ์ทหารจำนวนมาก ทำให้หลายคนต้องปลดปล่อยความสามารถของตนออกมา บางทีสงครามคงเป็นสิ่งที่หล่อหลอมเทพอสูรทุกๆคน ถึงอย่างนั้น ในช่วงแปดร้อยปีที่ผ่านมา มีเทพอสูรจำนวนมากได้ถือกำเนิดขึ้นมากกว่าแต่ก่อน แม้ว่าเทพอสูรระดับขุนนางและราชาจะตายไปอย่างต่อเนื่อง แต่เทพอสูรระดับขุนนางและราชาคนใหม่ๆก็จะขึ้นมาแทนที่!
…
วันรึ่งขึ้น เมิ่งชวนไปที่คลังสมบัติบนหวงซุนจิงคนเดียว
“ท่านเมิ่งชวน?” ข้างในคลังสมบัติ ชายชุดสีฟ้าตรงข้างหน้ายิ้มให้เมิ่งชวน “ไม่ทราบว่าท่านเมิ่งมาที่นี่ทำไมหรือขอรับ?”
“ข้าต้องการหกประสงค์วินาศหนึ่งขวด” เมิ่งชวนกล่าว
“หกประสงค์วินาศหนึ่งขวดใช้สามพันแต้มขอรับ” ชายชุดสีฟ้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าขัดเกลาจุดที่แปดของร่างอสูรตัดสายฟ้าเรียบร้อยแล้ว ข้าสามารถรับมันได้ฟรี” เมิ่งชวนกล่าว การขัดเกลาจุดที่เก้านั้นจะต้องใช้หกประสงค์วินาศถึงเก้าสิบขวด และเขาแลกพวกมันได้ไม่หมดหรอก!
“รับฟรี?” ชายชุดสีฟ้าตกใจ จุดขัดเกลาที่แปดของร่างอสูรตัดสายฟ้า? ครั้งล่าสุดที่เขาได้ยินเกี่ยวกับมันมันเมื่อกี่ปีมาแล้วกัน?
“ท่านเมิ่งชวน โปรดรอซักครู่นะขอรับ ข้าจะไปเรียกท่านผู้อาวุโสมา” ชายชุดสีฟ้าพูดอย่างตื่นตระหนก