ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art - ตอนที่ 30
ตอนที่ 30 ชะตากรรมของตระกูลโจว
ตอนนี้ทั้งเมืองตงหนิงเต็มไปด้วยข่าวลือและกลุ่มคนถูกระดมกำลังไปช่วยกันตรวจสอบ
ตอนนี้สองพ่ี่น้องหงหยูหนีไปอยู่บ้านเจ้านายของพวกเขา
คฤหาสน์โจว
โจวเฮ่อนั่งบนเก้าอี้ประธาน ใบหน้าของเขามืดมน และนายน้อยโจวเฉียนก็หน้าซีด
“คุณหนูหลิวขอให้พวกเราหนีให้เร็ว และพวกเราก็หนีไปอย่างหัวซุกหัวซุน” หงหยูพาน้องชายของเธอตี่เชิงมาด้วย เธอพูดว่า “ตอนนั้นมีคนจำนวนมากเสียชีวิต กระทั่งสมุนของแก๊งหมาป่าดำก็เสียชีวิต พวกเราพี่น้องหนีไปตลอดทาง ข้ากลัวมากเช่นกัน ดังนั้นข้าวิ่งมาบอกนายท่านก่อน”
“เจ้าทำถูกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กนี้ทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่อย่างนี้” โจวเฮ่อมองลูกชายของเขาอย่างเย็นชา “แกกล้ามากที่ไปขอให้นายน้อยเมิ่งชวนช่วย ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเกิดเรื่องใหญ่แบบนี้”
โจวเฉียนสั่นสะท้านเล็กน้อย “ข้าไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ ข้าไม่ได้คาดหวังเลย หงหยู พี่ชายเมิ่งกับคนอื่นๆยังมีชีวิตอยู่หรือไม่“
“ข้าไม่รู้” หงหยูส่ายหน้า “ตอนนั้นเขาและนายน้อยของวังหยกสุริยันได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว หลังจากที่พวกเราหนีออกมาข้าก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้าหวังว่าพวกเขาจะไม่เป็นไร” โจวเฮ่อกล่าวอย่างเฉยเมย “มิฉะนั้นตระกูลโจวของเราคงจะต้องจบสิ้นและไม่มีความหวังใดๆเหลืออีกเลย”
“พ่อ …” โจวเฉียนพูดขึ้นมาในทันที
“ขอให้โชคดีในตอนนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นแก๊งหมาป่าดำ ตระกูลไป๋ หรือตระกูลเมิ่ง พวกเราทั้งหมดคงจบสิ้น หากมีใครต้องการที่จะจัดการกับพวกเรา” โจวเฮ่อลุกขึ้นยืนและพูดว่า “โจวเฉียนเจ้าตามข้าไปที่คฤหาสน์เมิ่งทันที”
“ขอรับ” โจวเฉียนกล่าว เขาก็รู้สึกสับสนเล็กน้อยเช่นกัน
“และพวกเจ้าพี่น้องทั้งสองคน” โจวเฮ่อสั่ง “ถ้ามีคนจากศาลมาถามเจ้าเกี่ยวกับเรื่องของวันนี้เจ้าจะต้องทำตามที่ข้าบอก …”
“ขอรับ” สองพี่น้องหงยูรับคำ
…
โจวเฮ่อพาลูกชายรีบไปที่คฤหาสน์จิงหูเมิ่ง(คฤหาสน์กระจกทะเลสาบตระกูลเมิ่ง) พร้อมกับของขวัญชิ้นใหญ่
บนท้องถนนเขาเห็นกองทหารที่ถูกระดมมา
“พี่จาง พี่จาง เกิดอะไรขึ้น” โจวเฮ่อถามผู้นำกองทหารที่คุ้นเคยทันที
“มีคนจากนิกายอสูรฟ้าปรากฏตัว บุตรชายของตระกูลเมิ่ง เมิ่งชวน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ทั้งเมืองกำลังถูกค้นหา” ผู้นำกองทหารพูดให้ฟังง่าย “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดมากกว่านี้ พวกเราไปละ”
“พี่จาง พี่ต้องยุ่งแล้ว พี่ต้องยุ่งแล้ว” โจวเฮ่อยิ้ม
“พ่อ” โจวเฉียนที่อยู่ด้านข้างกระซิบ
“นายน้อยเมิ่งชวนยังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นข่าวดี ดูเหมือนว่าฆาตกรนั่นเป็นคนของนิกายอสูรฟ้ารึ” โจวเฮ่อคิด “ไปกัน ไปคฤหาสน์เมิ่งกัน”
******
คฤหาสน์จิงหูเมิ่ง
เมิ่งชวนเอนกายอยู่บนเตียงแม้ว่าใบหน้าจะซีดเซียว แต่เขาก็มีกำลังใจดี
“เมิ่งชวน ในอนาคต หากเจอศัตรูที่แข็งแกร่งไม่อาจต้านทานได้ ให้รักษาชีวิตตัวเองไว้ให้ได้ก่อน” เมิ่งเซียนกูนั่งอยู่ข้างๆ พิงไม้เท้าและพูดว่า “เป็นเรื่องดีที่เจ้าช่วยเหยียนจิน แต่ถ้าเจ้ารวมตัวเองเข้าไป … มันไม่คุ้มค่า เจ้าควรรู้ว่าเจ้าเป็นความหวังของตระกูลเมิ่งทั้งหมด เจ้าสูญเสียตัวเองไม่ได้ และตระกูลเมิ่งของเราก็สูญเสียเจ้าไม่ได้เช่นกัน”
“ย่าทวด ร่างกายของคนจากนิกายอสูรในวันนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ความเร็วทางด้านร่างกายนั้นไม่นับเร็วเท่าไรนัก ข้าคิดว่าข้าคงเอาตัวรอดได้แน่หลังจากช่วยเหยียนจินแล้ว ใครจะคิดว่าเล็บที่หักของคนนิกายอสูรฟ้าที่วันนั้นจะทรงพลังมาก เพียงท่าเดียวก็ทำให้ข้าบาดเจ็บสาหัส” เมิ่งชวนรู้สึกละอายใจมากเช่นกัน
“เจ้าพบคู่ต่อสู้มาแล้วกี่คนงั้นรึ อีกทั้งความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ก็เหนือกว่าเจ้ามาก เจ้านั่นพลาดสิบครั้งก็ยังไม่เป็นไรเพราะเจ้าไม่สามารถทำร้ายเขาได้ แต่ถ้าเจ้าพลาดครั้งเดียวเจ้าก็จบสิ้น การเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เจ้าไม่ควรพัวพันเขาโดยใช้โชคช่วย”
เมิ่งเซียนกูส่ายหน้า “ยิ่งไปกว่านั้นคนของนิกายอสูรฟ้าเป็นผู้ทรยศต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเขาฝึกฝนตามวิธีการที่เผ่าอสูรสร้างขึ้นให้พวกเขา การต่อสู้จะคล้ายกับอสูรมาก และร่างกายของพวกนั้นสามารถฝึกฝนไปเป็นอาวุธได้ เจ้าต้องระวังให้ดีในอนาคต คนที่พบกับนิกายอสูรฟ้าจะหลีกเลี่ยงพวกนั้นในทันที และไปให้ไกลที่สุด นอกจากว่าเจ้าจะมั่นใจว่าสามารถฆ่าพวกนั้นได้”
“ขอรับ” เมิ่งชวนรับคำ
เมื่อถึงตอนนี้ เมิ่งต้าเจียงก็เดินเข้ามาจากนอกบ้าน
“พ่อสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง” เมิ่งชวนถาม
“คนของนิกายอสูรหนีเร็วเกินไปในวันนั้น และตอนนี้พวกเขากำลังสอบปากคำแก๊งหมาป่าดำอยู่” เมิ่งต้าเจียงกล่าว
“ผู้หญิงบริสุทธิ์ในสวนหินร้างอยู่ที่ไหนกันรึ” เมิ่งชวนถาม
“ในการต่อสู้ครั้งก่อนแก๊งหมาป่าดำถูกสังหารไป 5 คนและบาดเจ็บอีก 3 คน ผู้หญิงจากสวนหินร้างก็เสียชีวิตเช่นกัน และบาดเจ็บอีก 6 คนด้วย ยังมี… ผู้หญิงสามสิบแปดคนถูกพบว่าถูกขังอยู่ในสวนหลังบ้าน ชวนเอ๋อเจ้าได้ช่วยชีวิตคนเยอะมาก” เมิ่งต้าเจียงกล่าว “มีห้องโถงใต้ดินในสวนหินร้างซึ่งมีกระดูกผู้หญิงจำนวนมาก คนจากนิกายอสูรฟ้าควรจะอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานเพื่อฝึกฝนวิชาอสูร”
เมิ่งชวนเงียบ
ยิ่งสงสารผู้หญิงที่ถูกฆ่ามากขึ้นเท่าไหร่ ความคิดที่จะฆ่าคนในนิกายอสูรฟ้ายิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
“นายท่านขอรับ” มีเสียงจากคนข้างนอก “โจวเฮ่อพาลูกชาย โจวเฉียน มาขออภัยขอรับ”
“ขออภัยรึ” เมิ่งต้าเจียงงุนงง “ข้าจะไปดู”
…
ย่าทวดของเขาจากไปในเวลาไม่นาน
เมิ่งชวนนอนพักผ่อนบนเตียง ไออสูรในร่างของเขาถูกย่าทวดขับออกไปอย่างง่ายดาย สำหรับเทพอสูรแล้ว การขับไล่ไออสูรนี้เป็นเรื่องง่าย ในทางตรงกันข้าม การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและกระดูกจะใช้เวลาสองสามวันในการฟื้นตัวอย่างช้าๆ นี่ยังดีที่เป็นร่างเทพอสูรที่แข็งแกร่งเพียงพอ หากเป็นคนธรรมดาจะต้องใช้เวลาหลายเดือนในการฟื้นตัว
“ชวนเอ๋อ” เมิ่งต้าเจียงเปิดประตูและเดินเข้ามา “ดูเหมือนว่าเด็กคนที่ไปขอความช่วยเหลือจากเจ้านั้น มีเด็กคนหนึ่งชื่อโจวเฉียนหนุนหลังอยู่”
“Chuan’er.” Meng Dajiang opened
“โจวเฉียนรึ” เมิ่งชวนคิดสงสัย “ข้ารู้จักเขา ใช่แล้ว ศิษย์จากสำนักเต๋าจิงหูของเรานั่นเอง วันนี้ข้ายังได้ชี้แนะวิชากระบี่ของเขาด้วย”
เมิ่งต้าเจียงกล่าวว่า “หงหยูเป็นสาวใช้ส่วนตัวของเขา และความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอก็ดีมาก เดิมทีเขาต้องการช่วยสาวใช้เอง … แต่พ่อของเขาโจวเฮ่อหยุดเขาไว้ ดังนั้นเขาจึงให้เด็กชายตี่เชิงไปที่ร้านอาหาร เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าจนเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นมา ไม่คิดว่าทุกอย่างมาจากศิษย์น้องของสถาบันเต๋าของเจ้า ที่กล้าปล่อยให้ลูกชายของข้าเจอกับหายนะเช่นนี้ ข้าย่อมไม่ปรานีอย่างแน่นอน”
“พ่อ” เมิ่งชวนกล่าวว่า “ข้าคุ้นเคยกับโจวเฉียนมากและเขามีความสามารถมากทีเดียว ใจเขาไม่ได้คิดทำร้ายข้า ในความคิดของเขา นี่เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับข้าในการแก้ไขปัญหาแก๊งหมาป่าดำ จริงแล้วมันก็ง่ายมาก มันเป็นโชคร้ายอย่างแท้จริงที่เราได้พบกับนิกายอสูรฟ้า เราไม่สามารถโกรธศิษย์น้องโจวเฉียนได้”
“เจ้า…” เมิ่งต้าเจียงส่ายหน้า
วันนี้เขากลัวจริงๆ
ถ้าไม่ใช่บ่าวชราใช้ยาโลหิตเทพ และไปพัวพันกับจอมยุทธของนิกายอสูรฟ้าไว้ ลูกชายของเขากับหลิวชีเยว่อาจจะตายไปแล้ว เมิ่งต้าเจียงจะไม่โกรธตระกูลโจวได้อย่างไร
“คนทำผิดต้องใช้หนี้” เมิ่งชวนเกลี้ยกล่อม “นี่คือความจริงที่ท่านสอนข้า”
“ก็ได้ ข้าปล่อยพวกเขาไปก็ได้ แต่ข้าจะไม่ปรานี ไม่ว่าอย่างไร เขาก็กำลังหลอกใช้เจ้า ทั้งยังไม่ได้บอกเจ้าด้วยซ้ำ” เมิ่งต้าเจียงพยักหน้า “โจวเฮ่อส่งของล้ำค่า “โสมพันปี” มาให้ มันเป็นสมบัติที่มีมูลค่าหนึ่งหมื่นหยวน ข้าจะรับมันไว้ ถือว่าข้าได้ยอมรับการขออภัยแล้ว โจวเฉียน เจ้าเด็กน้อยนั่นต้องถูกลงโทษบ้าง”
ก่อนหน้านี้โจวเฮ่อคุกเข่าขอโทษ แต่เมิ่งต้าเจียงก็ไม่ยอมรับมัน สมบัติทั้งหมดของตระกูลโจวรวมเป็นเงินจำนวนหลายหมื่นหยวนและเงินสดก็ยังมีไม่น้อย
โสมพันปีนี้ซื้อมาโดยบังเอิญ เพราะโจวเฮ่อเตรียมที่จะฝึกฝนลูกชายให้เข้าสู่ระดับก่อกำเนิด
ตอนนี้ใช้มันในการขออภัย โจวเฮ่อยังคงกลัวว่ามันจะไม่เพียงพอ
…
“จะทำยังไงดี จะทำยังไงดี” โจวเฮ่อยังคงคุกเข่าอยู่ที่นั่น โดยมีกล่องของขวัญอยู่ตรงหน้าเขา และศีรษะของเขาก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ โจวเฉียนที่อยู่ด้านข้างมองไปที่พ่อของเขาด้วยความรู้สึกผิด “พ่อ มันเป็นความผิดของข้าทั้งหมด”
“ตอนนี้มันสายเกินไปที่จะพูดอะไร เขาไม่ยอมแม้จะรับของขออภัยนี้ด้วยซ้ำ พ่อของผู้มีพระคุณดูจะรำคาญตระกูลโจวของข้าอย่างเห็นได้ชัด” โจวเฮ่อกล่าว
ในตอนนี้ เมิ่งต้าเจียงก็เดินเข้ามาจากด้านนอกห้องโถง
“ผู้อาวุโสเมิ่ง” โจวเฮ่อคุกเข่าอ้อนวอน “ลูกตัวดีของข้าไม่มีทางเลือก ท่านสามารถลงโทษเขาได้ทุกอย่างที่ท่านต้องการ ตระกูลโจวของข้าจะไม่บ่นอะไรทั้งสิ้น ครั้งนี้โปรดยกโทษให้ตระกูลโจวของข้าด้วย”
“เมื่อลูกข้าขอร้องข้าในนามของเจ้าในครั้งนี้” เมิ่งต้าเจียงพูดอย่างใจเย็น “ของขวัญนั่นให้ทิ้งเอาไว้ พาลูกชายของเจ้ากลับบ้าน เฆี่ยนเขาหนึ่งร้อยครั้ง ให้เขานอนบนเตียง เพื่อไตร่ตรองตัวเอง”
“ขอรับ” โจวเฮ่อดีใจเป็นอย่างมาก “ท่านผู้อาวุโสเมิ่ง ถึงท่านไม่บอกข้า ข้าก็ต้องทำโทษเขาอยู่แล้ว โจวเฉียนขอบคุณผู้อาวุโสเมิ่งที่ยอมไว้ชีวิตเจ้าซะ”
“ผู้อาวุโสเมิ่ง” โจวเฉียนคุกเข่าและกล่าว
“ไป”
เมิ่งต้าเจียงขมวดคิ้วและโบกมือ
โจวเฮ่อยิ้มและจากไปพร้อมกับโจวเฉียน
โจวเฮ่อโล่งใจเมื่อเดินออกจากคฤหาสน์เมิ่ง
“ท่านพ่อ ตระกูลโจวของพวกเราอยู่ดีไหม” โจวเฉียนถาม
“น่าจะไม่มีปัญหา เขาบอกว่าต้องการจะลงแส้เจ้าแต่เขากลับขอให้ตระกูลโจวทำเอง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ต้องการชีวิตเด็กๆของเจ้า” โจวเฮ่อพูดอย่างเย็นชา “ต้องขอบคุณศิษย์พี่เมิ่งของเจ้าเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เขาขอร้อง พ่อของเขาคงจะไม่ยอมยกโทษให้แบบนี้”