ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 10 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 10 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
หยางฟานเป็นชายหนุ่มสายศิลปะ เขาเป็นคนไม่ชอบเล่นเกมออนไลน์มาแต่ไหนแต่ไร แต่หลังจากถูกน้องชายของตัวเองดึงแกมบังคับเข้ามาโลกของเกม ‘หลิงเสิน’ หยางฟานก็รู้สึกว่าเกมออนไลน์นี่ ที่จริงก็สนุกเหมือนกัน แน่นอนว่าถ้าหากโลกของ ‘หลิงเสิน’ สามารถแก้ ID เกมได้ก็จะดีมาก พวกชื่ออย่างเสี่ยวโส่วปิงเหลียงอะไรนี่ ตกลงว่ามันเป็นเรื่องบ้าบออะไรกัน จะโทษก็แต่ตัวเองที่ใสซื่อไร้เดียงสาเกินไปตั้งแต่แรก แค่ชื่อ ID เกมยังตั้งไม่เป็น สุดท้ายแล้วก็ถูกน้องชายหลอกจนสำเร็จ สองพี่น้องคนหนึ่งเสี่ยวโส่วปิงเหลียง คนหนึ่งเสี่ยวเจี่ยวปิงเหลียง ความจริงแล้วหยางเลี่ย งน้องชายของเขา บอกว่าจะพาเขาไปตีมอนสเตอร์เลื่อนระดับ แต่ในตอนที่เกมเปิดให้เข้าทดสอบระบบภายใน เขามือสั่นไปหน่อย ผลคือทั้งสองคนกลับเลือกเซิร์ฟใหญ่คนละเซิร์ฟ!
นี่สุดท้ายแล้วยังจะเล่นกันอย่างสนุกสนานได้อีกไหม!
ช่างเถอะ ที่จริงแล้วหัวเซี่ยเซิร์ฟ 4 กับหัวเซี่ยเซิร์ฟ 6 ฟังดูแล้วก็เหมือนไม่ได้ไกลกันมาก ซะที่ไหนล่ะ!
“พี่ พี่เหม่อลอยอีกแล้ว”
เสียงของหยางเลี่ยงดึงหยางฟานออกมาจากความคิดของเขา หยางฟานดันแว่นของตัวเองขึ้น เมื่อเงยหน้ามาจึงเห็นว่าตัวเองกำลังยืนอยู่หน้าชั้นวางสินค้าสำหรับสตรี…
เอ่อ
เขาพยายามหันตัวกลับอย่างนิ่งเฉย หยางฟานยังคงทำหน้านิ่งขณะกำลังคิดจะเข็นรถเข็นสินค้าอ้อมผ่านไป แต่เขากลับยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นอย่างกะทันหัน…
พระ…พระเจ้า!
ฉันต้องตาฝาดไปแน่ๆ เกิดภาพลวงตาขึ้นงั้นเหรอ
“พี่ พี่เป็นอะไรอีก”
หยางเลี่ยงที่อยู่ข้างๆ เห็นพี่ชายของตัวเองหยุดนิ่งขึ้นมาอีกครั้ง จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปใกล้แล้วยกมือโบกไปมาอยู่ตรงหน้าของหยางฟาน “พี่เห็นผีเหรอ”
“เปล่า ไม่ใช่ผี หัวหน้ากิลด์…ใต้เท้าหัวหน้ากิลด์!”
เพราะความเสมือนจริงที่ละเอียดเอามากๆ ของ ‘หลิงเสิน’ รูปร่างลักษณะของตัวละครผู้เล่นทุกคนกับในชีวิตจริงของตัวเองจึงแทบจะเหมือนกัน แน่นอนว่าท่ามกลางฝูงชนคนบางคนที่หน้าตาธรรมดาทั่วไปอย่างไรก็หาไม่เจอ แต่กับบางคนที่หน้าตาโดดเด่นก็จะถูกผู้คนจดจำได้อย่างง่ายดาย
เห็นได้ชัดว่าซูรุ่ยเป็นแบบที่คุณเห็นครั้งหนึ่งแล้วจะไม่สามารถลืมได้อีกเลย
วันนี้ซูรุ่ยใส่เสื้อลำลองไหมพรมเส้นเล็กสีกากี เสื้อคลุมขนสัตว์สีดำตัวยาวพาดอยู่บนแขน ผมสั้นสีน้ำตาลแดงอ่อนนุ่มถูกจัดทรงให้ดูสบายๆ ขณะนี้เขาเดินอยู่ข้างซูหว่านด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เดินไปด้วยคุยอะไรไปด้วยกับเธอ บนใบหน้าหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยสีหน้าอ่อนโยน
หยางฟานไม่เคยเห็นซูรุ่ยที่อ่อนโยนแบบนี้มาก่อน ในภาพความทรงจำของเขา เมื่อก่อนใต้เท้าหัวหน้ากิลด์เป็นคนสงบเงียบขรึม และเดี๋ยวนี้ก็ยิ่งหน้านิ่งเหมือนภูเขาน้ำแข็งเป็นพิเศษ
หรือว่าวิธีการที่เขามาซื้อของในวันนี้มันไม่ถูกต้องกัน
ในขณะที่หยางฟานกำลังปฏิเสธความคิดของตัวเอง หยางเลี่ยงที่อยู่ข้างๆ มองไปตามสายตาของหยางฟาน “ โอ้โฮ! โอปป้าขายาวเหรอเนี่ย! คนนั้นคือหัวหน้ากิลด์ของพวกพี่เหรอ หน้าตาเหมือนดาราเลย อืม เขายิ้มสดใสขนาดนั้น ปกติต้องเป็นคนใจดีมากแน่ๆ เลยใช่ไหม คนที่อยู่ข้างๆ นั่นต้องเป็นแฟนเขาแน่เลย จิ๊ๆ หน้าตาใช้ได้เลย แต่ดูเหมืนจะ…คุ้น…หน้า…โอ้โหเฮ้ย! นั่นซูเฉิงหว่านเย่ว์ไม่ใช่เหรอ”
ซู เฉิง หว่าน เย่ว์?
หยางฟานคิดในใจ รู้สึกว่าฉันจะไปรู้ความลับอันสุดยอดใหญ่หลวงอะไรเข้าให้แล้วใช่ไหม คงจะไม่ถูกใต้เท้าหัวหน้ากิลด์ฆ่าปิดปากแล้วเผาศพทำลายหลักฐานใช่ไหม
เอาเถอะ ความจริงพิสูจน์แล้วว่าหยางฟานคิดมากเกินไป
ตอนนี้ซูรุ่ยและซูหว่านก็เดินมาถึงตรงหน้าของพี่น้องตระกูลหยางแล้ว จากนั้นเดินผ่านไปโดยไม่รู้สึกอะไรเลย
หยางฟานยังคงคิดในใจ ฮือออ โดนใต้เท้าหัวหน้ากิลด์มองข้ามไปเลย
เห็นชัดอยู่แล้ว สำหรับคนอื่นที่นอกเหนือจากซูหว่านแล้ว ซูรุ่ยสามารถเปิดโหมดสมรรถนะการป้องกันและการมองข้ามได้เองโดยธรรมชาติ ทั้งสองคนสุดท้ายแล้วก็หยุดอยู่ตรงหน้าสินค้าสำหรับสุภาพสตรี ซูหว่านหยิบผ้าอนามัยติดมือขึ้นมาหนึ่งห่อ แต่กลับถูกซูรุ่ยยื่นมือมาแย่งไป “ในวีแชตเคยบอกไว้ ยี่ห้อนี้ของปลอมเยอะ เสี่ยวหว่าน เธอใช้อันนี้ดีกว่า!”
ขณะพูด ซูรุ่ยก็หยิบผ้าอนามัยห่อหนึ่งลงมาจากชั้นบนสุดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เป็นยี่ห้อของต่างประเทศที่นำเข้าจากเมืองนอก ราคาก็สูงจนทิ่มแทงตาเช่นกัน
“อันนี้ดี บางเฉียบ ป้องกันรั่วซึมด้านข้าง ใส่สบายแถมยังระบายอากาศด้วย!”
ซูหว่านเอ่ยถาม “นายแน่ใจนะว่าไม่ได้ถูกอะไรแปลกๆ เข้าสิง”
“…” ซูรุ่ยชะงักงัน
ขณะนี้ พี่น้องตระกูลหยางที่มุงดูอยู่ใกล้ๆ ก็ตัวแข็งทื่อและกลายเป็นหินไปแล้ว…
หยางฟานนึกในใจ ฉันผิดไปแล้ว ฉันต้องดูผิดไปแน่ๆ คนคนนี้ต้องเป็นพี่น้องฝาแฝดของใต้เท้าหัวหน้ากิลด์แน่ๆ! ใช่แน่ๆ!
หยางเลี่ยงเองก็คิดในใจเช่นกัน อื้อหือ ของอันนั้นแพงมากเลย! ว่ากันว่าผู้หญิงต้องใช้ทุกเดือน ถ้าต่อไปในอนาคตฉันแต่งงานมีภรรยาแต่ละเดือนไม่ต้องใช้เงินเพิ่มอีกมากมายเหรอ
ใครบางคนนึกในใจ นายไม่รู้สึกหน่อยเหรอว่าประเด็นที่นายสนใจมันออกนอกเรื่องไปไกลแล้ว หือ
ความนึกคิดในใจของพวกเขา ซูหว่านและซูรุ่ยย่อมไม่รู้เป็นธรรมดา แต่กลับรู้สึกได้ว่ามีสายตาสองคู่กำลังมองมายังตนเองและซูหว่านอยู่ตลอดเหมือนตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ และนี่ทำให้ซูรุ่ยรู้สึกไม่ชอบเอาเสียเลย
เขาเอียงตัวเล็กน้อย ปรายตามองไปยังหยางฟานและหยางเลี่ยงที่ยืนอยู่ สองพี่น้องจู่ๆ ก็รู้สึกถึงสายตาอันแหลมคมและเย็นยะเยือกที่มองมา ชั่วพริบตาเดียวในใจของทั้งสองคนสั่นระริกไปหมด จากนั้นสองพี่น้องรีบเข็นรถเข็นสินค้าเดินหนีหายไปอย่างรวดเร็วพร้อมเพรียงเสมือนรู้ใจกัน…
“เกิดอะไรขึ้น”
ตอนนี้ซูหว่านเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติชั่วพริบตาของซูรุ่ยเช่นกัน เธอหันไปมองเขาอย่างอดไม่ได้
“ไม่มีอะไร”
ซูรุ่ยเก็บความเย็นชาในสายตาเขากลับ แล้วมองซูหว่านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “หลายวันนี้คุณไม่ค่อยสบายก็อย่าเพิ่งเข้าเกมเลย พักผ่อนให้ดีสักสองสามวัน วันนี้ซื้อผักไปเยอะหน่อย ผมจะทำอาหารให้คุณเอง!”
ทำอาหาร?
พอนึกถึงฝีมือการทำอาหารของท่านแม่ทัพซูแล้ว ซูหว่านก็รู้สึกเวียนหัว
“ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอก สั่งอาหารเดลิเวอรี่ดีกว่า” ถึงแม้ซูหว่านจะไม่ได้บอกตามตรง แต่ซูรุ่ยก็ดูออกว่าฝีมือในการทำอาหารของเขาต้องถูกรังเกียจเข้าแล้วแน่ๆ! มันเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง
ท่านประธานจอมเผด็จการในนิยายต่างก็เก่งทั้งเรื่องออกงานและเข้าครัวได้ แถมฝีมือยังอาจจะเป็นระดับพ่อครัวใหญ่นานาชาติอะไรทำนองนั้นอีกด้วย ซูรุ่ยพลันคิดเอาไว้ทันทีว่าตอนที่หาภารกิจครั้งหน้าเขาจะหาโลกอาหารเลิศรสเพื่อฝึกฝนฝีมือการทำอาหารของตัวเองสักหน่อย
ซูหว่านไม่ได้ออนไลน์เป็นเวลาติดกันสามวัน พวกจื้อจุนอู๋ซั่งก็ไม่ได้ติดต่อซูหว่านอีก จนกระทั่งคืนวันที่สาม ซูหว่านได้รับเงินโอนเข้าบัญชีจากจื้อจุนอู๋ซั่ง เธอถึงได้รู้ว่าซูรุ่ยไปหาสตูดิโอจวี้เฟิงแล้วยุติการร่วมมือและสัญญาว่าจ้างของเธอกับสตูดิโอจวี้เฟิงแล้ว
สำหรับเรื่องนี้ ซูหว่านเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากมาย ตอนนี้เธอไม่ต้องถูกคนอื่นไล่ฆ่าแล้ว อยากจะเลื่อนระดับก็ไม่ต้องให้คนอื่นช่วยแล้ว ภารกิจหลักในตอนนี้ของซูหว่านคือการเลื่อนระดับให้ถึงหกสิบโดยเร็วที่สุด ดันเจี้ยนที่ระบบเปิดใหม่เป็นดันเจี้ยนระดับหกสิบ ตอนนี้ยังไม่มีกิลด์ไหนบุกเบิกได้สำเร็จ ตามโครงเรื่องที่ซูหว่านทราบในโลกเดิมนั้น จนกระทั่งหลังจากช่องทางข้ามเซิร์ฟเปิดให้ใช้บริการ ดันเจี้ยนระดับหกสิบนี้ถึงจะถูกบุกเบิกผ่านสำเร็จโดยกิลด์ซื่อเทียน ทุกอย่างล้วนอาศัยความโชคดีดั่งสวรรค์โปรดของหุยโหมวอีเซี่ยว แม้ว่าการเล่นของเธอจะไม่ดี แต่โชคของใต้เท้านางเอกนั้นไม่มีใครเทียบได้! ดันเจี้ยนระดับหกสิบนั่นเป็นดันเจี้ยนเขาวงกต มีทางแยกอยู่มากมาย ถ้าหากเลือกผิดก็จะเจอทางตัน และถูกกองทัพมอนสเตอร์ที่ดุร้ายบ้าคลั่งกำจัดจนสิ้นซาก
และตี้ซื่อเทียนก็เพราะอาศัยลางสังหรณ์ของหุยโหมวอีเซี่ยว บวกกับทีมรบมือหนึ่งของกิลด์ในตอนนั้นที่ระดับและอุปกรณ์สวมใส่มีระดับสูงพอสมควรแล้ว หลังจากช่องทางข้ามเซิร์ฟเปิดใช้ พวกเขาใช้ความพยายามเพียงครั้งเดียวจนได้เป็นผู้สังหารบอสคนแรกในดันเจี้ยน และรางวัลสำหรับผู้สังหารคนแรกในดันเจี้ยนนั้นก็คือตำราทักษะพิเศษ…
บังคับคืนชีพ
ทักษะของนักบวชระดับหกสิบ หลังจากร่ายทักษะนี้ เป้าหมายที่ถูกร่ายเวทจะถูกบังคับให้ฟื้นคืนชีพ ทั้งยังฟื้นค่า HP ยี่สิบเปอร์เซ็นต์และ MP ยี่สิบเปอร์เซ็นต์
ตำราเล่มนี้ตามเดิมแล้วเป็นตี้ซื่อเทียนและหุยโหมวอีเซี่ยวจะได้ไป แต่ตอนนี้ซูหว่านต้องแย่งตำรามาให้ได้
สำหรับหุยโหมวอีเซี่ยวแล้ว ในตอนที่ตี้ซื่อเทียนสู้กับคู่อริแล้วเธอบังเอิญอยู่ใกล้ๆ พอดี ก็จะได้ใช้ทักษะนี้บ้าง แต่สำหรับซูหว่านแล้ว นี่คือตำราทักษะของนักบวชสุดร้ายกาจชนิดที่เธอจะต้องเอามาให้ได้