ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก - ตอนที่ 2 สลับตัวคุณหนูไฮโซ (2)
แสงแดดยามรุ่งสาง ส่องสว่างผ่านหน้าต่างบานสูงใหญ่ที่สะอาดและสว่างสดใสของห้องเรียน สว่างเจิดจ้าจนแทบลืมตาไม่ขึ้น
นักเรียนในห้องเรียนมัธยมปลายปีสองห้องสามยังมากันไม่ครบ มองใบหน้าอันเยาว์วัยทั้งคุ้นตา และไม่คุ้นตาเหล่านั้น ซูหว่านเปิดกระเป๋าบนที่นั่งของตัวเอง ด้านในนั้นนอกจากหนังสือเรียนเล่มใหม่เอี่ยมสองสามเล่มแล้ว ก็ไม่มีอะไรแล้ว แม้แต่ปากกาด้ามเดียว ดังนั้นการบ้านสักเล่ม หากจะให้มีอยู่นั้น มันจะเป็นไปได้ยังไง?
“ฉันไม่ได้เอาการบ้านมา”
ซูหว่านเทคว่ำกระเป๋าหนังสือของตัวเอง จากนั้นก็หิ้วกระเป๋าหนังสือโทรมๆ ไว้ที่ตรงหน้าสวี่นั่ว และออกแรงแกว่งไปมาอยู่ตรงหน้าเธอ
“เอ่อ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”
สวี่นั่ว คิดไม่ถึงว่าซูหว่านจะมาคุยกับเธอด้วยท่าทางที่เป็นมิตร ในช่วงสองสามวันนี้ซูหว่านเหมือนกินระเบิดเข้าไปอย่างนั้น ไม่ว่าใครจะพูดคุยอะไรกับเธอก็จะถูกยิง
สวี่นั่วโบกมือให้ซูหว่าน ในขณะที่กำลังจะหมุนตัวกลับและเดินจากไป จู่ๆ เธอก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน จึงหยุดลงอย่างลังเลใจ มองไปที่ซูหว่านด้วยสีหน้าที่ลังเล “ซูหว่าน เอ่อ…สีหน้าของคุณไม่ค่อยดี ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายจริงๆ ให้ฉันไปส่งคุณที่ห้องพยาบาลไหม? ”
พูดจริงๆ นะ ท่าทางของซูหว่านในตอนนี้ดูแย่มาก
เมื่อคืนเจ้าของร่างเดิมดื่มเบียร์ทั้งคืน ในตอนเช้าเธอสวมชุดนักเรียนยับยู่ยี่อย่างสะลึมสะลือ แล้วตรงดิ่งมายังห้องเรียน และสิ่งที่เธอทำเป็นอย่างแรกเมื่อนั่งกลับเข้าไปที่โต๊ะของตัวเองคือ…นอนหลับ
ในสภาพแบบนี้ ถ้าหากสีหน้ายังดูดี ก็คงจะเป็นเรื่องแปลก
รู้สึกถึงน้ำเสียงที่ทั้งใส่ใจและตื่นเต้นของสวี่นั่ว ซูหว่านอดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มให้เธอ “ฉันไม่เป็นไร เอ่อ ฉันจะไปลากับอาจารย์เวินเอง”
เวินเหวินเฮ่านักเรียนเกียรตินิยมมหาลัยT อาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ของมัธยมปลายปีสองห้องสาม
ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม อาจารย์เวินเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาและอบอุ่น เพียงแต่เธอคงไม่รู้เป็นแน่ ว่าความจริงแล้วเวินเหวินเฮ่าเป็นถึงทายาทของตระกูลใหญ่อีกด้วย แถมหลังจากนี้เขาก็จะเป็นอีกหนึ่งในคนที่ตามจีบเจี่ยงโยว
พอพูดปุ๊บก็มาปั๊บเลย ซูหว่านกำลังนึกถึงเจี่ยงโยว เงาเล็กๆ ของเจี่ยงโยวก็มาปรากฏที่ประตูหน้าชั้นเรียนพอดี
ใช่เลย พวกเธอทั้งสองคนคือเพื่อนร่วมชั้นกัน
เจียงโยวร่างสูงเพรียว แถมยังได้รับความงามมาจากเหวินซูอีก ถึงแม้จะสวมเครื่องแบบนักเรียนสีฟ้าเหมือนกัน แต่เมื่อเธอต้องอยู่ต่อหน้าฝูงชน ก็จะมีกลิ่นอายของความแตกต่าง
ในตอนนี้ดวงตาคู่สวยของเจี่ยงโยวมองไปรอบๆ ห้อง เมื่อมองเห็นเงาของซูหว่าน แววตาของเธอก็เป็นประกาย และจากนั้นเธอก็รีบตรงเข้าไปหาซูหว่านทันที
“เสี่ยวหว่าน ทำไมเมื่อคืนนี้เธอถึงไม่กลับบ้านทั้งคืน? รู้ไหมว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงแทบแย่!”
น้ำเสียงของเจี่ยงโยวใสแจ๋ว ในตอนนี้เธอไม่ได้ตั้งใจลดเสียงลงต่ำ หลังจากคำถามของเธอสิ้นสุดลง ห้องเรียนที่มีเสียงเสียงดังเอะอะโวยวายในตอนแรก ก็เงียบสงบลงทันที
ไม่กลับทั้งคืน…
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ก็คงเป็นเรื่องปกติ แต่ว่า พวกเขายังเป็นนักเรียน ปีนี้ทุกคนอายุเพียงสิบเจ็ดปี และยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ
ที่สำคัญก็คือ ซูหว่านยังเป็นเด็กผู้หญิง แถมยังเป็นดาวโรงเรียนอีก
ดาวโรงเรียนไม่กลับบ้านทั้งคืน นี่เป็นการพาดหัวข่าวที่แจ่มที่สุดในการเลื่อนเว็บบอร์ดของโรงเรียนแล้ว ใช่หรือไม่?
รู้สึกว่าคนรอบข้างกำลังกระซิบกระซาบ เจี่ยงโยวที่เพิ่งรู้ตัวก็นิ่งอึ้งไป เธอรีบเกาหัวแก้เขินต่อหน้าซูหว่าน “เสี่ยวหว่าน เสี่ยวหว่านฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะ ฉันหมายความว่า……”
เจี่ยงโยวอยากจะอธิบาย แต่จู่ๆ ซูหว่านก็สะพายกระเป๋าใบเปล่าของเธอไว้บนไหล่ และลุกขึ้นอย่างเย็นชา “หมายความว่าอะไรฉันไม่รู้ แต่เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับเธอ”
พูดถึงตรงนี้ ซูหว่านไม่แม้แต่มองเจี่ยงโยว เธอสะพายกระเป๋าเดินเชิดหน้าออกไปทางประตูห้องเรียน
“เสี่ยวหว่าน! ”
เจี่ยงโยวกลับไม่ยอมแพ้ เธอสาวเท้าอย่างรวดเร็วไปที่หน้าประตูห้อง และขวางทางซูหว่านเอาไว้ “เสี่ยวหว่าน อีกไม่นานก็จะสอบปลายภาคแล้ว เธอโดดเรียนไม่ได้แล้วนะ”
“แล้วใครบอกว่าฉันจะโดดเรียนล่ะ? ”
ซูหว่านลืมตามองเจี่ยงโยวอย่างเกียจคร้าน รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นที่มุมปาก “ฉันไม่ได้เอาเครื่องเขียนมาด้วย ว่าจะกลับบ้านไปหยิบเครื่องเขียนไม่ได้ใช่ไหม? เจี่ยงโยว อย่าคิดว่าตัวเองจะถูกอยู่ตลอด เรื่องราวมากมายไม่ใช่แค่คิดว่ามันถูก แล้วมันจะถูกเสมอไป หลบไป! ”
พูดจบประโยค ซูหว่านใช้แรงปัดมือของเจี่ยงโยวที่ขวางเธออยู่ออก และสาวเท้าออกไปจากห้องเรียน
เจี่ยงโยวยืนอยู่หน้าประตู มองตามซูหว่านที่เดินจากไปอย่างงุนงง ในตอนนี้ใบหน้าของเธอทั้งน้อยใจและเสียใจ แต่ว่าอารมณ์ลบๆ เหล่านี้ ไม่นานเธอก็ถูกเธอกำจัดออกไปอย่างรวดเร็ว เธอลูบแก้มขาวใสของตัวเองด้วยความเคยชิน ยิ้มโง่ๆ พูดกับตัวเองว่า “เจี่ยงโยว เธอทำได้! คงจะมีสักวัน สักวันที่ซูหว่านจะชอบเธอ! ”
เหมือนทำเพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของตัวเอง เจี่ยงโยวใช้แรงกำหมัดเล็กๆ ของตัวเองไว้แน่น ถึงได้ยิ้มและหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องเรียน
“ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจจริงๆ”
เด็กชายข้างหน้าต่างบ่นพึมพำกับตัวเอง ถึงได้ค่อยๆ หันตัวเดินจากไป…
สนามกีฬาของโรงเรียนเฟิงเหิงกว้างใหญ่มาก เพื่อรักษาความปลอดภัย จึงห้ามขับรถเข้าไปในโรงเรียน
แต่ก็แน่ล่ะ กฎทั้งหมดมีไว้เพื่อแหก
ซูหว่านหิ้วกระเป๋าหนังสืออันว่างเปล่าเดินไปรอบๆ สนามกีฬาของโรงเรียน รถสปอร์ตปอร์เช่คันหนึ่งก็ตรงดิ่งพุ่งเข้ามาในสนามกีฬา
อาจจะเป็นเพราะว่าในตอนนี้บนสนามกีฬาไม่มีใครเลย ดังนั้นซูหว่านที่เดินอยู่เพียงลำพังจึงเป็นเป้าหมายที่โดดเด่นที่สุด
“เอี๊ยด! ”
ตามด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ดังสนั่น และเสียงเบรกอันแสบแก้วหู รถสปอร์ตปอร์เช่สีแดงหยุดอยู่ตรงหน้าซูหว่าน
สีหน้าของซูหว่านไม่เปลี่ยนแปลง สายตามองอย่างแน่นิ่งไปที่เด็กหนุ่มผมแดงที่กระโดดลงมาจากรถสปอร์ต
เด็กหนุ่มผมแดงคนนี้ ซูหว่านรู้จักเขา
หลิงฉิงทายาทของหลิงซื่อกรุ๊ป ในเวลาเดียวกันเขาก็เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายปีสามของโรงเรียนเฟิงเหิง และเป็นหนึ่งในพรรคพวกของเด็กเรียนอย่างหลัวอวี่
หลิงฉิงอยู่ที่เฟิงเหิงก็เป็นคนที่มีอิทธิพลไม่น้อย แต่ไหนแต่ไรที่ทุกคนรู้จักเขาเวลาที่เขาได้คุยโม้โอ้อวดก็ไม่เคยใช้เสียงต่ำเลย
“ซูหว่าน ไม่ได้เจอกันไม่กี่วัน ทำไมคุณตกอับแบบนี้ล่ะ?”
ตอนที่หลิงฉิงอยู่บนรถเห็นใบหน้าอันซีดเซียวของซูหว่าน เมื่อก่อนตอนที่ซูหว่านและหลัวอวี่คบหากัน เรื่องจุกๆ จิกๆ เยอะแยะมากมาย ผู้หญิงขี้แยแบบเธอไม่เคยเป็นสไตล์ที่เขาชอบมาก่อนเลย ตอนนี้หลัวอวี่ก็ได้สติและเลิกกับซูหว่านไปในที่สุด ไม่ง่ายเลยที่หลิงฉิงจะบังเอิญเจอซูหว่านสักครั้ง เขาจะปล่อยโอกาสฉีกหน้าซูหว่านให้อับอายนี้ไปไม่ได้
เผชิญหน้ากับความเย้ยหยันของหลิงฉิง ซูหว่านเพียงแค่มองหน้าเขานิ่งๆ และยกกระเป๋าหนังสือขึ้นมา หมุนตัวกลับ และเดินไปทางประตูโรงเรียนอย่างเงียบๆ
ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรมาก ก็แค่หมาบ้าที่คลั่งรักนายท่านหญิงมีมากจนเกินไป หลังจากนี้หลิงฉิงเป็นคนตามจีบเจี่ยงโยว จนถึงขนาดเปลี่ยนมาเป็นศัตรูกับหลัวอวี่ ก็เพราะว่าเจี่ยงโยว
แน่นอน จะแย่งชิงนางเอกอย่างไร แบ่งกันวันคู่หรือวันคี่ ส่วนเรื่องของผู้ชายพวกนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ซู่หว่านต้องคิดก็คือ
ซูรุ่ยอยู่ที่ไหน?
เพราะในโลกนี้ผู้ชายที่ชอบ รักใคร หรือแอบชอบแอบรักเจี่ยงโยวมีมากมายเหลือเกิน และในบรรดาคนเหล่านี้มีหลายคนที่เจ้าของร่างเดิมนี้ไม่เคยเจอ ดังนั้นในตอนนี้ซูหว่านไม่สามารถคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของซูรุ่ยได้เลย
ตามพล็อตเรื่องของโลกใบนี้ ถ้าซูหว่านถูกกระสุนปืนใหญ่ยิง และสาเหตุที่เธอถูกยิงก็เพราะว่าเธอไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ทำตัวเป็นศัตรูกับเจี่ยงโยวครั้งแล้วครั้งเล่า
ในอนาคตไม่นาน ข้างกายเจี่ยงโยวจะมีผู้ชายที่ดีมากมายปรากฏตัวขึ้น ผู้ชายเหล่านี้คนหนึ่งเผด็จการกว่า คนหนึ่งใจดำอำมหิตกว่า
สุดท้ายซูหว่านเจ้าของร่างเดิมก็จะตายด้วยน้ำมือของนักเลงหัวไม้ แถมการรู้จักกันของนักเลงหัวไม้และเจี่ยงโยวก็ยิ่งน่าเหลือเชื่อ ในตอนนั้น ผู้ชายพวกนั้นเกิดความขัดแย้งกันในแก๊ง เขาถูกคนอื่นลอบทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เลยเป็นลมล้มอยู่ที่ปากทางเข้าซอย สุดท้ายเจี่ยงโยวที่เพิ่งเลิกเรียนเดินผ่านมาใจดีเลย “เก็บ” กลับมาบ้าน!
สำหรับเรื่องนี้ ซูหว่านแค่อยากจะบอกในฐานะนักเรียนดีเด่นว่า ถ้าเห็นคนได้รับบาดเจ็บบนถนน คุณควรจะโทรหา 120 ก่อนไม่ใช่เหรอ? คุณคิดว่าตัวเองเป็นหมอฮว่าถั่วที่มาเกิดใหม่หรืออย่างไร? บาดแผลแยกจากมีดจากกระสุนปืนแค่เอามาดูแลก็จะหายเป็นปกติได้อย่างนั้นสินะ?