มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1967
พลังแห่งชีวิตที่ฮึกเหิมมากมายมหาศาลซัดสาด เห็นเพียงร่างกายที่ถูกตัดออกเป็นสองท่อนของหลัวซิวถึงขั้นค่อย ๆ สมานกันด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยเนื้อตาเปล่า
“กฎชีวิต ร่างอมตะ!”
“พระเจ้า ไม่นึกเลยว่าคนดังกล่าวไม่ได้ฝึกกฎชั้นยอดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!”
ทุกคนต่างรู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก แต่ทว่ามีเพียงหลัวซิวเท่านั้นที่ทราบว่าถึงแม้จะมีมหาอิทธิฤทธิ์อย่างร่างอมตะ ร่างกายที่ถูกตัดออกโดยพลานุภาพของกระบี่ผงาดตรีภพก็ยากที่จะฟื้นฟูสู่สภาพเดิมได้เช่นกัน
เนื่องจากพลังโจมตีของกระบี่ผงาดตรีภพมีพลังแห่งเกณฑ์แฝงซ่อนอยู่ หากไม่ใช่เพราะมีเกณฑ์วัฏสงสารและเกณฑ์นิรันดร์คอยลดทอนพลานุภาพของกระบี่ผงาดตรีภพ บางทีเขาคงเสียชีวิตไปกับการโจมตีในเมื่อครู่นี้แล้ว
อย่างไรเสียร่างอมตะที่ประคองโดยกฎชีวิตนั้นเทพเจ้ามากก็จริง ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็เทียบเคียงกับเกณฑ์ตรีภพไม่ได้ นั่นมันพลังที่อยู่เหนือกฎฟ้าดินทั้งปวงเชียวนะ
มาตรแม้นว่าเป็นเช่นนี้ สภาพอาการบาดเจ็บที่สาหัสเช่นนี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ภายในชั่วลมหายใจเดียว
พระโอรสจ้านเทียนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งถูกดาราโบราณมกุฎเทพสี่ดวงพันธนาการไว้ วินาทีนี้จู่ ๆ เขาก็ตะคอกเสียงดังลั่น พลางโคจรพลังจักรพรรดิชั้นฟ้าสองวิชา สวมเกราะเทพไว้บนตัวแล้วบุกฆ่าออกมาจากค่ายสี่ดาว
เขาก็ต้องมองเห็นภาพเหตุการณ์ที่โอรสสวรรค์โชคลาภถูกสังหารเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ส่วนหลัวซิวก็ถูกกระบี่ตรีภพโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
วินาทีนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการฉวยโอกาสสำหรับพระโอรสจ้านเทียน!
ขอแค่สังหารคนดังกล่าว ณ ที่แห่งนี้ เช่นนั้นศึกการช่วงชิงสมบัติล้ำค่าในครั้งนี้ เขาพระโอรสจ้านเทียนก็จะกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในขณะเดียวกันก็จะได้รับหินนิรันดร์และกระบี่ตรีภพในตำนานด้วย
เห็นเพียงมีพลังออร่าที่มากมายมหาศาลปรากฏรอบกายพระโอรสจ้านเทียน โคจรพลังเทพทั้งร่างกายพลางใช้มือทั้งสองข้างประสานอิน มือซ้ายและมือขวาร่ายพลังอมตะมหาจักรพรรดิยุทธ์ออกมาพร้อมกัน จนวิวัฒนาการกลายเป็นแดนเทวแห่งหนึ่ง
“แดนเทวจ้านเทียน!”
เมื่อเห็นการลงมือโจมตีของพระโอรสจ้านเทียน ก็มีคนที่อยู่ในกลุ่มคนบริเวณรอบ ๆ พลั้งปากตะโกนออกมากะทันหัน เนื่องจากแดนเทวจ้านเทียนนี้คือมหาอิทธิฤทธิ์ที่มหาจักรพรรดิยุทธ์จ้านเทียนสืบทอดต่อมา ต่อให้เป็นอัจฉริยะผู้ไร้เทียมทาน ก็ยึดกุมตระหนักรู้ในพลังอมตะมหาจักรพรรดิยุทธ์ประเภทนี้ยากมาก
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่ว่าจะเป็นในด้านพรสวรรค์หรือศักยภาพ โอรสสวรรค์โชคลาภที่อยู่ในวัยรุ่นยุคใหม่เป็นผู้ที่ปฏิบัติดีอย่างน่าชื่นชมจริง ๆ ซึ่งสิ่งเดียวที่เขาขาดแคลนก็คือโชค ทำให้เขาไม่ได้รับอัญเกณฑ์ในแดนเทวนิรันกาลเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
“ตู้ม!”
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ หลัวซิวถูกโจมตีจนร่างกายกระเด็นออกไปคาที่ ร่างกายที่ยังไม่ทันหายสนิทในเมื่อครู่นี้ก็ถูกโจมตีจนเลือดสาดกระเด็น เลือดเนื้อเละจนเลือนราง ร่างกายแตกร้าว
เรียกได้เลยว่าช่วงเวลาในการลงมือของโอรสสวรรค์โชคลาภนั้นเหมาะเจาะพอดีเป็นอย่างยิ่ง!
“ที่แท้มึงก็อัดอั้นมาโดยตลอดเลยสินะ”
หลัวซิวกระอักเลือดเฮือกหนึ่ง ค่อย ๆ หรี่ตาลงพลางเขม็งมองโอรสสวรรค์โชคลาภที่จิตใจเร่าร้อนฮึกเหิม พลังออร่ามากมายมหาศาล
“ถูกต้อง! พระโอรสอย่างกูทลายค่ายกลที่ประกอบมาจากดาราโบราณทั้งสี่ดวงนั่นของมึงได้ตั้งนานแล้ว นกกับหอยไม่ปรองดองกัน จึงถูกชาวนาจับไปทั้งคู่ มึงและโอรสสวรรค์โชคลาภคนหนึ่งตายคนหนึ่งบาดเจ็บ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการลงมือของพระโอรสอย่างกู แล้วพระโอรสอย่างกูจักพลาดได้อย่างไรเล่า?”
พระโอรสจ้านเทียนแหงนหน้าขึ้นฟ้าหัวเราะดังลั่น เขาไม่ได้ปฏิเสธแผนการดังกล่าวของเขาอย่างใด เนื่องจากเขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าตนไม่มีสมบัติล้ำค่าอยู่ในมือ ไม่ว่าจะได้เผชิญหน้ากับหลัวซิวหรือโอรสสวรรค์โชคลาภ ล้วนจะทำให้เขาเป็นที่ฝ่ายเสียเปรียบเล็กน้อย ดังนั้นจึงปิดบังศักยภาพ รอคอยโอกาสที่ดีงามอย่างเงียบ ๆ
หลัวซิวใช้ข้อดีในเกณฑ์นิรันดร์และร่างอมตะของตนมาวางแผนลอบทำร้ายโอรสสวรรค์โชคลาภ ด้วยเหตุนี้เขาจึงใช้การบาดเจ็บสาหัสมาแลกกับการสังหารโอรสสวรรค์โชคลาภ
และเป็นเฉกเช่นเดียวกัน พระโอรสจ้านเทียนก็กำลังวางแผนลอบทำร้ายพวกเขาเช่นกัน
“ศิษย์พี่!”
จีเสี่ยวจื่อเห็นว่าฝั่งหลัวซิวได้รับบาดเจ็บ จึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนอย่างตะลึง แล้วโคจรกฎปริภูมิฟาดฟันกระบี่ไปทางพระโอรสจ้านเทียน
“ไสหัวไป!”
พระโอรสจ้านเทียนตะคอกอย่างเยือกเย็นคำหนึ่ง เห็นเพียงเขาปล่อยหมัดออกไป พลังหมัดสีทองทลายสุญญากาศจนแหลกสลาย ทำลายล้างทุกสรรพสิ่งที่มาขวางกั้น