มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake - บทที่ 2060
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2060
ที่เรียกว่าสรรพกฎสรรพยุทธ์นั้นไม่ใช่แค่พูด แต่มีอยู่จริง ความสำคัญของมันอยู่ที่วิถียุทธ์ชนิดใดก็ตามที่อยู่ระหว่างฟ้าดิน สามารถพัฒนาเป็นกฎได้
เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนนี้เป็นมกุฎเทพที่ฝึกฝนกฎยุทธ์กระบี่ โดยทั่วไป คนที่สามารถฝึกฝนกฎประเภทที่แตกต่างออกไปถึงแดนมกุฎเทพได้ จะไม่ใช่คนธรรมดา
กฎแห่งกระบี่นั้นลึกลับมาก ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือวิชาอมตะ ก็แข็งแกร่งมากกว่ากฎทองที่เชี่ยวชาญในการสังหาร
“ยุทธ์กระบี่อัคคีนภา!”
ชายวัยกลางคนตะคอก เขาไม่เพียงเชี่ยวชาญกฎยุทธ์กระบี่ แต่ยังฝึกฝนกฎเพลิงอัคคี และหลอมเปลวไฟเข้ากับกระบี่ กลายเป็นยุทธ์กระบี่อัคคีนภา
“ฟัน!”
ตามด้วยเสียงตะโกนอันดัง กระบี่เทพอัคคีนภาฟันลงมาทั่วท้องฟ้า ปกคลุมฟ้าดิน ราวกับกองทหารนับพันที่พุ่งเข้ามาเพื่อสังหาร คุกคามและทรงพลัง
เมื่อเผชิญหน้ากับวิชาอมตะเช่นนี้ หลัวซิวแค่เย้ยหยันด้วยรอยยิ้มและยืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่ขยับร่างใดๆ ปล่อยให้กระบี่เทพอัคคีนภามากมายฟันเขา เมื่อเข้าใกล้ร่างของเขา ม่านแสงสีขาวปรากฏขึ้น ปิดกั้นการโจมตีทั้งหมดอยู่ภายนอก
นี่คือการปกป้องของกฎชีวิต ในบรรดากฎต่างๆ ของเทียนเต้า กฎชีวิตเป็นกฎที่เชี่ยวชาญในการปกป้องและป้องกันมากที่สุด!
ชายวัยกลางคนรู้สึกหวาดกลัวเมื่อเห็นว่าวิชาอมตะการโจมตีทั้งหมดของเขาไม่สามารถทำร้ายหลัวซิวได้เลยแม้แต่น้อย
แต่เขากลับไม่เชื่อ เขาตะโกนด้วยความโกรธ สร้างผนึกด้วยมือ กระบี่เทพที่เต็มไปหมดทั่วท้องฟ้าก็รวมเข้าด้วยกันและกลายเป็นกระบี่พลังอัคคีนภาที่ยาวหลายร้อยลี้
“มันเป็นแค่กลอุบายเล็กๆเท่านั้น”
หลัวซิวยังคงไม่แยแส เขายกฝ่ามือขึ้นปิดท้องฟ้าด้วยมือข้างเดียว ดูเหมือนว่าจะมีวิวัฒนาการของดาราจักรวาลอยู่ระหว่างฝ่ามือของเขา เกิดเสียงปะทะเสียงดังโครมคราม กระบี่ที่ทรงพลังอย่างยิ่งก็ถูกทำลายลงไป
“ถอย!”
ฉากนี้ทำให้ชายวัยกลางคนหวาดกลัวอย่างสมบูรณ์เพราะอัจฉริยะที่ลงมาจากโลกาชั้นฟ้านั้นทรงพลังมากจนไม่อาจหยั่งรู้ได้ ด้วยมกุฎเทพช่วงกลางของเขาไม่สามารถต้อต้านได้ได้อย่างแน่นอน มีเพียงผู้อาวุโสมกุฎเทพช่วงปลายเท่านั้นที่สามารถรับมือได้
“ในเมื่อโจมตีข้าก็จะต้องมีความคิดที่จะต้องตาย!”
คำพูดเย็นชาของหลัวซิวดังไปถึงหูของผู้คนหลายสิบจากสำนักไท่ฉือ พวกเขาเห็นเขายกมือขึ้นและชี้ อัคคีเทพซิวหลัวไร้ที่สิ้นสุดนั้นเป็นอันตรายที่สุดในอนัตตา เปลวไฟสีแดงเข้มเหมือนเลือดสดที่ไหล พร้อมกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัว
หืม! หืม! หืม! …
เสียงกระบี่แบบเดียวกันดังก้อง หลัวซิวควบแน่นอัคคีเทพซิวหลัวให้กลายเป็นแสงกระบี่เต็มท้องฟ้า เขาแสดงกระบวนท่าที่เกือบจะเหมือนกันหมดกับอาวุโสมกุฎเทพ
แต่ด้วยวิวัฒนาการมาจากหมื่นจักรวาลไร้รูปของหลัวซิว กระบวนท่าแบบเดียวกันนั้นทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวมากกว่า!
“อ้าก!…”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นทันที ตามด้วยศิษย์ของสำนักไท่ฉือบางคนที่ถูกแสงกระบี่สังหาร
ชายวัยกลางคนตะโกนแล้วโยนของขลังคุ้มกันชิ้นหนึ่งออกมา แต่เขาทำได้เพียงคุ้มกันตัวเอง ในขณะที่ศิษย์จำนวนมากที่อยู่รอบตัวเขาเสียชีวิตอย่างน่าอนาถใจทีละคน
“หยุด! ถ้าเจ้ายังโจมตีอีก ข้าจะฆ่าเขา!”
ชายวัยกลางคนหน้าซีดด้วยความตกตะลึง เขาเอื้อมมือออกไปบีบคอของซิงเฉิน แค่เขาคิด ก็สามารถฆ่าหัวหน้าเผ่าของตระกูลเทพสงครามคนนี้ให้ตายได้ทันที
“คนอย่างเจ้าก็มีคุณสมบัติพอที่จะขู่ข้าด้วยรึ?” รอยยิ้มเยาะเย้ยดูถูกปรากฏขึ้นที่มุมปากของหลัวซิว
“อ้าก!”
ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนคนนั้นก็ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน ช่องว่างระหว่างคิ้วของเขาเปิดออก ตัวหยั่งรู้ของเขาก็ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับกระบี่คมด้วยตัวสำนึกที่แข็งแกร่ง!
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหลัวซิวใช้วิธีการโจมตีวิญญาณ วิชาเทวกลั่นวิญญาณตามที่บันทึกไว้ในคัมภีร์โอสถ เป็นวิชาสูงสุดในผลการฝึกตนตัวสำนึกวิญญาณ แม้ว่าผลการฝึกตนของเขาในตอนนี้จะไม่สูงนัก แต่ตัวสำนึกเทียบได้กับมกุฎเทพช่วงปลายอย่างแน่นอน และต่อกรกับมกุฎเทพช่วงกลางคนหนึ่งนั้นง่ายมาก