มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1163
แต่ศักยภาพในตอนแรกของหลัวซิวก็แข็งแกร่งกว่าเทพมารทั่วไปแล้ว เมื่ออยู่ในโลกเซียนเสวียนเทียนก็มีเพียงตัวสำนึกเท่านั้นที่ถูกกดอัดเล็กน้อย ศักยภาพโดยรวมของเขาไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าไหร่นัก
“เทพมารแล้วอย่างไร? ภายใต้กฎในโลกเซียนเสวียนเทียน ต่อให้เทพฟ้ามาที่นี่ ก็ใช่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าเสมอไป!”
หลัวซิวยกมือขึ้นมาโบกทีหนึ่ง เก็บช่องจิตทั้งสามดวงและแหวนเก็บของขึ้นมา ช่องจิตหนึ่งดวงที่อยู่โลกภายนอกเป็นสมบัติที่มีมูลค่าสูงมาก ๆ สามารถแลกเปลี่ยนกับแก้วเทวได้หมื่นกว่าชิ้นเลย
ทรัพย์สินของเทพมารที่อยู่ในโลกเสวียนเทียนยิ่งมั่งคั่งอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่ผู้ที่เทพมารในโลกแสงดาวจะสามารถเทียบเคียงได้
“เป็นไปไม่ได้!”
เทพมารคนนี้พยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง กระจกเทพที่อยู่เหนือศีรษะลอยขึ้นสูง รัศมีเทวเปล่งประกายขึ้น ๆ ลง ๆ ยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางพูด: “ข้านั้นคือเทพมาร ความแตกต่างระหว่างแดนไม่สามารถทดแทนได้ด้วยกลอุบายทั่วไป ถึงแม้ผลการฝึกตนของข้าจะถูกกดอัดอยู่ที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูง แต่แดนของข้าก็ยังเป็นเทพมารอยู่เช่นเคย!”
“เจ้าพูดไร้สาระมากเกินไปแล้ว!”
ตู้ม!
หลัวซิวย่างเท้าออกไปหนึ่งก้าว ร่างยุทธ์ร่างเนื้อมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 8 ปลดปล่อยพลังออร่าที่แข็งแกร่งอย่างไร้ที่ติออกไป
แม้นว่าร่างเนื้อของเขายังไม่บรรลุถึงระดับเทพมาร แต่ว่าภายใต้การปลุกเสกของเกราะเทพเวหากาล ร่างเนื้อของเขากลับเทียบเท่าเทพมารขั้นสูง!
เห็นเพียงเขาเก็บหอกที่อยู่ในมือกลับมา แล้วปล่อยหมัดออกไป ราวกับเทพเจ้าสงครามผู้ไร้เทียมทานฟื้นคืนชีพ หนึ่งกำลังทลายวรยุทธ์นับหมื่น
“แคว็ก!”
กระจกเทพเหนือศีรษะของผู้แข็งแกร่งเทพมารฝ่ายตรงข้ามถูกกำปั้นของเขาโจมตีจนแตกออกเป็นชิ้น ๆ หลัวซิวร่ายฝ่ามือ กฎความตายรวมตัวกันและปล่อยพลังอมตะตราทวยมรณะออกไป
“ไปตายซะ!”
วิชาตราประทับพลังอมตะหนึ่งถาโถมลงไป ได้ยินเพียงเสียงตู้มดังขึ้น ร่างเนื้อของฝ่ายตรงข้ามก็ถูกโจมตีจนระเบิด ตายอย่างไร้ที่ฝัง
หลัวซิวยกมือขึ้นไปจับช่องจิตและแหวนเก็บของของผู้แข็งแกร่งคนดังกล่าวมา ก่อนจะรีบนำสายตาจับจ้องไปทางชายชราที่กำลังต่อกรกับยักษ์แก้วเทวอยู่
ผลการฝึกตนที่แท้จริงของชายชราผู้นี้บรรลุถึงแดนเทพมารขั้น 7 เป็นผู้แข็งแกร่งเทพมารช่วงปลาย
หลังจากที่เข้ามาในโลกเซียนเสวียนเทียนแล้วก็ถูกกฎภายในโลกนี้กดอัด แต่ทว่าศักยภาพของเขาก็ยังคงเกะกะระรานอยู่เช่นเคย แค่กำลังของตัวเขาคนเดียว ก็สามารถต่อสู้กับยักษ์แก้วเทวได้อย่างสูสี
หลัวซิวหกระเหินเดินฟ้า กระตุ้นกฎปริภูมิ ก่อนจะปรากฏตัวอยู่ด้านหลังชายชราผู้นั้นโดยตรง โจมตีขนาบหน้าหลังไปพร้อมกับยักษ์แก้วเทว
“หอคอยเมตไตรยไร้สิ้นสุด!”
ชายชราเทพมารตะคอกเสียงดังลั่น มีหอคอยเทว 28 ชั้นปรากฏเหนือหัวเขา พลานุภาพที่ยิ่งใหญ่น่าสยอง กดอัดอากาศบริเวณรอบ ๆ
ออร่าของหอคอยเทวหอนี้ยิ่งใหญ่มาก ๆ เห็นได้เลยว่ามันเป็นอัญมณีแห่งเทพมารชั้นยอดชิ้นหนึ่ง ออร่าที่แผ่กระจายออกไปกดอัดอากาศบริเวณรอบ ๆ วินาทีนี้แดนกฎปริภูมิที่หลัวซิวควบคุมอยู่ก็ไม่มีผลอะไรแล้วเช่นกัน มากกว่านั้นคือร่างกายยังถูกพันธนาการ จนแทบจะยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“บังอาจสังหารผู้อาวุโสในสำนักเซียนไร้เจตสิกของข้าอย่างนั้นหรือ ไปตายซะเถอะ!”
ชายชราตะคอกด้วยความโกรธเกรี้ยว กระตุ้นพลานุภาพของหอคอยเทว แล้วโจมตีลงมาทางศีรษะหลัวซิว
ถึงแม้จะมีการคุ้มกันจากเกราะเทพเวหากาล ถ้าหากถูกหอคอยเทวนี้โจมตีเข้าละก็ แค่แรงกระแทกที่เกะกะระรานก็สามารถทำให้ร่างเนื้อของหลัวซิวถูกบดขยี้จนเละแล้ว
ปัง!
เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นความตาย ปีกแก้วสองคู่ที่มีอัคคีดาราลอยวนเป็นเกลียวอยู่ด้านหลังหลัวซิวสยายออก ภายใต้แรงสั่นสะเทือน เขาหายไปจากจุดเดิมด้วยความเร็วที่เร็วปานสายฟ้า และไปปรากฏอยู่ในตำแหน่งที่ห่างออกไปไกล
เสียงดังครั่นครืน หอคอยเทวโจมตีลงมา แต่ทว่าการโจมตีในครั้งนี้กลับล้มเหลว กระทบกระเทือนไม่ถึงแม้กระทั่งชายเสื้อของหลัวซิว
ผู้แข็งแกร่งเทพมารตกใจมากจนหน้าถอดสี ผลการฝึกตนของศิษย์ในสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินผู้นี้ไม่สูง แต่กลับมีวิธีการเด็ด ๆ โผล่ออกมาอย่างไม่ขาดสาย เดิมทีเขาวางแผนจะรอให้ฝ่ายตรงข้ามจู่โจมก่อน จากนั้นเขาค่อยเรียกหอคอยเทวออกมาปราบปรามและฆ่าฝ่ายตรงข้าม แต่นึกไม่ถึงเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะยังมีวิธีการหลบการโจมตีได้อีกอย่างนั้นหรือ
และในตอนนี้ ยักษ์แก้วเทวก็ลงมือโจมตี ใช้แขนทั้งสองข้างโผกอดหอคอยเทว 28 ชั้นเอาไว้พลางอ้าปากขึ้น แล้วใช้เขี้ยวกัดไปทางชายชราเทพมาร