มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 1982
อาจารย์และลูกศิษย์ทั้งสองสบตากัน ไม่ได้พูดอะไรมาก ทุกอย่างปรากฎขึ้นในความเงียบ
จีเสี่ยวจื่อยังอยู่ภายในโลกาจุดลมปราณของเขา เพราะในตอนนั้นมีโควต้าแค่สิบคน และไม่มีจีเสี่ยวจื่อรวมอยู่ในนั้น ถ้าหากถูกเหล่าคนจากเจ้าหอยอดอัมพรรู้เข้าว่าเขาพาคนเข้าไปด้วย ต้องเกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า มีเพียงในตำนานเท่านั้นที่มีการใช้เคล็ดวิชากลั่นร่างจุดลมปราณเปิดโลการ่างในที่สมบูรณ์แบบได้จึงจะสามารถเก็บอสูรจิตไว้ในโลการ่างในได้
โลการ่างในที่สมบูรณ์แบบ มันมีอยู่แต่ในตำนานเท่านั้น
“คนอื่น ๆ เล่า?”
เมื่อเห็นว่าหลัวซิวถูกส่งออกมาแล้ว เหล่าผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพแห่งเจ้าหอยอดอัมพรต่างก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่หลังจากรอคอยมาเนิ่นนาน ก็ยังไม่เห็นว่ามีคนอื่นถูกส่งออกมา
ทำใฟ้สีหน้าของเหล่าผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพแห่งเจ้าหอยอดอัมพรเคร่งเครียดจนถึงที่สุด หรือว่านอกจากจีเสวียนคงศิษย์ผู้นี้ คนอื่น ๆ ต่างก็ตายไปในแดนเทวนิรันกาลแล้ว?
“ไอ้หนู เกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่?”
ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพมากมายล้อมกันเข้ามา ปลดปล่อยความกดดันอันน่าเกรงขามออกมา สายตาจับจ้องไปยังหลัวซิว
เพื่อส่งคนเข้าไปแดนเทวนิรันกาล สำนักจักรพรรดิแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ต่างก็ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจมากมาย หากว่ายังต้องเสียศิษย์พรสวรรค์ไปในนั้นอีก เช่นนั้นการสูญเสียนั้นยิ่งใหญ่เกินไปจริง ๆ แล้ว
“ไม่เห็นว่ามีข้าอยู่หรือ?”
เห็นว่าผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพแต่ละคนต่างก็ปลอดปล่อยแรงกดดันออกมา จีเสวียนคงก็เอ่ยออกมาเสียงเย็น
“อาจารย์เสวียนคงเข้าใจผิดแล้ว นักปราชญ์อัจฉริยะทั้งสิบเข้าไปในแดนเทวนิรันกาลด้วยกัน มีเพียงศิษย์ของท่านเท่านั้นที่ออกมา พวกข้าเพียงแค่ต้องการให้แน่ใจว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่” ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
สถานะและตัวตนของจีเสวียนคงนั้นมีความพิเศษ ดังนั้นในสถานการณ์ปกติทั่วไป ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพคนอื่น ๆ ต่างก็จะไว้หน้าเขา จะพยายามไม่ไปยั่วยุเขา
“ใช่แล้ว หากไม่เห็นวแก่ว่าไอ้หนุ่มผู้นี้คือศิษย์ของท่านอาจารย์เสวียนคง พวกข้าคงจะลงมือจัดการจับมาค้นวิญญาณไปแล้ว”
ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพคนอื่น ๆ ต่างก็เออออตามกันขึ้นมา แม้ว่าจะไม่ต้องการทำให้จีเสวียนคงขุ่นเคือง แต่ในประเด็นนี้ พวกเขาไม่สามารถแสร้งทำเป็นว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นได้
เรื่องของแดนเทวนิรันกาล เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก ก่อนหน้านี้ถึงแม้จะมีนักปราชญ์อัจฉริยะตายไปบ้าง แต่ไม่เคยมีการสูญเสียครั้งใหญ่เช่นนี้
จีเสวียนคงขมวดคิ้วขึ้นมา แน่นอนว่าเขารู้ว่าหยุนเทียนหยูตายด้วยเหตุใด เมื่อใดก็ตามที่คนเหล่านี้ร่าเป็นฝีมือหลัวซิว เกรงว่าพวกเขาสองคน ทั้งอาจารย์และลูกศิษย์อย่าได้คิดว่าจะออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยในวันนี้
“ผู้อาวุโสทุกท่าน……”
ในเวลานี้เอง หลัวซิวกลับเอ่ยปากขึ้นมา พูดเกี่ยวกับเรื่องที่กระบี่ตรีภพและดอกถานฮวาเทียนเต้าปรากฎด้วยตนเอง
แน่นอนว่า ไม่ได้กล่าวถึงสิ่งใดที่เกี่ยวกับตนเอง พูดเพียงว่าความแข็งแกร่งของตนนั้นอ่อนแอมาก ไม่มีความพลังมากพอที่จะเข้าร่วมการแย่งชิงสิ่งล้ำค่า
ส่วนการตายของบรรดาหยุนเทียนหยูและตวนมู่ชาง ก็ตายในสงครามการแย่งชิงสิ่งล้ำค่าที่ชุลมุนนั้น
ในขณะเดียวกัน หลัวซิวยังจงใจปล่อยข่าวถึงเบาะแสของกระบี่ตรีภพและดอกถานฮวาเทียนเต้าให้รั่วไหลออกไป สำหรับตัวตนของเขา รอจนสำนักจักรพรรดิแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายตรวจสอบจนพบ อย่างน้อย ๆ ก็จำเป็นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเห็นจะได้
นอกจากหลัวซิวทางนี้ มหาโลกาฝั่งอื่น ๆ ก็ดุเดือดเช่นกัน สิ่งผู้คนให้ความสนใจที่สุดคือกระบี่ตรีภพและดอกถานฮวาเทียนเต้าอยู่ที่ใดกันแน่
ท่ามกลางสงครามแย่งชิงสิ่งล้ำค่าหลายต่อหลายครั้งในแดนเทวนิรันกาล ที่โดดเด่นที่สุดคือผู้แข็งแกร่งวัยหนุ่มที่ถูกขนานนามว่าดาวสังหารชุดดำ ตระกูลมู่สรรพสิทธิ์และอัจฉริยะไร้เทียมทานของตระกูลหง ต่างก็ตายด้วยน้ำมือของเขา
เกี่ยวกับความเป็นไปในแดนเทวนิรันกาล คำอธิบายของหลัวซิวนั้นมีเหตุมีผล มันถูกอธิบายโดยตัวตนของผู้ยืนดูสถานการณ์ได้อย่างครบถ้วน ราวกับว่าเหตุที่นักปราชญ์อัจฉริยะของทางฝั่งมหาโลกายอดอัมพรมีเพียงเขาเท่านั้นที่มีชีวิตรอดกลับมาได้ เป็นเพราะเขาประเมินตนเองได้ถูกต้อง จึงไม่ได้เข้าร่วมในสงครามแย่งชิงสิ่งล้ำค่า