CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

มรรคาสู่สวรรค์ ภาคที่ 2 - ตอนที่ 16 งานเลี้ยงซื่อไห่

  1. Home
  2. มรรคาสู่สวรรค์ ภาคที่ 2
  3. ตอนที่ 16 งานเลี้ยงซื่อไห่
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 16 งานเลี้ยงซื่อไห่
Ink Stone_Fantasy
จิ๋งจิ่วกล่าว “ยาถอนพิษ”

เสี่ยวเหอทราบดี กับคนแบบนี้มิอาจใช้ลูกไม้ใดๆ ได้

นางใช้มือซ้ายหยิบเอาขวดยาออกมาจากที่คาดเอว ก่อนจะยื่นให้จิ๋งจิ่วอย่างเสียใจ

จิ๋งจิ่วรับเอาขวดยามา จากนั้นโยนให้เจ้าล่าเยวี่ยพลางถามว่า “สถานะของเจ้าในปู้เหล่าหลินเป็นอย่างไร?”

เสี่ยวเหอคือสาวน้อยที่ชาญฉลาดอย่างมาก นางรีบกล่าวโดยมิกล้ามีความลังเลใดๆ “ระดับกลาง แต่ค่อนข้างมีความสำคัญ”

จากรายละเอียดบางอย่างทำให้จิ๋งจิ่วมั่นใจว่านางคือผู้บังคับบัญชาของคนชุดดำนั้น ข้อสงสัยเพียงอย่างเดียวนั้นอยู่ที่ว่าสภาวะของนางมิอาจสู้คนชุดดำนั้นได้อย่างเห็นได้ชัด

“ทำไม?”

“เพราะไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนแต่ถูกข้าหลอก…ยกเว้นพวกเจ้า”

เสี่ยวเหอกล่าวกับเขาอย่างจริงจัง “ข้าไม่เข้าใจจริงๆ เหตุใดพวกเจ้าจึงมองข้าออก”

“เสี่ยวเหอแห่งเมืองอิ้งเฉิงคือผู้บำเพ็ญพรตหญิงที่มีนิสัยโหดร้าย นี่คือการเสแสร้งชั้นหนึ่ง แต่ความจริงแล้วกลับเป็นปีศาจจิ้งจอกที่ช่างประจบสอพลอมาแต่กำเนิด นี่ก็เป็นการเสแสร้งอีกชั้นหนึ่ง เมื่อฉีกการเสแสร้งสองชั้นนี้ออก ก็พอจะมองเห็นได้ว่าเจ้านั้นเป็นสาวน้อยอ่อนแอที่ไร้เดียงสาบริสุทธิ์ เพียงแต่ใครจะคิดบ้างว่านี่จะเป็นการเสแสร้งอีกชั้นหนึ่ง?”

เจ้าล่าเยวี่ยกินยาถอนพิษลงไป กล่าวว่า “แต่ขอเพียงไม่สับสนกับสิ่งที่อยู่ภายนอก การเสแสร้งเหล่านี้จะหลอกใจกระบี่ที่ส่องสว่างได้อย่างไร?”

เสี่ยวเหอน้ำตาตก กล่าวว่า “พวกท่านเป็นใครกันแน่?”

จิ๋งจิ่วมิได้ตอบคำถามนาง หากแต่กล่าวตามตรงว่า “ข้าจะให้เจ้าช่วยข้าเรื่องหนึ่ง”

เสี่ยวเหอขนตากระดิกเล็กน้อย น่าจะกำลังลังเลอยู่ จากนั้นครู่หนึ่งจึงเงยหน้าขึ้นมาพลางกล่าวเสียงสั่นว่า “เรื่องใด?”

“ปีหน้าหรือไม่ก็นานกว่านั้น เจ้าจะได้เจอคนผู้หนึ่ง ไม่ว่าเขาคิดจะทำอะไร ข้าต้องการให้เจ้าช่วยเขา”

จิ๋งจิ่วกล่าว “หากทำเรื่องนี้สำเร็จ ข้าจะช่วยเจ้าออกมาจากปู้เหล่าหลิน”

ครั้นได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของเสี่ยวเหอพลันเป็นประกายขึ้นมา แต่จากนั้นก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว

จริงอยู่ที่นางอยากออกไปจากปู้เหล่าหลิน แต่ปู้เหล่าหลินเป็นสถานที่ที่น่ากลัวขนาดไหนก็รู้กันดี แล้วนางจะออกไปได้อย่างไร?

โดยเฉพาะเบื้องหลังอันลึกลับของปู้เหล่าหลิน แม้นนางจะไม่กระจ่างว่าเป็นอย่างไร แต่นางก็รู้ดีว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ยอดฝีมือทางวิถีกระบี่เพียงคนหนึ่งจะต่อกรได้

นางกล่าวอย่างปวดใจว่า “ข้าไม่สามารถเชื่อเจ้าได้”

จิ๋งจิ่วกล่าว “เจ้าทำได้เพียงเชื่อข้า”

เสี่ยวเหอกล่าว “แล้วเจ้าจะเชื่อข้าได้อย่างไร?”

จิ๋งจิ่วกล่าว “ข้าย่อมมีวิธีอยู่”

กล่าวจบประโยคนี้ เขาก็จับมือซ้ายของนางขึ้นมา

สร้อยข้อมือสีเงินเส้นนั้นย้ายจากข้อมือเขามายังข้อมือของนางอย่างไร้ซุ่มเสียง ไม่สามารถถอดออกได้อีก

สายตาของเจ้าล่าเยวี่ยมองไปยังสร้อยข้อมือ

นางรู้สึกสงสัยในสร้อยข้อมือของจิ๋งจิ่วมาตลอด

ตัวนางเองก็เคยมีสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งที่อยู่ข้างกายมาหลายปี

หลังมาถึงยอดเขาเสินม่อ นางถึงได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วมันคือกระบี่มิคำนึงที่ปรมาจารย์อาจิ่งหยางทิ้งเอาไว้ให้ตนเอง

เช่นนั้นสร้อยข้อมือของจิ๋งจิ่วเส้นนี้ล่ะ? จะใช่ยอดกระบี่หรือเปล่า?

เหตุใดเขาจึงเอาสร้อยข้อมือเส้นนี้ไปสวมไว้บนมือปีศาจจิ้งจอกที่เพิ่งรู้จัก?

……

……

ครั้นสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ขึ้นมาจากข้อมือ เสี่ยวเหอรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัวอย่างรุนแรงอีกครั้ง

สร้อยข้อมือนั้นน่ากลัวเสียยิ่งกว่าสายตาของอีกฝ่าย ทั้งยังเหนือไปกว่าความหวาดกลัวที่ปู้เหล่าหลินมอบให้กับนางมากนัก

นางไม่รู้ว่าสร้อยข้อมือเส้นนี้คือสิ่งใด นางเพียงแต่มีความรู้สึกอย่างรุนแรงอย่างหนึ่ง ขอเพียงตัวเองขยับความคิดที่จะผิดสัญญาที่ให้ไว้กับอีกฝ่ายแม้เพียงนิดเดียว สร้อยข้อมือเส้นนี้จะตัดตัวนางขาดออกเป็นสองท่อน —- มิใช่แค่เพียงข้อมือเท่านั้น หากแต่เป็นทุกส่วนของร่างกาย ไปจนถึงวิญญาณ

ใบหน้าของเสี่ยวเหอขาวซีด พลางกล่าวด้วยสายตาที่หวาดกลัวว่า “ข้าจะรู้ได้อย่างไร…ว่าคนที่ท่านพูดถึงผู้นั้นคือใคร?”

“เมื่อเจอเขา เจ้าจะรู้เอง”

จิ๋งจิ่วยกมือดึงดอกมะลิที่อยู่ตรงขมับของนางมาเก็บไว้ในแขนเสื้อ

……

……

เสี่ยวเหอจากไปไม่นาน แรงกดดันจากบนฟากฟ้านั้นก็ค่อยๆ หายไป

ลมทะเลพัดโกรกเข้ามาในศาลเจ้า ส่งเสียงดังวูมๆ

จิ๋งจิ่วเดินไปริมผา มองดูทะเลตะวันตกที่ดำมืด นิ่งเงียบอยู่เป็นเวลานาน

เขามิได้คิดอะไร เพียงคิดอยากจะดูทะเลผืนนี้เท่านั้น เนื่องเพราะอีกไม่กี่วันก็ต้องจากไปแล้ว ในช่วงเวลาหลายปีที่สามารถคาดการณ์ได้คงไม่มีทางได้กลับมาอีก

เจ้าล่าเยวี่ยเดินมาด้านหลังเขา กล่าวถามว่า “ช่วงเวลาสองปี สังหารคนมาตลอดทาง เจ้าทำเพื่อให้ปู้เหล่าหลินจับตาดูพวกเราอย่างนั้นหรือ?”

“ถูกต้อง เพราะข้าต้องหาพวกเขา”

จิ๋งจิ่วมิได้หันหน้ากลับมา กล่าวต่อว่า “แต่แน่นอน สองปีมานี้ก็เป็นการฝึกฝนเช่นเดียวกัน”

เจ้าล่าเยวี่ยกล่าวว่า “เจ้าสงสัยว่าปู้เหล่าหลินจะมีความเกี่ยวข้องกับการที่ปรมาจารย์อาบรรลุเป็นเซียนล้มเหลว?”

จิ๋งจิ่วกล่าว “ข้อแรก ยังมิแน่ว่าล้มเหลว ข้อสอง ตอนนี้ยังมิอาจวิเคราะห์ความสัมพันธ์ได้”

เจ้าล่าเยวี่ยกล่าวว่า “เจ้าว่าคนที่จะไปหานางคือใคร?”

จิ๋งจิ่วกล่าว “ข้าหวังว่านางจะไม่เจอคนผู้นั้น”

เจ้าล่าเยวี่ยถาม “ธุระจัดการเรียบร้อยแล้ว?”

จิ๋งจิ่วมองดูทะเลตะวันตกที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ในใจครุ่นคิดถึงปู้เหล่าหลิน ยอดเขาเหลี่ยงว่าง หลิวสือซุ่ย พลางกล่าวว่า “ข้ายังมิได้เจอคนผู้นั้น”

เจ้าล่าเยวี่ยรู้สึกแปลกใจ กล่าวว่า “คนที่เจ้าอยากเจอมิใช่นาง? เป็นซีหวังซุนจริงๆ อย่างนั้นหรือ?”

ถูกต้อง คนที่จิ๋งจิ่วต้องการพบก็คือผู้จัดงานเลี้ยงซื่อไห่ซีหวังซุน

ปัญหาอยู่ที่ว่า มีเพียงผู้ที่เข้าร่วมงานเลี้ยงซื่อไห่และเอาชนะการแข่งขันศิลปะหนึ่งในสี่รายการได้ ถึงจะได้พบคนผู้นั้น

จิ๋งจิ่วมองไปยังส่วนหนึ่งของทะเลตะวันตก พลันกล่าวถามว่า “เรียนหมากล้อมยากหรือไม่?”

……

……

วันที่งานเลี้ยงซื่อไห่เริ่มขึ้น ภายในเมืองไห่โจวจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย มีถนนคนเดิน มีคณะกายกรรมที่เชิญมาจากจังหวัดหยาง แล้วก็ย่อมไม่อาจขาดการแสดงอุปรากรไปได้ ชาวเมืองไห่โจวทยอยเดินออกจากบ้าน คึกคักยิ่งนัก แผงขายอาหารย่อมต้องยิ้มมีความสุข แต่ทหารที่รับผิดชอบดูแลรักษาความปลอดภัยกลับยิ้มไม่ออก

นี่คือโลกของคนธรรมดา งานเลี้ยงซื่อไห่ที่แท้จริงจัดขึ้นที่ภูเขาโดดเดี่ยวที่อยู่นอกเมืองไห่โจว ตั้งแต่เวลารุ่งเช้า มีลำแสงกระบี่และลำแสงอาวุธวิเศษส่องสว่างขึ้นอยู่ตลอดเวลา ผู้บำเพ็ญพรตทยอยเดินทางมาถึง แต่แน่นอนว่าผู้บำเพ็ญพรตส่วนใหญ่ยังมีสภาวะไม่สูงพอ จึงได้แต่ต้องนั่งรถมาจากในเมืองไห่โจว

ลมทะเลอันอบอุ่นพัดโชยต้นไม้ที่อยู่บนภูเขาโดดเดียว หากไม่มีเมฆสีขาวที่อยู่บนฟ้าสีครามผืนนั้น วันนี้ึคงจะค่อนข้างร้อนทีเดียว ที่น่าแปลกคือไม่ว่าลมทะเลจะพัดอย่างไร เมฆขาวผืนนั้นก็มิได้ขยับเขยื้อนไปจากตำแหน่งเดิม มันยังคงทอดเงาของตัวเองลงมาบนเขาโดดเดี่ยวลูกนั้น สร้างความเย็นสบายให้แก่ผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยง

ภูเขาโดดเดี่ยวฝั่งที่อยู่ติดกับทะเล มีหอสิบกว่าหลังตั้งกระจายอย่างเป็นระเบียบ

ในระหว่างที่เหล่าผู้บำเพ็ญพรตกำลังเดินชื่นชมทะเลและพูดคุยเสียงเบาๆ พวกเขาก็มักจะเหลือบมองดูเมฆที่อยู่บนท้องฟ้าผืนนั้นอยู่บ่อยครั้ง

เมฆผืนนั้นหนาทึบ ดูแล้วเหมือนหมอกขาวที่จับตัวแน่นจนแยกไม่ออก ภายในเมฆคล้ายมองเห็นลำแสงกระบี่และควัน และยังมีชายหลังคาที่ดูตะคุ่มๆ ไม่ชัดเจน

นี่คือสถานที่สำคัญของสำนักกระบี่ซีไห่ —- ลานเมฆ

บุคคลสำคัญของแต่ละสำนักถูกเชิญเข้าไปด้านในแล้ว อีกประเดี๋ยวแขกเหรื่อของงานเลี้ยงซีไห่ก็จะถูกพาเข้าไปในเมฆ ทว่าคนที่จะได้พบซีหวังซุนคงจะมีไม่มากเท่าไร

หอต่างๆ ในเขาโดดเดี่ยว บางแห่งใช้สำหรับชมทิวทัศน์ บางแห่งใช้ฟังเสียงคลื่นทะเล บางแห่งเอาไว้ให้ผู้บำเพ็ญพรตได้ใช้ทำสมาธิ มีหออยู่สามสี่แห่งที่มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ รอบตัวหอล้อมไว้ด้วยผ้าม่านสีขาว พลิ้วไหวตามลมทะเล ผู้บำเพ็ญพรตจำนวนมากรวมตัวอยู่ที่นั่น บ้างส่งเสียงอุทานเบาๆ บ้างส่งเสียงชื่นชม บางคนถึงขนาดร้องเยี่ยมออกมา

ที่นี่กำลังจัดกิจกรรมหลักของงานเลี้ยงซื่อไห่ แข่งศิลปะทั้งสี่เพื่อชิงของวิเศษ

จิ๋งจิ่วและเจ้าล่าเยวี่ยยังอยู่ห่างจากหออีกไกล แต่ก็ถูกบางคนที่กำลังจับตาดูอยู่พบตัวเข้าแล้ว

พวกเขามิได้ใช้ผ้าสีเทาปิดบังใบหน้า แต่หมวกลี่เม่าบนศีรษะยังคงดูสะดุดตาอย่างมาก

คนจากกรมชิงซานรีบเดินทางมา

…………………………………………………………

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 16 งานเลี้ยงซื่อไห่"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์