มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1029
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1029
“หึ่ง !”
วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพถูกหลัวซิวเอาออกมา แม้แต่ผู้แข็งแกร่งเทพมารก็ถูกสมบัติชิ้นนี้ปราบปราม แม้บรรดามหาจักรพรรดิยุทธ์ที่อยู่ในที่นี้ต่างร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถต้านทานพลังการโจมตีของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพได้
“ผึด! ผึด! ผึด!”
ชิ้นส่วนของหมอกเลือดผลิบาน และทันใดนั้น สามจักรพรรดิยุทธ์ก็ถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุ
จักรพรรดิยุทธ์ที่เหลืออยู่ตกตะลึง แม้แต่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินก็ไม่ล้าลงมือต่อ ทำสีหน้าท่าทางราวกับเห็นผี รู้สึกกลัวจนถอยหลังออกไป
ในตอนนี้เขาเพิ่งจะเข้าใจ ที่หลัวซิวประลองฝีมือกับเขาก่อนหน้านี้ หลัวซิวไม่ได้ใช้พลังที่แท้จริงออกมาเลย
“ที่แท้นี่คือพลังที่แท้จริงของเขา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้สามารถทัดเทียมเสมอเหมือนเทพมาร มันน่ากลัวแบบนี้นี่เอง !”
“เจ้าสำนักหลัวยั้งมือก่อน มีอะไรก็พูดกันดีดี!” เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินรู้สึกกลัว กลัวว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินตะถูกเขาทำลาย
รัศมีเทวทั่วร่างกายถูกรวบรวมเข้าภายในร่างกาย กลัวซิวเก็บเกราะเทพเวหากาล เผยรูปร่าง
การเปิดใช้งานเกราะเทพเวหากาล สามารถทำให้เขาระเบิดพลังต่อสู้ออกมา แต่การทำงานของชุดเกราะนี้สิ้นเปลืองมาก เขาเปิดใช้งานเพียงแค่ระยะเวลาไม่นาน เขารู้สึกว่าผลการฝึกตนค่อนข้างแย่
“เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน ท่านอยากจะพูดอะไร ?” หลัวซิวมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินอย่างคิดใคร่ครวญ
“ขอแค่เจ้าสำนักหลัวยั้งมือก่อน ข้ายินยอมชดใช้บางส่วน” เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินพูดด้วยความเซ็ง
หลัวซิวพลิกมือดึงม้วนหยกออกมา แล้วพูดเสียงนิ่งเรียบว่า “ถ้าไม่มีเรื่องเมื่อครู่เกิดขึ้น แดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินเพียงแค่เอาสิ่งของเหล่านี้ในม้วนหยกส่งไปที่ไท่เสวียน ทุกอย่างก็จะคลี่คลายลง”
“ดังนั้นในตอนนี้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินต้องการเปลี่ยนสงครามกับข้าให้กลายเป็นสันติภาพ งั้นจำเป็นต้องเตรียมสิ่งของในม้วนหยกสองเท่า !”
ในระหว่างที่พูด หลัวซิวดีดนิ้ว ม้วนหยกกลายเป็นลำแสง ลอยไปหาเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน
เหมือนกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์สำนักฟ้าดินในตอนแรก เมื่อเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินเห็นทรัพยากรสมบัติต่าง ๆ ที่บันทึกไว้ในม้วนหยก สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าไม่ดีขึ้นมา
ภูมิหลังของแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินค่อนข้างแข็งแกร่งมากกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์สำนักฟ้าดินเล็กน้อย แต่การเอาสมบัติเหล่านี้ออกมา มันก็เจ็บเจียนตายเหมือนกัน ถ้าให้เอาออกมาสองเท่าในครั้งเดียว คลังสมบัติเกือบครึ่งกลายเป็นว่างเปล่าทันที !
ทรัพยากรสมบัติมากมายในคลังสมบัติ เป็นความมั่งคั่งที่แดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินได้สะสมมานานหลายปีจนนับปีไม่ได้ แต่กลับหายไปครึ่งหนึ่งในคราเดียว มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายมากกว่าการฆ่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินเสียอีก
“ข้าจะแนะนำเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินสักหน่อย อย่าต่อรองกับข้าจะเป็นอันดีที่สุด เนื่องจากความอดทนของข้ามีขีดจำกัด” หลัวซิวพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“ข้าจะให้เวลาท่านเจ็ดวันในการเอาสิ่งของเหล่านี้ส่งไปที่ไท่เสวียนอาณาจักรใต้ ไม่งั้นท่านรับผิดชอบผลที่ตามมาทีหลังเอง”
เสียงพูดสิ้นสุดลง สายตาของหลัวซิวก็หันไปมองมหาจักรพรรดิยุทธ์ตนนั้นของแดนศักดิ์สิทธิ์พื้นนภา เดิมทีแดนศักดิ์สิทธิ์พื้นนภามีมหาจักรพรรดิยุทธ์สองตนมาที่นี่เพื่อช่วยเสริมกำลัง แต่เมื่อครู่มีหนึ่งตนกลับถูกหลัวซิวฆ่าด้วยวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ
“แดนศักดิ์สิทธิ์พื้นนภาของพวกท่านก็เช่นเดียวกัน ข้าขี้เกียจจะไปเยือนอีกครั้ง ท่านเอาม้วนหยกชิ้นนี้ไปมอบให้แก่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พื้นนภาแล้วกัน”
หลัวซิวดีดนิ้ว ม้วนหยกก็ลอยไปหามหาจักรพรรดิยุทธ์ตนนั้น
ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ตนนี้ไม่กล้าพูดอะไรมาก เขารับม้วนหยกไว้ และอดใจไม่ไหวมองมันด้วยความแปลกใจ ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินถึงได้ทำหน้าไม่ดีเช่นนั้น
นี่มันปล้นกันชัด ๆ ! แรกเริ่มคือสำนักฟ้าดิน ต่อมาคือสองแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างแดนศักดิ์สิทธิ์พื้นนภากับแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินผู้ ชายคนนี้กำลังใช้โอกาสที่จะปล้นทรัพย์สมบัติของแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ
ถ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เอาทรัพย์สมบัติทั้งหมดออกมา อย่างนั้นทรัพย์สมบัติที่สำนักไท่เสวียนมีทั้งหมด ก็จะทำให้มีอำนาจรองลงมาจากสี่ผู้ยิ่งใหญ่แดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์
ครั้งนี้ตำหนักดารานภามีมหาจักรพรรดิยุทธ์มาสามตน ถูกหลัวซิวจัดการไปสองตน เหลือเพียงแค่ชายชราจงเยว่เพียงคนเดียว