มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1307
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1307
เดิมทีอันดับของแดนศักดิ์สิทธิ์เขาปีศาจนรก จัดอยู่ในอันดับสองหรือสามจากแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ แต่ปัจจุบันกลับอยู่ได้เพียงอันดับท้ายสุดแล้ว
เงาดำร่างหนึ่งปรากฏในละแวกเหวมรณะอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง เขาอยู่ในชุดคลุมยาวสีดำ เงาร่างดังกล่าวไม่มีท่าทีที่จะหยุดลงเลยด้วยซ้ำ หายเข้าไปในเหวมรณะแวบเดียว
หากมีคนได้พบเห็นสภาพเหตุการณ์ดังกล่าวละก็ ต้องรู้สึกช็อกมากแน่นอน เนื่องจากเหวมรณะเป็นสถานที่แห่งความตายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอันตราย มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเจ้านภา ก่อนจะลงไปสำรวจด้านล่างก็ต้องคิดพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ อย่างไรก็ตามคนดังกล่าวกลับพุ่งลงไปอย่างไม่ลังเลใจ นี่ต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญและมีศักยภาพสูงมากเพียงใดนะ?
ชายชุดคลุมยาวสีดำนี้ไม่ใช่ผู้ใด เขาก็คือเทพฟ้าร่างหนึ่งที่กลายมาจากการผนึกรวมโดยสูญเสียผลการฝึกตนห้าร้อยปีของซือถูเจิ้งเจี้ยน!
ผลการฝึกตนอยู่ในระดับเทพฟ้าเช่นกัน เขาเข้าไปในเหวมรณะเหมือนดั่งกลับบ้านตนเองยังไงอย่างนั้น ความเร็วในการเคลื่อนที่เร็วปานสายฟ้า ลงไปในถึงระดับความลึกหลายหมื่นไมล์อย่างรวดเร็ว!
“มาเร็วไม่เบาเลยนี่……”
ก้นบึงของห้วงลึก หลัวซิวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา มีรัศมีเทวพุ่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ดุจทิ่มแทงกระบี่เทพออกไป ทำให้กฎความตายที่อยู่บริเวณรอบ ๆ สั่นสะเทือนและถดถอยกลับไป
เขาสามารถรวมร่างกับกฎความตายในเหวมรณะเป็นหนึ่งเดียวกัน มองเห็นสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้วงลึกได้อย่างชัดเจน จึงสามารถสัมผัสได้เป็นธรรมดาอยู่แล้วว่ากำลังมีคนพุ่งตรงลงมาด้านล่างด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ๆ
ใช้หัวแม่เท้าคิดก็คิดได้ว่าผู้มาเยือนต้องเป็นซือถูเจิ้งเจี้ยนอย่างแน่นอน เนื่องจากถูกกฎเกณฑ์ของพิภพจำกัด ราชาเทพไม่สามารถลงมาในโลกามนุษย์ได้ แต่ทว่ากลับสามารถใช้ร่างผันหรือกดอัดผลการฝึกตนของตัวเองลงมาที่แดนเทพฟ้า เพื่อบรรลุเป้าหมายของการลงมายังโลกามนุษย์ให้สำเร็จ
“เจ้าเด็กเดรัจฉาน เจ้าได้ตายแน่!”ราชาเทพเผ่าปีศาจที่อยู่ในกมลโลกาด่ากราดด้วยความโกรธแค้น
เสียงของราชาเทพเผ่าปีศาจฟังดูอ่อนแอเล็กน้อย แก่นแท้ที่อยู่ในตราชีวีของเขาถูกหลัวซิวกลั่นแปรไปเจ็ดถึงแปดส่วนแล้ว เขายากที่จะจินตนาการได้จริง ๆ ว่าหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่ผลการฝึกตนอยู่เพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์กระจอก ๆ ร่างกายของเขาสามารถแบกรับพลังแก่นแท้ที่มากมายมหาศาลเช่นนั้นได้อย่างไร?
“บนตัวเจ้าเด็กเปรตผู้นี้ต้องมีความลับที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่แน่นอน อีกทั้งมันดูดกลืนแก่นแท้ชีวีของข้าไปมากเช่นนี้ หากกลั่นแปรและกลืนกินมัน แก่นแท้ที่สูญเสียไปของข้าก็จะกลับมาอีกครั้ง!”
และในตอนนี้เอง พลังกฎความตายก็จลาจลเป็นวงกว้าง เปลวไฟสีดำที่ไร้ขอบเขตรวมตัวกันจนกลายเป็นระลอกคลื่น
ซือถูเจิ้งเจี้ยนในชุดคลุมยาวสีดำก้าวเดินออกมาจากตรงกลางของระลอกคลื่น แววตาหม่นหมอง จิตที่จะฆ่าพุ่งทะยานขึ้นฟ้า
“เจ้ามิใช่อสูรจิตในโลกาอสูรฟ้า แต่เป็นอสูรจิตในโลกเสวียนเทียน!”
จิตที่จะฆ่าไหลล้นออกมาจากดวงตาซือถูเจิ้งเจี้ยน“ข้าก็ไม่สนใจเช่นว่าเจ้าจะเป็นกากแดนของสำนักเทียนช่าหรือไม่ คอยจับกุมตัวเจ้าได้ แล้วค้นดูวิญญาณของเจ้าก็จะทราบเรื่องทุกอย่างเอง!”
รอบกายเขามีพลังออร่าอันแข็งแกร่งที่มากมายมหาศาลทะลักออกมา ยกมือขึ้นมาแล้วโบกทีหนึ่ง แสงกระบี่ที่ก่อตัวมาจากกฎความตายก็พุ่งตรงเข้ามาฆ่าหลัวซิว
สำหรับซือถูเจิ้งเจี้ยนแล้ว ถึงแม้ผลการฝึกตนของร่างเทพฟ้าร่างนี้จะอยู่เพียงขั้น 3 แต่การที่จะสังหารมหาจักรพรรดิยุทธ์กระจอก ๆ คนหนึ่งนั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ง่ายดั่งพลิกฝ่ามือ
ถึงแม้มหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งจะอัจฉริยะมากเพียงใด การที่มีศักยภาพเทียบทัดกับเทพมารได้นั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ แล้ว ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับเทพฟ้าไม่ได้แน่นอน
“ซือถูเจิ้งเจี้ยน ข้าคอยเจ้ามานานมาก ๆ แล้ว!”
หลัวซิวเรียบนิ่งไม่เกรงกลัวเลย มีคลื่นจิตที่จะสู้และจิตที่จะฆ่าสูงเทียมฟ้าแผ่กระจายออกมาจากตัวเขา พลังออร่าค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
เพราะถึงอย่างไรผลการฝึกตนของเขาก็อยู่เพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 7 ขั้นสูง ถึงแม้พลังออร่าแทบจะเทียบทัดกับเทพมารช่วงปลาย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าซือถูเจิ้งเจี้ยนแล้ว ก็ยังน้อยนิดจนไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึงอยู่เช่นเคย
“ดูท่าเจ้าคงเป็นกากแดนของสำนักเทียนช่าจริง ๆ สินะ เป็นเพียงสำนักกระจอก ๆ ในโลกามนุษย์ ข้าเคยล้มล้างมาหลายสำนักจนนับไม่ถ้วนแล้ว มหาจักรพรรดิยุทธ์อย่างเจ้าก็กล้ามาล้างแค้นข้าอย่างนั้นหรือ? ตลกชะมัด!”
ถึงแม้คำพูดคำจาของซือถูเจิ้งเจี้ยนจะดูหมิ่นเหยียดหยามหลัวซิวมาก ๆ ก็ตาม แต่ทันทีที่เขาลงมือเขาก็ไม่ออมแรงเลยแม้แต่น้อยเช่นกัน
เสือล่ากระต่ายต้องทุ่มสุดกำลัง คนอย่างซือถูเจิ้งเจี้ยนที่มีชีวิตยืนยาวจนนับไม่ถ้วนต้องเข้าใจหลักการนี้ดีอยู่แล้ว