มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 190 วิชาพลังมังกรแท้
บทที่ 190 วิชาพลังมังกรแท้
“ผนึกวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ!”
หลัวซิวไม่ได้ฟันกระบี่ออกไป แต่ใช้ผนึกที่แข็งแกร่งที่สุดแทน แสงสีขาวดำโดยรอบประสานกัน บนหน้าอกมีภาพเงาของวงล้อปรากฏขึ้น
“นี่คือ……”
รูม่านตาของชายชุดดำขยายใหญ่
โครม!
ภาพเงาของวงล้อบินออกไป เสียงระเบิดที่ดังสนั่นแสบแก้วหูดังขึ้นภายในพื้นที่ของชั้นเจ็ด ปราณดาบรูปร่างมังกรทองถูกพลังของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพที่กลายเป็นภาพเงาวงล้อทำลายทันที ภายในนั้นมีพลังยี่สิบสี่เท่าแฝงอยู่ ราวกับแผ่นโม่พุ่งตรงเข้าไปบดขยี้ชายชุดดำ
เดิมทีชายชุดดำต้องการหลบตามสัญชาตญาณ แต่กลับโดนกลิ่นอายพลังของวงล้อชีวิตแห่งเหล่าทวยเทพตรึงเอาไว้
“วิชามังกรพลังแท้!”
ชายชุดดำอ้าปากส่งเสียงคำราม ฟันดาบออกไปสุดแรง ปราณดาบที่เหมือนกับมังกรสีทองของจริงพุ่งออกไปพร้อมกับเสียงคำราม
เสียงระเบิดที่ดังสนั่นก้องท้องฟ้าดังขึ้นอีกครั้ง ร่างกายของชายชุดดำลอยกระเด็นถอยหลังแตกเป็นเสี่ยง
“ชนะแล้ว……”
หลัวซิวใช้ผนึกวงล้อแห่งชีวิตเหล่าทวยเทพด้วยพลังยี่สิบสี่เท่า ตอนนี้ผลการฝึกตนของเขาถูกเผาผลาญจนหมด ทรุดตัวก้นทิ่มลงกับพื้น ไม่สามารถขยับแม้กระทั่งนิ้วมือ
ผนึกวงล้อแห่งชีวิตเหล่าทวยเทพแข็งแกร่งมากก็จริง แต่ทุกครั้งที่ใช้จะโดนดูดซับผลการฝึกตนจนหมด นอกจากตกอยู่ในช่วงเวลาที่จำเป็น จะไม่ใช้ส่งเดชเด็ดขาด
โชคดี ทุกครั้งที่ใช้ผนึกแขนงนี้ ล้วนแต่สามารถทำให้เขาสังหารศัตรูที่แข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้นภายใต้สถานการณ์ที่อ่อนแรงแบบนี้ ขอเพียงแค่มีใครคนใดคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ก็สามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย
ทว่าในตอนนั้นเอง พื้นที่ตรงหน้ามีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น ชายชุดดำที่แตกสลายหายไปแล้วปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” สีหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไป จะตะโกนเสียงดังเพื่อออกจากที่นี่ทันที
“ไม่ต้องกังวล ผู้เข้ารับการทดสอบเจ้าได้ผ่านด่านที่เจ็ดแล้ว” ชายชุดดำพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย
“ผ่านแล้ว?”
“ใช่” ชายชุดดำพยักหน้า พูด “ตอนนี้เจ้าสามารถเลือกรางวัลผ่านด่านชั้นที่เจ็ด เจ้าสามารถเลือกวิชายุทธ์ และสามารถเลือกยาเม็ด สมบัติ แต่เจ้าเลิกได้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น”
ในขณะที่พูด ชายชุดดำโบกมือ กลางอากาศมีภาพที่เลือนลางปรากฏขึ้น
ตำราหยกหนึ่งม้วน ขวดหยกหนึ่งขวด ชุดเกราะหนึ่งชุด กระบี่ยุทธ์หนึ่ง
หลัวซิวตัดชุดเกราะและกระบี่ออกโดยตรง เพราะตอนนี้เขายังไม่ต้องการใช้มัน ยิ่งไปกว่านั้นรางวัลที่หอคอยมังกรมอบให้อย่างมากก็เป็นแค่ระดับดิน
ม้วนตำราหยก ไม่จำเป็นต้องพูดมาก คาดว่าน่าจะเป็นวิชายุทธ์ ส่วนขวดหยกเป็นยาเม็ด
ชายชุดดำพูดอธิบายเสริม “เลือกม้วนตำราหยก ข้ามีวิชายุทธ์ระดับแปดให้เจ้าเลือกหลายแบบ วรยุทธ์ ทักษะยุทธ์ วิชาท่าร่าง เจ้าเลือกได้ตามสบาย
เลือกยาเม็ด มียาเม็ดที่เพิ่มพูนผลการฝึกตน ขัดเกลาร่างกาย ขัดเกลาการสำนึก รักษาอาการบาดเจ็บสารพัด เจ้าเลิกได้ตามใจชอบ
ชุดเกราะและกระบี่ยุทธ์เป็นของระดับล่าง”
“ข้าเลือกม้วนตำรา วิชายุทธ์!” หลัวซิวพูดอย่างไม่ลังเล
ของล้ำค่าที่สุดในใต้หล้าคือวิชายุทธ์ที่ถูกสืบทอด หลัวซิวรู้จักความแข็งแกร่งของตัวเองในปัจจุบันดี สิ่งที่พึ่งพาก็คือวิชาหลายแขนงที่ตนเองฝึก
หากเป็นวิชายุทธ์ระดับเจ็ด เขาเองก็ไม่ได้สนใจ แต่ถ้าเป็นวิชายุทธ์ระดับแปด แม้แต่ประเทศเทียนหวูก็มีไม่เท่าไหร่
พลังก่อรวมวิญญาณที่เขาฝึกเป็นวิชาลับที่ไม่ถ่ายทอดให้กับคนภายนอกของตระกูลเหยียน เหยียนเยว่เอ่อร์ก็เป็นเพราะสถานการณ์ที่พิเศษจึงถ่ายทอดให้เขา หากไม่มีวิชาพลังก่อรวมวิญญาณระดับแปด หลัวซิวยังไม่สามารถสำเร็จการสำนึกได้เร็วขนาดนี้
หลังจากที่ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เข้าใช้วงล้อแห่งชีวิตเหล่าทวยเทพหนุนเสริมการฝึกพลังก่อรวมวิญญา ถึงกระนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรมาก และวัชรยักษ์ครองร่างของเขาก็มีการพัฒนาที่มีขีดจำกัด อย่างมากก็แค่สามารถฝึกจนถึงร่างยุทธ์ขั้นสูง
“ดั่งเจ้าปรารถนา”
ชายชุดดำพยักหน้าเล็กน้อย โบกมือ ภาพเงาหายไป หลังจากนั้นมีม้วนตำราสามม้วนรออยู่ตรงหน้าหลัวซิว “วิชายุทธ์ ทักษะยุทธ์ วิชาท่าร่าง มีอย่างละแขนง เจ้าเลือกได้เพียงอย่างเดียว”
หลัวซิวปลดปล่อยการสำนึกออกไป ม้วนหยกม้วนแรกเป็นวิชายุทธ์ระดับแปดแขนงหนึ่ง ชื่อวิชาพลังมังกรแท้ สามารถควบแน่นปราณแท้ให้กลายเป็นมังกร มีพลังมังกรแฝง อานุภาพการทำลายล้างเพิ่มสูง เป็นวิชาที่ชายชุดดำใช้ตอนสู้กับเขา
ที่สามารถติดอยู่ในรายชื่ออันดับแปด วิชาพลังมังกรแท้ยังเป็นวิชาที่ใช้ฝึกพลังจิตและร่างแขนงหนึ่ง ผลของการขัดเกลาร่างกายดีเยี่ยม สูงสุดสามารถฝึกถึงร่างยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ
วรยุทธ์์แขนงนี้กำลังเป็นที่ต้องการของหลัวซิวในปัจจุบัน
แทบจะในทันที หลัวซิวเกือบจะเลือกวิชาพลังมังกรแท้โดยตรง แต่เขาก็ยับยั้งห้ามใจตัวเอง ดูทักษะยุทธ์และวิชาท่าร่างที่อยู่ด้านหลังต่อ
ม้วนหยกม้วนที่สองคือทักษะยุทธ์ระดับแปด ชื่อวิชากระบี่บัวเขียว รุกและรับในหนึ่งเดียวอานุภาพไม่ธรรมดา
ม้วนยกม้วนที่สามคือวิชาท่าร่างระดับแปด วิชาเตโชแปรรุ้ง เมื่อไหร่ที่ฝึกสำเร็จร่างกายเป็นดั่งแสงสายรุ้ง ความเร็วอยู่เหนือตามลมล่าจันทราที่เขาฝึก
เรียกได้ว่าวิชายุทธ์ทั้งสามแขนงนี้ ทุกแขนงล้วนแต่ไม่ธรรมดา ในบรรดาวิชายุทธ์ระดับแปดนับไม่ถ้วน ต้องติดอันดับแนวหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“ข้าเลือกวิชาพลังมังกรแท้ดีกว่า” หลัวซิวลังเลสักพัก ยื่นมือออกไปหาม้วนหยกที่บันทึกวิชาพลังมังกรแท้
ชายชุดดำพยักหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย โบกมือ ม้วนหยกอีกสองเล่มหายไปในทันที
“การที่เจ้าสามารถผ่านการทดสอบชั้นที่เจ็ด แสดงว่าเจ้ามีพรสวรรค์ที่เหนือชั้น ถ้าหากเจ้าสามารถผ่านชั้นที่แปดหรือแม้กระทั่งเก้า ของรางวัลที่ได้รับก็จะยิ่งมีค่ามากขึ้น” ชายชุดดำพูดแบบนี้
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ หลัวซิวอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น เพียงแค่ชั้นเจ็ดเขาก็ต้องฝืนใช้พลังแปรเสวียนเทียนยี่สิบสี่เท่าแล้ว ตอนนี้ร่างกายเริ่มแตกร้าว อยู่ในสภาวะของอาการบาดเจ็บสาหัส ไปชั้นที่แปดทั้งแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการรนหาที่ตาย
ยิ่งไปกว่านั้นแม้ตนเองจะอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์ หลัวซิวก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถผ่านการทดสอบชั้นที่แปด คู่ต่อสู้ที่ปรากฏขึ้นในชั้นที่แปด จะเป็นผู้ฝึกจิตขั้นเก้า
“ไม่ไปต่อแล้ว ข้าจะออกไป” หลัวซิวยับยั้งห้ามใจของรางวัลที่ล่อใจ ไม่ต้องสงสัยในคำพูดของเขาเลย
ทันทีที่เขาพูดคำพูดประโยคนี้ออกมา มีแสงสีขาวปกคลุมร่างกายของเขา เพียงแค่เวลาช่วงสามอึดใจ เขาก็จะถูกต้องออกจากที่นี่
ชายชุดดำเห็นการตัดสินใจของหลัวซิวก็ไม่ได้พูดอะไร ร่างกายของเขาหายไปโดยตรง
……
เรือรบที่อยู่บนหอคอยมังกรบิน สายตาของผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์จับจ้องศิลาหยกเขียวไม่กระพริบตา
ผู้ฝึกยุทธ์์ที่ปราดเปรื่องแห่งยุคห้าร้อยคน หลังจากที่เข้าไปในหอคอยมังกรบิน ตายไปแล้วสามสิบกว่าคน
ตอนนี้ ยังเหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังยืนหยัดอยู่ในหอคอยมังกรบิน
ใบหน้าของหลินเจียเอ่อร์ซีดขาวเล็กน้อย นางบุกไปถึงชั้นที่สี่ เอาชนะคู่ต่อสู้ฝึกจิตขั้นหนึ่ง แต่ก็ต้องจ่ายด้วยราคาที่ไม่เบาเช่นกัน ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือกจึงทำได้แต่ละทิ้งการไปต่อชั้นที่ห้า
ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนหยุดอยู่ที่ชั้นที่สี่ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถผ่านด่านชั้นที่ห้า ส่วนคนที่สามารถผ่านด่านชั้นที่หก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
“หมอนั่นยังไม่ออกมา? หรือว่าตายอยู่ด้านในแล้ว?”
หลินเจียเอ่อร์กวาดสายตามองโดยรอบ ไม่เห็นแม้แต่เงาของหลิวซิว ไม่แน่ใจอดไม่ได้ที่จะคาดเดา
ในมุมมองของนาง แม้หลัวซิวจะเป็นผู้ฝึกจิตขั้นหนึ่ง สามารถบุกไปถึงชั้นที่ห้าก็ถือว่าไม่ธรรมดาแล้ว บางทีอาจจะเป็นเพราะค่อนข้างมั่นใจในตนเอง บุกไปถึงชั้นที่หก เพราะเหตุนี้จึงเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่น
ทว่าหลินเจียเอ่อร์กลับสังเกตเห็นเหยียนซีโรว่ พบว่าอีกฝ่ายก็กำลังกวาดสายตามองโดยรอบ แอบคิดในใจผู้หญิงคนนี้ก็น่าจะกำลังตามหาหลิวซิวเช่นกัน
ไม่นาน สายตาของหลินเจียเอ่อร์จับจ้องไปที่รายชื่ออันดับแปดบนศิลาหยกเขียว มันเป็นชื่อของหลัวซิวและยังไม่ได้หายไป นั่นหมายความว่าเขายังมีชีวิต
และสิ่งที่ทำให้นางตกใจคือคะแนนรวมของหลัวซิว อยู่ที่หนึ่งพันแปดร้อยคะแนนแล้ว เพิ่มขึ้นเจ็ดร้อยคะแนนจากการแข่งในรอบแรก!
########################