ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 22 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก – ตอนที่ 22 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน
“เย่อวี่ คุณเชื่อจริงๆ เหรอว่าซูเฉิงหว่านเย่ว์ไม่เคยชอบตี้ซื่อเทียนเลย”
คำพูดของหุยโหมวอีเซี่ยวนั้นไม่ได้ทำให้จิตใจซูรุ่ยสั่นสะเทือนเลย แต่ประโยคนี้ทำให้สมาชิกของกิลด์หย่งเย่และเฟิ่งอู่โดยเฉพาะสาวๆ ในกิลด์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ชิงซิ่วจยาเหรินพูดว่า “เฮ้ๆๆ คนหน้าไม่อายฝั่งนั้นน่ะ ผู้ชายของหล่อนออฟไลน์ไปแล้ว หล่อนยังอยากจีบเทพบุตรของพวกเราเหรอ หล่อนควรมีศีลธรรมและรู้จักข้อบ่งพร่องของตัวเองบ้างนะ หัวหน้าเทพบุตรของพวกเราเป็นของเทพธิดาหว่านเย่ว์ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับหล่อนแม้แต่น้อยเลย”
ชีเย่ว์ชีรื่ออิ๋นพูดว่า “นั่นน่ะสิ ผู้หญิงคนไหนไม่เคยรักคนเลวๆ บ้าง ถึงแม้หว่านเย่ว์จะเคยชอบผู้ชายเลวๆ อย่างซื่อเทียนมาก่อน แต่นั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว!”
ตังหงหนี่ว์จื่อพูดว่า “มีชาเขียวชนิดหนึ่ง ชื่อว่าหุยโหมวอีเซี่ยว 50 หยวน 1 ชิ้น ซื้อ 1 แถม 1 !”
อู่เป่าเป้ยพูดว่า “คุณป้า เดี๋ยวนี้เขาไม่นิยมบทคนยุแยงตะแคงรั่วกันแล้วนะ ต่อให้เล่นบทนางรองขี้อิจฉา หนูก็ว่าป้าเอาท์เกินไปแล้ว!”
หุยโหมวอีเซี่ยวที่เมื่ออยู่ต่อหน้าสาวๆ เฟิ่งอู่ พลังต่อสู้เธอก็เหลือแค่ห้า[1] เธอขยับริมฝีปากเล็กน้อย น้ำตาไหลลงมาก่อนได้เอ่ยคำใด
น่าเสียดายที่บรรดาผู้ชายที่กำลังมุงดูอย่างเพลิดเพลิน กลับไม่มีใครมีอารมณ์มาเอ็นดูสงสาร
และถ้าหากตอนนี้ทุกคนยังมองไม่เห็นธาตุแท้ของหุยโหมวอีเซี่ยว ก็ควรจะไปกินยาบำรุงสมอง จะได้เพิ่มไอคิวที่ต่ำกว่าปกติขึ้นมาสักหน่อย…
“น่าเบื่อจริงๆ”
ซูรุ่ยเดินไปหาซูหว่าน มองเธอด้วยรอยยิ้ม “ให้ผมพาคุณไปเก็บระดับไหม”
“ดี”
ซูหว่านพยักหน้า เนื่องจากทั้งสองคนยังคงอยู่ในปาร์ตี้เดียวกัน เมื่อซูหว่านกดปุ่มติดตามหัวหน้าปาร์ตี้ ทั้งสองก็ออกจากสถานที่แห่งนี้โดยไม่มีผู้ใดติดตามไป รอจนหุยโหมวอีเซี่ยวฝ่าวงล้อมออกมาได้แล้ว เวลานั้นถึงพบว่าเย่อวี่และซูเฉิงหว่านเย่ว์จากไปตั้งนานแล้ว ตั้งนานแล้ว ตั้งนานแล้ว…
วันนี้เป็นวันที่ครึกครื้นมากวันหนึ่ง และวันนี้ยังเป็นวันสำคัญในเซิร์ฟหัวเซี่ยของ ‘หลิงเสิน’ อีกด้วย
หลังจากตี้ซื่อเทียนออฟไลน์ไปไม่นาน ก็มีคนโพสต์คลิปวิดีโอที่เย่อวี่ฆ่าตี้ซื่อเทียนในวิเดียวลงเว็บบอร์ด…
[เทพเจ้าแห่งการ PK ปรากฏในเซิร์ฟหัวเซี่ย ถ้าไม่เชื่อก็มาสู้กัน!]
[อันดับหนึ่งในเซิร์ฟสี่ตี้ซื่อเทียนถูกอัดเละได้ยังไง]
ตลอดทั้งวัน ทั้งเว็บบอร์ดเต็มไปด้วยข้อความอันน่าตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นในคอมเมนต์หรือวิดีโอที่เล่นซ้ำๆ หลายแสนครั้ง เว็บบอร์ดในเซิร์ฟหัวเซี่ยเกือบจะล่มเนื่องจากการเข้าชมที่มากเกิน
[ศึกแรกสถาปนาเทพ เย่อวี่!]
เพียงศึกแรกชื่อเสียงก็โด่งดังไปทั้งเซิร์ฟหัวเซี่ย! ยิ้มเย้ยวีรชน! แม้แต่แจ็ก ยอดนักสู้อันดับหนึ่งแห่งเซิร์ฟอเมริกาเหนือ ผู้ภาคภูมิในตัวมาโดยตลอด ก็ยังมุด VPN มาดาวน์โหลดวิดีโอ PK ของเย่อวี่ แล้วโพสต์ในโฮมเพจส่วนตัวของเขา โลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือนจริงได้ถูกเทพเจ้าแห่งการ PK เย่อวี่พัดกระพือ หัวข้อเรื่องการสลับระหว่างอาชีพกับอาชีพแพร่กระจายไปทั่วโลก ‘หลิงเสิน’ ในทันที แม้กระทั่งมีส่วนช่วยให้ ‘หลิงเสิน’ พัฒนาระบบการเปลี่ยนอาชีพครั้งที่สองและการสลับทักษะระหว่างสองอาชีพในอนาคต
ภายใต้บรรยากาศอย่างนี้ ก็มี ID ที่ไม่โดดเด่น ID หนึ่ง ได้โพสต์วิดีโอสั้นๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นมาก่อนลงในเว็บบอร์ดอย่างเงียบเชียบ…
[ปุจฉา วิธีแสดงความรักใน ‘หลิงเสิน’ ของใครแกร่งกว่ากัน!]
ผู้โพสต์ : เสี่ยวโส่วปิงเหลียง – ไม่พูดอะไรมาก ฉันเป็นแค่คนถือกล้องตัวน้อยๆ!
วิดีโอสั้นๆ นี้ เริ่มต้นด้วยภาพเย่อวี่ที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ เมื่อโบกไม้คทาเวท พื้นที่ข้างล่างพลันกลายเป็นธารน้ำแข็งหมื่นลี้
จากนั้นหน้าจอวิดีโอก็เปลี่ยนไป ปรากฏร่างซูเฉิงหว่านเย่ว์ขึ้นกลางแสงเทเลพอร์ต ทรายสีเหลืองไร้พรมแดน ท่ามกลางผู้คนนับพัน ทั้งสองต่างสบตาซึ่งกันและกันจากระยะไกล
ในเวลานี้เพลงประกอบก็ดังขึ้น เป็นเพลงรักที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงนี้ของหัวเซี่ย ‘เพียงปราดเดียวติดตรึงพันปี’
หลังจากนั้นเอฟเฟ็กต์แสงนุ่มนวลก็ถูกตัดต่อเพิ่มลงไปบนหน้าจอวิดีโอ เย่อวี่เดินไปหาซูเฉิงหว่านเย่ว์ โอบเธอด้วยมือข้างเดียว และทั้งสองก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นวิดีโอก็ฉายภาพจากท้องฟ้าลงมาบนพื้น และทุกคนก็เห็นมอนส์เตอร์ที่ถูกแช่แข็งอยู่บนพื้นเรียงตัวกันเป็นตัวอักษรขนาดใหญ่ห้าตัวว่า…เสี่ยวหว่านผมรักคุณ!
ไม่จำเป็นต้องดูต่อไปอีกแล้ว สาวๆ หลายคนที่กดดูวิดีโอนี้โดยไม่ตั้งใจพลันร้องห่มร้องไห้อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ฮือออ เย่อวี่ทั้งหล่อทั้งโรแมนติก! ถ้าชีวิตนี้มีคนรักแบบนี้สักคน ฉันก็ยินดีจะให้ตายในทันที!
หนึ่งชั่วโมงต่อมา วิดีโอของเสี่ยวโส่วปิงเหลียงก็กระโดดพุ่งขึ้นมาอยู่ท่ามกลางวิดีโอ PK ทั้งยังครองตำแหน่งโพสต์ที่โดดเด่นที่สุดในเว็บบอร์ด
หลังจากที่พวกที่บ้า PK กดเข้าไปดู จากที่เดิมทีคิดอยากจะมาหาข้อบกพร่อง สุดท้ายก็ทำได้เพียงถอยออกมาอย่างเงียบๆ พร้อมทั้งแอบถือโอกาสบ่นอยู่ในใจไปด้วยเลย…
แม่เอ๊ย! คนหล่อแบบนี้ PK เก่งอย่างเดียวก็ไม่เป็นไร! ผู้หญิงของนายทั้งไฮเอนด์ หรูหรา ถ่อมตน และยังน่าค้นหา!
นายจะให้มนุษย์อย่างเราๆ เล่นสนุกอย่างมีความสุขหน่อยได้ไหม
แม่ง ถ้าตูได้สักหนึ่งในสิบของเย่อวี่ ไม่ สักหนึ่งในร้อย จะใช้แค่หนึ่งในร้อยนั่นไปตามจีบดาวมหาลัยจะหายเครียดไหมเนี่ย
…………
หลังจากออฟไลน์จาก ‘หลิงเสิน’ ซูรุ่ยก็นวดแขนของตัวเองน้อยๆ แม้ ‘หลิงเสิน’ จะโฆษณาว่าเป็นเกมเสมือนจริงขั้นสูง แต่ในเกมวันนี้ ตอนที่ซูรุ่ยใช้ดาบไม้กับเยี่ยเทียน เพราะว่าข้อจำกัดของเกม เขาจึงใช้กำลังภายใน ถ่ายพลังภายในของเขาลงไปในดาบไม้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดค่าความเสียหายที่สูงขนาดนี้ได้ยังไง
ตอนนี้ออฟไลน์จากเกมแล้ว แขนซูรุ่ยรู้สึกปวดเล็กน้อย นี่เป็นผลกระทบของการใช้พลังภายในภายใต้ข้อจำกัดของเกม
หลังจากถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ซูรุ่ยก็นั่งขัดสมาดบนเตียงและเริ่มปรับลมปราณภายในของตนเอง เวลาค่อยๆ ผ่านไป และเมื่อซูรุ่ยลืมตาขึ้นอีกครั้งก็ผ่านมาแล้วหนึ่งชั่วโมง
เขาได้กลิ่นที่โชยมาจากห้องครัวผ่านประตูที่กั้นระหว่างห้องนอนไว้ กลิ่นหอมนั้นพิเศษมาก ทั้งยังผสมกับกลิ่นที่ซูรุ่ยคุ้นเคย
วันนี้เชฟมาเร็วจัง!
บางทีอาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าทั้งวัน ซูรุ่ยจึงรู้สึกหิวขึ้นมา เขาพลันลุกขึ้นยืนและตรงไปที่ห้องครัว เมื่อเดินไปถึงประตูห้องครัวซูรุยก็ต้องตกใจ
ซูหว่านยืนอยู่ในห้องครัว ทั้งยังสวมผ้ากันเปื้อน ผมสีดำมัดไว้อย่างหลวมๆ ขณะนี้เธอกำลังคนซุปด้วยความตั้งใจ เพราะซูหว่านหันหลังให้ประตูตลอด เลยไม่ทันสังเกตเห็นการมาถึงของซูรุ่ย
ในห้องครัวมีอาหารสองจานที่ถูกเตรียมเสร็จไว้แล้ว รูปลักษณ์ที่สวยงาม ยังมีกลิ่นหอมกรุ่น
ซูรุ่ยจำได้ในทันทีว่าจานหนึ่งคือผัดไก่ฉีกเห็ดหูหนูขาว ส่วนอีกจานคือหมูย่างเกลือ และสิ่งที่ซูหว่านกำลังทำอยู่ก็คือ…
“ซุปน้ำขิงปลา!”
ซูรุ่ยโพล่งชื่ออาหารออกมาโดยไม่รู้ตัว นี่คืออาหารจานโปรดตอนที่เขาอยู่ในจวนแม่ทัพ
“กลิ่นนี้นายก็ยังดมออกมาได้”
ซูหว่านได้ยินเสียงของซูรุ่ยก็หัวเราะเบาๆ ในทันที “ฉันทำครั้งแรก ถ้าทำไม่อร่อยคุณอย่าโกรธนะ!”
“จะโกรธได้ยังไง แค่คุณทำผมก็จะกินจนหมด”
ซูรุ่ยเอนตัวเอียงพิงประตูห้องครัว ยืนกอดอกดูแผ่นหลังซูหว่านอย่างเงียบๆ “ซูหว่าน นี่เป็นครั้งแรกที่คุณทำอาหารให้ผม”
มือของซูหว่านที่ถือตะหลิวชะงักเล็กน้อย “จริงเหรอ ฉันไม่ได้สังเกต”
“ฮ่าๆ”
ซูรุ่ยยิ้มน้อยๆ พลันนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกก่อนหน้านี้ เขาจงใจหาข้ออ้างที่จะพักค้างคืน แต่ซูหว่านกลับสั่งอาหารรสชาติเหลือรับประทานมาให้เขา
ตอนนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเราไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่ไหม
“ซูหว่าน วันนี้ผมมีความสุขมาก ผมไปเปิดไวน์แดงสักขวดดีไหม”
พูดแล้วก็ไม่รอให้ซูหว่านตอบกลับ ซูรุ่ยกลับไปที่ห้องนอนตนเอง เฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูงและไวน์แดงล้ำค่าในห้องนอนนั้นถูกขนส่งมาทางอากาศโดย ‘นายน้อยซือถู’ ของเรา
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของซูรุ่ยจากไป ซูหว่านก็มองเหม่อไปยังเนื้อปลาในหม้อที่กำลังได้ที่
เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ทั้งๆ ที่เธอมักจะเตือนตัวเองเสมอว่าอย่าให้ความหวังกับเขา แต่วันนี้จู่ๆ ก็รู้สึกประทับใจในตัวซูรุ่ยขึ้นมา โดยเฉพาะในช่วงบ่ายตอนที่ซูรุ่ยพาเธอเก็บระดับ ซูหว่านสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างบนแขนของเขา แต่ก็เห็นว่าเขาทนอยู่ตลอด ซูหว่านก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก
หลังจากที่ออฟไลน์ออกมา ซูหว่านก็เดินไปที่ประตูห้องของซูรุยเป็นอย่างแรก เธอถือโอกาสแวะไปดูเขาสักหน่อย สุดท้ายเธอก็เห็นซูรุ่ยกำลังนั่งปรับลมปราณบนเตียงของตนเอง วินาทีนั้น ซูหว่านพลันรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาทันที
ดังนั้นเธอจึงหันหลังจากไป แต่ไม่ได้กลับเข้าไปที่ห้องของเธอ ตรงไปที่ห้องครัวแทน และทำอาหารตามความทรงจำที่ได้รับมาจากจวิ้นจู่น้อยตอนตนที่อยู่ในราชวงศ์ต้าเซี่ย หลังจากค้นเจออาหารที่ทำง่ายและซูรุ่ยชอบกินในความทรงจำ ก็วุ่นอยู่ในครัวเพียงคนเดียว
หรือว่า ในตอนนี้ซูหว่านยังไม่รู้สึกถึง หรือไม่ก็ยังไม่เต็มใจยอมรับเรื่องหนึ่ง ที่ว่า…
ซูรุ่ย ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับเธอ อีกต่อไปแล้ว
——
[1] มาจากคำพูดของราดิชจากเรื่องดราก้อนบอล