มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 1047
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1047
เมื่อสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าอันย่ิงใหญ่จากลูกน้องโมลเดล ซึ่งเริ่มลงมือกันแล้ว ดีแลนจึงรู้สึกว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
ตลอดเวลามานี้ เขาไม่เต็มใจที่จะติดต่อกับสมาคมลับใด ๆ เว้นแต่ว่าเขาถูกบังคับโดยสิ้นเชิง ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับทั้งหมดที่เขารู้ สมาคมลับนั้นมักจะทั้งยากที่จะควบคุมได้และเผด็จการกัน
สุดท้ายเขาก็ทำแบบนั้นเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสหพันธ์ดวงอาทิตย์ แต่โชคไม่ดี ความกังวลใจทั้งหมดของเขาก็กำลังมาปรากฏตัวซึ่ง ๆ หน้าในตอนนี้
เขาจำได้ในตอนนั้นว่า พ่อของเขาบอกเขาว่าตระกูลคลอฟอร์ดมักจะเผชิญกับภัยอันตรายของการถูกฆ่าจนหมดสิ้นมาโดยตลอด สิ่งที่พ่อของเขาบอกในที่สุดก็จะเกิดขึ้นในวันนี้แล้วใช่ไหม?
พวกเขาจะพบกับจุดจบของการสังหารหมู่โดยคนของตระกูลโมลเดลหรือเปล่า? ความคิดนั้นอย่างเดียวก็ทำให้ดีแลนกล้ำกลืนเล็กน้อยแเว
เป็นตอนนั้นเอง เมื่อมีเสียงดังที่ค่อนข้างฟังดูดุร้ายตะโกนขึ้นมา “ฉันอยากจะเห็นด้วยตัวเองว่าใครจะกล้าดีมาทำร้ายคนของตระกูลคลอฟอร์ด!”
เสียงที่มีอำนาจเหนือนั้นดังมาก จนกระจกโดยรอบแตกเป็นเสี่ยง ๆ ในท้ายที่สุด!
ขณะที่ลมกรรโชกพัดผ่านห้องโถง ลูกน้องของตระกูลโมลเดล ที่เดิมทีเตรียมที่จะสังหารหมู่คลอฟอร์ดคนใดก็ตามที่พวกเขาแตะต้องได้ ก็จับหัวของพวกเขาในทันที
พวกเขาแต่ละคนรู้สึกเหมือนว่าหัวของพวกเขากำลังจะระเบิด และภายในไม่กี่วินาที พวกเขาส่วนใหญ่ก็อาเจียนออกมาเป็นเลือดก่อนจะตายคาที่กัน!
เมื่อเห็นแบบนั้น คอร์ดจึงขมวดคิ้วแต่เขาไม่ได้เคลื่อนไหว
ไม่กี่วินาทีต่อมา กลุ่มคนที่ดูลึกลับจำนวนมากมายซึ่งแต่งกายด้วยชุดดำก็เดินเข้ามาให้ห้องโถงขนาดใหญ่กันอย่างฉับไว โดยล้อมคอร์ดและลูกน้องที่ยังคงเหลือไม่กี่คนของเขาเอาไว้
พวกเขามีกันอย่างน้อยหนึ่งพันคนได้ และขณะที่คอร์ดมองไปที่พวกเขาด้วยสายตาสงสัย เขาก็ตะโกนขึ้นอย่างเย็นชา “ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นสมาชิกของกลุ่มไหน อย่างไรก็ตาม รู้ไว้ด้วยว่าผมมาที่นี่วันนี้ก็เพื่อจะชำระแค้นกับตระกูลคลอฟอร์ด คุณไม่ควรจะก้าวก่ายในเรื่องนี้จะดีกว่า!”
“แม้ว่าฉันจะเข้ามายุ่ง มันก็ไม่เหมือนว่านายจะสามารถหยุดฉันได้ นายมันก็แค่คนธรรมดาอีกหนึ่งคนที่จะต้องจัดการด้วยอยู่ดี” ชายชรากล่าว ขณะที่เขาก้าวยาว ๆ เข้ามาในห้องโถง
ทันทีที่เขาพูดไปแบบนั้น ผู้คนที่แต่งกายด้วยชุมคลุมดำจึงคุกเข่าเป็นแถวในทันที โดยก่อให้เกิดทางเดินตรงกลาง ขณะที่พวกเขาตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพียงกัน “ท่านลอร์ด!”
“…หืมม…?” คอร์ดกล่าว ขณะที่เขาขมวดคิ้วในขณะที่จ้องไปที่ชายชรา
“ผมเชื่อว่าพวกเราไม่เคยพบกันมาก่อน ใช่ไหมครับ? เนื่องจากคุณยังคงคิดที่จะเข้ามายุ่งแม้หลังจากผมพูดไปแล้วว่า ผมมีความแค้นที่จะต้องชำระกับคลอฟอร์ด งั้นก็โปรดบอกด้วยว่าความสัมพันธ์ของคุณกับพวกเขาคืออะไรกันครับ คุณผู้ชาย” คอร์ดกล่าวเสริม
ก่อนที่ใครอื่นจะทันได้พูดสิ่งใด ดีแลนที่ก่อนหน้านี้ตะลึงงันไปชั่วขณะ ก็พึมพำขึ้นมา “…พ่อ?”
จริงอยู่บุคคลที่กำลังเดินมาทางเขาในเวลานี้คือพ่อของเขาที่หายตัวไปเมื่อหลายสิบปีก่อนแล้วในตอนนั้น แต่หลังจากไม่ได้พบกันมาเป็นเวลานานแล้ว ดีแลนจึงรู้สึกว่าตัวเองเริ่มกระวนกระวายเล็กน้อย
“…ปู่งั้นเหรอ?” เจสสิก้ากล่าวต่อมา
เจสสิก้าที่ไม่เคยพบแดริลมาก่อน และถ้าจะมีอะไรอย่างนั้น เธอก็รู้สึกค่อนข้างแปลกใจที่ได้รู้ว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่!
“ฉันเดาว่านี่คือหลานสาวของฉัน ขณะที่เขายืนอยู่ตรงหน้าเจสสิก้าและจับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรักเอ็นดูต่อเธอ
“เธอ…ใช่ ใช่ครับ…ยังไงซะ ตลอดหลายปีมานี้พ่อไปอยู่ไหนมาเหรอครับ?” ดีแลนที่ยังคงตกใจสุดขีดเป็นอย่างมากได้ตอบกลับ
“ฉันจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้แกฟัง เมื่อฉันกำจัดคนเลวเหล่านี้เสร็จ!” แดริลยิ้มเยาะ ขณะที่เขาหันกลับไปมองคอร์ด
“ถ้าเช่นนั้น คุณก็คือแดริลเองสินะ! นายท่านแห่งตระกูลคลอฟอร์ดที่หายตัวไปเมื่อหลายสิบปีก่อน! ผมเข้าใจแล้ว! อืมนั่นก็ยอดเยี่ยมมากที่ในที่สุดคุณก็ตัดสินใจแสดงตัวออกมาอีกครั้งในวันนี้! ผมจะสังหารคุณไปพร้อมกับคนที่เหลือของคลอฟอร์ดซะ! วิธีนั้น ก็จะไม่มีคลอฟอร์ดคนไหนคงอยู่ต่อไปได้!” คอร์ดตอบกับด้วยเสียงหัวเราะเย็นชา
“ฮ่า! นายวางแผนที่จะสังหารหมู่พวกเราทั้งหมดงั้นเหรอ? ฉันเกรงว่าแม้แต่คริสโตเฟอร์ โมลเดล ก็จะไม่พูดโอหังขนาดนี้ต่อหน้าฉันด้วยซ้ำ!” แดริลกล่าว ขณะที่เขาเอามือไขว้หลังในขณะที่ยิ้มเย็นชา
“…คุณพูดว่าอะไรนะ?”