มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1314
“ข้าไม่มีทางให้โอกาสเจ้าได้ทำเช่นนั้นหรอก!”
ใบหน้าของหลัวซิวไร้อารมณ์ เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าตนและซือถูเจิ้งเจี้ยนอยู่ในสภาพการณ์ที่หากคนหนึ่งไม่ตายความแค้นนี้ก็ไม่จบ
“เก็บ!”
ตรงหว่างคิ้วของเขาเปิดออก นำกมลโลกาที่ใหญ่โตดุจดวงดาวใบนี้เก็บเข้าไปในตัวหยั่งรู้ของเขา
ถัดจากนั้น เขาก็กระพือปีกเทพมังกรครามยักษ์ไร้มลทินที่อยู่ด้านหลัง พุ่งออกไปจากเหวมรณะด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด ก่อนจะบินตรงไปยังทิศทางของหุบเขาปีศาจเก้าอย่างรวดเร็ว
เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าตัวเองได้ตัดทางหนีทีไล่ของซือถูเจิ้งเจี้ยนขาด ฝ่ายตรงข้ามต้องโกรธเกรี้ยวอย่างบ้าคลั่งแน่นอน มีความเป็นไปได้สูงมาก ๆ ที่เขาจะย่างกรายลงมาด้วยร่างแท้ของเขา!
เนื่องจากการจำกัดจากกฎเกณฑ์ในพิภพ หากร่างแท้ของซือถูเจิ้งเจี้ยนจะย่างกรายลงมาในโลกามนุษย์ จำเป็นต้องกดอัดผลการฝึกตนลงมาที่แดนเทพฟ้า
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะอยู่ในแดนเจ้านภาเหมือนกัน แต่ทว่าซือถูเจิ้งเจี้ยนมีการตระหนักรู้ในโลกแห่งยุทธ์และสิ่งที่พบเห็นรู้จักต่างอยู่ในผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพ เขาจึงแข็งแกร่างกว่าเจ้านภาทั่วไปมาก ๆ
หลัวซิวเข้าใจดีมาก ๆ ว่าตัวเองไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของซือถูเจิ้งเจี้ยนแน่นอน เพราะฉะนั้นจึงทำได้เพียงไปขอให้หุบเขาปีศาจเก้าช่วยคุ้มครอง
เขาก็ไม่ทราบเช่นกันว่าหุบเขาปีศาจเก้าจะคุ้มครองตัวเองหรือไม่ เพราะผู้ที่พวกเขาต้องเผชิญด้วยคือราชาเทพคนหนึ่งที่ลงมาจากมหาโลกา!
ในความเป็นจริงในฐานะที่เป็นราชาเทพในโลกาชั้นฟ้า กองกำลังที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาของซือถูเจิ้งเจี้ยนก็มีผู้แข็งแกร่งเทพจำนวนไม่น้อยให้เขาสั่งกางได้เช่นกัน
แต่ทว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้กะทันหันเกินไป เขามาด้วยร่างแท้ เนื่องจากตราชีวีถูกทำลายไปแล้ว เขาจึงบ้าคลั่งไปโดยสิ้นเชิง และสูญเสียจิตใจที่สงบนิ่ง
“ตู้มต้าม……”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนฉีกอากาศที่ว่างเปล่าออก รอบกายมีเปลวไฟสีดำวนเป็นเกลียวขึ้นไปอยู่รอบ ๆ เหมือนหินอุกกาบาตที่ใหญ่มหึมาร่วงหล่นลงมาบนพื้นดินของโลกาอสูรฟ้า
เสี้ยววินาทีที่ตราชีวีถูกหลัวซิวทำลายไป เขาก็ผนึกกระแสสัมผัสพลังวิญญาณของฝ่ายตรงข้ามไว้แล้ว
มากกว่านั้นคือเขาไม่ต้องลงมือด้วยซ้ำ แค่ตัวสำนึกเดียวก็สามารถทำให้อากาศที่ว่างเปล่าฉีกขาด ทะลุข้ามผ่านอากาศที่ว่างเปล่า เขาในตอนนี้นิ่งเงียบมาก ๆ แต่ทว่าความนิ่งเงียบนี้กลับเป็นลางบอกว่าเขากำลังจะระเบิดอาละวาดในเร็ว ๆ นี้
“เจ้าเด็กเดรัจฉานนั่นออกไปจากเหวมรณะแล้วอย่างนั้นหรือ? เหมือนทิศทางที่มันหลบหนีไปจะเป็นตำแหน่งของหุบเขาปีศาจเก้า!”
โลกาอสูรฟ้าเป็นพิภพที่เขาบุกเบิกเมื่อชาติปางก่อน สำหรับความเข้าใจที่มีต่อฟ้าดินผืนนี้ ไม่มีผู้ใดเข้าใจดีมากไปกว่าเขาแล้ว
ประวัติการคงอยู่ของหุบเขาปีศาจเก้ายาวนานมาก ๆ ทุกยุคสมัยจะมีจ้าวหุบเขาเก้าคน ทุก ๆ คนล้วนเป็นเทพฟ้า จ้าวหุบเขาใหญ่ในหุบเขาปีศาจเก้าถูกผู้คนในโลกเรียกว่าจ้าวนภาปีศาจยักษ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้านภาที่แข็งแกร่งมากที่สุดในโลกปัจจุบัน
ปีศาจยักษ์ของยุคสมัยนี้ถ่อมตัวมาก ๆ อีกทั้งปรากฏต่อหน้าผู้คนในโลกน้อยมาก ศักยภาพของเขาก็ลึกลับมากถึงมากที่สุดเช่นกัน
ตราชีวีถูกทำลายไปแล้ว ซือถูเจิ้งเจี้ยนเข้าใจดีมาก ๆ ว่าตัวเองไร้กำลังที่จะหวนคืนกลับไป เขาจึงค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ตัวเองลง
“การฝึกยุทธ์เป็นการฝ่าฝืนกฎสวรรค์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงแม้ทางหนีทีไล่จะถูกตัดขาดไปแล้ว แต่ข้ายังมีหนทางให้เดินต่อไปข้างหน้าอยู่ ชั่วชีวิตนี้ขอเพียงข้าฝึกตนถึงมกุฎเทพ ก็จะมีชีวิตยืนยาวเป็นล้านปี หากกลายเป็นจ้าวมหาเทพก็จะมีชีวิตยืนยาวเป็นสิบล้านปี หากสามารถบรรลุเป็นจักรพรรดิเทพ ก็ยิ่งมีชีวิตรอดต่อไปได้หนึ่งยุคสมัยใหญ่ หรือร้อยล้านปี!”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนสูดหายใจเข้าลึก ๆ สภาพจิตใจค่อย ๆ สงบลง ก่อนจะพูดพึมพำ: “ถึงแม้ทางหนีทีไล่จะไม่ถูกตัดขาด มากสุดก็ยึดครองร่างผู้อื่นได้เพียงเก้าหนเท่านั้น สุดท้ายก็ต้องดับสลายกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับการฝากความหวังไว้กับคนรุ่นหลัง จะดีกว่าหากข้าบรรลุเป้าหมายทุกอย่างให้สำเร็จในชาตินี้!”
“ผลการฝึกตนของเจ้าเด็กเดรัจฉานนั่นเป็นเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์กระจอก ๆ แต่กลับสามารถต่อกรกับเทพฟ้าได้ มหาจักรพรรดิยุทธ์ฝึกตนจนมีร่างผันเทพมาร มันต้องได้รับการถ่ายทอดสืบสานจากผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานอย่างแน่นอน อีกทั้งมันยังมีใจแห่งศุภรอยู่ในมือด้วย สามารถข้ามผ่านกับดักอันแน่นหนาที่ข้าวางไว้ในเหวมรณะ บนตัวมันต้องมีความลับที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่แน่นอน ยิ่งกว่านั้นคือความลับนั้นอาจจะยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับราชาเทพเป็นต้นไปหวั่นไหวได้!”
“ขอเพียงกำจัดมันทิ้ง ไม่แน่อนาคตข้างหน้าข้าอาจจะมีโอกาสกลายเป็นมกุฎเทพ จ้าวมหาเทพ หรือแม้กระทั่งจักรพรรดิเทพก็เป็นได้!”
เมื่อคิดเช่นนี้ได้ ซือถูเจิ้งเจี้ยนจึงใช้เคล็ดวิชาส่งข่าว วางแผนรวบรวมกำลังทั้งหมดในโลกาอสูรฟ้ามาจัดการหลัวซิว