มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1681
งูมังกรนภาเสวียนเป็นอสูรกายดาราชนิดหนึ่งที่แข็งแกร่งมาก ๆ สภาพลำตัวของงูมังกรนภาเสวียนเมื่อโตเต็มวัยแล้วจะใหญ่โตมหึมามาก ๆ เมื่อมันใช้ลำตัวพันวัตถุ สามารถพันรอบดาวเคราะห์ขนาดเล็กได้หนึ่งดวง กำลังรบเทียบเท่าราชาเทพขั้นสูง
แน่นอนอยู่แล้วว่าสิ่งที่สอดคล้องกันก็คือ ยิ่งเป็นอสูรกายดาราที่แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ การบ่มเพาะก็จะยิ่งยากมากเท่านั้น ต้องทุ่มเททรัพยากรจำนวนมาก เนื่องจากระดับความยากในการบ่มเพาะนั้นยากมาก ๆ ฉะนั้นราคาตกลงซื้อขายสุดท้ายของลูกงูมังกรนภาเสวียนตัวนี้จึงไม่สูงแต่อย่างใด
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง มีคนเสนอแก้วเทวชั้นกลางสามพันล้านชิ้น ทำการซื้อลูกของงูมังกรนภาเสวียนไป แต่ถ้าเกิดจะบ่มเพาะอสูรน้อยตัวนี้ให้โตเต็มวัยละก็ ต้องเสียเวลาที่มากล้นไม่ว่า แค่ทรัพยากรที่ต้องทุ่มเท อย่างน้อยก็ต้องใช้แก้วเทวชั้นกลางหมื่นล้านชิ้นเลย
“คนดังกล่าวคือหัวหน้าเผ่าของตระกูลระดับราชาเทพตระกูลหนึ่ง ที่เขาซื้องูมังกรอสูรพิลึกตัวนี้นั้น น่าจะเป็นเพราะอยากบ่มเพาะให้มันกลายเป็นอสูรคุ้มกันของตระกูล”อิงบูเฉิงยิ้มพลางพูด
โดยทั่วไปแล้วอายุไขของอสูรกายจะมากกว่ามนุษย์ที่เป็นนักยุทธ์ ราชาเทพที่ซื้อลูกงูมังกร ชีวิตอาจจะไม่ยืนยาวเช่นนั้น ทว่าหลังจากเขานั่งฌานละสังขาร คนรุ่นหลังของเขาก็สามารถบ่มเพาะลูกงูมังกรต่อจนกระทั่งมันโตเต็มวัยในที่สุด และกลายเป็นอสูรกายที่มีกำลังรบระดับราชาเทพขั้นสูง
“สมบัติชิ้นต่อไปคืออัคคีเทพแก้วม่วงชิ้นหนึ่ง……”
เมื่อผู้จัดพูดคำว่าอัคคีเทพแก้วม่วงออกมา ทุกคนที่งานก็ร้อนระอุขึ้นมาในทันที
และในเวลานี้เอง ชายชุดแพรที่เป็นผู้จัดก็อธิบาย: “อัคคีเทพแก้วม่วง คิดว่าทุกคนก็น่าจะเคยได้ยินกันอยู่ อัคคีเทพแก้วม่วงเป็นสมบัติพิลึกที่กลายมาจากมกุฎเทพธาตุไฟฝึกกฎเพลิงอัคคีถึงระดับที่ไม่ต่ำกว่าขั้น 6 เสี้ยววินาทีที่ท่านกำลังจะดับสลายสูญสิ้นนั่งฌานละสังขาร กฎเพลิงอัคคีทั้งร่างผนึกรวมกันจนกลายเป็นอัคคีเทพแก้วม่วง หากกระตุ้นพลานุภาพของมัน สามารถทำให้สิ่งของทุกอย่างที่อยู่ในขอบเขตที่แน่นอนถูกกฎเพลิงอัคคีขั้น 6 แผดเผาจนสูญสลาย!”
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของผู้จัด แม้แต่สีหน้าของตัวหลัวซิวเองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย สำหรับของประเภทนี้ ต้องเป็นอาวุธสังหารใหญ่ของยอดฝีมือระดับราชาเทพอย่างแน่นอน มาตรแม้นว่าเป็นร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเขา หากจมหายเข้าไปในเพลิงอัคคีดั้งเดิมขั้น 6 ก็มีเพียงอาศัยร่างอมตะเท่านั้นถึงจะรักษาชีวิตไว้ได้
ราคาของอัคคีเทพแก้วม่วงพุ่งพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลัวซิวไม่ได้เข้าร่วมการแข่งประมูลแต่อย่างใด เนื่องจากสำหรับเขาแล้ว มีเพียงผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเทพเท่านั้นถึงจะสร้างภัยคุกคามต่อเขาได้ ถึงแม้จะมีอัคคีเทพแก้วม่วงเช่นนี้หนึ่งชิ้น เมื่อได้เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเทพ ประสิทธิผลของมันก็จะลดลงไปเยอะมาก ๆ เหมือนสมบัติไร้ค่าที่จะมีก็ได้ไม่มีก็ได้
ทางผู้จัดนำสมบัติออกมาทั้งหมดหกชิ้น ทุกชิ้นล้วนเป็นทรัพย์สมบัติที่หาพบได้ยากมาก ๆ ทว่าตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งถึงบัดนี้ หลัวซิวกลับไม่มีการกระทำใด ๆ เลย
เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าบัดนี้ตัวเองต้องถ่อมตัว มีเพียงการทำเช่นนี้ถึงจะไม่เป็นที่สนใจของผู้อื่น ถึงจะหาโอกาสช่วยเสี่ยวเจียงหมิงกลับมาได้ง่ายขึ้น
ก่อนหน้านี้เขาไม่ทราบว่าเสี่ยวเจียงหมิงจะปรากฏที่นี่ มิเช่นนั้นเพื่อเป็นการปกปิดตัวตน เขาจะไม่ซื้อแม้กระทั่งยาเซียนระดับ 9 นั่น
หลังจากงานค้าขายจบลง ผู้คนต่างก็พากันจากไป หลัวซิวสามารถสัมผัสได้ว่ามีตัวสำนึกหลายจิตได้กวาดสำรวจผ่านร่างตนเองไป เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเนื่องจากเขาใช้แก้วเทวห้าร้อยล้านชิ้นซื้อยาเซียนระดับ 9 มา จึงทำให้ได้รับความสนใจจากคนไม่น้อยเลย
ในตัวสำนักทั้งหมด ตัวสำนึกของผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวนั่นกําเริบเสิบสานมากที่สุดแล้ว มาพร้อมกับจิตสังหารที่ชัดเจน ผนึกอยู่บนตัวเขาอย่างแน่นหนา
หลังออกมาจากสถานที่ฝึกตนที่จัดงานค้าขาย เงาร่างของผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวนั่นก็กระพริบ เข้ามาขวางทางของหลัวซิวไว้โดยตรง
สีหน้าของหลัวซิวเรียบนิ่งเหมือนเคย ทว่าสีหน้าของอิงบูเฉิงและเทพธิดายู่หรงที่เดินมาพร้อมกับเขากลับเปลี่ยนแปลงไป เสมือนเผชิญหน้ากับศึกใหญ่
บัดนี้ยังไม่ทราบฐานะสังคมของเทพธิดายู่หรง แม้อิงบูเฉิงนั่นจะมาจากงานประมูลคุนหลุน แต่ทว่าตัวตนของเขาที่อยู่ในงานประมูลคุนหลุนก็เป็นเพียงผู้ดูแลคนหนึ่งเท่านั้น และปัจจุบันมียอดฝีมือชั้นยอดจากกำลังใหญ่จากทั่วทุกสารทิศมารวมตัวกันในเมืองมังกรครามยักษ์ คนส่วนมากล้วนเป็นผู้ที่พวกเขารุกรานไม่ได้