มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1682
ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวจ้องเขม็งหลัวซิวด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง “แค่ราชาเทพขั้นปฐมภูมิกระจอก ๆ คนหนึ่งก็บังอาจเป็นศัตรูกับข้าอย่างนั้นหรือ บัดนี้ส่งยาเซียนระดับ 9 เตานั้นออกมาซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้าหนหนึ่ง”
“ผู้เพื่อนยุทธ์ทำเกินไปหน่อยหรือเปล่า? ในงานค้าขายทุกคนต่างต้องพึ่งพาความสามารถของตน……”อิงบูเฉิงเอ่ยปากพูด
แต่ทว่าเขายังไม่ทันพูดจบ ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวนั่นก็ทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง “นี่เป็นเรื่องระหว่างข้าและมัน เจ้าอยากเข้ามายุ่งหรือ?”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น ผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวก็ปลดปล่อยออร่าผลการฝึกตนราชาเทพขั้น 9 ออกมา ออร่าของเขาเกะกะระรานกว่าอิงบูเฉิงเป็นเท่าตัว ถึงแม้จะรวมเทพธิดายู่หรงเข้าด้วยคน ออร่าพวกเขาทั้งสองก็ไม่แข็งแรงกว่าออร่าของฝ่ายตรงข้ามเพียงผู้เดียวเลย
ในทุก ๆ แดนใหญ่ ขั้น 9 ก็ถูกเรียกว่าขั้นสูงเช่นกัน ในระดับราชาเทพ มีเพียงกึ่งมกุฎเทพเท่านั้นที่สามารถอยู่เหนือราชาเทพขั้น 9 ขั้นสูง
เห็นได้ชัดเจนมากเลยว่าผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวจะอาศัยบารมีอำนาจบางอย่างข่มเหงผู้อื่น อย่างไรก็ตามในโลกยุทธ์มันเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ศักยภาพคืออำนาจสูงสุด ผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้า
สีหน้าของอิงบูเฉิงและเทพธิดายู่หรงต่างเปลี่ยนแปลงไป พวกเขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าต่อให้ร่วมมือกัน ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนดังกล่าวอย่างแน่นอน ระยะความต่างระหว่างราชาเทพขั้น 7 และขั้น 9 นั้น มันไม่ได้ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ส่งเหล็กเซียนดาวกระจายทั้งหมดนั่นของเจ้าออกมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้าหนหนึ่ง”
และในเวลานี้เอง หลัวซิวกลับเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน และเมื่อคำพูดนี้ของเขาหลุดออกมาจากปาก ก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างผงะไปอย่างควบคุมไม่ได้
“อะ……ไอ้หมอนั่นล้อเล่นอยู่ใช่ไหม?”
“เวลานี้แล้วยังกล้าพูดเป็นเล่นอีก นี่มันจังหวะของการรนหาที่ตายชัด ๆ ”
“ราชาเทพขั้นปฐมภูมิคนหนึ่งก็บังอาจพูดคำพูดเช่นนี้ วันนี้มันได้ตายแน่นอน!”
ผู้เข้าร่วมงานค้าขายจำนวนไม่น้อยในก่อนหน้านี้ ต่างสังเกตเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางฝั่งนี้แล้ว คนจำนวนมากยั้งเท้าละมองดูอยู่ในที่ไกล ๆ มองดูพร้อมกับจิตใจที่รอดูอะไรสนุก ๆ
“ดูท่าเจ้าคงอยากตายสินะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเจ้าทั้งสามก็ลงมือพร้อมกันเถอะ เดี๋ยวผู้อื่นหาว่าข้ารังแกพวกเจ้า อีก!”
ใบหน้าของชายชราชุดคลุมยาวสีเขียวดูโกรธเคือง แม้เขาจะพูดได้ดูเกรงอกเกรงใจ ทว่ากลับเป็นฝ่ายที่ลงมือโจมตีก่อน แสงอัสนีที่ล้นฟ้าแผ่กระจายออกมาจากร่างกายเขา และกลายเป็นทะเลอัสนีผืนหนึ่ง ปกคลุมรัศมีหนึ่งพันเมตร
ฟ้าแลบและเสียงดังสนั่นคล้ายฟ้าร้องปรากฏขึ้นอย่างไร้ที่สิ้นสุด สายฟ้าแต่ละสายเหมือนดั่งมังกรพิโรธที่ลอยคดเคี้ยวไปมา ผู้คนที่อยู่ภายนอกมองขั้นตอนการต่อสู้ภายในสายฟ้าเหล่านี้ไม่ชัดเลยด้วยซ้ำ ทว่ากลับสามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารและคลื่นกฎที่สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วพื้นปฐพีสั่นสะเทือนห้วงอากาศอันว่างเปล่าอย่างต่อเนื่อง
อิงบูเฉิงและเทพธิดายู่หรงต่างก็อยู่ภายในขอบเขตการโจมตีของผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวเช่นกัน สีหน้าของพวกเขาทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างมาก นึกไม่ถึงเลยว่าคู่ต่อสู้จะเป็นยอดฝีมือที่ฝึกกฎธาตุอัสนีคนหนึ่ง
กฎธาตุอัสนีแข็งแกร่งกว่าเบญจธาตุทั่วไปมาก ๆ ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาทั้งสองคือเรียกของขลังคุ้มกันออกมา ต้านทานการโจมตีจากสายฟ้าอย่างสุดกำลังสามารถ
“ผู้เพื่อนยุทธ์อิง เย่ห้าวหรานผู้นี้ที่เจ้าเชื้อเชิญมา ก่อเรื่องเก่งเกินไปหรือเปล่า”อารมณ์ ณ บัดนี้อขงเทพธิดายู่หรงย่ำแย่มาก ๆ ตนเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็รุกรานยอดฝีมือราชาเทพขั้น 9 คนหนึ่งแล้ว หากมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่ง เกรงว่าคงไม่มีผู้ใดดีใจได้หรอก
“คิดหาวิธีหลุดพ้นจากที่นี่ก่อนเถอะ ข้าก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เกรงว่าดวงผู้เพื่อนยุทธ์เย่คงถึงฆาตแล้วล่ะ”อิงบูเฉิงพูดอย่างจนปัญญา
แม้ศักยภาพของเขาจะเทียบทัดผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวคนนี้ไม่ได้ ทว่าเรือรบชั้นยอดของเขากลับซื้อมาในราคาที่สูงมาก ๆ ไม่เพียงการคุ้มกันเท่านั้นที่แข็งแกร่ง ความเร็วในการเคลื่อนที่ก็รวดเร็วมาก ๆ เช่นกัน การหนีเอาชีวิตรอดจึงไม่ใช่เรื่องยาก
อีกทั้งฝ่ายตรงข้ามมุ่งเป้ามาที่เย่ห้าวหรานโดยเฉพาะ หากตนเองจะหลบหนีละก็ คิดว่าคนดังกล่าวก็คงไม่มีทางกัดไม่ปล่อยแน่นอน
เงาร่างของผู้อาวุโสชุดคลุมยาวเขียวย่ำเท้าอยู่ในทะเลอัสนี ทะเลอัสนีผืนนี้เป็นอาณาจักรที่ประกอบมาจากกฎธาตุอัสนีขั้น 5