ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 29-2 สลับตัวคุณหนูไฮโซ (จบ)
พูดเช่นนี้แล้วเจี่ยงโยวก็รีบหยิบนาฬิกาเรือนนั้นแล้วเปิดประตูวิ่งออกไปโดยเร็ว หลังจากที่เธอจากไปก็ปรากฏร่างคนสองคนขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ
เมื่อได้กลิ่นอับชื้นที่ตลบอบอวลไปทั่วห้องใต้ดินเก่าโทรม
ซูรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา
เมื่อได้เห็นชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงเล็ก
ๆ ซูหว่านที่อยู่ข้าง ๆ ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ จิงเลี่ย หาคุณเจอแล้ว!
หนึ่งเดือนต่อมา
เสียวหว่านคุณจำที่นี่ได้ไหมครับ ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมหมดสติอยู่ใกล้ ๆ
บริเวณนี้
จิงเลี่ยขับรถ
hummer ของตัวเองมาจอดริมถนน
แล้วเพ่งมองไปยังห้องเก่าโทรมที่อยู่ตรงหน้า
สายตาของจิงเลี่ยฉายความซับซ้อนเล็กน้อย
ลูกน้องที่เขาไว้วางใจที่สุดทรยศเขา
ผู้หญิงที่เขารักที่สุดใช้มีดแทงที่หลังเขา
นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน
เขาวิ่งหนีสุดชีวิต สุดท้ายยังมาหมดสติอยู่ใกล้ ๆ บริเวณนี้
ตอนนั้นเขารู้ว่าจะต้องมีคนเจอตัวเขาแน่ จากนั้นก็จะถูกฆ่าอย่างเงียบ ๆ
ในโลกใบนี้มีคนตายอยู่ทุกวัน
แต่หากเจ้าพ่อแห่งกลุ่มอิทธิพลมืดที่ก่อกรรมทำเข็ญมานับไม่ถ้วนอย่างเขาตายไป
ก็ถือว่าได้ขจัดความชั่วร้ายให้กับประชาชนแล้ว ใครจะมาสนใจว่าเขาถูกใครฆ่า
ตายที่ไหนกันล่ะ
จิงเลี่ยนึกว่าตัวเองตายไปแล้วจริง
ๆ ดังนั้นในตอนที่เขาลืมตาและเห็นโคมไฟคริสตัลส่องแสงสว่างไสว
เห็นหญิงงามแต่ดูเย็นชาผู้นั้นอยู่ตรงหน้าเขา
เขายังนึกว่าตัวเองอยู่บนสวรรค์แล้วเสียอีก?
เหอะ
เหอะ คนชั่วที่ไหนจะมีคุณสมบัติได้ขึ้นสวรรค์กันล่ะ?
คุณฟื้นแล้ว?
น้ำเสียงของหญิงสาวเยือกเย็นพอ
ๆ กับท่าทางที่เธอแสดงออกมา
ตอนนั้นจิงเลี่ยใช้เวลาทบทวนตัวเองอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะเข้าใจได้ว่าเขายังไม่ตาย
เขายังมีชีวิตอยู่
และหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้จะต้องเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาแน่
ๆ …
ถึงแม้ดวงอาทิตย์จะสาดแสงส่องสว่างเพียงใด
แต่ทว่าใบหน้าของซูหว่านก็ยังไม่เห็นถึงความอบอุ่นเช่นเดิม
เธอนั่งฝั่งที่นั่งข้างคนขับและมองใบหน้าด้านข้างของจิงเลี่ยด้วยสายตาที่เย็นชา
คุณจิง คุณจะให้ฉันพูดอีกสักกี่ครั้งกันคะ ฉันไม่ได้ช่วยคุณ
ฉันยังต้องกลับไปเตรียมงานหมั้นอีก คุณลากฉันมาถึงที่นี่เพื่ออะไรกันแน่คะ
เสียวหว่าน ผมชอบคุณ
จิงเลี่ยจ้องซูหว่านอย่างจริงจัง
คุณอย่าตอบตกลงเซียวฉี่นะครับ สิ่งที่เขาให้คุณ ผมก็ให้คุณได้เช่นกัน! จะพันล้าน
หมื่นล้าน แม้กระทั่งแสนล้าน ล้านล้าน! ขอเพียงเป็นตัวเลข ผมจิงเลี่ยก็ให้ได้!
ฉันจะเอาเงินมากมายขนาดนั้นไปทำอะไรคะ ยังแสนล้าน ล้านล้านอีก
คุณคิดว่าเป็นเงินเผาผีหรือไงคะ
ซูหว่านแทบจะขำไปกับคำพูดของจิงเลี่ย
คุณจิงคะ ฉันว่าฉันกับคุณไม่ได้สนิทอะไรกันมาก ตกลงคุณชอบฉันที่ตรงไหนกันคะ? เป็นเพราะคุณคิดว่าฉันช่วยชีวิตคุณหรือเปล่าคะ? หากฉันไม่ได้ช่วยชีวิตคุณ
คุณยังจะชอบฉันอยู่ไหมคะ?
พอจิงเลี่ยฟังสิ่งที่ซูหว่านพูดก็มองเธออย่างมึนงง
เป็นคุณที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้! ถึงแม้จะไม่ใช่คุณ…ผมก็ชอบคุณอยู่ดี
ชอบแบบที่เป็นคุณนี่ล่ะครับ
บ้าไปแล้ว
อันที่จริงแล้วการตั้งค่าของลูกพี่จิงเดิมทีก็คือรักแรกพบกับ
ผู้มีพระคุณช่วยชีวิต ที่เขาเห็นเป็นคนแรกหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมานั่นเอง?
ซูหว่านปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วกระโดดลงจากรถอย่างว่องไว
คุณจิง ฉันไปก่อนนะคะ ฉันว่าคุณลองเดินเล่นอยู่ที่นี่สักสองสามรอบดู ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอกับผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตคุณจริง
ๆ ก็ได้นะคะ!
ซูหว่านพูดพร้อมหันหลังโบกมือให้จิงเลี่ย
จากนั้นก็วิ่งไปอีกฟากของถนนเพื่อเรียกรถแล้วจากไปโดยเร็ว
เสียวหว่าน! เสียวหว่าน!
จิงเลี่ยรีบลงจากรถตามไปด้วย
เขาตะโกนไปอีกฟากของถนน แต่น่าเสียดายที่ซูหว่านได้นั่งแท็กซี่หายลับไปก่อนแล้ว
เฮ้อ
จิงเลี่ยถอนหายใจอย่างหนัก
เขาเตรียมจะขับรถวิ่งตามไป ในเวลานี้เองจู่ ๆ ก็มีคนมาจับชายเสื้อเขาเอาไว้
จิงเลี่ยหันไปอย่างแรงพร้อมสาดสายตาเย็นเฉียบออกไปไม่ยั้ง
สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาเป็นหญิงสาวสวมใส่เสื้อโค้ททรงผู้ชายเก่า
ๆ ตัวหนึ่ง สีหน้าเธอซีดเหลือง ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เงางาม
ในเวลานี้เอง
พอหญิงสาวเนื้อตัวมอมแมมเห็นจิงเลี่ย สายตาก็เปล่งประกายออกมา
ใช่ ใช่คุณหรือคะ คุณยังจำฉันได้ไหมคะ
น้ำเสียงของหญิงสาวแหบมาก
จิงเลี่ยฟังแล้วก็ขมวดคิ้วน้อย ๆ ไสหัวไป!
เขาไม่ชอบให้ผู้อื่นมาสัมผัสและเข้าใกล้เขา
โดยเฉพาะหลังจากที่เกิดเรื่องนั้นขึ้นเขาจะคอยระมัดระวังและตื่นตัวมากไม่ว่าจะเป็นใคร
เป็นฉันเอง เป็นฉันเองคะ!
เจี่ยงโยวลูบใบหน้าของตัวเอง
จากนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าอีกฝ่ายเหมือนจะไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน
เจี่ยงโยวรีบล้วงนาฬิกาเรือนนั้นออกจากอกเสื้อของตัวเอง
คุณยังจำนาฬิกาเรือนนี้ได้ไหมคะ ฉันไปไถ่คืนมาแล้วค่ะ!
เมื่อเห็นนาฬิกาบนมือของเจี่ยงโยว
หว่างคิ้วของจิงเลี่ยก็บอกความรังเกียจชัดเจนมากขึ้น
พอเขารู้สึกตัวก็ไม่เห็นนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้ว
ในตอนนั้นเขายังคิดว่าตัวเองร้อนรนจนไปทำตกไว้ที่ไหนหรือเปล่า
ที่แท้มีคนอาศัยจังหวะตอนที่เขากำลังหมดสติแอบขโมยมันไปหรือนี่
เจี่ยงโยวทำงานทั้งหนักและเหนื่อยเป็นเวลาหนึ่งเดือน
ถึงจะไถ่นาฬิกาเรือนนี้กลับมาได้
คืนนั้นเธอเอาเงินและของกินกลับมาก็พบว่าคนที่เธอช่วยชีวิตเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
เธอคิดว่าเขาคงรู้สึกตัวแล้วจากไป
ดังนั้นเธอจึงเฝ้ารออยู่ที่ห้องใต้ดินแห่งนี้มาโดยตลอด
รออยู่หลายวันเขาก็ยังไม่ปรากฏตัว
ต่อมาเจี่ยงโยวก็นึกถึงนาฬิกาเรือนนั้นขึ้นมาได้
เธอกลัวอีกฝ่ายจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอขโมยนาฬิกาของเขาไปจึงจากไปโดยไม่บอกกล่าว
ดังนั้นเธอจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไถ่นาฬิกาเรือนนั้นกลับคืนมา
หลายวันมานี้เธอได้แต่เดินเตร่ไปตามมุมถนนเพียงเพื่อจะตามหาคนผู้นั้น
เพื่อเอานาฬิกาคืนให้เขา
นาฬิกาเรือนนี้…ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเอาไปจำนำนะคะ ตอนนั้นคุณบาดเจ็บหนักมาก
เพื่อช่วยชีวิตคุณฉันจึงเอาสมบัติทั้งหมดของฉันให้คุณหมอไปค่ะ
เมื่อเจี่ยงโยวได้เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจของจิงเลี่ยยามมองดูเธอ
เธอก็รีบอธิบายอย่างร้อนใจขึ้นมาทันที
เหอะ
พอฟังคำพูดเธอแล้วจิงเลี่ยก็หัวเราะเยาะออกมา
ความหมายของคุณคือ คุณช่วยชีวิตผมเอาไว้? ผมจะขอบคุณคุณอย่างไร
แล้วคุณต้องการเงินเท่าไหร่ล่ะ
ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้ต้องการเงิน ฉันไม่ได้ทำเพื่อเงินจริง ๆ นะคะ
เจี่ยงโยวฟังออกว่าจิงเลี่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ถากถาง
เธอจึงโบกมือปฏิเสธในทันที
ไม่ต้องการเงิน? ถ้าอย่างนั้นก็ยกนาฬิกาให้คุณเป็นอย่างไร
จิงเลี่ยมองดูมือคู่นั้นของเจี่ยงโยวที่ไม่ขาวผุดผ่องอีกต่อไปแล้วกับนาฬิกาเรือนนั้นที่อยู่ในมือเธอ
ดูไม่เข้ากันอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ ฉันเอานาฬิกามาคืนคุณต่างหาก ฉัน…
ผมไม่ต้องการแล้ว ของที่ผู้อื่นสัมผัสมาแล้ว ผมจะรู้สึกขยะแขยงครับ