ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 15 ระบบพลิกบทนางรอง (15)
ซูหว่านก็ไม่ทราบว่าทำไมซูเหยียนกลายเป็นซอมบี้เช่นกัน แต่เคราะห์ดีที่เธอเป็นซอมบี้กลายพันธุ์ และเห็นได้ชัดว่าเธอมีจิตสำนึกและความคิดของมนุษย์
“ซูเหยียน!”
ซูหว่านก้าวไปข้างหน้าหลายก้าวตามจิตใต้สำนึก เพียงพริบตาเดียวก็มาหยุดอยู่ข้างหน้าเยี่ยนอวี่กับซูเหยียน
มองดูซอมบี้ที่อยู่เบื้องหน้า รูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นซอมบี้เหมือนกับตัวเอง สายตาของซูเหยียนวูบไหว เธอสัมผัสถึงกลิ่นอายอันสนิทสนมคุ้นเคยหาใดเปรียบ กลิ่นอายนี้เธอไม่มีวันจำผิด นี่คือกลิ่นอายของพี่สาว
“พะ…พี่เหรอ”
ซูเหยียนเอ่ยปากอย่างยากลำบาก เธอใช้ชีวิตในฝูงซอมบี้โดยลำพังมาสามปี ถึงเธอจะเลื่อนระดับมานานแล้ว แต่เธอไม่ได้เปิดปากพูดมานานมาก
เธอว้าเหว่ และหงุดหงิดอย่างมาก
เธอคอยเสาะหาบางอย่างตลอดมา แต่เธอก็จำไม่ได้ว่ากำลังหาอะไรกันแน่ จนกระทั่งพบกับเยี่ยนอวี่ กลิ่นอายประหลาดบนตัวเขา ทำให้ซูเหยียนรู้สึกคุ้นเคย แต่การปรากฏตัวของซูหว่านถึงได้ปลุกความทรงจำที่ถูกปิดผนึกมาเนิ่นนานของซูเหยียนให้ตื่นขึ้น
“พี่คะ เป็นพี่จริงเหรอ”
ซูเหยียนคลายกิ่งไม้ที่พันรอบตัวเยี่ยนอวี่ออก เธอมองซูหว่านอึ้งๆ น้ำตารื้นที่ขอบตา
“พี่เอง”
ซูหว่านค่อยๆ แปลงเป็นร่างมนุษย์ของตนต่อหน้าซูเหยียน เมื่อได้เห็นโฉมหน้าของพี่สาว ซูเหยียนอดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าไปกอดซูหว่าน แล้วร้องห่มร้องไห้ “พี่คะ พี่ยังมีชีวิตอยู่! ดีจังเลย! ในที่สุดหนูก็หาพี่จนเจอ หนูไม่ได้ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว”
ไม่ว่าเป็นคนหรือซอมบี้ ขอเพียงมีจิตสำนึกล้วนรู้สึกโดดเดี่ยว ต่างก็หวาดกลัว เหงาหงอย และอ้างว้าง
มองเห็นซูเหยียนถลาเข้ากอดซูหว่านพลางร้องไห้โฮ เยี่ยนอวี่ที่อยู่ข้างๆ ก็ชะงักไปเล็กน้อย
ทั้งที่ซอมบี้สาวอายุไล่เลี่ยกันตัวนี้ไม่สวยเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าเยี่ยนอวี่กลับไม่รังเกียจเธอ แม้กระทั่งตอนลองสื่อพลังวิญญาณไปสัมผัสความทรงจำของเธอ ความทรงจำที่มีความละมุนละไมอันสงบเงียบอย่างมาก ทำให้พลังวิญญาณของเยี่ยนอวี่ไม่คงที่เกิดเป็นวงกระเพื่อมขึ้นกลางอากาศ
ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากเธอ นุ่มนวลและใกล้ชิดมากเกินไป เหมือนกับเพื่อนที่รู้จักกันมานานหลายปี
“น่าประทับใจจริงๆ ที่แท้เธอเป็นน้องสาวของอาจารย์หญิงนี่เอง!”
เสี่ยวหลี่เสี่ยงลูบดวงตาเล็กน้อย ในความเป็นจริงตัวเองแอบดีใจ เคราะห์ดีที่ตัวเองเฉลียวฉลาดเห็นว่าเอาชนะเธอไม่ได้ เลยเรียกคนมาช่วยเหลือ ถ้าตัวเองลงมือถึงตายเพราะความโกรธชั่วครู่ชั่วยาม ตัวเองจะไม่กลายเป็นคนบาปที่ถูกสาปแช่งไปชั่วลูกชั่วหลานเหรอ
ไม่ ด้วยนิสัยของอาจารย์แล้ว ไม่แน่ว่าตัวเองอาจกลายเป็นคนตายแล้ว อืม หรือจะพูดให้ชัด ที่จริงก็คือซอมบี้ตัวอย่าง
เอ่อ
เสี่ยวหลี่เสี่ยงหนาวสั่นวาบ ตัดสินใจไม่ตั้งข้อสมมติฐานเรื่องพวกนี้แล้วดีกว่า
ความจริง เสี่ยวหลี่เสี่ยงไม่อาจรับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของอาจารย์เขาเลย…
ซูรุ่ยคิดในใจ นี่ กอดกันพอหรือยังเนี่ย ฉันยังไม่เคยกอดนานขนาดนี้เลย ให้มันพอประมาณหน่อย! อย่านึกว่าเธอเป็นผู้หญิงแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรเธอนะ!
ทุกอย่างที่ปรากฏรอบตัวซูหว่าน ที่ดึงสมาธิของเธอ ที่ดึงความสนใจของเธอ ไม่ว่าเป็นคนหรือซอมบี้ เป็นชายหรือว่าหญิง ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซูรุ่ยไม่อาจยอมรับได้
สรุปแล้ว ข้างกายเสี่ยวหว่านมีแค่เขาคนเดียวก็เกินพอ มีเพียงแม่ทัพซูคนเดียว ไม่ต้องอธิบาย!
อาจเพราะสายตาของซูรุ่ยประหลาดสุดทน รับรู้ถึงสายตาจ้องเขม็งของเขา ซูเหยียนที่มีพลังรับรู้ได้ดี จึงคลายอ้อมกอดจากซูหว่านทันที จากนั้นกุมมือซูหว่าน แล้วเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “พี่คะ ตรงนั้นนั่นน่ะ เขาเอาแต่จ้องเราเขม็ง ท่าทางดูน่ากลัวจัง”
ซูเหยียนไม่รู้ว่าตัวเองควรใช้คำว่า ‘คน’ หรือ ‘ซอมบี้’ เพื่อบรรยายซูรุ่ย เพราะสำหรับเธอเขาให้ความรู้สึกประหลาดชอบกล จากรูปลักษณ์ภายนอกเขา เหมือนเป็นพวกเดียวกับตน แต่เธอก็รู้สึกถึงกลิ่นอายมนุษย์บนตัวเขา อีกอย่าง ต่อให้ซูรุ่ยไม่ได้วางมาดทำเท่เพื่อบีบบังคับ ซูเหยียนก็รับรู้ถึงความอันตรายของซูรุ่ย…
“เขาคือ…”
ซูหว่านหยุดครู่หนึ่ง “เขาคือพี่เขยของเธอ”
ถึงแม้จะถูกคนทั้งฐานมองว่าเป็นสามีภรรยา และหลายปีมานี้ทั้งสองคนก็ถูกจัดแจงให้อาศัยร่วมกัน แต่ในความเป็นจริง ทั้งสองแค่อาศัยร่วมชายคาเดียวกันธรรมดาเท่านั้น
ก่อนนี้เยี่ยนอวี่เอาแต่เรียก ‘พี่เขย’ ‘พี่เขย’ นั่นก็เพราะซูรุ่ยชักนำแบบผิดๆ หลายปีนี้เขาเรียกจนชินปาก และก็ไม่มีใครแก้ไข ดังนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่ซูหว่านยอมรับ ‘สถานะ’ ของซูรุ่ย อีกทั้งยังอยู่ต่อหน้าร่างน้องสาวแท้ๆ
เป็นไปตามคาด เมื่อได้ยินคำพูดของซูหว่าน ซูรุ่ยที่จดจ่อกับทั้งสองอย่างใกล้ชิด เพียงพริบตาก็ถลันพุ่งไปข้างหน้าซูเหยียน
“น้องสาว ฉันชื่อซูรุ่ย เธอเรียกฉันว่าพี่เขยก็พอ ยินดีที่ได้รู้จัก ต่อไปฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ!”
สีหน้าพี่เขยเปลี่ยนไวเหลือเกิน! น้องสาวตามไม่ทันแล้ว!
ซูเหยียนอึ้งไปพักใหญ่ ลังเลใจไม่หาย พี่เขยแบบนี้ดูไม่น่าเชื่อถือสักนิดเลยใช่ไหมล่ะ แต่เธอก็รับรู้ถึงความเข้มแข็งและยิ่งใหญ่ของเขาอย่างแท้จริง ซูเหยียนมั่นใจกับพลังรับรู้ของตัวเอง อีกอย่างไม่รังเกียจสถานะซอมบี้อะไรนั่นของพี่สาว ไม่แน่อาจเป็นผู้ชายที่ดี
ดังนั้นซูเหยียนจึงยอมรับการมีตัวตนของใครบางคนอย่างมีความสุข
“สวัสดีค่ะพี่เขย หลายปีมานี้ลำบากพี่เขยคอยดูแลพี่สาวแล้ว!”
“พี่สาว พี่เขย!”
ตอนนี้เองเยี่ยนอวี่ที่ถูกเมินมาตลอด อดไม่ได้ที่จะเสนอหน้าร่วมวงด้วย เขาเกาหัวแกรกๆ อย่างเขินอาย สายตาใสบริสุทธิ์มองไปทางซูเหยียน “เธอคือน้องซูเหยียนนี่เองหรอกเหรอ ฉันชื่อเยี่ยนอวี่ ได้พี่สาวกับพี่เขยเก็บมาเลี้ยง!”
“…” ซูหว่านพูดไม่ออก
เก็บมาเลี้ยงอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมเธอไม่เห็นรู้เลย
“ผมด้วย ผมด้วย!”
ตอนนี้เองเสี่ยวหลี่เสี่ยงก็กระโดดออกมาให้ดูมีตัวตน “อาจารย์อา! ผมคือหลี่เสี่ยง ผมก็ถูกอาจารย์อาจารย์หญิงเก็บมาเลี้ยงเหมือนกัน!”
“…” ซูหว่านหมดคำจะพูด
คู่รักหลี่เทาร้องไห้จนสลบเหมือดอยู่ในห้องน้ำแล้วหรือยังนะ
ซูเหยียนเอ่ย “ที่แท้ พี่สาวพี่เขยมีใจเต็มไปด้วยรักขนาดนี้ ดูท่าจะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ไม่ได้แล้ว พี่เขยคนนี้เชื่อถือได้กว่าฉู่เฟยหยางคนเห็นกว่าตัวนั่นเป็นไหนๆ!”
มีประโยคหนึ่งเรียกว่ากาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์
ซูหว่านกระตุกแขนเสื้อซูรุ่ยเงียบๆ “เยี่ยนอวี่กับเสี่ยวหลี่เสี่ยงช่วงนี้ไปห้องทดลองบ่อยๆ ใช่ไหม ฉันว่าพวกเขาติดเชื้อฉืออี้เจ้าซื่อบื้อนั่นแล้วล่ะ”
“…” ซูรุ่ยชะงักกึก
ที่จริงคนที่ใช้เวลาอยู่กับหลี่เสี่ยงและเยี่ยนอวี่นานที่สุดคือซูรุ่ยต่างหาก แต่ว่าซูรุ่ยไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองเป็น ‘เจ้าบื้อแสนน่ารัก’ น่ารักยังพอได้ แต่ซื่อบื้อละก็ ไม่มีวันซะหรอก!
แค่กๆ
ซูรุ่ยปรับสีหน้าเป็นปกติ เอ่ยปากพูดเสียงทุ้มต่ำว่า “เยี่ยนอวี่ คนของหลงเหยียนมาแล้ว คงจะมาเพื่อจองยาตัวใหม่ นายกลับไปจัดการพวกเขาก่อนเถอะ”
“คนของฐานหลงเหยียนเหรอ”
เยี่ยนอวี่ยังไม่ทันตอบ ซูเหยียนที่อยู่ข้างๆ ก็อดรนทนไม่ไหวเปิดปาก “ใช่ทีมเล็กที่นำโดยผู้มีพลังพิเศษสายอัคคีหรือเปล่า”
“เธอรู้จักเหรอ”
ซูหว่านหันหน้ามองซูเหยียนอย่างสงสัย
“แค่รู้จักซะที่ไหน!”
สายตาของซูเหยียนแข็งกร้าวขึ้น “หลายวันก่อนฉันเคยเจอพวกเขาระหว่างทาง เกือบถูกจับไปเป็นหนูทดลองแน่ะ!”
หลายปีมานี้ซอมบี้กลายพันธุ์เพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ ฐานใหญ่แต่ละแห่งเริ่มลักลอบและเปิดเผยการทำการวิจัยเกี่ยวกับซอมบี้ เพียงแต่ไม่มีความคืบหน้าก็เท่านั้น
เวลานี้ห้องทดลองที่ศึกษาวิจัยยาใช้ได้จริง นอกจากศูนย์วิจัยลี่ว์เยี่ยในตำนาน ก็มีเพียงห้องทดลองเฟิงเยี่ยของชังหยา
“ศัตรูคู่อาฆาตยังไงก็ต้องพบกันจริงๆ”
ซูหว่านถอนใจให้กับโชคชะตา ชาติก่อนซูเหยียนตายด้วยน้ำมือคนฐานหลงเหยียน ท้ายที่สุดฐานหลงเหยียนถูกเยี่ยนอวี่ทำลาย
ชาตินี้พวกเขาเป็นฝ่ายปล่อยข่าวยาเอง ความจริงก็เพื่อหาโอกาสประจัญบานกับฐานอื่น และตอนนี้ฐานหลงเหยียนก็บุกมาถึงที่เป็นฐานแรก เห็นทีพวกเขาคงจะหาที่ตายกันไม่พอ