มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1240
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1240
นี่เป็นกฎโซนชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างมีวิธีการใช้งานขั้นสูง นำเอาโซนรอบ ๆ กายมาทับซ้อนกันไว้หลาย ๆ ชั้น ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนอยู่ตรงหน้า แต่ในความเป็นจริงแล้วมีโซนหลายชั้นทับซ้อนกันอยู่ ห่างไปเกือบราว ๆ ประมาณพันลี้
นอกจากนี้ยังหมายถึง หากว่าหุบเขาผีเขียวอยากจะโจมตีให้โดนหลัวซิว เขาต้องข้ามโซนที่บิดเบี้ยวหลายพันลี้รอบกายของเขาเพื่อจะสามารถเข้าไปโจมตีหลัวซิวได้
มีเพียงสองวิธีในการจัดการกับวรยุทธ์นี้ วิธีที่หนึ่งคืออาศัยโซนแดนกฎที่แข็งแกร่งกว่าเพื่อทำลาย อีกวิธีหนึ่งก็คือการฝืนบังคับทำลายโซน ทำลายโซนที่ซ้อนทับกันเอาไว้อยู่
“จงสลายไปซะ!”
หุบเขาผีเขียวคำราม อาวุธเทพมารทั้งสี่สว่างไสวบานสะพรั่ง ทำให้โซนที่บิดเบี้ยวรอบกายของหลัวซิวแหลกสลายไปอย่างสมบูรณ์
อาวุธทั้งสี่ชิ้นทะลุเข้าไปในโซนที่ซ้อนทับกัน ตั้งแต่ด้านบนลงด้านลง ครอบคลุมทั้งร่างของหลัวซิวเอาไว้ ไร้หนทางหลบหลีก
“นิพพานใหญ่!”
หลัวซิวใช้หมื่นจักรวาลไร้รูปแปรเปลี่ยนการสัมผัสรู้ทั้งหมดของกฎความตายหลอมรวมเป็นนัดเดียวนิพพาน เขาผสานเป็นหนึ่งเดียวกับหอก , กลายเป็นลำแสงสีดำแสบตา
“ผุ!”
ร่างของเขาเลือนหายไป เดิมทียังยืนอยู่ต่อหน้าหุบเขาผีเขียว ในวินาทีต่อมาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของเขา ราวกับว่าได้ผ่านทะลุเข้าไปในร่างกายของเขา
“จือจือจือ……”
สายเลือดพุ่งออกมาจากภายในร่างของหุบเขาผีเขียวราวกับลูกธนู รอยเลือดกระจายลงมาตั้งแต่หว่างคิ้วจนถึงช่วงขา ร่างกายถูกผ่าครึ่งและมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก
ในเวลาเดียวกัน แขนทั้งสี่ของเขาก็ระเบิดเป็นละอองเลือด อาวุธเทพมารทั้งสี่ไร้คนควบคุม พากันร่งลงมาจากกลางอากาศ
“ตายแล้ว?”
ทุกคนภายในชนเผ่าของถูหมิงตกตะลึงจากภาพตรงหน้า ผู้อาวุโสสองแห่งชนเผ่างูเกล็ดเขียวผู้แข็งแกร่ง กลับถูกฆ่าตายเสียแล้ว?
ทุกคนสามารถคิดได้ว่า ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายไปยังชนเผ่างูเกล็ดเขียว มันจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมาอย่างแน่นอน
เพล้ง!
ณ ขณะนี้ แสงสีเขียวพุ่งออกมาจากซากศพของหุบเขาผีเขียวที่ถูกระเบิด ความเร็วนั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า ในชั่วพริบตา มันก็พุ่งเข้าสู่ร่างของหลัวซิว
“กลอุบายง่าย ๆ ของเจ้าเช่นนี้ไร้ประโยชน์สำหรับข้า!”
หลัวซิวเผยรอยยิ้มเย็นชา อัคคีเทพชิงเทียนภายใต้การกลั่นแปรของเขา ไม่นานช่องจิตแสงปีศาจเขียวเปล่งประกายก็ถูกบังคับให้ลอยออกมาจากร่าง ช่องจิตชิ้นนี้ถูกอัคคีเทพคลุมล้อมเอาไว้ ที่ใจกลางของช่องจิตมีภาพลวงของหุบเขาผีเขียวปรากฏอยู่
เขาปะมือกับผู้แข็งแกร่งแดนเทพมารมาไม่รู้มามากมาย ย่อมรู้ดีว่าหากต้องการจะฆ่าเทพมารสักตน ก็จำเป็นที่จะต้องทำลายช่องจิตของอีกฝ่าย หากว่าช่องจิตไม่ได้ถูกทำลายไป ผู้แข็งแกร่งแดนเทพมารก็จะเป็นร่างที่ไม่มีวันตาย
ก่อนนี้เขาใช้หอกรบทำลายร่างเนื้อของหุบเขาผีเขียวในครั้งเดียว แต่กลับไม่ได้ทำลายช่องจิตของอีกฝ่าย เห็นได้ชัดว่าหุบเขาผีเขียวนำช่องจิตซ่อนเอาไว้ในที่ใดสักแห่งภายในร่างกาย วินาทีที่ร่างเนื้อแตกสลาย คิดจะใช้วิธีฉวยโอกาสสำแดงวรยุทธ์ครองวิญญาณ
เพียงแต่กลอุบายนี้ของเขาถูกหลัวซิวมองออกทะลุปรุโปร่ง มันจึงไม่ได้เป็นประโยชน์แต่อย่างใดเลย
“อย่าฆ่าข้า ข้าคือผู้อาวุโสสองแห่งชนเผ่างูเกล็ดเขียว ข้า……”
หุบเขาผีเขียวคิดจะขอความเมตตา เทพมารที่ฝึกตนมานับหมื่นปีจำพวกนี้ ย่อมไม่อยากที่จะต้องตายไปอย่างนี้อยู่แล้ว
แต่หลัวซิวนั้น ไม่แม้แต่จะให้โอกาสเขาได้พูดจนจบ อัคคีเทพลุกโชนขึ้นมา แผดเผาทำลายวิญญาณดั้งเดิมที่อยู่ในช่องจิตของอีกฝ่าย ช่องจิตกลายเป็นสมบัติที่ไร้เจ้าของ ประกอบด้วยพลังวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้น
“นายท่าน……”
เมื่อหลัวซิวกลับมายังเผ่าแล้ว ถูหมิงและชนเผ่าทุกคนต่างก็พากันคุกเข่าลง
มหาจักรพรรดิยุทธ์สองคนและเทพมารผู้อาวุโสหนึ่งตนของชนเผ่างูเกล็ดเขียวต่างก็ถูกฆ่าตายแล้ว ชนเผ่าของถูหมิงในวันนี้สุดท้ายแล้วจะเป็นหรือตาย ทุกสิ่งล้วนอยู่บนตัวของผู้แข็งแกร่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ท่านนี้แล้ว
ที่น่าตกใจที่สุดก็คือ ในตอนที่ถูหมิงเป็นผู้นำ ก่อนนี้เขาคาดเดามาตลอดว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้นี้คือผู้แข็งแกร่งแดนเทพมาร แต่เมื่อเขาได้ต่อสู้กับหุบเขาผีเขียวแล้วจึงได้รู้ว่า คนผู้นี้มีผลการฝึกตนแค่เพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นห้าเท่านั้น