มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน - บทที่ 955
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 955
เมื่อเงยหน้าขึ้น เจอรัลด์ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนร่วมงานหญิงอีกคนที่อยู่ทีมเดียวกันกับเขา
เมื่อเห็นว่าพวกเธอบังเอิญพบเขา ขณะที่พวกเธอกำลังมองหาที่นั่งเพื่อจะนั่งทานอาหารกัน เจอรัลด์จึงยิ้มพร้อมกับพยักหน้าให้ ขณะที่เขามองไปที่พวกเธอ
อย่างไรก็ตามไม่มีพวกเธอคนไหนดูเหมือนจะสนใจรอยยิ้มของเขาเยด้วยซ้ำ ความจริงแล้ว เพื่อนร่วมงานบางคนยังพบว่าตัวเองกำลังเอามือป้องปากด้วยความขบขันกันขณะที่พวกเธอพูดขึ้นมา “ช่างน่าประหลาดใจอะไรอย่างนี้! คุณไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ ใช่ไหม? ทำไมคุณถึงตัดสินใจทานอาหารที่นี่ แทนที่จะเป็นสถานที่อื่น ๆ ล่ะ?”
หลังจากพูดไปแบบนั้น พวกเธอก็เพียงหันหลังกลับจากไปกัน
ไม่กี่วินาทีต่อมา หนึ่งในเพื่อนร่วมงานก็พูดขึ้นมา “ฮะ? เฮ้ ดูนั่นสิ! คุณโยซอนและคุณสวิฟต์หนิ! ไงคะ!”
ทันทีที่พวกเธอเห็นควินแลน อารมณ์ของพวกเธอก็เปลี่ยนไปในทันที พวกเธอยิ้มให้ ขณะที่พวกเธอโบกมือให้เขากัน
“ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้ครับ! ทำไมคุณไม่นั่งกับพวกเราล่ะ? ถ้าผมรู้ว่าคุณจะมาทานอาหารกันที่นี่ ผมก็คงจะเชิญพวกคุณทั้งหมดมาด้วยกันแล้วอย่างแน่นอน!” ควินแลนกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส
“ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ ถ้าพวกเราจะนั่งด้วย?” เพื่อนร่วมงานหญิงสองสามคนถาม
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดพวกเขาทั้งหมดจึงลงเอยด้วยการนั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน โดยพูดคุยและหัวเราะในหมู่กันเอง
แม้เจอรัลด์รู้ดีว่าเขาเป็นคนไม่สำคัญ เมื่ออยู่ต่อหน้าควินแลน แต่เขาก็ไม่ต้องการจะติดต่อกับเพื่อนร่วมงานของเขามากขนาดนั้นอยู่ดี ท้ายที่สุดแล้ว การเป็นมิตรกับพวกเขาก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของเขา
เจอรัลด์เพียงหวังว่าเขาจะสามารถพบกับทิวลิปได้ในเร็ว ๆ นี้
เมื่อการประชุมช่วงบ่ายสิ้นสุดลงในเวลาต่อมา เจอรัลด์ก็เตรียมสอนชั้นเรียนแรกของเขา เมื่อเข้ามาในชั้นเรียน เจอรัลด์ก็เห็นว่ามีนักศึกษามากกว่าสามสิบคนอยู่ในชั้น ถึงอย่างนั้นคนที่เป็นที่สนใจมากที่สุดในหมู่พวกเขาทั้งหมดก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากทิวลิป
แต่การวางตัวของเธออย่างเดียว ก็ทำให้ใครก็ตามที่เห็นเธอรู้ได้ในทันทีว่าเธอเป็นหัวหน้าของชั้นเรียน
เนื่องจากการบรรยายครั้งแรกเป็นบทเรียนที่จำเป็นต้องทำการทดลอง เจอรัลด์จึงพานักเรียนของเขาไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อที่พวกเขาจะได้สังเกตตัวอย่างกันที่นั่น เขาคิดว่ามันจะเหมาะสมสำหรับพวกเขาที่จะได้สังเกตสิ่งต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากหัวข้อที่เขากำลังจะสอนนั้นค่อนข้างเป็นหัวข้อที่สำคัญมากในหลักสูตรชีววิทยา
ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่พวกเขาจะไม่ต้องอยู่แต่ในชั้นเรียน นักเรียนจึงรีบคว้าสมุดบันทึกของพวกเขา และตามเจอรัลด์ออกไป
“ฮ่าฮ่า! ฉันสงสัยว่าเธอสังเกตเห็นหรือไม่ว่าอาจารย์ที่หล่อเหลาคนนั้นดูเหมือนจะสนใจในตัวเธอทิวลิป!” หญิงสาวคนหนึ่งหัวเราะในระหว่างทางไปยังห้องปฏิบัติการ ขณะที่เธอจับมือของทิวลิปไว้
“เธอกำลังพล่ามไร้สาระอะไรอยู่คราวนี้ ยัยผู้หญิงเซ่อ…” ทิวลิปตอบกลับ เธอเกือบจะพูดไม่ออกกับความเห็นของเพื่อนของเธอ
“จริง ๆ นะ! ฉันเห็นว่าเขาแอบชำเลืองมองเธอเป็นครั้งคราวจากนาทีที่เขาแนะนำตัวเองเสร็จ เขายังคงทำแบบนั้นต่อไปจนถึงจุดที่เขาออกไปเมื่อครู่นี้! ฉันมั่นใจว่าเขาหลงเสน่ห์ในความงามของเธอย่างแน่นอน!”
“เอาอีกแล้วนะ ความไร้สาระของเธอน่ะ! แต่ถ้าเขาแอบมองฉันหลายครั้งขนาดนั้นจริง ๆ ล่ะก็ เขาก็ไม่ควรจะให้ฉันจับการกระทำของเขาได้สิ! ถ้าฉันจับเขาได้คาหนังคาเขา งั้นฉันจะควักลูกตาของเขาออกมาและป้อนมันให้สุนัขทิเบตัน มาสทิฟฟ์ของฉันซะ ฮู้! เธอก็รู้ว่าฉันเกลียดผู้ชายเงียบ ๆ และดูจริงใจอย่างเขามากแค่ไหน! ไม่มีร่องรอยของความกระหายเลือดในตัวเขาเลย!” ทิวลิปกล่าว ขณะที่พวกเธอทั้งคู่ระเบิดหัวเราะออกมากัน
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง พวกเขาก็มาถึงที่ห้องปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม ด้วยความประหลาดใจของเจอรัลด์ เขาพบว่าที่นั่นมีสองชั้นเรียนอยู่ภายในห้องปฏิบัติการอยู่แล้ว
แม้การดำเนินบทเรียนในห้องปฏิบัติการด้วยชั้นเรียนสองชั้นเรียนในเวลาเดียวกันเป็นเรื่องที่เห็นได้บ่อย แต่ปกติก็ต้องยึดถือตามตารางสอนกัน
แม้ชั้นเรียนของเจอรัลด์และมาร์จอรีเป็นชั้นเรียนเดียวที่ควรจะได้ใช้ห้องปฏิบัติการในช่วงเวลานี้ แต่ควินแลนก็อยู่ด้านในพร้อมกับนักเรียนของเขาด้วยเหตุผลแปลก ๆ บางอย่าง
ทันทีที่มาร์จอรีเห็นเจอรัลด์ เธอก็พูดขึ้นอย่างกระอักกระอ่วน “คุณคลอฟอร์ด?”
“ไม่ใช่ว่าควรมีเพียงชั้นเรียนของพวกเราเท่านั้นในการเข้าใช้ห้องปฏิบัติการระหว่างช่วงแรกนี้หรอกเหรอครับ? ทำไมคุณโยซอนและนักเรียนของเขาถึงอยู่ที่นี่แทนล่ะครับ?”
แม้เจอรัลด์ไม่ได้มีความรู้สึกที่มากเท่าที่มีในตอนแรกจริง ๆ แต่เขาก็เริ่มรำคาญกับเรื่องทั้งหมดนี้แล้ว
“ขอโทษด้วยค่ะ คุณคลอฟอร์ด แต่คุณโยซอนมาหาฉันก่อนหน้านี้ โดยบอกว่าเขาไม่มีประสบการณ์ในการสอนนักเรียนมาก่อน…เพราะเช่นนั้น เขาจึงแนะนำให้พวกเราทำบทเรียนร่วมกัน…ฉันคิดว่าเขาได้แจ้งให้คุณทราบแล้วเกี่ยวเรื่องนี้ ดังนั้นฉันจึงเพียงเห็นด้วยกับแผนการของเขา…” มาร์จอรีตอบกลับ ขณะที่เธอหน้าแดงขึ้นมา
มีเสียงกระแอมในลำคอ หนึ่งในนักเรียนจากชั้นเรียนของควินแลนก็ตะโกนขึ้นจากนั้น “เอาแบบนี้ไหม อาจารย์? ตั้งแต่นี้ต่อไป ทำไมพวกเราไม่ใช้การจัดเรียงชั้นเรียนในปัจจุบันแทนอันก่อนหน้านี้? ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราก็อยากเรียนกับคุณสวิฟต์ และคุณโยซอนมากกว่ามาก”
“ไม่มีเหตุผลที่จะทำแบบนั้น! ชั้นเรียนของเราได้รับการจัดการไว้ล่วงหน้าอย่างดีแล้ว ดังนั้นพวกเธอจะมายึดเวลาเรียนของคนอื่นตามใจชอบได้ยังไงกัน?” ทิวลิปโต้กลับ เห็นได้ชัดเจนว่าเธอรู้สึกไม่พอใจ
การทะเลาะกันเริ่มเดือดขึ้น และเหตุผลเบื้องหลังมันก็ค่อนข้างชัดเจน ท้ายที่สุดแล้ว นักเรียนของเจอรัลด์ทั้งหมดต่างก็พกสมุดบันทึกของพวกเขาไปยังห้องปฏิบัติการกันอย่างตื่นเต้น เพียงเพื่อจะพบว่าชั้นเรียนอื่นไม่เชื่อฟัง และครอบครองมันโดยไม่ได้แจ้งผู้สอนของพวกเขาให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน
บอกตามตรงสถานการณ์ทั้งหมดก็ค่อนข้างน่าอับอายขายหน้า
“เนื่องจากพวกเราก็ได้เตรียมการสำหรับการทดลองกันแล้ว ทำไมคุณไม่พานักเรียนของคุณกลับไปยังชั้นเรียนของคุณกันล่ะ คุณคลอฟอร์ด?”