มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 136 ฝึกฝนสองวิชา
บทที่ 136 ฝึกฝนสองวิชา
ดาบเร็วของแดนบริบูรณ์ทำให้เขาดีใจมากแล้ว ถ้าเป็นระดับต่ำกว่าปรมาจารย์ฝึกจิตแทบจะหาคู่ต่อสู้ได้ยาก แต่พลังสองเท่าที่เพิ่มพูนจากพลังแปรเสวียนเทียนกลับสามารถฆ่าจอมยุทธ์พรสวรรค์ขั้นเก้าได้ในพริบตา มันออกจะน่ากลัวไปหน่อยแล้ว
นี่มันคือการหมายความว่า หากทุ่มเทหมดกำลัง ต่อให้ปรมาจารย์ยุทธ์ผู้แข็งแกร่งที่ฝึกจิตขั้นหนึ่ง เขาก็สามารถต้านทานได้อยู่บ้าง?
แน่นอน การที่สามารถฆ่าจางหลู่เหลียงได้อย่างง่ายดาย สาเหตุสำคัญก็เป็นเพราะจางหลู่เหลียงเป็นเพียงแค่จอมยุทธ์ที่ธรรมดาที่สุด หากเจอกับจอมยุทธ์ที่ร้ายกาจกว่านี้ หลัวซิวอยากเอาชนะ คงไม่ง่ายดายเพียงนี้
ไม่ว่าจะอย่างไร การที่สามารถฆ่าจางหลู่เหลียงได้ ทำให้หลัวซิวดีใจมากแล้ว และรู้จักฝีมือของตนเองใหม่
สายตาจับจ้องไปที่หินนิพพานที่อยู่ไม่ไกล หลัวซิวคืนกระบี่เข้าฝัก พูดเสียงเรียบว่า “ผู้อาวุโสเย่ยังไม่คิดออกมารึ?”
ด้านการรับรู้ถึงชีวิตของเขา ต่อให้เจ้าเก็บซ่อนลมหายใจดีเพียงใด ขอเพียงเป็นสิ่งมีชีวิต หลัวซิวก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
เย่เซี่ยงโต่วเดินออกมาจากด้านหลังหินนิพพาน มองดูหลัวซิวด้วยสีหน้าตกตะลึง
“นี่เจ้าสามารถฆ่าจางหลู่เหลียงซึ่งเป็นพรสวรรค์ขั้นเก้าได้ และยังพบว่าข้าซ่อนตัวอยู่?”
สายตาเย่เซี่ยงโต่วเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เขาไม่คิดเลยว่า ระยะเวลาสั้นแค่สองสามเดือน หลัวซิวก็เติบโตมาถึงขั้นนี้แล้ว
เขาเห็นหลัวซิวออกจากเมือง กลัวว่าเขาจะโดนคนของจางหลู่เหลียงลอบฆ่า เลยตามไปปกป้องเงียบๆ แต่ไม่คิดว่าหลัวซิวไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตนเลย และยังอาศัยแค่กำลังของตนเอง ก็สามารถฆ่าจางหลู่เหลียงซึ่งมีตบะเป็นจอมยุทธ์ได้อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังฆ่าจางหลู่เหลียงได้อย่างง่ายดาย ใช้เพียงแค่สามกระบี่เท่านั้น!
ดาบเร็วของแดนบริบูรณ์ จอมยุทธ์พรสวรรค์ในวัยสิบสี่ปี พ่อหนุ่มนี้เป็นปีศาจหรือไงเนี่ย?
“ขอบคุณผู้อาวุโสที่แอบมาคุ้มครองขอรับ”
หลัวซิวคารวะขอบคุณ สำหรับสิ่งอื่น เขาไม่ได้อธิบาย เพราะเขารู้ว่าเย่เซี่ยงโต่วไม่มีทางคิดละโมบโอกาสบนตัวเขา ไม่งั้นคงลงมือแย่งชิงตั้งแต่แรกเจอไปแล้ว
เขาหยิบแหวนเก็บของของจางหลู่เหลียงขึ้นมา ในนั้นไม่มีสมบัติล้ำค่าอันใด เป็นเพียงหินพลังจิตและยาระดับสาม ยังมีกระบี่ยุทธ์ของชั้นกลางที่จางหลู่เหลียงเคยใช้ตอนมีชีวิตอยู่
การตายของจางหลู่เหลียงไม่อาจเก็บงำซ่อนเร้นไว้ได้ และตัวหลัวซิวเองก็ไม่คิดจะปิดบังอยู่แล้ว
หลังจากกลับเข้าเมือง เขานั่งวาร์ปมายังเขตการปกครองเมืองหยุนหลงเพื่อเข้าพบหัวหน้าแก๊งเหวินเซวียนหง
““แดนพรสวรรค์แล้ว?”
ในเมื่อรู้ก่อนแล้ว แต่พอเห็นหลัวซิวเป็นระดับพรสวรรค์แล้วจริงๆ เหวินเซวียนหงยังอดตกใจไม่ได้
เพราะนี่มันเพียงแค่ไม่กี่เดือน หลัวซิวก็บรรลุขั้นแล้ว
ระดับพรสวรรค์ในวัยสิบสี่ปี ต่อให้มองไปทั่วประเทศเทียนหวู ก็เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะระดับสุดแล้ว
“เจ้าฆ่าจางหลู่เหลียงแล้ว ต่อไปคิดจะทำอันใด?” เหวินเซวียนหงถามยิ้มๆ
“ข้าคิดจะประกาศภารกิจรางวัลนำจับ ฆ่าโกวหงยี่” หลัวซิวพูดออกมา
ครั้งนี้เขากลับมาคือต้องการถอนรากถอนโคน ในเมื่อมีการคุ้มครองจากองค์กรนักล่ายุทธ์ แต่ก็ยากจะรับรองได้ว่าครอบครัวของตนจะไม่มีอันตราย
ระหว่างพูด หลัวซิวหยิบกระบี่ยุทธ์ระดับชั้นล่างสิบเล่มออกมาวางบนโต๊ะ
เหวินเซวียนหงหรี่สายตาลง “เจ้านี่ร่ำรวยกว่าข้าเสียอีก”
กระบี่ยุทธ์ระดับชั้นล่างเล่มหนึ่งต้องใช้หินพลังจิตชั้นล่างหนึ่งหมื่นกว่าชิ้นมาเป็นค่าตอบแทน ฐานะราชายุทธ์ทั่วไปก็มีเพียงแค่สองหมื่นกว่าเท่านั้น
พริบตาเดียวหลัวซิวหยิบออกมาสิบเล่ม ราคาเท่ากับหินพลังจิตหนึ่งแสนกว่า เพียงพอให้ผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ขั้นแปดหวั่นไหวแล้วล่ะ
รางวัลนำจับในการฆ่าคน สำหรับฐานะคนที่ประกาศภารกิจจะปิดเป็นความลับ นี่เป็นกฎที่ไม่อาจละเมิดได้ขององค์กรนักล่ายุทธ์
สำหรับหลัวซิวแล้ว วิธีเช่นนี้เป็นวิธีที่ถอนรากถอนโคนได้สมควรที่สุดแล้ว
จากนั้นเหวินเซวียนหงประเมินพรสวรรค์ของหลัวซิวอีก เพิ่มพูนจนถึงขั้นเหลืองระดับกลาง สามารถได้รับสิทธิ์การฝึกฝนวิชายุทธ์ระดับหกสามวิชา
แต่หลัวซิวไม่คิดจะเสียเวลาไปกับการฝึกฝนวิชายุทธ์ระดับหก ด้วยดาบเร็วแดนบริบูรณ์ของเขาในตอนนี้ ไม่ต้องแสดงทักษะยุทธ์ใด จะสามารถเปรียบเทียบได้กับทักษะยุทธ์ขั้นหก
วรยุทธ์เขามีวัฏจักรการเวียนว่ายตายเกิด ขอเพียงทำความเข้าใจผังกฎดั้งเดิมที่สองดีๆ แทบมิต้องไปตามหาวรยุทธ์อื่นมาฝึกเลย
สำหรับวิชาท่าร่างเงาเศษสิบช่องชนิดนี้ถึงจะเป็นทักษะยุทธ์ระดับ5 แต่สำหรับเขาในตอนนี้เพียงพอแล้ว
แผนของหลัวซิวในตอนนี้ เพิ่มพูนตบะไปจนถึงพรสวรรค์ขั้นสามฝึกฝนวิชายุทธ์ระดับเจ็ด!
ภารกิจรางวัลนำจับประกาศออกไปแล้ว เวลาต่อมา หลัวซิวคอยอยู่เป็นเพื่อนพ่อแม่และพี่สาวตนที่บ้านตลอด
ครึ่งเดือนผ่านไป ข่าวหนึ่งสะท้านไปทั่วเขตการปกครองหยุนหลง!
สำนักเซียวเหยาซึ่งเป็นอำนาจใหญ่ของเขตการปกครองหยุนหลง ผู้อาวุโสโกวจินชวนในแก๊งถูกฆ่าตาย!
ส่วนว่าใครฆ่า ทั่วทั้งสำนักเซียวเหยาไม่มีใครรู้ เจ้าสำนักคนใหม่ตี๋ซือกู่เกรี้ยวกราด จัดกำลังคนทั่วทั้งสำนักสืบหาตัวฆาตกร
พริบตาเดียว จิตใจผู้คนทั่วทั้งเขตการปกครองหยุนหลงระส่ำระส่าย ส่วนหลัวซิวกลับเฉยๆสบายๆ
ใครเป็นคนลงมือฆ่าตี๋ซือกู่กันแน่ ตัวหลัวซิวเองก็ไม่รู้ พวกประกาศรับฆ่าคนแบบนี้ ไม่เพียงปกปิดฐานะคนให้ประกาศภารกิจเป็นความลับ ฐานะคนที่มารับภารกิจก็ปิดเป็นความลับด้วย
จางหลู่เหลียงกับตี๋ซือกู่กลายเป็นคนตายกันหมด หลัวซิววางใจลงได้สักที ไม่ต้องกังวลถึงความปลอดภัยของครอบครัวตนอีก
ไม่ทันรู้ตัว ผ่านไปอีกเดือนหนึ่ง ตบะของหลัวซิวเพิ่มถึงพรสวรรค์ขั้นสอง
นับแต่ตบะเพิ่มถึงระดับพรสวรรค์ ความเร็วในการฝึกฝนเริ่มช้าลงมา แต่เขากลับไม่ร้อนใจ ก่อนที่ตบะจะเพิ่มถึงระดับพรสวรรค์ขั้นสามเขาเตรียมอยู่ที่เมืองชิงหยุนกับครอบครัวของตน
ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน ถึงวันแต่งงานของหลัวซิ่วเอ๋อร์พี่สาวเขากับหลิวหยวน
ภายในเมืองชิงหยุนตกแต่งประดับประดาโคมไฟ หลิวหยวนเป็นลูกชายเจ้าตระกูลตระกูลหลิว วันแต่งงานย่อมจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
ใบหน้าของท่านพ่อหลัวซงหลินและท่านแม่หลิวชูหยุนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ที่ควรค่าแก่การพูดถึงคือ ท้องน้อยของท่านแม่หลิวชูหยุนค่อยๆโตขึ้น มีครรภ์อีกแล้ว ตามที่ท่านหมอจับชีพจร จะเป็นลูกชาย
“แบบนี้ข้าก็วางใจที่จะจากไปได้ละ”
ในฐานะน้องชายเจ้าสาว น้องเมียของเจ้าบ่าว การแต่งงานครั้งนี้หลัวซิวย่อมต้องเข้าร่วมแน่อยู่แล้ว
ตระกูลต่างๆในเมืองชิงหยุนล้วนมาแสดงความยินดี งานดูครึกครื้นยิ่งนัก
“เยี่ยงนี้แล้ว ข้าวางใจที่จะจากไปได้แล้วล่ะ”
เห็นครอบครัวตนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หัวใจของหลัวซิวรู้สึกสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ชีวิตสุขสงบไม่เหมาะกับการฝึกยุทธ์ เขาต้องจากไปอยู่ดี แต่ไม่อยากให้การจากไปของตนทำให้ครอบครัวต้องเศร้าใจ
เขาได้รับลูกแก้วความเป็นตายมา การจะไล่ตามไปยังจุดสูงสุดของการฝึกยุทธ์ ถูกกำหนดไว้แล้วว่าตนมิใช่คนในโลกเดียวกับครอบครัว
ผ่านไปอีกครึ่งเดือน ในที่สุดตบะของหลัวซิวบรรลุพรสวรรค์ขั้นสามแล้ว
รวมๆแล้ว เขาใช้เวลาเกือบสามเดือนฝึกฝนจากพรสวรรค์ขั้นหนึ่งจนถึงขั้นสาม
ความเร็วในการฝึกฝนเยี่ยงนี้ เพียงพอให้เรียกได้ว่าอัจฉริยะ
ในแหวนเก็บของ หลัวซิวหยิบวิชายุทธ์ระดับเจ็ดออกมาสองเล่ม หนึ่งคือวิชาวัชรยักษ์ครองร่าง สองคือพลังทมิฬซวนโหลว
อย่างแรกเป็นวรยุทธ์กลั่นร่าง หากฝึกฝนสำเร็จ สามารถฝึกฝนร่างกายให้ชุบร่างได้ เทียบเท่ากระบี่ยุทธ์ระดับชั้นล่าง สามารถจัดการราชายุทธ์ด้วยร่างเนื้อได้!
อันหลังคือวรยุทธ์ในการฝึกฝนพลังทมิฬ บนAttr เป็นการผสานพลังแห่งความตายระหว่างความเป็นตายสองระดับ
หลัวซิวคิดจะฝึกวรยุทธ์ทั้งสองแขนงเลย
########################